ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนด้วยครับ  (อ่าน 3946 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ซามี

  • บุคคลทั่วไป
รบกวนด้วยครับ
« เมื่อ: ต.ค. 12, 2008, 05:51 PM »
0

สามีภรรยาคู่หนึ่งไม่สามารถมีบุตรได้ ทั้งคู่ได้ขอลูกสาวของน้องสาวของภรรยามาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ จุดนี้ในด้านของหลักชารีอะฮ์จะเข้าข่ายการเป็นบุตรบุญธรรมที่เกิดขึ้นในสมัยญาฮีลียะฮ์รึป่าวครับ (التبنيْ ) และลูกสาวที่เป็นบุตรบุญธรรมคนนี้เธอจะมีสิทธิ์ได้รับมรดกของคนที่ขอเธอมาเลี้ยง(สามีภรรยาที่ไม่มีลูก) ได้รึป่าวครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: รบกวนด้วยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 15, 2008, 08:53 AM »
0

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ

การนำเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมหรือนำมาเป็นลูกของตนเองนั้น  อิสลามห้ามอย่างเด็กขาด  แต่การนำมาเพื่ออุปการะเลี้ยงดูเพียงอย่างเดียวถือว่าไม่เป็นไร  ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความดีงามอันยิ่งใหญ่อีกด้วย

อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงตรัส ความว่า

 ادْعُوهُمْ لآبَائِهِمْ هُوَ أَقْسَطُ عِنْدَ اللَّهِ فَإِنْ لَمْ تَعْلَمُوا آبَاءَهُمْ فَإِخْوَانُكُمْ فِي الدِّينِ وَ مَوَالِيكُمْ

"พวกเจ้าจงเรียกพวกเขา (โดยใส่พ่วงคำว่า "บุตร - บิน" ให้กับบิดาจริงของพวกเขา (อย่าพ่วงกับชื่อของพ่อบุญธรรม) นั้นเป็นที่เที่ยงธรรมยิ่ง ณ อัลเลาะฮ์  แต่ถ้าพวกเจ้าไม่รู้จักพ่อของพวกนั้น  ก็(จงเรียกพวกเขาเหมือนเช่น)พี่น้องของพวกเจ้าในศาสนา (เดียวกัน) และ (เรียกพวกเขาว่า) ผู้ถูกปกครองของพวกเจ้า (อย่างใดอย่างหนึ่ง)" อัลอะห์ซาบ 5

รายงานจากอิบรอฮีม อัตตัยมีย์  จากบิดาของเขา  ความว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

وَمَنْ ‏ ‏ادَّعَى ‏ ‏إِلَى غَيْرِ أَبِيهِ أَوْ انْتَمَى إِلَى غَيْرِ ‏ ‏ مَوَالِيهِ ‏ ‏فَعَلَيْهِ لَعْنَةُ اللَّهِ وَالْمَلَائِكَةِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِينَ

"ผู้ใดได้อ้าง(เชื้อสาย)ไปยังผู้ที่มิใช่บิดาของเขาหรือสังกัดไปยังผู้ที่มิได้ปกครองเขา  แน่นอน  บนเขาคือสาปแช่งของอัลเลาะฮ์  มะลาอิกะฮ์  และมนุษย์ทั้งมวล"  รายงานโดยมุสลิม (2433)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์อธิบายว่า  "ฮะดิษนี้ชัดเจนว่า  ฮะรอมอย่างหนักกับการที่คนหนึ่งอ้างเชื้อสายไปยังผู้ที่มิใช่บิดาของเขาหรือทาสคนหนึ่งได้อ้างสังกัดไปยังผู้ที่มิใช่เป็นนายผู้ปกครองเขา  เพราะในสิ่งดังกล่าว   เป็นการริดรอนสิทธิเรื่องมรดก  เรื่องความผู้พันทางเครือญาติ  เรื่องการร่วมเสียเงินค่าทำขวัญเนื่องจากฆ่าคนตาย  และอื่น  ๆ   ซึ่งพร้อมในสิ่งดังกล่าวนั้นยังเป็นการตัดญาติขาดมิตรและทรพีอีกด้วย"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 5/157

ดังนั้น  การนำเด็กไปอุปการะเลี้ยงดู  แล้วเอาเขาเป็นลูกของตนเอง  ถือว่าศาสนาต้องห้ามอย่างเด็ดขาด  สำหรับการนำเด็กมาเลี้ยงอุปการะโดยมิได้อ้างว่าเด็กเป็นลูกของเขาา  แต่รับเลี้ยงเพราะเมตตาสงสารและเพื่อสนองตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  ถือว่าเป็นความดีอันยิ่งใหญ่  และจะได้อยู่ในสรวงสรรค์พร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์  ได้รายงานว่า

‏قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏كَافِلُ الْيَتِيمِ لَهُ أَوْ لِغَيْرِهِ أَنَا وَهُوَ كَهَاتَيْنِ فِي الْجَنَّةِ ‏ ‏وَأَشَارَ ‏ ‏مَالِكٌ ‏ ‏بِالسَّبَّابَةِ وَالْوُسْطَى

"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  ผู้อุปการะเด็กกำพร้าที่เป็นญาติของเขาหรือเด็กกำพร้าที่ไม่ใช่ญาติของเขานั้น  ฉันและเขาเหมือนกับทั้งสองในสวรรค์  และท่านมาลิกได้ชี้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลาง" รายงานโดยมุสลิม (5546)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า "ผู้อุปการะเด็กกำพร้า  หมายผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลกิจการต่าง ๆ ของเขา  จากเรื่องค่าใช้จ่าย  เสื้อผ้า  การอบรม  บ่มนิสัย  และอื่น ๆ  และนี้ก็คือความดีงามที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้ที่อุปการะเด็กกำพร้า  ไม่ว่าจะมาจากทรัพย์สินของตนเองหรือจากทรัพย์สินของเด็กกำพร้า  โดยการปกครองดูแลตามหลักของศาสนา"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 9/339-340

ส่วนเด็กที่นำมาเลี้ยงอุปการะไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย  หากพวกเขาได้บรรลุศาสนภาวะแล้ว  ก็ต้องปกปิดเอาเราะฮ์ตามหลักการของอิสลาม  ส่วนเรื่องมรดกนั้นเด็กที่ถูกนำมาอุปการะไม่สามารถรับมรดกได้  นอกจะมีการแบ่งทรัพย์สินให้ขณะที่มีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วแต่อยู่ในเศษหนึ่งส่วนสามของมรดกผู้ตายเท่านั้นครับ

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged