بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
บรรดาวันทั้งหมดตลอดทั้งปีนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา มันไม่สามารถให้ประโยชน์หรือให้โทษอันใดได้ด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นเมื่อการแต่งงานเป็นซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และอัลเลาะฮ์ก็ทรงให้เรามีความสะดวกในการแต่งงานไม่ว่าวันใดก็ตาม นั่นแหละคือช่วงเวลาที่พระองค์ทรงประสงค์ให้เราได้รับความดีงามแล้ว และจำเป็นต่อผู้ที่มีอีหม่านในอัลเลาะฮ์อย่างแท้จริง ต้องทำการมอบหมายแด่พระองค์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาข้างขึ้นหรือข้างแรม
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
وَعَلَى اللّهِ فَتَوَكَّلُواْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
"และเฉพาะอัลเลาะฮ์เท่านั้น พวกท่านจงมอบหมาย หากแม้นพวกท่านเป็นผู้มีศรัทธา" อัลมาอิดะฮ์ 26
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
اللَّهُ خَالِقُ كُلِّ شَيْءٍ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ وَكِيلٌ
"อัลเลาะฮ์ทรงบันดาลทุก ๆ สิ่ง และพระองค์ทรงทรงเป็นผู้ถูกมอบหมายทุก ๆ สิ่ง" อัซซุมัรฺ 62
ดังนั้นเมื่ออัลเลาะฮ์ทรงสร้างทุก ๆ สิ่ง ทรงสร้างโอกาสให้เรามีความสะดวกในการสู่ขอแต่งงาน พระองค์เท่านั้นแหละครับที่เราจำเป็นต้องมอบหมาย ดังนั้นหากเรื่องใดที่อัลเลาะฮ์ทรงบันดาลให้เรามีความสะดวก ก็จงรีบทำด้วยการมอบหมายต่อพระองค์ นี่คือจุดยืนของผู้มีศรัทธาตามที่อัลกุรอานได้กล่าวไว้
ท่านอุรวะฮ์ รายงานว่า
عَنْ عَائِشَةَ قَالَتْ تَزَوَّجَنِي رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي شَوَّالٍ وَبَنَى بِي فِي شَوَّالٍ فَأَيُّ نِسَاءِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ أَحْظَى عِنْدَهُ مِنِّي قَالَ وَكَانَتْ عَائِشَةُ تَسْتَحِبُّ أَنْ تُدْخِلَ نِسَاءَهَا فِي شَوَّالٍ
"จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ท่านนางกล่าวว่า ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการแต่งงานกับฉันในเดือนเชาวาล ดังนั้น ณ ท่านนบีแล้ว จะมีภริยาของท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์คนใดจากโชคดีไปกว่าฉัน อุรวะฮ์กล่าวว่า ท่านหญิงอาอิชะฮ์ชอบที่จะบรรดาสตรีของนางเข้า(เรือนหอ)ในเดือนเชาวาล" รายงานโดยมุสลิม (2551)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์อธิบายว่า
فِيهِ اِسْتِحْبَاب التَّزْوِيج وَالتَّزَوُّج وَالدُّخُول فِي شَوَّال , وَقَدْ نَصَّ أَصْحَابنَا عَلَى اِسْتِحْبَابه , وَاسْتَدَلُّوا بِهَذَا الْحَدِيث , وَقَصَدَتْ عَائِشَة بِهَذَا الْكَلَام رَدّ مَا كَانَتْ الْجَاهِلِيَّة عَلَيْهِ , وَمَا يَتَخَيَّلهُ بَعْض الْعَوَامّ الْيَوْم مِنْ كَرَاهَة التَّزَوُّج وَالتَّزْوِيج وَالدُّخُول فِي شَوَّال , وَهَذَا بَاطِل لَا أَصْل لَهُ , وَهُوَ مِنْ آثَار الْجَاهِلِيَّة , كَانُوا يَتَطَيَّرُونَ بِذَلِكَ لِمَا فِي اِسْم شَوَّال مِنْ الْإِشَالَة وَالرَّفْع
"ในฮะดิษนี้ สุนัตให้ทำการแต่งงานและเข้าเรือนหอในเดือนเชาวาล บรรดาปราชญ์ของเราระบุถึงการสุนัตสิ่งดังกล่าวโดยอ้างหลักฐานด้วยฮะดิษนี้ และท่านหญิงอาอิชะฮ์มีเจตนาจากคำพูดนี้ เพื่อทำการโต้ตอบสิ่งที่พวกญาฮีลียะฮ์ได้ดำเนินอยู่และสิ่งที่บางคนจินตนาการไปว่าวันที่น่ารังเกียจในการแต่งงาน , ทำการแต่งงาน , และส่งตัวเข้าเรือนหอในเดือนเชาวาล ดังนี้ถือเป็นสิ่งเหลวไหลไม่มีรากฐานที่มาให้กับมันเลย มันเป็นร่องรอยของพวกญาฮีลียะฮ์ ซึ่งพวกเขาถือว่าสิ่งดังกล่าวเป็นลางร้าย เนื่องจากชื่อของเดือนเชาวาลนั้น มาจากความหมายที่ว่า การยับยั้งและการยกเลิก (หมายถึงฝ่ายหญิงจะปฏิเสธและยกเลิกการแต่งงาน)" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
ฮะดิษนี้บ่งชี้ว่า เดือนที่พวกญาฮีลียะฮ์ถือว่าเป็นลางร้ายในการแต่งงาน แต่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ทำการแต่งงานเพื่อปฏิเสธหลักความเชื่อของพวกเขา เพราะฉะนั้นความเชื่อที่ว่าการสู่ขอแต่งงานในข้างขึ้นทำให้การดำเนินชีวิตคู่บ่าวสาวเจริญรุ่งเรืองขึ้น ๆ ไป และการแต่งงานในข้างแรมทำให้ต้องอับเฉาลดลง ถือเป็นความเชื่อที่ไม่มีในอิสลามครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