ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหะดีษเหล่านี้หน่อย  (อ่าน 2570 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dolmabahce

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 15
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

อัสสลามมูอาลัยกุม ท่านผู้รู้ โดยเฉพาะคุณ al-azhary คือว่าผมได้ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "อบู ฮุรอยเราะฮฺ" เขียนโดย อับดุลฮูเซน ชาราฟุดดีน นักวิชาการชาวชีอะฮฺเลบานอนชื่อดัง คือผมนั้นมีชีวิตที่คลุกคลีกับชาวชีอะฮฺคืออยู่บ้านละแวกใกล้เคียง ซึ่งเขาก็ไม่ลดละที่จะดะวะพี่น้องซุนนีย์ของเราให้เป้นชีอะ ผมเกรงว่าสักวันจะทนไม่ไหวเพราะไม่มีความรู้และอาจจะหลงไปเป็นชีอะเหมือนกันเพื่อน จึงอยากให้ผู้รู้ทั้งหลายโดยเฉพาะคุณ al-azhary  กรุณาช่วยตอบโต้ข้อใส่ไคล้ของพวกเขาโดยเฉพาะช่วยอธิบายหะดีษเหล่านี้กรุณาช่วยอธิบายว่าแท้จริงซุนนะเข้าใจอย่างไร อย่างละเอียดพร้อมยกตำราอ้างอิงด้วยครับ บอกหน้าด้วยเพราะผมจะเอาเป็นข้อมูลตอบโต้พวกเขา หนังสือชื่อว่า "อบู ฮุรอยเราะฮฺ" จัดเป้นหนังสืออันตรายที่สุดที่ผมมองว่าเขาต้องการทำให้เราละทิ้งหะดีษของเราไปยึดของเขา ต่อไปนี้ผมจะเอาหะดีษที่เขาโจมตีมาอ้างพร้อมคำอ้างของเขา และอยากให้ท่านช่วยอธิบายด้วยครับ

1. จริงหรือไม่ที่ว่า อบูฮานีฟะและลูกศิษของท่านเคยปฏิเสธหะดีษที่รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ

2. คำวิจารณ์หะดีษ ที่ 1
" นรกจะยังไม่เต็มจนกว่า พระองค์อัลลอฮฺจะทรงวางพระบาทของพระองค์" ปรากฎในบุคอรีและมุสลิม(ผมตรวจดุแล้วว่าหะดีษเหล่านี้มีจริงแต่จำเล่มและหน้าไม่ได้)
ชาราฟุดดีนได้วิจารณ์ว่า "ดูเหมือนว่า อบูฮุรอยเราะฮฺ มีความเชื่อว่าจะไม่มีคนบาปเพียงพอที่จะบรรจุนรกให้เต็มที่ในขณะที่อัลลอฮฺ ได้ทรงตรัสไว้ในกุรอานว่า "เป็นสัจธรรมโดยแท้ และข้าจะไม่พูดสิ่งใดนอกจากสัจจะ ข้าจะบรรจุนรกให้เต็มด้วยกับพวกเจ้าและผู้ใดก็ตามที่ตามเจ้าจากมวลหมู่พวกเขาทั้งหมด"  ย่อมเห็นได้ชัดว่าในความคิดของอบูฮุรอยเราะฮฺ นั้นพระบาทของอัลลอฮฺต้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งมันขัดกับกุรอานที่ได้ยกไปแล้วข้างต้น เหนืออื่นใด หะดีษนี้ยอมรับไม่ได้ทั้งหมดทั้งด้านสติปัญญา มุสลิมจะเชื่อหรือว่าอัลลอฮฺมีเท้า จะมีใครรับรองว่าอัลลอฮฺจะวางเท้าในนรก แล้วใครจะเชื่อว่านรกและสวรรค์โต้เถียงกันและกัน"
 กรุณาชี้แจงด้วยครับ

3.การหลับของท่านศาสดา จนทำให้พลาดนมาซ ศุบฮิ
 ในบุคอรี มุสลิม(จำหน้าไม่ได้เช่นกัน) อบูฮุรอยเราะฮิ รายงานว่า เราได้ผ่านงานเลี้ยงแต่งงานครั้งหนึ่ง พร้อมกับท่านศาสดาของอัลลอฮฺ และด้วยเหตุนี้จึงมิได้ตื่นขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว จากเหตุการณ์นี้ท่านนบีกล่าวว่า "ทุกๆคนของพวกเจ้า จงเคลื่อนย้ายออกไปจากพาหะนะของเขา เพราะสถานที่นี้เป้น ที่อยู่อาศัยของชัยตอน"
ข้อวิจารณ์ ชาราฟุดดีนได้วิจารณ์ว่า หะดีษเป็นที่ยอมรับไม่ได้เพราะขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดจากความเป็นนบี เพราะขนาดนมาซที่ไม่ได้เป็นวาญิบอย่างนมาซตะฮัดญุด ท่านศาสดายังละหมาดจนเท้าบวมคือไม่ได้หลับนอน ดังที่กล่าวไว้ในกุรอาน (73/2,3)
ยังมีหลักฐานมากมายที่พิสูจน์ว่าหะดีษนี้ผิดและค้านกับหลักฐานเพราะ ในมุสนัด ของอิมามอะหมัดเล่ม 2 กล่าวว่า เพียงดวงตาของท่านนบีเท่านั้นที่หลับ แต่ใจของท่านไม่หลับ

