เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
ทำบุญให้แก่คนตาย
Hakeem:
อิหม่ามชาฟิอีย์กล่าวว่า "ส่วนการจัดทำอาหารของครอบครัวผู้ตายเพื่อเลี้ยงผู้คนนั้นเป็นส่งที่อุตริ(บิดอะฮฺ)ที่น่ารังเกียจยิ่งและไม่มีแบบฉบับอยู่เลย เพราะการกระทำดังกล่าวเท่ากับยิ่งเป็นการเพิ่มความทุกข์ให้กับพวกเขา" (มะอฺริฟะตุสสุนัน วัลอาษารฺ 5/338)
...
อะมัดอีซาอีกแล้วหรือนี่..อิๆๆๆๆ
เอ...ถ้างั้น คุณอะมัดฯก็ยอมรับในความเห็น(กิยาส)...ของคำพูดข้างบนของท่านอีม่ามชาฟีอี(รฮ).เต็มที่แล้วใช่ไหมขอรับ
ถ้าอย่างนั้น คุณ อะมัดฯก็ละทิ้งและเลือกใช้นะซิครับ ..ก็ในเมื่อคำกล่าวของท่านอีม่ามชาฟีอี นี้เป็นแค่ความเห็นของท่านเท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิสนี้ครับ แล้วทำไมอะมัดฯ ถึงรับสิ่งนี้ไว้เลยละครับ...สงสัย..
...
อีกอย่างเรามาพิจรณา คำพุดของท่านอีม่ามชาฟีอี(รฮ)ก็พบว่า อะมัดเข้าใจผิดในสิ่งนั้น...
]"ส่วนการจัดทำอาหารของครอบครัวผู้ตายเพื่อเลี้ยงผู้คนนั้นเป็นส่งที่อุตริ(บิดอะฮฺ)ที่น่ารังเกียจยิ่งและไม่มีแบบฉบับอยู่เลย เพราะการกระทำดังกล่าวเท่ากับยิ่งเป็นการเพิ่มความทุกข์ให้กับพวกเขา" [/color] (มะอฺริฟะตุสสุนัน วัลอาษารฺ 5/338)..
:oคำที่ว่า "ส่วนการจัดทำอาหารของครอบครัวผู้ตายเพื่อเลี้ยงผู้คนนั้นเป็นส่งที่อุตริ(บิดอะฮฺ)ที่น่ารังเกียจยิ่งและไม่มีแบบฉบับอยู่เลย .................
วิจารณ์..
....ถูกต้องครับ ทัศนะเราเองก็ไม่เจาะจงอยู่แล้ว ว่าเมื่อมีการเสียชีวิตขึ้น เรามุสลิมมัสหับชาฟีอีต้องเลี้ยงอาหารเสมอ.. และก็ไม่มีใครคิดว่าสิ่งนี้เป็นวายิบที่ต้องกระทำเลย...
แต่ในกรณีที่บรรดาญาติของเขา นั้น นำอาหารมาให้สำหรับพี่น้องมุสลิมที่เดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อต้อนรับมุสลิมต่างบ้านต่างเมืองนั้น ก็ไม่เป็นไร เพราะ..การต้อนรับพี่น้องมุสลิมนั้น เราก็มีคำสั่งจากท่านนบีให้ต้อนรับผู้มาเยือนบ้านของท่านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว.....
ฉนั้นมันคนละประเด็นครับ...แต่ถ้ารบกวนเจาะจงที่จะให้ครอบครับของมัยยัตเลี้ยงอาหารนั้นมันไม่สมควรและมักโกระอยู่แล้วครับ... ที่บ้านก็ไม่เคยพบเช่นนี้นะขอรับ..
แต่ส่วนมากที่สัมผัสมากับตัวเองนั้น ผู้ที่มา ก็ไม่ได้มาตั้งใจจะกินเมื่อเกิดการเสียชีวิตนี้ครับ ...รางานข้อมูลนี้ขาดความเชื่อถือ ไอ้กระผมว่า มันบกพร่องถึงขั้น เมาดัวะมากกว่าครับ
Hakeem:
การทำบุญเป็นทานซอดาเกาะฮ์แก่ผู้ตายเจ็ดวัน
การทำบุญเป็นทานซอดาเกาะฮ์แก่ผู้ตายเจ็ดวัน
Hakeem:
เพื่อไม่ให้เป้นการเปลืองหน้ากระดานเสวนา ไอ้กระผมขอแนะนำคุณอะมัดฯ โปรดอ่านกระทู้นี้ครับ
การทำบุญเป็นทานซอดาเกาะฮ์แก่ผู้ตายเจ็ดวัน
al-azhary:
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็อยากจะเขียนบทความอีกสักแง่มุมหนึ่งเหมือนกัน แต่เกรงว่าฝ่ายคัดค้านจะเคลื่อนไหวกันอีก ;D
al-azhary:
ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ รายงานว่า
حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ بُكَيْرٍ حَدَّثَنَا اللَّيْثُ عَنْ عُقَيْلٍ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ عَنْ عُرْوَةَ عَنْ عَائِشَةَ زَوْجِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهَا كَانَتْ إِذَا مَاتَ الْمَيِّتُ مِنْ أَهْلِهَا فَاجْتَمَعَ لِذَلِكَ النِّسَاءُ ثُمَّ تَفَرَّقْنَ إِلَّا أَهْلَهَا وَخَاصَّتَهَا أَمَرَتْ بِبُرْمَةٍ مِنْ تَلْبِينَةٍ فَطُبِخَتْ ثُمَّ صُنِعَ ثَرِيدٌ فَصُبَّتْ التَّلْبِينَةُ عَلَيْهَا ثُمَّ قَالَتْ كُلْنَ مِنْهَا فَإِنِّي سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ التَّلْبِينَةُ مُجِمَّةٌ لِفُؤَادِ الْمَرِيضِ تَذْهَبُ بِبَعْضِ الْحُزْنِ
รายงานจาก อุรวะฮ์(หลานของท่านหญิงอาอิชะฮ์) จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ภริยาของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า แท้จริง ท่านหญิงอาอิชะฮ์นั้น เมื่อมีคนในครอบครัวของนางได้เสียชีวิต บรรดาสตรีก็จะมารวมตัวกันเพื่อสิ่งดังกล่าว หลังจากนั้น พวกนางก็แยกย้ายกันไป นอกจากครอบครัวและบรรดาเพื่อนของนาง ดังนั้น ท่านหญิงอาอิชะฮ์จึงใช้ให้นำภาชนะหนึ่งที่มีตัลบีนะฮ์(คืออาหารที่ทำมาจากแป้งอย่างดี ซึ่งบางครั้งจะใส่น้ำผึ้งผสมลงไปด้วย จะมีสีขาวนุ่มน่ารับประทาน) จากนั้นทำการปรุง หลังจากนั้นก็ทำการปรุงษะรีด(คือขนมปังหรือโรตีที่ฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วจิ้มกับแกงเนื้อ) แล้วนำตัลบีนะฮ์ราดบนษะรีด จากนั้นท่านหญิงอาอิชะฮ์กล่าวว่า พวกเธอจงรับประทานมันเถิด เพราะฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า (การรับประทาน)ตัลบีนะฮ์ จะทำให้ผู้ป่วยสบายใจคลายความโศรกเศร้า" รายงานโดย อัลบุคอรีย์
แล้วเราได้อะไรจากหะดิษนี้ ;D
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version