salam
ขออนุญาตนำข้อสังเกตบางประการมาทิ้งไว้
๑. หากอาจารย์ริฎอ สมะดี บริสุทธิ์ใจที่จะคุยนัดวันสนทนากับเชคอาลี อีซา จริง ทำไมต้องเตรียมกล้องวิดีโอมาถ่าย ถ่ายอะไร ทำไมจึงต้องเตรียมการเช่นนี้ ?
๒. จากวิดีโอ เชคอาลี อีซา พยายามจะพูดตกลง "เอาอย่างนี้ กำหนดวัน เอาอย่างนี้ๆ" แต่อาจารย์ริฎอ สมะดี พูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงดัง และคาดว่าน่าจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว "เอาอย่างไหน จะเอาอย่างไหน กำหนดวันมา" ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดและยังชี้หน้าเชคอาลี อีซา ซึ่งอาวุโสกว่ามาก เป็นมารยาทที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุที่อาจารย์ริฎอแสดงอารมณ์ดังกล่าว อาจจะทำให้สถานการณ์เช่นนั้นไม่สามารถคุยกันรู้เรื่องได้ คนที่มากับเชคอาลี อีซา จึงกันตัวให้ท่านเดินเลี่ยงไป โดยอาจารย์ริฎอบอกว่าท่านเดินหนี
๓. เด็กวัยรุ่นที่มายืนขวางหน้าทางกลุ่มของเชคอาลี อีซา แล้วถูกจับแขนลักษณะเหมือนการเหวี่ยง น่าแปลกใจตรงที่ว่า ที่เดินมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่เดิน ต้องมาเดินขวางหน้าเขา แล้วยังส่งซิกให้กล้องอีกต่างหาก เขาจะจับออกก็ไม่ได้ผิดอะไร ออกแนวไปกวนประสาทเขาก่อนหรือเปล่า
๔. ภาษาอาหรับที่อาจารย์ริฎอพูดตอนท้าย ทำไมไม่แปล อย่าบอกนะว่าไม่ใช่เสียงของอาจารย์ริฎอ แล้วอย่างนี้จะแก้ตัวว่ายังไงดีล่ะ
-มันก็พอกันทั้งคู่นั่นแหละ ทำไมเราได้แต่ตั้งข้อสังเกตุอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมไม่มาดูว่ามันเป็นอะไรทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้
-ไอคนที่ดูเหมือนอาวุโสก็ปากดีเหลือเกินที่ไปกล่าวหาว่าเขาอย่างนี้ ทำไมเราไม่ดูที่ต้นเรื่องมัวแต่มาดูที่ปลายเหตุ มัวแต่ดูที่เขาขึ้นเสียงกัน แล้วทำไมไม่ตั้งข้อสงสัยว่าผู้ที่กล่าวหาผู้อื่นลอยๆก่อนนี่มันถูกต้องแล้วหรือ มัน เป็นความชอบธรรมของผู้อาวุโสไปแล้วรึ
-อีกฝ่ายเพียงต้องการให้ตัวเองได้มีโอกาสชี้แจงบ้าง ไม่ใช่กล่าวหาว่าเขาหนีหน้า นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเขาหนีหน้าหรือไม่ ผู้ที่หนีหน้าที่แท้จริงคือใคร
สุดท้ายนี้ ขอสาบานด้วยนามของอัลลอฮ์ว่า เชค รีฎอไม่ได้เป็นอย่างที่ เชคอาลี อีซากล่าวหาว่าเป็น ก็อตยานี แน่นอน ...วัสสลาม