ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุไร อิบลีสจึงคิดว่าตัวมันเองนั้นดีกว่า ประเสริฐกว่ามนุษย์?  (อ่าน 6126 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ผมคิดว่า นี่เป็นตัวอย่างแก่เราได้อย่างดีนะครับ เพราะอิบลีสทำผิด แต่ไม่ยอมกลับตัว แถมยังถลำลึกดื้อดึงทำผิดซ้ำไปอีก แต่นบีอาดัม บรรพบุรุษของพวกเรา ทำผิดไปแล้ว ก็ขออภัยโทษ กลับตัว ผมมองแบบนี้ ไม่ทราบว่าถูกผิดอย่างไร

มุมมองดังกล่าวถือว่าถูกต้องครับผม  แต่นบีอาดัมกระำทำผิดก่อนที่จะถูกแต่งตั้งเป็นนบีในโลกนี้
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ผมได้รู้มาว่ามลาอีกัฮสร้างมาจากนูร ส่วนอิบเลสสร้างมาจากนาร มลาอีกัฮนั้นจะไม่มีนัฟซู แล้วทำไมอิเลสมันถึงได้มีนัฟซู คือผมงงก็ตรงนี้แหละครับ ทั้งๆทีร่อิบเลสมันเหนือกว่าแต่ทำไมมีนัฟซู ส่วนมลาอีกะด้อยกว่า แต่ไม่มีนัฟซู อีมานคงที่
แล้วผมก็ได้ยินมาว่า พอถึงวินาทีสุดท้ายของวันสิ้นโลกแล้ว อิบเลสจะงูจะ จะกล่าวคำปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ เรื่องนี้จริงเท็จยังไงมั่งครับ จะว่าไปมันก้น่าจะจริงนะครับ ลองคิดดู อิบเลสมันก็ไม่เคยตั้งภาคีต่ออัลลอฮ มันจะไปนับถือใครอีกเพราะมันก็รู้ว่าอัลลอฮเป็นพระเจ้า เพียงแต่มันไม่ทำตามบัญชาก็เท่านั้น ก็เหมือนคนอิสลาม ถึงจะไม่ละหมาด ถ้าไม่ตั้งภาคี ไม่ชีริก สุดท้ายก็ได้เข้าสวรรค์
น่าคิดนะครับ ใครรู้ก็ช่วยๆตอบด้วย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
ผมได้รู้มาว่ามลาอีกัฮสร้างมาจากนูร ส่วนอิบเลสสร้างมาจากนาร มลาอีกัฮนั้นจะไม่มีนัฟซู แล้วทำไมอิเลสมันถึงได้มีนัฟซู คือผมงงก็ตรงนี้แหละครับ ทั้งๆทีร่อิบเลสมันเหนือกว่าแต่ทำไมมีนัฟซู ส่วนมลาอีกะด้อยกว่า แต่ไม่มีนัฟซู อีมานคงที่
แล้วผมก็ได้ยินมาว่า พอถึงวินาทีสุดท้ายของวันสิ้นโลกแล้ว อิบเลสจะงูจะ จะกล่าวคำปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ เรื่องนี้จริงเท็จยังไงมั่งครับ จะว่าไปมันก้น่าจะจริงนะครับ ลองคิดดู อิบเลสมันก็ไม่เคยตั้งภาคีต่ออัลลอฮ มันจะไปนับถือใครอีกเพราะมันก็รู้ว่าอัลลอฮเป็นพระเจ้า เพียงแต่มันไม่ทำตามบัญชาก็เท่านั้น ก็เหมือนคนอิสลาม ถึงจะไม่ละหมาด ถ้าไม่ตั้งภาคี ไม่ชีริก สุดท้ายก็ได้เข้าสวรรค์
น่าคิดนะครับ ใครรู้ก็ช่วยๆตอบด้วย



เป็นคำถามที่น่าคิด เลยทำให้ต้องค้นหาข้อมูลกัน...
เลยไปเจอในบางส่วน จึงขอนำมาแปะไว้ที่นี่ด้วยนะคะ...

