อัลกุรอาน พร้อมความหมายวันละนิด

[M. Rodee]

Tweet

  อัลกุรอาน พร้อมความหมายวันละนิดคับ
  เริ่มเลยดีกว่า

   '' ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ผู้ทรงประทานอัลฟุรกอนแก่บ่าวของพระองค์(มูฮัมหมัด)เพื่อเขาจะได้เป็นผู้ตักเตือนแก่ปวงบ่าวทั้งมวล"
   " สำหรับพระองค์เป็นผู้ครอบครองบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และพระองค์จะไม่ตั้งผู้ใดเป็นพระบุตร และสำหรับพระองค์นั้นไม่มีหุ้นส่วนร่วมกับพระองค์ในการครองอำนาจ และพระองค์ได้ทรงบังเกิดทุกสิ่ง และทรงกำหนดให้มันเป็นไปตามกฏสภาวะ"
                                                                                     ( อัลฟุรกอน 1-2 )

[M. Rodee]

   " และได้มีโองการแก่นูหฺว่า แท้จริงจะไม่มีผู้ใดในกลุ่มชนของเจ้าศรัทธา เว้นแต่ผู้ที่ได้ศรัทธาแล้ว ดังนั้นเจ้าอย่าได้เศร้าหมองในสิ่งที่พวกเขากระทำเลย "
   
   " และเจ้าจงสร้างเรือต่อหน้าเรา และตามคำบัญชาของเรา และ จง อย่า มาพูดกับ ข้า ถึงบรรดาผู้อธรรม แท้จริงพวกเขาจะถูกให้จมน้ำตาย "
   
   " และเขาได้สร้างเรือ และคราใดที่ผู้นำจากกลุ่มชนของเขาผ่านมาทางเขา พวกเขาก็จะเยาะเย้ยเขา เขาก็กล่าวว่า หากพวกเจ้าเยาะเย้าพวกเรา แท้จริงเราจะเยาะเย้ยพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่พวกเจ้าเยาะเย้ย "
   
   " และพวกเจ้าก็จะรู้ว่าผู้ใดที่การลงโทษอันอัปยศจะมายังเขา และการลงโทษอันยั่งยืนก็จะประสพกับพวกเขาอย่างแน่นอน "
 
   " จนกระทั่งคำบัญชาของเราได้มาและบนพื้นแผ่นดินน้ำได้พวยพุ่งขึ้น เรากล่าวว่า จงบรรทุกไว้ในเรือจากทุกชนิดเป็นคู่ๆ และครอบครัวของเจ้าด้วย เว้นแต่ผู้ที่พระดำรัสได้กำหนดแก่เขาไว้ก่อน และผู้ศรัทธา แต่ไม่มีผู้ศรัทธาร่วมกับเขานอกจากจำนวนเล็กน้อย "
   
   " และเขากล่าวว่าพวกเจ้าจงลงเรือด้วยพระนามของอัลลอฮ ทั้งในยามที่มันแล่นและในยามที่มันจอด แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผูทรงเมตตาเสมอ"
   
   " และมันแล่นพาพวกเขาไปท่ามกลางคลื่นลูกเท่าภูเขา และนูหฺก็ได้ร้องเรียกลูกชายของเขาซึ่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว โอ้ ลูกรัก จงมาโดยสารเรือกับเราเถิด และเจ้าจงอย่าอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเลย"
   
   "  ลูกชายกล่าวว่า ฉันจะไปอาศัยที่ภูเขาลูกหนึ่งมันจะคุ้มครองฉันจากน้ำนี้ได้ นูหฺ กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดที่จะคุ้มครองในวันนี้ให้พ้นจากพระบัญชาของอัลลอฮได้ เว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงเมตตาเท่านั้น และคลื่นได้ซัดเข้ามาระหว่างเขาทั้งสอง และปรากฏว่า ลูกชายได้อยู่ในหมู่ผู้จมน้ำตาย"
   
   " และได้มีเสียงกล่าวว่า โอ้ แผ่นดิน เอ๋ย จงกลืนน้ำของเจ้า และ โอ้ ฟ้า เอ๋ย จงหยุด และน้ำได้ลดลงและกิจการได้ถูกตัดสิน และมันได้จอดเทียบอยู่ที่ภูเขายูดี และได้มีเสียงกล่าวว่า ความหายนะจงประสพแก่กลุ่มชนผู้อธรรมเถิด "

                                                           ( ฮูด 36-44 )

[ILHAM]

   " และเขากล่าวว่าพวกเจ้าจงลงเรือด้วยพระนามของอัลลอฮ ทั้งในยามที่มันแล่นและในยามที่มันจอด แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผูทรงเมตตาเสมอ"
   
 

ชอบจริงเลย ที่อ่านออกเสียงแปลกกว่าเพื่อน

[M. Rodee]

       " และพวกเจ้าจง อย่าท้อแท้ และพวกเจ้าจง อย่าเสียใจ และพวกเจ้านั้นคือ ผู้สูงส่งยิ่ง หากพวกเจ้าเป็น ผู้ศรัทธา "

                                                        ( อาลิอิมรอน 139 )

[M. Rodee]

   " และเมื่อได้ถูกกล่วว่าแก่พวกเขาว่า จงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮได้ประทานลงมาเถิด พวกเขาก็กล่าวว่า มิได้ เราจะปฏิบัติตามสิ่งที่เราได้พบบรรดาบรรพบุรุษของเราเคยปฏิบัติมาเท่านั้น และแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งยังไม่ได้รับแนวทางอันถูกต้องก็ตาม กระนั้นหรือ? "

   " และอุปมาบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น ดังที่ผู้ส่งเสียงตะวาดสิ่งที่มันฟังไม่รู้เรื่อง นอกจากเสียงเรียก และเสียงตะโกน เท่านั้น พวกเขา คนหูหนวก เป็นใบ้ ตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึง ไม่เข้าใจ "

                                                                  ( อัล บะเกาะเราะต์ 170-171 )

[M. Rodee]

   " ดังนั้นเขาได้เริ่มค้นในย่ามของพวกเขาก่อนย่ามน้องชายของเขา และเขาก็ได้นำมันออกมาจากย้ามของน้องชายของเขา เช่นนั้นแหละ เราได้ใช้ยูซุฟใช้กลอุบายเขาจะเอาน้องชายของเขาไว้ไม่ได้ในศาสนาของกษัตริย์ นอกจากว่าอัลลอฮจะทรงประสงค์ เราจะยกฐานะหลายขั้นแก่ผู้ที่เราประสงค์ และเหนือทุกๆผู้ที่มีความอดทนคือผู้รอบรู้ "

                                                                                                    ( ยูซุฟ 76 )


   " โอ้ ลูกรัก พวกเจ้าจงไปสืบข่าวของยูซุฟและน้องของเขาและพวกเจ้าอย่าหมดหวังต่อความเมตตาของอัลลอฮ แท้จริงไม่มีผู้ใดหมดหวังต่อความเมตตาของอัลลอฮ นอกจากกลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น "

                                                                                                    ( ยูซุฟ 87  )

[M. Rodee]

   "  พวกเขาไม่เห็นฝูงนกดอกหรือว่าพวกมันได้รับความสะดวกในห้วงอากาศแห่งชั้นฟ้า ไม่มีผู้ใดดึงพวกมันไว้ได้นอกจากอัลลอฮ แท้จริงในการนั้นแน่นอนย่อมเป็นสัญญานสำหรับกลุ่มชนผู้ศรัทธา "

                                                                                         ( อัล นะหฺลุ์  79 )

[قطوف من أزاهير النور]

 لَقَدْ خَلَقْنَا الْإِنسَانَ فِي كَبَدٍ

โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาเพื่อเผชิญความยากลำบาก [90:4]


มีใครอธิบายอายะนี้ต่อได้มั่ง 

[ILHAM]

 لَقَدْ خَلَقْنَا الْإِنسَانَ فِي كَبَدٍ

โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาเพื่อเผชิญความยากลำบาก [90:4]


มีใครอธิบายอายะนี้ต่อได้มั่ง 

จะอธิบายนั้นต้องดูบริบทด้วย

[M. Rodee]

   " ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮอย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตายเป็นอันขาด นอกจากในฐานะผู้เป็น มุสลิม เท่านั้น "

   "  และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮโดยพร้อมเพียงกัน และจงอย่าแตกแยกกัน และจงรำลึกต่อความเมมตาของอัลลอฮที่มีแด่พวกเจ้าขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน และพระองค์ได้ทรงประสานหัวใจของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็กลายเป็นพี่น้องกันโดยความเมมตาของพระองค์ และพวกเจ้าเคยอยู่บนปากหลุมแห่งไฟนรกแล้วพระองค์ก็ทรงช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากปากหลุมแห่งไฟนรกนั้น ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮจะทรงอธิบายแก่พวกเจ้าซึ่งบรรดาโองการของพระองค์เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับทางนำที่ถูกต้อง "
                                                                                    
                                                                                        ( อาลิอิมรอน 102-103 )

[M. Rodee]

 لَقَدْ خَلَقْنَا الْإِنسَانَ فِي كَبَدٍ

โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาเพื่อเผชิญความยากลำบาก [90:4]


มีใครอธิบายอายะนี้ต่อได้มั่ง 

 โดย แน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์ให้อยู่ในความยากลำบากตั้งแต่แรกเกิดมาจนกระทั่ง ลงหลุมฝังศพ อะบุสสะอู๊ด กล่าวว่า อายะฮฺนี้เป็นการปลอบโยนท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในสิ่งที่ท่านเผชิญกับกับการทำร้ายของพวกกุฟฟารมักกะฮฺ
                                                       อ้างจาก สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ
                                                       

[M. Rodee]

  "  และ (ชาวสวรรค์เหล่านั้น) บางคนในหมู่บ้านพวกเขาจะมาหากันไต่ถาม (ทุกข์สุข) ซึ่งกันและกัน "

  "  คนหนึ่งในหมู่บ้านพวกเขาก็กล่าวขึ้นว่า แท้จริงฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง "

  "  เขาเคยกล่าวว่า แท้จริงเจ้าเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้เชื่อมั่น (วันปรโลก )จริงหรือ ? "

  "  เมื่อเราตายไปแล้วและเราได้กลายเป็นดินและมีแต่กระดูกเราจะถูกตอบแทนจริงหรือ ? "

  "  เขา (ชาวสวรรค์) กล่าว (แก่เพื่อนๆของเขา) ว่า พวกเจ้าอยากมองดูไหม ? "

  "  ครั้นเมื่อเขามองลงไปก็เห็น (เพื่อนของเขา) อยู่ท่ามกลางไฟที่ลุกโชกช่วง "

  "  เขาจึงกล่าวขึ้นว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮ ท่านเกือบจะทำให้ฉันพินาศ  "

  " และหากไม่ใช่ความโปรดปรานจากพระผู้อภิบาลของฉันแล้ว ฉันจะต้องอยู่ในหมุ่ผู้ถูกนำมาลงโทษอย่างแน่นอน "

  "  ดังนั้นเราจะไม่ตาย "

  "  เว้นแต่การตายของเราครั้งแรก และเราจะไม่ถูกลงโทษกระนั้นหรือ ? "

  "  แท้จริง นี่คือ ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน "

  "  เพื่อเยี่ยง ( การตอบแทน ) นี้ บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนจงต่อสู้ต่อไปเถิด "

                                                                      ( อัศศ็อฟฟาต 50-61)

[safary]

 และแน่นอน เราจะทดลองพวกเจ้าด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากความกลัว และความหิวและด้วยความสูญเสีย(อย่างใดอย่างหนึ่ง)จากทรัพย์สมบัติ ชีวิตและพืชผล และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนเถิด
คือบรรดาผู้ที่เมื่อมีเคราะห์ร้ายมาประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า "แท้จริงพวกราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และแท้จริงพวกเราจะกลับไปยังพระองค์ " อัลบากอเราะห์ 155-156

[M. Rodee]

     


        " แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันปรโลกนั้น เราได้ทำให้การงานของพวกเขาสวยงามแก่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะระเหเร่รอนไปเรื่อยๆ "

                                                                                                 ( อัล นัมลฺ 4 )

[M. Rodee]

 " โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ข้าจะแนะแนวทางให้พวกเจ้าเอาไหม ถึงการค้าที่จะช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากการลงโทษอันเจ็บปวด "

 " นั่นคือ พวกเจ้าต้องศรัทธาต่อ อัลลอฮ และรอซูลของพระองค์ และต่อสู้ดิ้นรนในหนทางของอัลลอฮด้วยทรัพย์สินของพวกเจ้าและชีวิตของพวกเจ้า นั่นเป็นการดียิ่งสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้ "

 " พระองค์จะทรงอภัยความผิดให้แก่พวกเจ้า และจะทรงให้พวกเจ้าเข้าสวนสวรรค์ อันหลากหลายซึ่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่างและที่พำนักอันบรมสุขในสวนสวรรค์อันสถาพร นั้นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ "                                                                 

                                                                                     ( อัศ ศอฟฟุ์ 10-12)