ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบเรื่องเอาเราะฮ์ของสตรีมุสลิมะฮ์ตามมัซฮับชาฟีย์และมัซฮับอื่นๆ  (อ่าน 1812 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด

บังครับ ช่วยไขความกระจ่างหน่อยสิครับว่า เอาเราะฮ์ตามมัฑฮับชาฟิอีย์ มีขอบเขตอย่างไรบ้าง รวมถึงทัศนะของมัฑฮับอื่นๆ ด้วย เพราะผมมักจะได้ฟังอาจารย์ที่สอนผมจากสถาบันที่ผมอยู่หลายครั้งว่า คนบ้านเราเนี่ยะ (หมายถึงคนที่ยึดมัฑฮับชาฟิอีย์) ไม่รู้เรื่องมัฑฮับของตัวเองอย่างแท้จริง ไหนหละบอกว่าตนเองตามมัฑฮับชาฟิอีย์ แต่กลับไม่ปิดเอาเราะฮ์ตามที่อิมามของตัวเองสั่ง รู้หรือป่าวว่า มัฑฮับชาฟิอีย์ ผู้หญิงต้องปิดหน้าด้วยนะ วาญิบนะต้องปิด แต่เรากลับไปตามมัฑฮับฟะนะฟีย์ ที่เขามีทัศนะว่าเปิดหน้ากับฝ่ามือได้, นี่ผมสรุปตามที่ผมเข้าใจจากคำพูดของอาจารย์นะครับ ผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วย แต่ประเด็นที่ต้องการทราบก็คือ ขอบเขตของเอาเราะฮ์ทั้งชายและหญิงมุสลิมนั้น ตามมัฑฮับชาฟิอีย์นั้นมีขอบเขตอย่างไรบ้าง รวมถึงมัฑฮับอื่นๆ จากทั้งสี่ด้วย - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam

กระทู้นี้ผมอยากให้พี่น้องเสวนากันในเชิงวิชาการกันด้วยหลักฐานเรื่องเอาเราะฮ์ของสตรีมุสลิมะฮ์รวมถึงฮุกุ่มการปิดหน้าของพวกนางด้วย  แต่ก่อนอื่นผมอยากจะพูดถึงอาจารย์ที่มีสไตล์แบบที่น้อง Al Fatoni ว่ามานั้น  ผมคิดว่าเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยจะบริสุทธิ์ใจ  เพราะบุคคลแบบนี้เวลาประเด็นใหนไม่ตรงกับที่ตนเองจะเอาและไม่ตรงกับมัซฮับอิมามอัชชาฟิอีย์  ก็จะบอกว่ามัซฮับอิมามชาฟิอีย์ขัดแย้งกับหลักฐานบ้างล่ะ  ขัดแย้งกับซุนนะฮ์บ้างล่ะ  และก็สารพัด  แต่เวลาประเด็นใดที่ดูเหมือนกับจะตรงกับสิ่งที่ตนเองต้องการและตรงกับมัซฮับชาฟิอีย์  ก็ชอบมากล่าวว่า  ไม่รู้เรื่องมัซฮับของตนเองอย่างแท้จริง  ใหนล่ะบอกว่าตนเองตามมัซฮับชาฟิอีย์ และบางทีก็อวดอ้างตนเองว่าตนนี้แหละที่ตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์อย่างแท้จริง  ทั้งที่เขาตามแค่บางเรื่องที่จะเอา  หลักการกลับกลอกเช่นนี้ผมไม่สนับสนุน  เนื่องจากไม่มีการเอี๊ยะห์ติรอม(ให้เกียรติ)เรื่องคิลาฟียะฮ์ในระหว่างปวงปราชญ์ของอิสลาม  ความเห็นแก่ตัวคิดว่าทัศนะที่ตนเลือกนั้นถูกต้องที่สุด  ทำให้มารยาทที่มีต่อประเด็นคิลาฟียะฮ์ของฟิกห์อิสลามหมดสิ้น  บิดอะฮ์ในเชิงวิชาการในความเชื่อที่ว่าตนเองเท่านั้นที่ถูกต้องก็บังเกิด  การกล่าวหาต่อพี่น้องมุสลิมในเรื่องฟิกห์จึงมีให้เห็นกันอย่างชัดเจนในปัจจุบัน

เอาล่ะครับ  พี่น้องท่านใดที่มีความรู้ในการนำเสนอเรื่องเอาเราะฮ์ของมุสลิมะฮ์รวมถึงฮุกุ่มการปิดหน้าของพวกนางนั้น  ก็ขอให้นำเสนอกันเชิงวิชาการและด้วยหลักฐานครับ  เพื่อพี่น้องจะได้ความรู้กันเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น

วัสลาม
   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

 

GoogleTagged