เพราะที่เรียนมาก็คือ อิบลิสได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา
ไปเรียบร้อยแล้ว และอัลลอฮฺได้ทรงตัดสินอิบลิสเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่เพราะอิบลิสขอประวิงเวลาไว้จนถึงวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
และอัลลอฮฺได้ให้ตามที่อิบลิสขอ...

ส่วนเรื่องที่พอถึงวินาทีสุดท้ายของวันสิ้นโลกแล้ว อิบลิส
จะกล่าวคำปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ
และมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ ที่ILHAMถามไปนั้น
ไม่เคยได้เรียนหรือรู้มาก่อน...

แต่ให้น่าคิดตรงที่ว่า...อัลลอฮฺได้ทรงพิพากษาอิบลิสไปแล้ว...
ไม่เหมือนกับลูกหลานอะดัมที่ยังคงต้องรอวันพิพากษา...

แล้วสำหรับลูกหลานของอิบลิสและวงวานของมันนั้นเล่า...
จะถูกพิพากษาเมื่อวันแห่งการพิพากษามาถึงด้วยรึเปล่า...

อย่างไรวานผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยนะคะ

ซึ่งพอจะหากระทู้ที่เกี่ยวกับอิบลิสมาได้บ้างจากด้านล่าง
แต่ก็ยังไม่เจอคำตอบที่ ILHAMได้ถามไว้...



وإذ قلنا للملائكة اسجدوا لأدم فسجدوا إلاإبليس أبى واستكبر وكان من الكفرين

"และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มะลาอิกะฮฺว่า พวกเจ้าจงสุยูด แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุยูดกัน นอกจากอิบลีส โดยที่มันไม่ยอมสุยูด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา"  ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 34

ภายหลังอัลลอฮฺทรงปรากาศถึงความประเสริฐ และพิเศษของท่านนบีอาดัม  ซึ่งเป็เหตุให้เลือกเคาะลีฟะฮฺบนพื้นพิภพ ในโองการนี้อัลลอฮฺทรงบัญชาให้มวลมะลาอิกะฮฺซูญุดต่ออาดัม แสดงถึงการยอมรับในความประเสริฐของเขา และขออภัยในการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมต่อเขา ในช่วงที่ผ่านมา พวกเขาพร้อมใจซูญุดด้วยความเต็มใจ ยกเว้นอิสลิสผู้เหิมเกริมเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย


1.มลาอิกะฮฺ

มลาอิกะฮฺถูกนับติดเข้าไปในโลกของญาณวิสัย (ฆออิบ) ที่ไม่มีการทราบถึงแก่นแท้ของพวกเขา อัลกุรอานเพียงแต่เกริ่นถึงภาระหน้าที่ของเขาเท่านั้น ตามคำสั่งสอนของอิสลามให้ข้อจำกัดว่า สัจธรรมและความดีนั้นอยู่เคียงข้างมลาอิกะฮฺ ส่วนความไม่แน่นอนในการทำดีนั้นจะอยู่คียงข้างชัยฏอน ดังรายงานของท่าน อัตติรมีซีย์  ความว่า..

“แท้จริงสำหรับชัยฏอนนั้น จะมีคุณสมบัติพิเศษที่ทรงอิทธิพล และสำหรับมลาอิกะฮิก็เช่นเดียวกัน  ชัยฎอนจะใช้อิทธิพลในการปฎิเสธความจริง และยั่วยุให้ทำความชั่ว ส่วนมลาอิกะฮฺจะใช้อิทธิพลในการส่งเสริมความจริง และคะยั้นคะยอให้ทำความดี หากใครได้รับสัญญาณแห่งความดี โปรดทราบเถิดว่านั่นมาจากอัลลอฮฺและจงกล่าวสรรเสริญต่อพระองค์ และหากใครได้รับสัญญาณอื่นจากนั้น ดังนั้นเขาจงขอความค้มครองในนามของอัลลอฮฺจากชัยฎอนผู้ถูกสาปแช่งเถิด”

สรุปแล้วทั้งบรรดามลาอิกะฮฺและชัยฎอน ต่างก็มีสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณหรือกระแสจิตของมนุษย์พอๆ กัน


2.อิบลีส

นักวิชาการมีความเห็นออกเป็น 2 ประเภท

ความเห็นแรก อิบลีส คือ ญิน แต่มันอยู่ร่วมกับมลาอิกะฮฺ ซึ่งมีหลักฐานมายืนยันในเรื่องนี้ ความว่า...

“ซึ่งเมื่อเราได้ตรัสแก่มลาอิกะฮฺว่า จงซุญูดต่ออาดัม ครั้นแล้วพวกเขาก็ซุญูด ยกเว้นอิบลีสซึ่งมาจากญิน ได้ขัดคำสั่งของพระผู้อภิบาลของเขาเอง”

ความเห็นที่สอง อิบลีส เดิมทีมาจากมลาอิกะฮฺ เพราะคำสั่งมุ่งตรงไปยังมลาอิกะฮฺ ซึ่งดูตามเนื้อหาของโองการนี้แล้วกชัดเจนอยู่ในตัวของมันเอง

อิบนุอับบาส กล่าวว่า..

“อิบลีส นั้น ก่อนที่มันจะทำบาปใหญ่นั้น มันเคยเป็นมลาอิกะฮฺที่ชื่อว่า “อะซาซีล” ซึ่งเป็นมลาอิกะฮฺที่เคร่งครัดมากมีความรอบรู้เป็นเลิศ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้มันหยิ่งผยองทระนงในที่สุด ต่อมาชาวโลกเรียกเขาว่า “ญิน”


3.เป็นปลื้ม

อิบลีสเป็นปลื้มกับต้นกำเนิดของตนเอง โดยหลงตนว่า ถูกสร้างมาจากไฟ ส่วนอาดัมถูกสร้างมาจากดิน จึงยืดไม่ยอมหดและกางไม่ยอมก้ม ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งความชั่วร้ายและความหายนะของอิบลีสชั่วนิรันดร์

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
ไปค้นเจอมาอีกค่ะ...




อะไรคือการแบ่งแยกระหว่างญิน ,ชัยฏอนและอิบลีส ?? และทำไมอัลลอฮฺ ตะอาลา ถึงได้สร้างพวกเขาขึ้นมา ??  โดย เชค อะฏียะฮฺ ซ็อกรฺ ปราชญ์แห่งอียิปต์



ตอบ....   


ท่านอิมามอัล-กุรตุบีย์ ได้กล่าวไว้ในตำราตัฟซีรของท่าน ในซูเราะห์ อัล-ญิน ว่า แท้จริงบรรดานักปราชญ์ได้มีความเห็นที่ขัดแย้งกันถึงที่มาเดิมๆ ของญิน ซึ่งท่านอิมาม หะซัน อัล-บัศรีย์ กล่าวว่า แท้จริงญินนั้น เป็นลูกหลานของอิบลีส ส่วนมนุษย์นั้น เป็นลูกหลานของอาดัม และในบรรดาพวกเขาทั้งหลายเหล่านี้นั้น ต่างก็มีทั้งที่เป็นผู้ศรัทธาและมีทั้งที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาเหล่านั้นต่างได้รับการตอบแทนทั้งในความดีและความชั่ว ฉนั้น หากว่าในหมู่พวกเขาเป็นผู้ที่มีความศรัทธา ดังนั้น พวกเขาก็คือวะลียุลลอฮฺ และถ้าหากว่าในหมู่พวกเขาเป็นผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น พวกเขาคือ ชัยฏอน


ท่านอิบนุ อับบาส กล่าวว่า ญิน ก็คือ ลูกหลานของบรรดาญินทั้งหลาย พวกเขาไม่ใช่ชัยฏอน และพวกเขามีการเสียชีวิตเช่นกัน ส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นผู้ที่ศรัทธา และส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นกาฟิร แต่ชัยฏอนนั้น พวกเขาเป็นลูกหลานของอิบลีส และพวกมันทั้งหลายจะไม่ตาย นอกจากพวกมันจะตายไปพร้อมกับอิบลีส


และซูเราะฮฺ อัล-นาส ท่านเกาะตาดะฮฺ กล่าวอธิบายว่า แท้จริงส่วนหนึ่งจากญินนั้นคือ ชัยฏอน และแท้จริงส่วนหนึ่งจากมนุษย์ ก็คือ ชัยฏอน เช่นกัน และท่านเกาะตาดะฮฺ ได้สนับสนุนทัศนะของท่าน หะซัน อัล-บัศรีย์ ซึ่งอัลลอฮฺทรงตรัสว่า

وكذلك جعلنا لكل نبي عدوا شياطين الإنس والجن

“และในทำนองนั้นแหละเราได้ให้มีศัตรูขึ้นแก่นบีทุกคน คือ บรรดาชัยฏอนมนุษย์ และญิน” ซูเราะฮฺ อัล-อันอาม : 112


ท่าน อัด-ดุมัยรีย์ ได้กล่าวไว้ในตำรา حياة الحيوان الكبرى เกี่ยวกับเรื่องของญิน ว่า แท้จริงเป็นที่รู้กันว่าบรรดาญินทั้งหมดนั้น เป็นลูกหลานของอิบลีส และบางคนกล่าวว่า ญิน กับ อิบลีส นั้นเป็นคนละจำพวกกัน และไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า แท้จริงญินนั้นมีการสืบทอดลูกหลาน และญินที่ปฏิเสธศรัทธานั้นจะถูกเรียกว่า ชัยฏอน ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า

أفتتخذونه وذريته أولياء من دوني وهم لكم عدو

“แล้วพวกเจ้าจะยึดเอามันและวงศ์วานของมัน เป็นผู้คุ้มครองอื่นจากข้ากระนั้นหรือหรือ? ทั้งๆ ที่พวกมันเป็นศัตรูกับพวกเจ้า”  ซูเราะฮฺ อัล-กะฮฺฟฺ : 50


ท่านมุหัดดิษ อัช-ชะบะลีย์ ได้กล่าวไว้ในตำรา آكام المرجان في أحكام الجان หน้าที่ 6 ว่า แท้จริงญินรวมทั้งบรรดามะลาอิกะฮฺและสิ่งอื่นๆ จากพวกเขาล้านแล้วแต่เป็นสิ่งที่ถูกปกปิดเอาไว้จากประสาทสัมผัสแห่งการมองเห็น ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

وجعلوا بينه وبين الجنة نسبا

“และพวกเขากล่าวอ้างความสัมพันธ์ (ทางเครือญาติ) ระหว่างพระองค์กับพวกญิน”   ซูเราะฮฺ อัศ-ศอฟาต : 158


แท้จริงบรรดามุชริกีนได้เรียกบรรดามะลาอิกะฮฺว่า ลูกสาวของอัลลอฮฺ และท่าน อัช-ชะบะลีย์ กล่าวว่า บรรดาชัยฏอนทั้งหลายนั้น พวกเขาคือ ญินที่ทำความผิดและพวกเขาเป็นลูกหลานของอิบลีส ซึ่งพวกเขาปฏิเสธศรัทธา พวกเขาเย่อหยิ่งจองหองและหลงผิด ท่าน อัล-เญาฮารีย์ กลาวว่า ผู้ที่ชอบการทะเลาะวิวาท หยิ่งผยองลำพองตนและฝ่าฝืนคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะมาจากญินหรือมนุษย์หรือสัตว์ ล้วนแล้วแต่เป็นชัยฏอนทั้งสิ้น และชาวอาหรับจะเรียกงูว่า ชัยฏอน


และทั้งหลายเหล่านี้ คือ สิ่งที่ถูกกล่าวขึ้นเกี่ยวกับญิน ,บรรดาชัยฏอนและอิบลีส ส่วนหิกมะฮฺในการสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา คือ เพื่อทดสอบลูกหลานของอาดัมว่าพวกเขาจะตอบรับคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺหรือตอบรับคำสั่งใช้ของชัยฏอน ดังนั้น ถ้าหากว่าการศรัทธาได้เกิดขึ้นภายหลังจากการต่อสู้เอาชนะชัยฏอนมาได้ เขาผู้นั้นก็จะได้รับผลตอนแทนที่ยิ่งใหญ่ เพราะแท้จริงแล้วผลลัพธ์จากความเหนื่อยยาก จากความพยามยามและอุตสาหะ นั่นคือ ผลานิสงค์ตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

