ผู้เขียน หัวข้อ: การทำกุรบานและอะกีเกาะฮ์  (อ่าน 14957 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

เงื่อนไขอะกีเกาะห์ :

สัตว์อะกีเกาะห์นั้น  ในหลักการของอายุ  ชนิด  ความปลอดภัยจากข้อตำหนิ  การรับประทาน  และการบริจาคเป็นทาน  การมอบเป็นของขวัญ   การเก็บเนื้อไว้  ปริมาณที่รับประทาน  การห้ามขาย  และอื่น ๆ ก็เหมือนกับหลักการของอุดฮียะห์  แต่ทว่ามีความแตกต่างกันเล็กน้อย  เช่น  เนื้ออะกีเกาะห์ที่มอบเป็นของขวัญแก่คนรวยนั้น  เขาสามารถครอบครองและดำเนินการอย่างไรก็ได้ตามที่ต้องการ (เช่นนำไปขาย) เพราะอะกีเกาะห์มิใช่เป็นการเลี้ยงแขกทั่วไปซึ่งแตกต่างกับอุดฮียะห์  (หนังสือ ตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะตาจญ์  9/371-372)

เวลาเชือดอะกีเกาะห์ :

เวลาของการเชือดอะกีเกาะห์   คือหลังจากเด็กคลอดออกมาอย่างสมบูรณ์  ถ้าหากทำอะกีเกาะห์ก่อนคลอดออกมา  ตามทัศนะของท่านอิบนุฮะญัร อัลฮัยตะมีย์  ถือว่าได้ทำให้เกิดขึ้นซึ่งหลักเดิมของซุนนะฮ์แล้ว  แต่ที่ดีเลิศแล้วซุนนะฮ์ให้ทำการเชือดอะกีเกาะห์ในวันที่เจ็ดของวันเกิด  หากเด็กเกิดตอนกลางวันก่อนดวงอาทิตย์ตกก็ให้นับวันนั้นเป็นวันที่หนึ่ง  หากเกิดในตอนกลางคืนก็ให้นับวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่หนึ่ง   ถ้าหากเด็กเสียชีวิตหลังจากเจ็ดวันแล้วถือว่าสุนัตให้ทำอะกีเกาะห์โดยไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ  สำหรับกรณีที่เด็กเสียชีวิตก่อนเจ็ดวัน  ทัศนะที่มีน้ำหนักคือสุนัตให้ทำอะกีเกาะห์ให้แก่เด็กนั้น (หนังสือตั๊วะห์ฟะตุ้ลมั๊วะห์ตาจญ์ 9/370 , หนังสืออิอานะฮ์อัฏฏอลิบีน 2/526) 

ถ้าหากผู้ปกครองเด็กไม่สะดวกในการทำอะกีเกาะห์ในช่วงวันที่ 7  ก็อนุญาตให้ทำอะกีเกาะห์แก่เด็กได้ในช่วงวันที่  14  หากไม่มีความสามารถก็ทำในวันที่ 21 หากยังไม่มีความสามารถก็อยู่ในเวลามากสุดของนิฟาส (คือจนถึง 60 วันหลังคลอด)  หากยังไม่มีความสามารถก็ให้หาโอกาสทำอะกีเกาะห์แก่เด็กจนกว่าเขาจะบรรลุศาสนภาวะ  ดังนั้นเมื่อบรรลุศาสนภาวะแล้ว  สุนัตให้แก่ผู้ที่ยังไม่ทำอะกีเกาะห์แก่เขา  ทำการเชือดอะกีเกาะห์ให้แก่ตัวเขาเองเนื่องจากท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้เคยทำอะกีเกาะห์แก่ตัวท่านเองหลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นนบี  ซึ่งได้กล่าวมาแล้วข้างต้น (หนังสือมุฆนิ้ลมั๊วะห์ตาจญ์ 6/143 , หนังสือตั๊วะห์ฟะตุ้ลมั๊วะห์ตาจญ์ 9/370-371, บุชรออัลกะรีม 2/130)