4.การยกเลิกคำสั่งก่อนที่จะมีการปฏิบัติ
บุคอรีเล่ม 2  กล่าวว่า ท่านนบีกล่าวว่า"ถ้าท่านพบคนนั้นคนนี้ จงเผาเขาทั้งสองเสียด้วยไฟ " หลังจากนั้นเมื่อเราได้จัดเตรียมที่จะออกเดินทาง ท่านศาสนทูตได้กล่าวว่า "ฉันได้สั่งให้พวกเจ้าจัดการเผาศพคนนั้น แต่ไม่ควรที่ใครจะทำการลงโทษด้วยการเผา เว้นแต่ อัลลอฮฺ เพราะฉะนั้นหากเจ้าไปพบกับบุคคลสองคนนั้นจงฆ่าเขาเสีย
ข้อวิจารณ์ วจนนี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงการยกเลิกคำสังหนึ่งก่อนที่มันจะถูกนำไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับอัลลอฮฺและนบี หากว่ากันตามคุณลักษณะของนบีแล้ว ท่านจะไม่พูดสิ่งใดเว้นแต่เป็นสิ่งที่วะยูลงมาแก่ท่านไม่ใช่หรือ การยกเลิกคำสั่งหนึ่งก่อนที่จะถุกนำไปปฏิบัติย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเขลา ย่อมเป้นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณลักษณะของนบี ผู้ซึ่งได้อยู่เหนือกว่าสิ่งที่ผู้คนได้กล่าวว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้อย่างไกลลิบ และถามว่าท่านนบีเป็นผู้เมตตามิใช่หรือ ท่านจะโหดถึงขนาดสั่งเผาคนหรือ แล้วหะดีษเหล่านี้ระบุหรือเปล่าว่าชายสองคนนั้นทำอะไรผิดจนต้องฆ่าต้องแกงกัน

5.บุคอรีเล่มสี่ กล่าวว่า ท่านนบีได้ตัดมือตัดเท้าทั้งสองของชายคนหนึ่ง แล้วได้ใช้เหล็กร้อนแทงที่ตาของเขาจนตายอย่านน่าทรมาน
ข้อวิจารร์ ท่านนบีเหมาะหรือที่ต้องทำอย่างนั้น ในเมื่อท่านได้ชื่อว่าเป็น ความเมตตาของมนุษยชาติ ทำไมท่านต้องลงโทษอย่างรุนแรงขนาดนี้ ในเมื่ออายะกุรอนก็บอกไว้แล้วว่า "จงตอบแทน(ลงโทษ)กลับ เสมือนกับที่เขาทำ" เป็นที่ชัดเจนว่าหะดีษเหล่านี้กำลังใส่ร้ายท่านศาสดาอยู่ เสมือนว่าท่านเป้นคนโหดเหี้ยม

6. ในบุคอรี ของเขาเล่ม 4 หน้า 71 และมุสลิมในเล่ม 2 หน้า 392 อบูฮุรอยเราะอิรายงานว่า ท่านนบีกล่าวว่า "โอ้อัลลอฮฺ มูฮำหมัดเป็นเพียงมนุดธรรมดาเท่านั้น  เขามีโมหะเช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่นที่มีโมหะ ข้าพระองค์ขอทำสัญญากับพระองค์ว่า อย่าได้เป็นศัตรูกับข้าพระองค์เลย หากว่าข้าพระองคืได้หวด ตี ด่าว่า สาปแช่ง ผู้ศรัทธา ขอพระองค์ทรงอภัยให้กับเขาด้วย และขอให้มันเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ข้าพระองค์ใกล้ชิดพระองค์
ข้อวิจารณื เป็นการใส่ร้ายท่านนบีอย่างร้ายแรงที่สุดเกินที่จะอธิบาย ท่านนบีได้หวดตีผู้ศรัทธาที่ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นเหรอ
 

7. รายงานจากอะนัส บินมาลิก ใน มุสลิม เล่ม 8 บทว่าด้วยการแต่งงาน กล่าวว่าท่านนบีได้ร่วมประเวณี กับภรรยา 9 คนภายในคืนเดียว
หะดีษกำลังชี้ให้เราเห็นว่าท่านนบีนั้นเป็นคนชื่นชอบการรร่วมประเวณี และที่น่ากลัวก็คือท่านร่วมประเวณีโดยไม่ได้สนใจถึงอารมณ์ของการร่วมประเวณีเลยหรือ เป็นไปได้หรือที่ท่านนบีเคยบอกไว้ว่า ให้เราเข้าหาภรรยาอย่างช้าๆ หมายถึงค่อยๆร่วมประเวณีอย่างนุ่มนวล แต่หะดีษกลับบอกว่าท่านทำมันในคืนเดียว 9 คน เสมือนท่านทำมาอย่างไม่สนใจอารมณ์เลยหรือ แน่นอนหะดีษยอมรับไม่ได้ทั้งทางด้านเหตุผลหลักฐาน

ไว้แค่นี้ก่อนหวังว่าคุน อัลอัชฮารี คงตอบอย่างกระจ่างแล้วจะเข้ามาอีกวันหลัง
วัสสลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ผมได้เปิดกระทู้เพื่อให้พี่น้องร่วมกันชี้แจงของสงสัยและการสร้างความคลุมเครือของพวกชีอะฮ์ อัรรอฟิเฏาะฮ์  ที่มีต่อซุนนะฮ์ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ที่รายงานโดยท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ   ครับ


والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
1. จริงหรือไม่ที่ว่า อบูฮานีฟะและลูกศิษของท่านเคยปฏิเสธหะดีษที่รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ

กรณีที่ อับดุล ฮุเซน  แอบอ้างว่า  อบูฮานีฟะฮ์และลูกศิษย์ของท่าน  เคยปฏิเสธฮะดิษที่รายงานจากอบูฮุร๊อยเราะฮ์นั้น  ถือว่าเป็นลวงตบตาพี่น้องมุสลิม  เพราะถ้าหากใครได้เรียนหลักวิชาอุศูลฟิกห์มัซฮับหะนะฟีย์นั้น   ก็จะทราบดีถึงจุดยืนในการนำฮะดิษอาฮาด (ฮะดิษที่ไม่ถึงขึ้นมุตะวาติร) ที่ขัดกับหลักกิยาส(เทียบเคียง)ด้วยหลักฐานอัลกุรอานและฮะดิษที่มีข้อบ่งชี้ที่เด็ดขาด มาเป็นหลักฐาน

ท่านชัยค์  อะห์มัด  อัซซัรกอวีย์  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  นักปราชญ์มัซฮับหะนะฟีย์ได้กล่าวว่า

لا مخالفة بين كون الحنفية يقدمون القياس على خبر الواحد ، و بين قولهم في الوقف إنهم يعملون بالمرسل و يقدمون خبر الواحد على القياس . و ذلك لأن تقديمهم القياس على خبر الواحد إنما هو فيما إذا كان المقيس عليه ثبت حكمه بدليل قطعي أو مشهور ، و تقديمهم خبر الواحد على القياس إذا ثبت حكم المقيس عليه بآحاد

"ย่อมไม่ได้มีการขัดแย้งกัน  ระหว่างการที่อุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์  ได้นำเอากิยาส(การเทียบเคียง)มาอยู่ก่อนฮะดิษอาฮาด(ฮะดิษที่ไม่ถึงขั้นมุตะวาติร)  กับคำพูดของพวกเขาในเรื่องวะกัฟ  ที่พวกเขาได้ปฏิบัติด้วยกับฮะดิษมุรซัลและนำเอาฮะดิษอาฮาดมาอยู่ก่อนการกิยาส  เพราะว่าการที่พวกเขาได้นำกิยาสมาอยู่ก่อนฮะดิษอาฮาดนั้น  เนื่องจากเป็นการกิยาส(เทียบเคียง) ด้วยกับหลักฐานที่ถูกกิยาส(เทียบเคียง)ที่ยืนยันฮุกุ่มด้วยหลักฐานที่เด็ดขาดและเป็นที่เลื่องลือ  และการที่วพกเขาได้นำฮะดิษอาฮาดมาอยู่ก่อนการกิยาสนั้น  เมื่อฮุกุ่มที่ถูกนำมากิยาสถูกยืนยันด้วยหลักฐานที่ฮาฮาด(หมายถึงกิยาสด้วยกับหลักฐานที่ไม่เด็ดขาด  ก็เอาฮะดิษอาฮาดมาอยู่ก่อน)"  หนังสือ ชัรห์ อัลก่อวาอิด อัลฟิกฮียะฮ์ หน้า 152 - 153

ดังนั้น   หากเราพิจารณาจากจุดยืนการอ้างหลักฐานของมัซฮับหะนะฟีย์นั้น  ก็จะพบว่า  มัซฮับหะนะฟีย์ปฏิเสธฮะดิษฮาด  ไม่ใช่ปฏิเสธฮะดิษของท่านอบูฮุร๊อยเราะห์เป็นการเจาะจงหรือปฏิเสธเพราะไม่ให้ความไว้ใจต่อท่านอบูฮุร๊อยเราะห์  เพราะไม่ว่าฮะดิษฮาดจะรายงานมาจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์หรือจากซอฮาบะฮ์ท่านอื่น ๆ นั้น  หากเป็นฮะดิษอาฮาด  มัซฮับหะนะฟีย์เขาก็จะปฏิเสธฮะดิษที่ขัดแย้งกับกิยาสที่ได้มาจากการเทียบเคียงหลักฐานที่เด็ดขาดและเลื่องลือ

เพราะฉะนั้น  ฮะดิษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์เพียงคนเดียว   หรือรายงานโดยท่านอิบนุอับบาสเพียงคเนดียว  หรือรายงานโดยอบีมูซา อัลอัชอะรีย์เพียงคนเดียว  โดยไม่เป็นฮะดิษที่เลื่องลือนั้น  มัซฮับหะนะฟีย์จะให้การปฏิเสธฮะดิษที่อยู่ในระดับดังกล่าวหากมันไปขัดกับกิยาสที่เทียบเคียงฮุกุ่มจากหลักฐานที่เด็ดขาด

ดังนั้น  อาจจะมีบางฮะดิษที่ท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์รายงานเพียงคนเดียว   แล้วมัซฮับฮะนะฟีย์ให้การปฏิเสธ  ที่ปฏิเสธไม่ใช่เพราะรายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์หรือไม่เชื่อถือในตัวของท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์   แต่เป็นเพราะว่ามัซฮับหะนะฟีย์ไม่รับฮะดิษฮาดตามหลักการของพวกเขาต่างหาก   ฉะนั้นผู้ใดที่เชื่อสิ่งที่อับดุลฮุเซนกล่าวมานั้น  ถือว่าถูกตบตาและความเข้าใจผิด  วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก

วัลลอฮุอะลัม     
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
2. คำวิจารณ์หะดีษ ที่ 1
" นรกจะยังไม่เต็มจนกว่า พระองค์อัลลอฮฺจะทรงวางพระบาทของพระองค์" ปรากฎในบุคอรีและมุสลิม(ผมตรวจดุแล้วว่าหะดีษเหล่านี้มีจริงแต่จำเล่มและหน้าไม่ได้)
ชาราฟุดดีนได้วิจารณ์ว่า "ดูเหมือนว่า อบูฮุรอยเราะฮฺ มีความเชื่อว่าจะไม่มีคนบาปเพียงพอที่จะบรรจุนรกให้เต็มที่ในขณะที่อัลลอฮฺ ได้ทรงตรัสไว้ในกุรอานว่า "เป็นสัจธรรมโดยแท้ และข้าจะไม่พูดสิ่งใดนอกจากสัจจะ ข้าจะบรรจุนรกให้เต็มด้วยกับพวกเจ้าและผู้ใดก็ตามที่ตามเจ้าจากมวลหมู่พวกเขาทั้งหมด"  ย่อมเห็นได้ชัดว่าในความคิดของอบูฮุรอยเราะฮฺ นั้นพระบาทของอัลลอฮฺต้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งมันขัดกับกุรอานที่ได้ยกไปแล้วข้างต้น เหนืออื่นใด หะดีษนี้ยอมรับไม่ได้ทั้งหมดทั้งด้านสติปัญญา มุสลิมจะเชื่อหรือว่าอัลลอฮฺมีเท้า จะมีใครรับรองว่าอัลลอฮฺจะวางเท้าในนรก แล้วใครจะเชื่อว่านรกและสวรรค์โต้เถียงกันและกัน"
 กรุณาชี้แจงด้วยครับ

อับดุลฮุเซน  พยายามเข้าใจว่าความหมายของฮะดิษอยู่บนความเข้าใจแบบฮะกีกัต (คำแท้)  คือพระบาทที่เป็นอวัยวะ  ดังนั้นเมื่อเขาเข้าใจแบบคำแท้(ฮะกีกัต)นี้  ก็จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น(อัลละวาซิม) คืออัลเลาะฮ์ทรงมีอวัยวะที่ชื่อว่า พระบาท  เมื่อพระองค์ทรงมีเท้าพระบาทแล้ววางลงไปนรก  ก็แสดงว่าเท้าพระบาทของพระองค์ทรงใหญ่กว่านรก  แล้วอับดุลฮุเซน  ก็ทำการยัดเยียดความเข้าใจนี้ให้กับท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์และยัดเยียดให้กับแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์

ตัวบทฮะดิษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้   คือ

 فيضع قدمه عليها

"ดังนั้น  พระองค์ทรงวาง กอดัม (แปลคำตรงและคำแท้ว่า เท้าพระบาท) บนนรก"

อีกสำนวนหนึ่งรายงานว่า

 يضع الله فيها رجله

"พระองค์ทรงวาง ริจล์ (แปลคำตรงและคำแท้ว่าเท้าพระบาท) ของพระองค์ในนรก"

อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  มีจุดยืนต่อฮะดิษนี้ว่า    ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวฮะดิษเป็นภาษาอาหรับในเชิงเปรียบเปรยอุปมา (มะยาซฺ)  ดังนั้น  การที่ฮะดิษได้ให้สำนวนที่ว่า  อัลเลาะฮ์ทรงวางเท้าพระบาทลงไปนรกญะฮันนัมขณะนั้นนรกได้กล่าวว่ายังมีเพิ่มอีกใหมนั้น  หมายถึง  พระองค์ทรงประสงค์ที่จะทำให้นรกที่เต็มไปด้วยบรรดาผู้ปฏิเสธนั้นมีความต่ำต้อย  เหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ภายใต้ฝ่าเท้า  ไม่ใช่หมายความว่า อัลเลาะฮ์มีเท้าพระบาทในเชิงภาษาคำแท้ที่เป็นอวัยวะแบบจริง ๆ   อนึ่ง  ชาวอาหรับมักจะใช้อวัยวะต่าง ๆ ในเรื่องของการยกตัวอย่างอุทาหรณ์  เช่นคำว่า      رغم أنفه   "จมูกของเขาติดฝุ่น(คว่ำหน้า)"  ซึ่งหมายถึง  ต้องการให้เขาต่ำต้อย  หรือคำว่า  سقط في يده  "บุคคลนั้นได้ตกอยู่ในมือของเขา"  หมายถึง  บุคคลนั้นได้อยู่ภายใต้อำนาจของเขาแล้ว  (สรุปคำอธิบายของท่าน อัลฮาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์  จากหนังสือ ฟัตหุลบารีย์)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  อธิบายฮะดิษดังกล่าวว่า   จุดยืนในฮะดิษนี้มีอยู่  2  มัซฮับ (ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์)

‏أحدهما : وهو قول جمهور السلف وطائفة من المتكلمين : أنه لا يتكلم في تأويلها بل نؤمن أنها حق على ما أراد الله , ولها معنى يليق بها , وظاهرها غير مراد . ‏

1. ทัศนะคำกล่าวของสะลัฟส่วนมากและกลุ่มหนึ่งจากอุลามาอ์กะลาม  ว่า  ไม่มีการพูดถึงการตีความฮะดิษซีฟาต  แต่ทว่า  เราขอศรัทธาว่าฮะดิษนี้เป็นความจริงตามความหมายที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ (ไม่ใช่มนุษย์)  และให้กับซีฟาตนี้  มีความหมายที่เหมาะสมยิ่งสำหรับพระองค์  และความหมายแบบผิวเผิน(ฮะกีกัตคำแท้)นั้น  ไม่ใช่จุดมุ่งหมายแน่นอน

‏والثاني : وهو قول جمهور المتكلمين أنها تتأول بحسب ما يليق بها

2. ทัศนะคำกล่าวของนักปราชญ์มุตะกัลลิมีนส่วนมาก  ที่ว่า  ฮะดิษซีฟาตนี้ถูกตีความ(ตะวีล) ตามความสิ่งที่มีความเหมาะสมด้วยกับซีฟาตของอัลเลาะฮ์ตะอาลา

ส่วนการตีความนั้น  พวกเขามีการขัดแย้งกันไป    บ้างก็กล่าวว่า

المراد بالقدم هنا المتقدم , وهو شائع في اللغة ومعناه : حتى يضع الله تعالى فيها من قدمه لها من أهل العذاب , قال المازري والقاضي : هذا تأويل النضر بن شميل , ونحوه عن ابن الأعرابي

"จุดมุ่งหมายคำว่า  กอดัม  ณ  ที่นี้  คือ   المتقدم  "ผู้ที่ถูกยื่นเสนอส่งไป(ในนรก)"  ซึ่งเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลักภาษาอาหรับ  ดังนั้น  ความหมายของฮะดิษ

فيضع قدمه عليها

ก็คือ  "จนกระทั่งอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ได้วาง  ผู้ที่พระองค์ทรงยื่นส่งไปให้กับนรกจากผู้ที่ถูกลงโทษ"   ท่านอัลมาซิรีย์และท่านอัลกอฏี กล่าวว่า  นี้คือการตีความ(ตะวีล)ของท่าน  อันนัฏร์ บิน ชะมีล (ซึ่งเป็นสะละฟุศศอลิห์)  และคนอื่น ๆ  จากท่านอิบนุ อัลอะรอบีย์

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ได้นำเสนอการตีความอีกเช่นกันว่า

ويجوز أيضا أن يراد بالرجل الجماعة من الناس , كما يقال : رجل من جراد , أي : قطعة منه

"และอนุญาตเช่นกันว่า  จุดมุ่งหมายคำว่า  الِرجْلُ  หมายถึง  กลุ่มหนึ่งจากมนุษย์  เช่นคนอาหรับกล่าวว่า   رجل من جراد  "กลุ่มหนึ่งจากตั๊กแตน"

يضع الله فيها رجله

"อัลเลาะฮ์ทรงวางกลุ่มหนึ่งจากมนุษย์ลงในนรก"  (สรุปจากหนังสือ ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม  ของท่านอิมามอันนะวาวีย์)

จากสิ่งที่ผมได้นำเสนอไปนั้น   ก็ขอกล่าวว่า   แนวทางที่หนึ่งในการมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์ย่อมดีกว่า  และหนทางที่สองในการตีความนั้นย่อมดีกว่าสำหรับการตอบโต้พวกนอกลู่  วัลลอฮุอะลัม

ดังนั้น  การที่อับดุล หุเซน  เข้าใจความหมายฮะดิษแบบ ฮะกีกัต คำตรงคำแท้ นั้น  ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดและไม่บังควร  เพราะเป็นความเข้าใจที่ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  ผู้สัจจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 27, 2008, 09:29 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ส่วนประเด็นข้อที่  3 และข้ออื่น ๆ  นั้น  พี่น้องท่านอื่น ๆ ที่ทราบข่าวมาว่า  ต้องการให้ผมดึงกระทู้ลงมาเสวนาและต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงและปกป้องซอฮาบะฮ์  ก็โปรดนำเสนอต่อจากผมได้เลยครับ  ช่วย ๆ กัน  wink: 

วัสลาม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

             เจ้าของกระทู้นี้ เป็น "ชีอะฮฺ" ใช่ป่ะ

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
البرهان في تبرئة أبي هريرة من البهتان
เป็นหนังสือที่ถูกเขียนเพื่อโต้หนังสืออบูฮุร็อยเราะฮฺของมูซาวี อับดุลหุเสน เป็นการเฉพาะ

ออฟไลน์ อายะฮ์

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 49
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
البرهان في تبرئة أبي هريرة من البهتان
เป็นหนังสือที่ถูกเขียนเพื่อโต้หนังสืออบูฮุร็อยเราะฮฺของมูซาวี อับดุลหุเสน เป็นการเฉพาะ

ท่าน GeT ช่วยนำเสนอชี้แจงข้อที่ 3 และข้ออื่น ๆ ให้พี่น้องที่ไม่เข้าใจภาษาอาหรับด้วยครับ 
สานุศิษย์

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจเป้าหมายของผู้เขียนหนังสืออบูฮุร็อยเราะฮฺก่อนว่า หนังสือเล่มนี้เขาเขียนขึ้นเพื่อที่จะกล่าวหาท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺว่าเป็นคนอุปโลกน์หะดีษ และกล่าวเท็จต่อท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมในสิ่งที่ท่านไม่ได้กล่าว โดยส่วนหนึ่งของคำกล่าวหาดังกล่าวคือ การนำเอาหะดีษต่างๆที่ดูเหมือนว่าสติปัญญาของเรารับไม่ได้มากล่าวหา อาทิ สามหะดีษที่ จขกท ได้ยกมาข้างต้น โดยกล่าวหาว่าท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเพียงคนเดียวที่รายงานหะดีษที่แปลกประหลาดดังกล่าว ซึ่งความแล้ว หะดีษต่างๆข้างต้นและอีกหลายๆหะดีษที่เจ้าของหนังสือได้ยกอ้างล้วนมีเศาะหาบะฮฺท่านอื่นๆร่วมรายงานพร้อมกับอบูฮุร็อยเราะฮฺทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน เรากลับพบว่าอุละมาอ์ชีอะฮิเองก็มีรายงานหะดีษเหล่านั้นในหนังสือที่มุอฺตะมัด (เป็นที่ยอมรับ) ของพวกเขาด้วยทั้งที่เป็นรายงานของอบูฮุร็อยเราะฮฺเอง และเศาะหาบะฮฺท่านอื่นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 01, 2008, 04:59 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
2. คำวิจารณ์หะดีษ ที่ 1
" นรกจะยังไม่เต็มจนกว่า พระองค์อัลลอฮฺจะทรงวางพระบาทของพระองค์" ปรากฎในบุคอรีและมุสลิม(ผมตรวจดุแล้วว่าหะดีษเหล่านี้มีจริงแต่จำเล่มและหน้าไม่ได้)
ชาราฟุดดีนได้วิจารณ์ว่า "ดูเหมือนว่า อบูฮุรอยเราะฮฺ มีความเชื่อว่าจะไม่มีคนบาปเพียงพอที่จะบรรจุนรกให้เต็มที่ในขณะที่อัลลอฮฺ ได้ทรงตรัสไว้ในกุรอานว่า "เป็นสัจธรรมโดยแท้ และข้าจะไม่พูดสิ่งใดนอกจากสัจจะ ข้าจะบรรจุนรกให้เต็มด้วยกับพวกเจ้าและผู้ใดก็ตามที่ตามเจ้าจากมวลหมู่พวกเขาทั้งหมด"  ย่อมเห็นได้ชัดว่าในความคิดของอบูฮุรอยเราะฮฺ นั้นพระบาทของอัลลอฮฺต้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งมันขัดกับกุรอานที่ได้ยกไปแล้วข้างต้น เหนืออื่นใด หะดีษนี้ยอมรับไม่ได้ทั้งหมดทั้งด้านสติปัญญา มุสลิมจะเชื่อหรือว่าอัลลอฮฺมีเท้า จะมีใครรับรองว่าอัลลอฮฺจะวางเท้าในนรก แล้วใครจะเชื่อว่านรกและสวรรค์โต้เถียงกันและกัน"
 กรุณาชี้แจงด้วยครับ
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าหะดีษเหล่านี้ไม่ได้มีท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเพียงคนเดียวที่รายงาน ดังต่อไปนี้
1. อะนัส บิน มาลิก
عن أنس قال قال رسول الله صلى الله عليه وسلم : لا تزال جهنم يلقى فيها وتقول هل من مزيد؟ حتى يضع رب العزة فيها قدمه، فينزوي بعضها إلى بعض وتقول: قط قط
บันทึกโดย อะหมัด 19/373, 428, 429, 21/124, บุคอรีย์ (7384), มุสลิม (2848) ติรมิซีย์ (3272) และอื่นๆ

2. อบู สะอีด อัลคุดรีย์
عن أبي سعيد الخدري أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال: افتخرت الجنة والنار فقالت النار: يا رب يدخلني الجبابرة والمتكبرون والملوك والأشراف ... فيلقى فيها أهلها فتقول: هل من مزيد؟ ويلقى فيها وتقول: هل من مزيد؟ حتى يأتيها عز وجل فيضع قدمه عليها فتزوى وتقول: قدني قدني... الحديث
บันทึกโดย อะหมัด 17/163, 164 และอับดุ บิน หุมัยด์ (อัลมุนตะค็อบ 906) ด้วยสายรายงานที่ศอเหี้ยะ

3. หุซัยฟะฮฺ อัลยะมาน
عن حذيفة بن اليمان قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم : إن جهنم لتسأل المزيد حتى يضع عز وجل قدمه فيها فينزوي بعضها إلى بعض وتقول: قط قط
บันทึกโดย อัตฏ็อบรอนีย์ในหนังสืออัสสุนนะฮฺ (ดู อัดดุรรุลมันษูรของท่านอัสสุยูฏีย์ 13/641)

4. อุบัย บิน กะอับ
عن أبي بن كعب أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال: ... وجهنم تسأل المزيد حتى يضع فيها قدمه فينزوي بعضها غلى بعض وتقول: قط قط
บันทึกโดย อบูยะอ์ละ (อัดดุรรุลมันษูร 13/641, ตัฟสีรอิบนุกะษีร 7/382, 383, อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮฺ (5128))

จากหลักฐานข้างต้น เราจึงได้ข้อสรุปว่า
1. ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺไม่ได้รายงานหะดีษเพียงคนเดียว แต่ยังมีเศาะหาบะฮฺท่านอื่นๆอีกหลายท่านร่วมรายงานด้วย หนึ่งในนั้นได้แก่ท่านหุซัยฟะฮฺ อัลยะมาน ซึ่งเป็นเศาะหาบะฮฺที่ชาวชีอะฮฺยกย่อง และให้ความนับถือ
2. ถ้าหากว่าการรายงานหะดีษข้างต้นของอบูฮุร็อยเราะฮฺคือการโกหกต่อท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็แสดงว่าเศาะหาบะฮฺท่านอื่นๆทที่ร่วมรายงานหะดีษนี้ก็กลายเป็นคนที่โกหกต่อท่านนบีด้วย ซึ่งย่อมรวมถึง ท่านหุซัยฟะฮฺด้วย วัลลอฮุอะอฺลัม


ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
และสิ่งที่บ่งบอกถึงความสับปลับของพวกชีอะฮฺเกี่ยวกับหะดีษข้างต้นคือ แม้แต่อุละมาอ์ชีอะฮฺเองก็ยังอ้างอิงหะดีษบทนี้ในหนังสือที่มุอ์ตะมัดของพวกเขา เราลองดูคำพูดของอุละมาอ์ชีอะฮฺต่อไปนี้
1. อัตเตาะบาเตาะบาอีย์ ได้กล่าวในหนังสือตัฟซีร อัลมีซาน 18/362 หลังจากที่ยกอ้างหะดีษที่รายงานโดยท่านอะนัสว่า
أقول : وضع القدم على النار وقولها: قط قط مروي في روايات كثيرة من طرق أهل السنة
2. มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม ศ็อดรุดดีน อัชชีรอซีย์ นักปราชญาชีอะฮฺผู้ได้รับการขนานนามว่า ศ็อดรุลมุตะอะฮฺฮิลีน กล่าวในหนังสือ ตัฟซีรอัลกุรอาน อัลกะรีม 1/58, 156 ว่า
ألا ترى صدق ما قلناه النار لا تزال متألمة لما فيها من النقيص وعدم الامتلاء حتى يضع الجبار قدمه فيها كما ورد في الحديث وهي أحدى تينك القدمين المذكورين في الكرسي

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการกล่าวหาของท่านมูซาวีต่อท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺนั้นเป้นเพียงการตบตาคนเอาวามเท่านั้นเอง เพราะแท้จริงแล้ว แม้แต่อุละมาอ์ชีอะฮฺก็ยังยึดหะดีษบทนี้มาอ้าง วัลลอฮุอะอฺลัม

ในส่วนของความหมายหะดีษนั้น ส่วนหนึ่งคุณอัซฮะรีได้อธิบายมาแล้ว แต่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า เป้าหมายหลักของหนังสือเล่มนี้ ถูกทำขึ้นเพื่อที่จะโจมตีท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺว่าเป็นคนอุปโลกน์หะดีษท่านรสูล เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถนำสายรายงานอื่นๆมาสนับสนุนสายรายงานของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ จึงคิดว่าการอธิบายความหมายของหะดีษคงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะนี่คือจุดหักล้างหลักสำหรับหนังสืออบูฮุร็อยเราะฮฺที่ท่านมูซาวีเขียนขึ้น วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
1. จริงหรือไม่ที่ว่า อบูฮานีฟะและลูกศิษของท่านเคยปฏิเสธหะดีษที่รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ

ขอชี้แจงเพิ่มเติมจากที่คุณอัซฮะรีได้ชี้แจงไว้ ดังนี้

ที่มาของการปฏิเสธบางหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ
 กรณีที่ท่านอบูหะนีฟะฮฺปฏิเสธหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เป็นเรื่องเกี่ยวกับหลัก (เกาะอีดะฮฺ) หนึ่งของอุศูลุลฟิกฮฺในบรรดาอุละมาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ ซึ่งมีอยู่ว่า รายงานต่างๆของอบูฮุร็อยเราะฮฺที่สอดคล้องกับการอนุมานเปรียบเทียบที่เห็นชัด (กิยาสญะลีล) จะถูกนำมาใช้เป็นหุจญะฮฺ ส่วนรายงานที่ไม่สอดคล้องกับการอนุมานเปรียบเทียบที่ถูกต้องตามหลักชะริอะฮฺ หรือไม่เข้ากับปัญญาจะถูกปฏิเสธไปโดยปริยาย แต่ถ้าหากว่าอุมมะฮฺยอมรับหะดีษดังกล่าวก็ถือว่าสามารถนำมาใช้ได้ เพราะการอนุมานที่ถูกต้องถือเป็นหุจญะฮฺที่ได้รับการรับรองจากอัลกุรอาน สุนนะฮิและอิจญ์มาอฺ ดังนั้นสิ่งที่ค้านกับการอนุมานที่ถูกต้องในทุกด้านจึงเท่ากับว่าค้านกับอัลกุรอาน สุนนะฮฺและอิจญ์มาอฺ (อุศูล อัลสิร็อคสีย์ 1/341)
ต้นตอของหลักการหรือเกาะอิดะฮฺนี้มีกำเนิดมาจากอุละมาอ์รุ่นตาบิอีนชาวกูฟะฮฺผู้มีนามว่าอิบรอฮีม อันนะเคาะอีย์ ซึ่งไม่ยอมรับหะดาของอบูฮุร็อยเราะฮฺ ทั้งหมดท่านกล่าวว่า
- كانوا يتركون أشياء من أحاديث أبي هريرة
พวกเขา (บรรดานักรายงานหะดีษ) จะละทิ้งหลายๆหะดีษที่เป้นรายงานของอบูฮุร็อยเราะฮฺ (อัลอิลัลวะมะอฺริฟะตุลริญาล ของอิมามอะหมัด หน้า 140, อุศูลอัลสิร็อคสีย์ 1/341)
ท่านอันนะเคาะอีย์ได้อ้างเหตุผลที่ท่านปฏิเสธบางหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุเร็อยเราะฮฺว่า “เพราะท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺไม่ใช่อุละมาอ์ทางด้านฟิกฮฺ (ไม่ใช่ฟะกีฮฺรอบรู้ด้านนิติศาสตร์อิสลาม)” (มีซานอัลอิอฺติดาล ของ อัซซะฮะบีย์ 1/35)

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
คำวิพากษ์ของอุละมาอ์
อัซซะฮะบีย์กล่าวคัดค้านว่า “ทัศนะของอันนะเคาะอีย์นั้นไม่มีอะไร เพราะชาวมุสลิมทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างถือว่าหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺล้วนเป็นหุจญะฮฺได้ เนื่องเพราะความจำ ความมีเกียรติและความแม่นยำของท่าน เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับท่านบุคคลเช่นอิบนุอับบาสซึ่งได้แสดงมารยาท (ต่อชุมชนในการชุมนุมครั้งหนึ่ง) โดยท่านได้กล่าว (แก่อบูฮุร็อบเราะฮฺ) ว่า “โอ้ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ท่านจงให้ฟัตวาสิ” (สิยัรอะอ์ลาม อันนุบะลาอ์ 2/438) และด้วยเหตุนี้ ทำให้ท่านอันนะเคาะอีย์ถูกอุละมาอ์ตำหนิ (มิซาน อัลอิอฺติดาล 1/35)
เช่นเดียวกับท่านอิบนุอะสากิรที่ได้ปกป้องท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺอย่างแข็งขัน และตอบโต้คำกล่าวอ้างของท่านอิบรอฮีม อันนะเคาะอีย์
ส่วนท่านอิบนุกะษีรกล่าวว่า “การกระทำของอุละมาอ์ชาวกูฟะฮฺนั้นได้รับการปฏิเสธจากอุละมาอ์ท่านอื่นๆ” และยะงระบุอีกว่า “ทัศนะของอุละมาอ์ส่วนใหญ่นั้นตรงข้ามกับทัศนะของพวกเขา” (อัลบิดายะฮฺ วันนิฮายะฮฺ 8/109-110)

ที่น่าสังเกตคือ ท่านอันนะเคาะอีย์เอง (รวมทั้งท่านอบูหะนีฟะฮฺด้วย) ไม่ได้ปฏิเสธหะดีษทั้งหมดที่รายงานโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺ แต่ท่านจะปฏิเสธเฉพาะบางหะดีษเท่านั้นตามหลักการของท่านดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ทั้งหมดนั้น เป็นการบ่งชี้ว่าท่านอบุฮุร็อยเราะฮฺยังคงเป็นเศาะหาบะฮฺที่ษิเกาะฮฺและน่าเชื่อถือตามทัศนะของท่านอบูหะนีหะฮฺ และอันนะเคาะอีย์ ซึ่งค้านกับเป้าหมายที่ท่านมูซาวีได้นำเสนอไว้เพื่อที่จะบ่งบอกว่า ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเป็นนักรายงานที่โกหก อุปโลกน์หะดีษขึ้นมาเอง และไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของอุละมาอ์อย่างท่านอบูหะนีฟะฮฺ

เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวของมูซาวีในการกล่าวหาท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราขอนำคำชี้แจงของชัมซุลอะอิมมะฮฺ อัสสิร็อคสีย์ อุละมาอ์ผู้โด่งดังของมัซฮับหะนะฟีย์ ซึ่งท่านได้ยกย่องและปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าท่านอบูหะนีฟะฮฺดูถูกท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ด้วยคำกล่าวที่ว่า “บางทีผู้ที่คาดคะเนบางคนอาจจะเข้าใจจากคำพูดของเรา (ที่ปฏิเสธบางหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ) ว่าเพราะไม่ไว้วางใจท่าน –ขออัลลอฮฺโปรดคุ้มครองเราจากความเข้าใจดังกล่าว- เพราะท่านเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ จดจำ และแม่นยำที่อยู่ในชั้นแนวหน้า” (อุศูลอัสสิร็อคสีย์ 1/341)
ท่านยังกล่าวอีกว่า “แท้จริงท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺนั้นเป็นบุคคลหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดคลางแคลงใจในความน่าเชื่อถือของท่านและความเป็นสหายของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมที่ยางนาน” (อุศูลอัสสิร็อคสีย์ 1/339, 340)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 03, 2008, 10:12 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
คำเตือน: หัวข้อนี้ไม่มีการตอบกระทู้ อย่างน้อย 120 วัน
คุณแน่ใจหรือไม่ ที่จะตอบกระทู้, กรุณาพิจารณาเริ่มหัวข้อใหม่


น่าจะตอบคำถามข้างต้นให้จบ

 

GoogleTagged