والذين جاهدوافينا لنهدينهم سبلنا وإن الله لمع المحسنين

“และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา  และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย” ซูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 69


การใช้ชีวิตอยู่ในดุนยาจำเป็นจะต้องมีสมรภูมิแห่งการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ดังเช่นการสร้างอาดัมของอัลลอฮฺนั้นได้มีการวางกฎเกณฑ์และการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมเอาไว้ระหว่างการภักดีและการไม่เชื่อฟัง และด้วยกับหลุมพลางเหล่านี่คือ สิ่งที่ชัยฏอนอ้างว่า มันคือ สมรภูมิแห่งการล้างแค้นที่อาดัมเป็นต้นเหตุทำให้มันถูกขับไล่ออกจากสวรรค์อันเนื่องจากไม่ก้มกราบ (السجود) ต่อท่านอาดัม ดังโองการของอัลลอฮฺในอัลกุรอาน ที่ว่า

قال فبما أغويتني لأقعدن لهم صراطك المستقيم

“มันกล่าวว่า ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ตกอยู่ในความหลงผิด แน่นอนข้าพระองค์จะนั่งขวางกั้นพวกเขา ซึ่งทางอันเที่ยงตรงของพระองค์”  ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 16


ثم لآتينهم من بين أيديهم ومن خلفهم وعن أيمانهم وعن شمائلهم ولا تجد أكثرهم شاكرين

“แล้วข้าพระองค์จะมายังพวกเขา จากเบื้องหน้าของพวกเขา และจากเบื้องหลังของพวกเขาและจากเบื้องขวาของพวกเขา และจากเบื้องซ้ายของพวกเขา และพระองค์จะไม่พบว่าส่วนมากของพวกเขานั้น เป็นผู้ขอบคุณ”  ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 17


และอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทรงเตือนมนุษย์ให้ระวังจากการเชื่อฟังชัยฏอน ดังโองการที่ว่า

ألم أعهد إليكم يا بني آدم أن لاتعبدوا الشيطان إنه لكم عدومبين

“ข้ามิได้บัญชาพวกเจ้าดอกหรือ โอ้ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย! ว่าพวกเจ้าอย่าได้เคารพบูชาชัยฏอนมารร้าย แท้จริงมันนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้า”   ซูเราะฮฺ ยาซีน : 60


إن الشيطان لكم عدوفاتخذوه عدوا

“แท้จริง มารชัยฏอนนั้นเป็นศัตรูกับพวกเจ้า ดังนั้น พวกเจ้าจงถือว่ามันเป็นศัตรู”  ซูเราะฮฺ ฟาฏิร : 6


ดังนั้น ความพยายามของชัยฏอนเพื่อให้คนอื่นทำบาปได้นั้นสำหรับมันแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและสมควร ดังนั้น ชัยฏอนมันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลอกล่อมนุษย์ในทุกๆ ฝีก้าวแห่งการใช้ชีวิตของมนษย์


แท้จริงปราชญ์ท่านหนึ่งได้ถูกถามว่า ทำไมอัลลอฮฺถึงได้สร้างอิบลีสขึ้นมา ?? และเขาได้ตอบว่า “เพื่อให้เรานั้นได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺด้วยกับการขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้พ้นจากชัยฏอนและให้พ้นจากการยั่วยุของมัน” ดังนั้น ในการไปถึงยังทุกๆ ความดีนั้น มักจะมีสิ่งที่ไม่ดีซ่อนเร้นอยู่เสมอ นอกสะจากว่ามันจะมากหรือน้อยเท่านั้น


ดู ตำรา الفتاوى من أحسن الكلام في الفتاوى والأحكام  โดย เชค อะฏียะฮฺ ซ็อกรฺ ปราชญ์แห่งอียิปต์  เล่มที่1 หน้าที่ 89
[/size]


วัีลลอฮุ ตะอาลา อะอฺลาวะอะอฺลัม
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged