และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ)
หากเราศึกษาให้ลึกซึ้งเกี่ยวกับหลักอะกีดะฮ์ของอุลามาอ์มัซฮับฮัมบาลีย์ที่รู้กันในแนวทางอะกีดะฮ์ในนาม อะฮ์ลุลฮะดิษหรืออัลอะษะรียะฮ์ ซึ่งในกลุ่มอุลามาอ์ฮัมบะลีย์เอง ก็แตกออกเป็น 2 กลุ่ม
1. กลุ่มอุลามาอฺมัซฮับฮัมบะลีย์ ที่ทำการมอบหมาย(ตัฟวีฎ)กับความหมายอายะฮ์หรือฮะดิษที่มีความหมายหลายนัยยังไปอัลเลาะฮ์ตะอาลา กลุ่มนี้เขาเรียกว่ากลุ่ม อัลมุเฟาวิเฎาะฮ์ اَلْمُفَوِّضَةُ เช่นท่าน ท่านอิมามอะห์มัด , อิบนุกุดามะฮ์ , ท่านอิบนุรอญับ , ท่านอิบนุอบียะลา , ท่านอิบนุอะกีล , ท่านอิบนุอัลเญาซีย์ , ท่านอัสสะฟารีนีย์ , ท่านอิมามอับดุลบากีย์อัลฮัมบาลีย์ , ท่านอบูมุฮัมมัด อัตตะมีมีย์ เป็นต้น
ดังนั้น อุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์ที่เป็นส่วนหนึ่งจากอะฮ์ลุลฮะดิษกลุ่มนี้ อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์เรียกเขาว่า فُضَلاَءُ مِنَ الحَنَابِلَةِ (บรรดาอุลามาอฺผู้ประเสริฐ ๆ จากฮัมบาลีย์) ซึ่งพวกเขาอยู่ในแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ รู้จักในนามของ อะฮ์ลุลฮะดิษหรือกลุ่มอัลอะษะรียะฮ์นั่นเองครับ ในทางตรงกันข้ามก็มีอุลามาอฺฮัมบาลีย์อีกกลุ่มนั้น สร้างความเสื่อมเสียและความอับอายให้แก่มัซฮับฮัมบาลีย์ในเรื่องอะกีดะฮ์ ตามที่อุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์ได้ยืนยันเอาไว้
ท่านอิมามอัลฮาฟิซฺ อัศศุบกีย์ ไดกล่าวว่า
وَهَؤُلاَءِ الْحَنَفِيَّةُ وَالشَّافِعِيَّةُ وَالْمَالِكِيَّةُ
وَفُضَلاَءُ الْحَنَابِلَةِ فِي الْعَقَائِدِ يَدٌ وَاحِدَةٌ كُلُّهُمْ عَلىَ رَأْيِ أَهْلِ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ
"
พวกเขาเหล่านั้น คือบรรดาปราชญ์มัซฮับฮะนะฟีย์ , ปราชญ์มัซฮับชาฟิอีย์ , ปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์ , และปราชญ์ที่ประเสริฐ ๆ จากฮัมบาลีย์ - อัลฮัมดุลิลลาฮ์ - ในด้านของอะกีดะฮ์นั้น พวกเขาทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกันตามแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์" ดู หนังสือมุอีดุลนิฮัม ของท่านอิมามอัศศุบกีย์ หน้า 62
2. กลุ่มอุลามาอฺมัซฮัมบาลีย์ ที่ไม่ทำการมอบหมาย(ตัฟวีฎ)ความหมายของอายะฮ์หรือฮะดิษที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา แต่พวกเขารู้ความหมายและเข้าใจความหมายในเชิงตัชบีฮ์(เข้าใจคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ไปคล้ายคลึงกับคุณลักษณะของมัคโลค) เช่น ท่านอุษมาน บิน สะอีด อัดดาริมีย์ (ซึ่งเป็นคนละคนก็ท่านอัดดารีมีย์เจ้าของสุนันอัดดาริมีย์ที่เป็นอะฮ์ลิสซุนนุะฮ์) , ท่านอบูยะลา , ท่านอบูอับดิลลาฮ์ อิบนุ ฮามิด , ท่านอิบนุอัซซาฆูนีย์ , ท่านอิบนุบัฏเฏาะฮ์ (เป็นนักรายงานที่ฏออีฟ) , ท่านอิบนุมันดะฮ์ (ผู้ที่รายงานฮะดิษแล้วพูดเกี่ยวกับฮะดิษแล้วจะเบี่ยงเบนและสับสนตามที่ท่านอัซซะฮะบีย์ได้กล่าวไว้) , อัลกะฮารีย์ (นักกุฮะดิษ) , ท่านอัลอิชชารีย์ (นักกุฮะดิษ) , ท่านอิบนุกาดิช (นักกุฮะดิษ) , เป็นต้น
ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุอะษีร ได้ถ่ายทอดคำกล่าวของท่าน อิมาม อบู มุฮัมมัด อัตตะมีมีย์ อุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์ ความว่า
لَقَدْ شَانَ أَبُوْ يَعْلىَ الْحَنَابِلَةَ شَيْناً لاَ يَغْسِلُهُ مَاءُ البِحَارِ
""
แท้จริงท่านอบูยะลาได้สร้างความเสื่อมเสียอับอายให้แก่บรรดาอุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์ ซึ่งเป็นความอับอายที่น้ำทะเลก็ไม่สามารถล้างมันได้" หนังสือ กามิลอิบนุอะษีร : 10/52
ท่านอิมามอัลฮาฟิซฺ อิบนุ อัลเญาซีย์ อุลามาอ์มัซฮับฮัมบาลีย์ ได้กล่าวถึงอุลามาอฺฮัมบาลีย์บางกลุ่มว่า
وَرَأَيْتُ مِنْ أَصْحَابِنَا مَنْ تَكَلَّمَ فْي الأُصُوْلِ بِمَا لاَ يَصْلُحُ ، وَانْتَدَبَ للتَصْنِيْفِ ثَلاَثَةٌ أَبُوْ عَبْدِاللهِ بنُ حَامِدٍ ، وَصَاحِبُهُ الْقَاضِيْ وَابْنُ الزَّاغُوْنِيْ ؛ فَصَنَّفُوْا كُتُباً شَانُوْا بِهَا الْمَذْهَبَ وَرَأَيْتُهُمْ قَدْ نَزَلُوْا إِلَى مَنْزِلَةِ الْعَوَّامِ ، فَحَمَلُوْا الصِفَاتِ عَلىَ مُقْتَضَى الحِسِّ
"
ข้าพเจ้าได้เห็นจากส่วนหนึ่งของอุลามาอฺแห่งเรา(คืออุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์) ได้ทำการพูดถึงเรื่องอุศูล(หลักอะกีดะฮ์)ด้วยกับสิ่งที่ไม่บังควร และทำการตอบรับในการประพันธ์เป็นตำราขึ้นมา โดย 3 ท่านด้วยกัน คือ อบูอับดิลลาฮ์อิบนุฮามิด , ท่านกอฎีย์ อบูยะลา , และท่านอิบนุอัซซาฆูนีย์ ,
ดังนั้นพวกเขาจึงทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ ที่พวกเขาได้สร้างความเสื่อมเสียอับอายให้แก่มัซฮับ(ฮัมบาลีย์) และข้าพเจ้าได้เห็นพวกเขาลดตนเองลงไปอยู่ในตำแหน่งของคนเอาวาม(สามัญชน) แล้วทำการตีความบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์ตามนัยยของรูปธรรม" หนังสือ ชุบฮะตุชตัชบีฮ์ ของท่านอิบนุอัลเญาซีย์ หน้า 6
ดังนั้น
หลักอะกีดะฮ์ของอุลามาอฺมัซฮับฮัมบาลีย์กลุ่มที่ 2 เหล่านี้ได้เกิดขึ้นไปช่วงศตวรรษที่ 4 หลังจากนั้นได้หมดบทบาทลงด้วยการคัดค้านจากแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ จนกระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 7 ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ก็ทำการฟื้นคืนกลับขึ้นมาอีกครั้งแล้วหมดบทบาทไปด้วยการด้วยการคัดค้านจากนแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ต่อมาในศตวรรษที่ 12 โดยการฟื้นคืนกลับขึ้นมาอีกโดยท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ นี่คือจุดกำเหนิดของแนวทางและหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ในปัจจุบันอย่างแท้จริง นั่นเองครับ