ช่วงเวลาที่ดีเลิศในการเชือดอะกีเกาะห์  คือหลังจากดวงอาทิตย์ขึ้น  และให้เขากล่าวขณะเชือดว่า :

بَسْمِ اللهِ  وَاللهُ أَكْبَرُ اللّهُمَّ لَكَ وَإِلَيْكَ اللّهُمَّ هَذِهِ عَقِيْقَةُ .......فُلاَنٍ

"บิสมิลลาฮ์  วัลลอฮุอักบัร  อัลลอฮุ้ม่า  ละก้า  วะอิลัยก้า  อัลลอฮุ้มม่า  ฮะซิฮีอะกีเกาะตู้ (....เอ่ยนามของบุตร....) 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 07, 2008, 12:44 PM โดย al-azhary »
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

จะปฏิบัติอย่างไรกับอะกีเกาะฮ์  ภายหลังจากเชือดแล้ว :

ถ้าหากอะกีเกาะห์นั้น เป็นวาญิบ : โดยการบนบาน (นะซัร) ไว้ หรือโดยการระบุแน่นอนว่าสัตว์ดังนี้จะทำอะกีเกาะห์ดังได้อธิบายมาแล้ว  ก็ให้ทำการบริจาคทั้งหมดให้แก่คนยากจนไม่ว่าจะปรุงเป็นน้ำแกงหรือเนื้อสดก็ตาม  ซึ่งจะไม่อนุญาตให้ผู้ทำอะกีเกาะห์ และคนใดในครอบครัวของเขาที่เขาจำเป็นต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ รับประทานอะกีเกาะห์นั้น  ถ้าหากผู้ใดรับประทานส่วนหนึ่งของอะกีเกาะห์  ก็จะต้องถูกปรับเท่ากับที่รับประทานไปหรือถูกปรับเป็นราคา

ส่วนผู้ที่ห้ามรับประทานเนื้ออะกีเกาะห์หรืออุดฮียะห์ที่เป็นวายิบ  เช่น  ตัวผู้บนบาน  และคนกาเฟรซิมมีย์(ที่ทำสัญญาภายใต้การปกครองของอิสลาม)  นั้น  ท่านอิมามอัลบาญูรีย์ได้กล่าวว่า  "ไม่อนุญาตให้เนื้ออะกีเกาะห์แก่ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมดังที่อิมามชาฟิอีย์ได้ระบุไว้ในหนังสือของท่านอัลบุวัยฏีย์  แต่ในหนังสืออัลมัจญ์มัวะห์ระบุว่าอนุญาตให้คนจนจากกาเฟรซิมมีย์รับประทานจากเหนืออุดฮียะห์ที่เป็นสุนัตได้แต่ไม่อนุญาตอนุญาตเนื้ออุดฮียะห์ที่เป็นวายิบ  ท่านอัลอัษรออีย์จึงมีความแปลกใจจากสิ่งดังกล่าว  แต่ที่ถูกต้องแล้วนั้นไม่อนุญาตให้เนื้ออุดฮียะห์แก่กาเฟรซีมมีย์โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ" ฮาชียะห์อัลบาญูรีย์ 2/310  ส่วนกรณีที่ใส่เพิ่มเนื้ออื่นปรุงเข้าไปด้วยนั้น  ก็อนุญาตให้รับประทานได้  ท่านอิมามอัลบาญูรีย์กล่าวว่า  "การที่เขาได้ปรุงโดยนำเนื้ออื่นเพิ่มเข้ามาสมบทกับเนื้ออุดฮียะห์ที่วายิบ  ก็อนุญาตให้เขารับประทานจากมันได้เพราะมันมีเนื้ออื่นที่ไม่ใช่เนื้ออุดฮียะห์วายิบเพิ่มเข้ามา  แต่พร้อมกับมักโระห์สำหรับเขา"  ฮาชียะห์อัลบาญูรีย์ 2/310     

และถ้าหากเป็นอะกีเกาะห์ที่สุนัต  ก็ซุนนะฮ์มอบน่องขาของสัตว์อะกีเกาะห์แก่หมอผดุงครรภ์  ที่ดีเลิศแล้วให้น่องข้างขวา  และซุนนะฮ์ให้ทำการปรุงเป็นน้ำแกงและส่งมอบเป็นทานศ่อดาเกาะห์ให้แก่คนยากจน  ซึ่งเป็นการดีกว่าเชิญพวกเขามารับประทาน  และซุนนะฮ์ให้ทำการปรุงด้วยของหวาน เช่น องุ่นแห้ง  น้ำผึ้ง  เป็นต้นเพื่อเป็นเคล็ด(ฮิกมะฮ์)ให้เด็กมีความมารยาทที่ดีงาม  และซุนนะฮ์อย่าทำให้กระดูกแตกเพื่อเป็นเคล็ด(ฮิกมะฮ์)ให้อวัยวะของเด็กมีความสมบูรณ์ปลอดภัย  ซึ่งหากทำให้กระดูกแตกหักก็ถือว่าไม่มักโระห์แต่ประการใด  แต่คิลาฟุลเอาลาคือไม่ควรทำดีกว่า (หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะห์ตาจญ์ 9/372 , หนังสือฮาชียะห์อัลบาญูรีย์ 2/313)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 19, 2008, 11:12 AM โดย al-azhary »
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ความแตกต่างระหว่างอะกีเกาะห์กับอุดฮียะห์ :

1. กรณีอะกีเกาะห์วายิบ  เช่น  บนบาน(นะซัร)  ไม่วายิบต้องบริจาคทั้งหมดแก่คนจนเป็นเนื้อสด  คือให้ปรุงเป็นน้ำแกงแล้วบริจาคให้แก่พวกเขาด้วยก็ได้  แต่อุดฮียะห์วายิบต้องบริจาคเนื้อสดทั้งหมดเป็นทานแก่คนจน

2. เมื่อนำเนื้ออะกีเกาะห์มอบเป็นของขวัญ(ฮะดียะฮ์)แก่คนรวย  ก็อนุญาตให้เขาครอบครองได้  จะนำไปขายหรือไปทำอะไรก็ได้ตามต้องการ  ซึ่งแตกต่างกับอุดฮียะห์  คนรวยจะนำไปขายไม่ได้นอกจากนำไปรับประทานเท่านั้น

3. อะกีเกาะห์จะไม่ถูกจำกัดเวลา  คือกระทำได้เมื่อสะดวก  แต่อุดฮียะห์จะถูกจำกัดเวลา  คือเริ่มตั้งแต่ตะวันขึ้นในวันอีดิ้ลอัดฮา  และผ่านไปช่วงหนึ่งที่พอจะละหมาดสองรอกาอัตและสองคุตบะห์ได้  เวลการเชือดอุดฮียะห์นี้จะยังคงอยู่เรื่อยไปจนถึงตะวันตกในวันสุดท้ายของวัน ตัชรีก  วันตัชรีกคือวันที่สิบเอ็ด  สิบสอง  และสิบสามของเดือนซุ้ลฮิจยะห์

4. อะกีเกาะห์สุนัตให้ทำการปรุงเป็นอาหาร  ส่วนอุดฮียะห์สุนัตให้บริจาคเป็นเนื้อสด

5. อะกีเกาะห์ไม่ควรทำให้กระดูกของสัตว์แตกหัก  ซึ่งแตกต่างกับอุดฮียะห์

ค้นคว้าและเรียบเรียงโดย : อัลอัซฮะรีย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 07, 2008, 03:33 PM โดย al-azhary »
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

