بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
การนำเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมหรือนำมาเป็นลูกของตนเองนั้น อิสลามห้ามอย่างเด็กขาด แต่การนำมาเพื่ออุปการะเลี้ยงดูเพียงอย่างเดียวถือว่าไม่เป็นไร ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความดีงามอันยิ่งใหญ่อีกด้วย
อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงตรัส ความว่า
ادْعُوهُمْ لآبَائِهِمْ هُوَ أَقْسَطُ عِنْدَ اللَّهِ فَإِنْ لَمْ تَعْلَمُوا آبَاءَهُمْ فَإِخْوَانُكُمْ فِي الدِّينِ وَ مَوَالِيكُمْ
"พวกเจ้าจงเรียกพวกเขา (โดยใส่พ่วงคำว่า "บุตร - บิน" ให้กับบิดาจริงของพวกเขา (อย่าพ่วงกับชื่อของพ่อบุญธรรม) นั้นเป็นที่เที่ยงธรรมยิ่ง ณ อัลเลาะฮ์ แต่ถ้าพวกเจ้าไม่รู้จักพ่อของพวกนั้น ก็(จงเรียกพวกเขาเหมือนเช่น)พี่น้องของพวกเจ้าในศาสนา (เดียวกัน) และ (เรียกพวกเขาว่า) ผู้ถูกปกครองของพวกเจ้า (อย่างใดอย่างหนึ่ง)" อัลอะห์ซาบ 5
รายงานจากอิบรอฮีม อัตตัยมีย์ จากบิดาของเขา ความว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
وَمَنْ ادَّعَى إِلَى غَيْرِ أَبِيهِ أَوْ انْتَمَى إِلَى غَيْرِ مَوَالِيهِ فَعَلَيْهِ لَعْنَةُ اللَّهِ وَالْمَلَائِكَةِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِينَ
"ผู้ใดได้อ้าง(เชื้อสาย)ไปยังผู้ที่มิใช่บิดาของเขาหรือสังกัดไปยังผู้ที่มิได้ปกครองเขา แน่นอน บนเขาคือสาปแช่งของอัลเลาะฮ์ มะลาอิกะฮ์ และมนุษย์ทั้งมวล" รายงานโดยมุสลิม (2433)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์อธิบายว่า "ฮะดิษนี้ชัดเจนว่า ฮะรอมอย่างหนักกับการที่คนหนึ่งอ้างเชื้อสายไปยังผู้ที่มิใช่บิดาของเขาหรือทาสคนหนึ่งได้อ้างสังกัดไปยังผู้ที่มิใช่เป็นนายผู้ปกครองเขา เพราะในสิ่งดังกล่าว เป็นการริดรอนสิทธิเรื่องมรดก เรื่องความผู้พันทางเครือญาติ เรื่องการร่วมเสียเงินค่าทำขวัญเนื่องจากฆ่าคนตาย และอื่น ๆ ซึ่งพร้อมในสิ่งดังกล่าวนั้นยังเป็นการตัดญาติขาดมิตรและทรพีอีกด้วย" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 5/157
ดังนั้น การนำเด็กไปอุปการะเลี้ยงดู แล้วเอาเขาเป็นลูกของตนเอง ถือว่าศาสนาต้องห้ามอย่างเด็ดขาด สำหรับการนำเด็กมาเลี้ยงอุปการะโดยมิได้อ้างว่าเด็กเป็นลูกของเขาา แต่รับเลี้ยงเพราะเมตตาสงสารและเพื่อสนองตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ถือว่าเป็นความดีอันยิ่งใหญ่ และจะได้อยู่ในสรวงสรรค์พร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ได้รายงานว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَافِلُ الْيَتِيمِ لَهُ أَوْ لِغَيْرِهِ أَنَا وَهُوَ كَهَاتَيْنِ فِي الْجَنَّةِ وَأَشَارَ مَالِكٌ بِالسَّبَّابَةِ وَالْوُسْطَى
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ผู้อุปการะเด็กกำพร้าที่เป็นญาติของเขาหรือเด็กกำพร้าที่ไม่ใช่ญาติของเขานั้น ฉันและเขาเหมือนกับทั้งสองในสวรรค์ และท่านมาลิกได้ชี้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลาง" รายงานโดยมุสลิม (5546)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า "ผู้อุปการะเด็กกำพร้า หมายผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลกิจการต่าง ๆ ของเขา จากเรื่องค่าใช้จ่าย เสื้อผ้า การอบรม บ่มนิสัย และอื่น ๆ และนี้ก็คือความดีงามที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้ที่อุปการะเด็กกำพร้า ไม่ว่าจะมาจากทรัพย์สินของตนเองหรือจากทรัพย์สินของเด็กกำพร้า โดยการปกครองดูแลตามหลักของศาสนา" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 9/339-340
ส่วนเด็กที่นำมาเลี้ยงอุปการะไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากพวกเขาได้บรรลุศาสนภาวะแล้ว ก็ต้องปกปิดเอาเราะฮ์ตามหลักการของอิสลาม ส่วนเรื่องมรดกนั้นเด็กที่ถูกนำมาอุปการะไม่สามารถรับมรดกได้ นอกจะมีการแบ่งทรัพย์สินให้ขณะที่มีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วแต่อยู่ในเศษหนึ่งส่วนสามของมรดกผู้ตายเท่านั้นครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