นำเสนอเรียบร้อยตามสัญญา  พี่น้องโปรดอ่านก่อน  หลังจากนั้นหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมที่จะถาม  พี่น้องก็ร่วมเสวนากันได้เลยครับ 

วัสลาม
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

ญะซะกัลลอฮ์มาก ๆ
ขอนั่งอ่านก่อนน่ะ สงสัยตรงไหนเดี๋ยวค่อยถามอีกที

ขอพระองค์อัลลอฮ์ตอบแทนความดีแก่ท่านและครอบครัว
และทุก ๆ ความดีงามที่ได้รับจากความรู้ขอให้กลับไปหาท่านด้วยเช่นกันและขอพระองค์ตอบแทนด้วยสิ่งที่ดีกว่า

ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

เอามารวมกันได้ไหมครับ
เช่นสมมุติว่าผมบรรลุศาสนะภาวะแล้วโดยที่พ่อแม่ไม่ได้ทำอะกีเกาะห์ให้ 
ในวันอีดิลอัฎหานี้ ผมสามารถเนียตทำอะกีเกาะห์กับกรุบานรวมกันเลยได้ไหมโดยใช้แพะหรือแกะ 1ตัว


ออฟไลน์ เด็กท่าเรือ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • เพศ: ชาย
  • ความยำเกรงนั้น คือ กุญแจแห่งทางที่เที่ยงตรง
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • bantharua
ซาญากั้ลลอฮูค๊อยรอฮ ครับ พี่น้อง
 myGreat:
" ท่านพึงเป็นผู้รู้ หรือผู้เล่าเรียน หรือผู้รับฟัง หรือผู้รักใคร่ (ในบุคคลเหล่านั้น)
และท่านอย่าเป็นคนที่ห้า แล้วท่านจะวิบัติอย่างแน่นอน "

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam
เอามารวมกันได้ไหมครับ
เช่นสมมุติว่าผมบรรลุศาสนะภาวะแล้วโดยที่พ่อแม่ไม่ได้ทำอะกีเกาะห์ให้ 
ในวันอีดิลอัฎหานี้ ผมสามารถเนียตทำอะกีเกาะห์กับกรุบานรวมกันเลยได้ไหมโดยใช้แพะหรือแกะ 1ตัว

รวมแบบนี้ไม่ได้นะครับ  เพราะแพะหรือแกะหนึ่งตัว  เท่ากับหนึ่งส่วนเท่านั้น  ดังนั้นหากจะใช้แพะ  ก็ต้องแพะสำหรับอุดฮียะห์หนึ่งตัว  และแพะสำหรับอะกีเกาะห์หนึ่งตัว  รวมเป็น 2 ตัว 

ส่วนกรณีการรวมจริง ๆ นั้นมันอยู่ในรูปของ  การเชือดอูฐหรือวัว  ซึ่งหนึ่งตัวจะเท่ากับ 7 ส่วน  ใน 7 ส่วนนั้น เราจะเหนียตอุดฮียะห์ 1 ส่วน และอะกีเกาะห์อีก 1 ก็ถือว่ากระทำได้  ที่เหลืออีก 5 ส่วนนั้นให้คนอื่นมาหุ้นร่วมด้วย  หรือทำให้ลูก ๆ ก็ไม่เป็นไร

วัลลอฮุอะลัม
   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ซาญากั้ลลอฮูค๊อยรอฮ ครับ พี่น้อง
 myGreat:

นานทีจะได้เห็นบังกีมเข้ามาโพสต์  ;D
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

ขอบคุณครับ

แล้วถ้าเราไม่เคยทำอะกีเกาะห์มาก่อน
เราจะทำกรุบานเลยได้ไหม


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam

ขอบคุณครับ
แล้วถ้าเราไม่เคยทำอะกีเกาะห์มาก่อน
เราจะทำกรุบานเลยได้ไหม

การทำอะกีเกาะฮ์และทำกุรบานนั้น  ทั้งสองคืออิบาดะฮ์ที่เป็นเอกเทศน์  ซึ่งมิได้มีเงื่อนไขเกี่ยวข้องกันว่า จะต้องทำอะกีเกาะฮ์ก่อน  แล้วค่อยทำกุรบาน  และไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์มาระบุเงื่อนไขว่าต้องทำอากีเกาะฮ์ ก่อนทำกุรบานครับ  ดังนั้น  หากอัลเลาะฮ์ให้เราสะดวกจะทำสิ่งใดก่อน  ก็กระทำสิ่งนั้นแหละครับ

แต่หากเราจะเปรียบเทียบระหว่างกุรบานกับอะกีเกาะฮ์  ว่าสิ่งใดที่ดีกว่านั้น   ขอตอบว่า  การทำกุรบานย่อมมีความประเสริฐกว่า  เพราะได้บัญญัติไว้ในอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ระบุภาคผลบุญได้ชัดเจนกว่า   การทำกุรบานเพื่อที่จะเลี้ยงพี่น้องมุสลิมโดยรวม  แต่การทำอะกีเกาะฮ์เพื่อเลี้ยงพี่น้องมุสลิมเป็นการเฉพาะเท่านั้น  และเราจะสังเกตุได้ว่า  หลักการของอะกีเกาะฮ์นั้น  ส่วนมากจะถูกนำไปเปรียบเทียบหลักการกับการทำกุรบาน  เช่น  ลักษณะที่สมบูรณ์ของสัตว์ที่จะนำมาเชือดเป็นต้น

ดังนั้นหากจะทำระหว่างอุดฮียะห์กับอะกีเกาะห์  ก็สมควรทำอุดฮียะห์ก่อน  เพราะเวลามันจำกัดเพียงแค่ 4 วันในรอบปี คือวันอีดอัฎฮาและสามวันตัชรีก  ส่วนอะกีเกาะห์นั้นมีเวลาทำได้ตลอดทั้งหมดสำหรับผู้ที่บรรลุดศาสนภาวะแล้วนั่นเองครับ

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมาก ๆครับ

ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอถามต่ออีกนิดนึงครับ

ถ้าเรามีความสามารถทำได้แค่อย่างใดอย่าหนึ่ง
ให้เราเลือกทำสิ่งไหนดีครับ ระหว่างอะกีเกาะห์และกุรบาน

และเราจะทำให้พ่อแม่หรือพี่น้องของเราที่เสียชีวิตไปแล้วได้ไหมครับ
เช่นกันครับ ถ้ามีความสามารถทำได้แค่สิ่งเดียวน่าจะทำสิ่งใดที่จะดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ yunus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 166
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam
ขอถามต่ออีกนิดนึงครับ

ถ้าเรามีความสามารถทำได้แค่อย่างใดอย่าหนึ่ง
ให้เราเลือกทำสิ่งไหนดีครับ ระหว่างอะกีเกาะห์และกุรบาน

และเราจะทำให้พ่อแม่หรือพี่น้องของเราที่เสียชีวิตไปแล้วได้ไหมครับ
เช่นกันครับ ถ้ามีความสามารถทำได้แค่สิ่งเดียวน่าจะทำสิ่งใดที่จะดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam
ขอถามต่ออีกนิดนึงครับ

ถ้าเรามีความสามารถทำได้แค่อย่างใดอย่าหนึ่ง
ให้เราเลือกทำสิ่งไหนดีครับ ระหว่างอะกีเกาะห์และกุรบาน

และเราจะทำให้พ่อแม่หรือพี่น้องของเราที่เสียชีวิตไปแล้วได้ไหมครับ
เช่นกันครับ ถ้ามีความสามารถทำได้แค่สิ่งเดียวน่าจะทำสิ่งใดที่จะดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ

ทำกุรบานก่อนครับ 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged