ผู้เขียน หัวข้อ: ชัยค์มุฮัมมัดบินอับดุลวะฮาบเป็นนักปฏิรูปไม่ใช่เป็นนะบี  (อ่าน 15954 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านชัยค์ หะซัน บิน ฟัรหาน อัลมาลิกีย์  กล่าวว่า

ชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์)  เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความโด่งดังเหมือนกับคนอื่น  ๆ  ย่อมมีผู้คนให้การตำหนิอย่างเลยเถิดและให้การสรรเสริญยกย่องอยากเลยเถิดเช่นกัน  เรามีความพยายามแสวงหาความเป็นกลางสำหรับผู้ที่มีใจเป็นธรรม เพื่อให้ทราบถึงสิทธิแห่งคุณงามความดีและทราบถึงความพลาดพลั้งและอ่อนแอ  เราจะน้อมรับถึงสัจจะธรรมสำหรับผู้ที่มีสัจจะธรรม  เราจะไม่ประนีประนอมในการตอบโต้สิ่งอธรรม  ดังนั้น  เราจึงหวังการตอบแทนและผลบุญในสองสภาพการณ์นี้ และหวังความปลอดภัยจากบาปและการลงโทษ  คือ ดังกล่าวนั้น  ก็ด้วยการชี้แจงให้บรรดาผู้คนได้ทราบถึงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ด้วยการมีหลักฐานมายืนยัน  จนกระทั้งเขาไม่นิยมและถูกชักจูงให้อยู่เบื้องหลังบรรดาบุคคลที่เลยเถิด  มีความอคติมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้กระทำดี  ไม่ว่าความผิดพลาดในเรื่องของหลักการศรัทธาหรือด้านนิติศาสตร์อิสลาม  พร้อมทั้งต้องยอมรับว่า  ความผิดพลาดทางด้านการศรัทธานั้น ย่อมมีผลอันเลวร้ายต่อบรรดาบุคคลที่มีความเลยเถิด  ซึ่งพวกเขามีมากกว่าบรรดาบุคคลที่เป็นกลาง

ดังนั้น บรรดาบุคคลที่เลยเถิดนั้น คือจุดมุ่งหมายที่เราจะทำการปรับวิเคราะห์แบบสรุป ๆ ซึ่งพวกเขาเกินเลยในเรื่องการตักลีด  อีกทั้งยังห้ามแก้ไขหลักการของท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  พวกเขาจะประกาศสงครามกับทุก ๆ บุคคลที่ทำการอ่านข้อมูลอื่นที่ทำให้มีการยอมรับเพียงแค่บางส่วนในสิ่งที่เขาได้เขียนและยอมรับ  พวกเลยเถิดได้แบ่งแยกศาสนาออกเป็น 10 ส่วน และ 4 ส่วน  ซึ่งบางครั้งพวกเขาเสียเวลาไปกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ  ทำให้เรื่องข้อปลีกย่อยกลับกลายเป็นเรื่องอุศูลพื้นฐานของศาสนา  ทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่  จนเกิดการกล่าวฮุกุ่มกาเฟรและอนุมัติเลือดเนื้อของบรรดมุสลิมีน  ณ ตรงนี้  ฟิตนะฮ์จึงครอบงำ  การทดสอบทวีความรุนแรง  เพราะคนไม่รู้อะไร  ก็จะพูดกันว่า  "เราได้อยู่บนแนวทางของนักปราชญ์ก่อน ๆ ของเรา ซึ่งเราไม่ยินดีกับการเอาผู้อื่นมาแทนพวกเขา  และเราไม่ยินดีกับการหันเหออกจากพวกเขา  ดังนั้น พวกเขาคือนักปราชญ์ของเราที่มีคุณธรรม และเราก็มีแนวทางที่ชัดเจน!"


กล่าวกันว่า "ความผิดพลาดของนักปราชญ์คือความผิดพลาดของโลก"  ด้วยเหตุดังกล่าวนี้  จึงจำเป็นต่อนักวิชาการต้องรับภาระหน้าที่อย่างกล้าหารในการชี้แจงของผิดพลาดของบรรดาบุคคลสำคัญ ในเชิงวิชาการ , มีมารยาท , และมีใจที่เป็นธรรม  ดังนั้น  แม้ผู้เจริญรอยตามจะมีความเลยเถิด  แต่พวกประเสริฐของพวกเขาไม่ด่างพล้อย  ดังนั้น ภาระกิจของผู้แสวงหาความรู้ที่มีใจเป็นธรรมและแสดงหาความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ ทำการผลักดันให้ผู้คนทั้งหลายอยู่ในความเป็นกลางเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ เหล่านี้  รู้ถึงตัวตนที่แท้จริง  โดยไม่เลยเถิดและหยาบกระด้าง  เราจะรู้ถึงความดีงามและข้อผิดพลาดต่าง ๆ  ดังนั้น  จะไม่มีผู้ใดรอดพ้นจากความผิดพลาดนอกจากบรรดานบีและร่อซูลเท่านั้น"  สรุป จากหน้า 11 - 12
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ กล่าวต่อว่า

เกี่ยวกับการใช้ศัทพ์คำว่า วะฮาบียะฮ์

ประการที่หนึ่ง  คือต่อไปผู้อ่านจะพบระหว่างการค้นคว้าวิเคราะห์ว่า  บางครั้งฉันจะใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์"  ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการน่าตำหนิอย่างที่ฝ่ายคัดค้านได้เรียกขึ้นมา  หรือว่าทำให้ "วะฮาบียะฮ์" เป็นมัซฮับใหม่  แต่ทว่ามันเป็นเรื่องการเรียกศัพท์ทางเทคนิคหรือฉายาที่บรรดามุสลิมิมีนส่วนมากทำการเรียกที่มีต่อ  กระแส  กระบวนการ  แนวคิด  การเรียกร้อง  ที่มีประวัติศาสตร์  มีลักษณะพิเศษ  มีตำรา และอุลามาอ์เฉพาะของพวกตน

ประการที่สอง  พวกวะฮาบีย์บางส่วนได้พึงพอใจกับฉายานี้  และพวกเขานำฉายาดังกล่าวมาเรียกแทนตัวพวกเขาเอง  ดังนั้น  คำว่า "วะฮาบีย์" จึงไม่ใช่เป็นลักษณะของการตำหนิและการสรรเสริญ  และไม่ใช่เป็นการตำหนิ  จนกระทั่งหากยอมรับในหลักการวะฮาบีย์  จะกลายเป็นมัซฮับหนึ่งขึ้นมา  เพราะฉะนั้น  มัซฮับที่ยึดอยู่บนหลักฐานที่ถูกต้องนั้น  นามชื่อของมัซฮับที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ทำให้มัซฮับเกิดความเสียหาย  การเรียกของผู้คนก็เช่นเดียวกัน  เนื่องจากว่า  เงื่อนไขของการมีมัซฮับนั้น  ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยุคแรกของศตวรรษที่สาม  เฉกเช่นเดียวกันกับ กระแสความคิดหรือมัซฮับที่ทฤษฏีหรือแนวปฏิบัติอยู่บนบรรดาหลักฐานที่อ่อน  ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อันใดจากการตั้งชื่อมัซฮับซ่ะสวยงาม  หากแม้ว่ามัซฮับดังกล่าวจะอยู่ยุคศตวรรษแรกก็ตาม  เพราะการพิจารณานั้น  ด้วยกับความรู้ที่ถูกต้อง  อีม่านที่บริสุทธิ์  และการปฏิบัติที่ดีงาม  ไม่ใช่ด้วยการตั้งชื่อหรือมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ

ฉันรู้สึกแปลกใจที่มีบรรดาพวกมุก๊อลลิดต่างกล่าวกันว่า  ถ้อยคำ "อัลวะฮาบียะฮ์" นั้น ผู้เป็นปฏิปักษ์จะนำมาใช้เรียก พวกเขามักนำมาพูดกับฉายานี้  ทั้งที่การเรียกชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาถกเถียงกัน

มีอุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางดังกล่าว  อนุญาตให้ใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์"  พวกเขาต่างนำมาใช้ในตำราต่าง ๆ ของพวกเขา  โดยไม่หวั่นเกรงต่อการกล่าวหาว่า สร้างมัซฮับขึ้นมา  ยิ่งกว่านั้น  พวกเขายังทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ เกี่ยวกับอะกีดะฮ์และการเรียกร้องของวะฮาบีย์  โดยมิได้มีความเสื่อมเสียแต่ประการใด

ส่วนหนึ่งจากบรรดาอุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางวะฮาบีย์  ยังนำคำว่า "วะฮาบีย์" มาให้เรียก  เช่น  ชัยค์ สุไลมาน บิน ซะห์มาน  , ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลล่าฏีฟ ( ดู หนังสือ อัดดุร๊อร อัซซะนียะฮ์ เล่ม 8 หน้า 433)  และบรรดาอุลามาอ์ที่ปกป้องวะฮาบีย์  เช่นชัยค์ หามิด อัลกิฟฟีย์ , ชัยค์อับดุลเลาะฮ์ อัลกอซีมีย์ , ชัยค์ สุลัยมาน อัดะดะคีล , ชัยค์ อะห์มัด บิน หุจญร์ อบู ฏอมีย์ , ชัยค์มัสอูด อัลนัดวีย์ , ชัยค์ อิบรอฮีม บิน อุบัยด์ เจ้าของหนังสือ อัตตัซกิเราะฮ์ , และท่านอื่น ๆ  ต่างก็ใช้คำว่า "อัลวะฮาบียะฮ์"  แต่กระนั้น  ท่านชัยค์ ฮามิด อัลกิ๊ฟฟีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ยังคงพยายามที่จะสร้างความสงสัยต่อเจตนาของทุก ๆ คนที่ใช้คำนี้  และเขาได้ยื่นข้อเสนอจากการเรียกว่า "วะฮาบียะฮ์"  ไปเป็น "อัดดะอ์วะฮ์ อับมุฮัมมะดียะฮ์" เพื่อพาดพิงไปยังชื่อของท่าน ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  แต่ไม่พาดพิงไปยังชื่อของบิดา คือ อับดุลวะฮาบ (วะฮาบีย์)  ดังนั้น  อุลามาอ์ยุคหลังอย่างท่านชัยค์ ซอและห์ อัลเฟาซาน ได้ตักลีดตามท่านชัยค์ ฮามิดอัลกิ๊ฟฟีย์  ในการตำหนิต่อท่านชัยค์ อบู ซะฮ์เราะฮ์  และคนอื่น ๆ (ก็เพราะพวกเขาใช้คำว่าวะฮาบีย์)

การเรียกร้องของ อัลกิ๊ฟฟีย์และอัลเฟาซานให้เรียกวะฮาบีย์ว่า "อัดดะวะฮ์ อัลมุฮัมมะดียะฮ์"  ไม่ใช่ "อัดดะวะฮ์ อัลวะฮาบียะฮ" นั้น  เนื่องจาก ท่านชัยค์ มีชื่อว่า "มุฮัมมัด"  ซึ่งดังกล่าวนี้ถึงเป็นการนำเสนอที่น่าแปลก  อันเนื่องจากมีเหตุผลเล็กน้อยดังนี้  คือ  ส่วนมากจากบรรดามัซฮับที่โด่งดังนั้น จะไม่ตั้งชื่อ ด้วยกับนามชื่อเจ้าของแนวทาง  แต่จะตั้งชื่อด้วยนามของบิดาหรือปู่  ดังนั้น มัซฮับ ฮัมบาลีย์ حنبلى  เป็นต้น  จะใช้พาดพิงไปยังคำว่า حنبل (ฮัมบัล) ซึ่งเป็นปู่ของท่านอิมามอะห์มัด  (เนื่อจากท่านอิมามอะห์มัดมีชื่อว่า อะห์มัด บุตร มุฮัมมัด บุตร หัมบัล)  แต่ท่านชัยค์อัลเฟาซานหรือชัยค์อัลกิ๊ฟฟีย์ และผู้ที่เจริญรอยตามทั้งสอง ต่างไม่คัดค้านการเรียกชื่อนี้(คือฮัมบาลีย์) และพวกเขาก็ไม่เรียกมัซฮับฮัมบาลีย์ว่า "มัซฮับอะห์มะดีย์" (ที่มาจากชื่อของอิมาม อะห์มัด เอง)

เฉกเช่นเดียวกันกับมัซฮับชาฟิอีย์  ซึ่งพาดพิงไปยังท่าน ชาฟิอ์  ซึ่งเป็นปู่ลำดับที่ 4 ของท่านอิมามชาฟิอีย์  ทั้งที่อิมามชาฟิอีย์มีชื่อว่า "มุฮัมมัด บุตร อิดรีส  บุตร อัลอับบาส บุตร อุษมาน บุตร ชาฟิอ์"  แต่เหตุใดพวกเขาถึงไม่เรียกมัซฮับชาฟิอีย์ว่า "มัซฮับมุฮัมมะดีย์" (เพราะอิมามชาฟิอีย์ชื่อว่า มุฮัมมัด)

ยิ่งกว่านั้น  ท่านชัยค์ซอลิห์ อัลเฟาซาน ยังเรียกผู้ที่ตาม มุฮัมมัด บิน สุรูร บิน นายิฟ ซัยนุลอาบิดีน  ด้วยถ้อยคำว่า "อัซซุรูรียะฮ์"  ทำไมถึงไม่เรียกว่า "อัลมุฮัมมะดียะฮ์" เช่นเดียวกัน ! ทั้งที่เขาชื่อ "มุฮัมมัด บิน สุรูร" และในปัจจุบันเราเองก็ได้ยินในกลุ่มสะละฟียะฮ์ ได้มีหลายฉายาที่พวกเขาใช้เรียกซึ่งกันและกัน เช่น อัลญามียีน , อัลมัดค่อลียีน , อัลบาซียีน (ผู้ที่ตามบินบาซฺ) , และอัลบานียีน(ผู้ตามอัลบานีย์)  เป็นต้น ( สรุปจาก หน้าที่ 12 และหน้าที่ 144 - 146)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
السلام عليكم وحمة الله وبركاته

ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับหลักการของท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  อยู่สามรูปแบบ  คือแบบที่หนึ่ง  จะเป็นหนังสือประเภทวิจารณ์ในแง่ลบอย่างเดียว , รูปแบบที่สอง  จะเป็นหนังสือที่ยกย่องสรรเสริญอย่างเดียว  ,และแบบที่สาม คือจะเป็นกลางยกย่องและวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา  ซึ่งรูปแบบที่สามนี่แหละ ที่ผมกำลังจะนำเสนอไปเรื่อย ๆ อินชาอัลเลาะฮ์

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Hakeem

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 49
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
.คุณอัลอัชฮารีย์ครับ ไอ้กระผมส่วนนำประวัติศาสาตร์ส่วนหนึ่ง ของผู้ที่ชาววะฮาบีย์สรรเสริญเขามาให้พี่น้องได้ตัดสินว่าสิ่งที่ท่านผู้นี้ทำการ  ตัดสินในปัญหาต่างๆเกี่ยวกับศาสนานั้น เขาอุตริกรรมขึ้นมาใหม่หรือไม่ และนอกเหนือชาวสลัฟและจากสี่มัซฮับ และตาบีอีนและซอฮอาบะ และท่านนบีหรือไม่  และยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยขอรับ

เป็นที่รู้กันแล้วว่า..ท่าน มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ.(บุตรของอัลวะฮาบ)

ได้เริ่มขึ้นในตะวันออกกลางในปี ฮ.ศ.1143 หลังจาก การเกิดทัศนะทั้ง4 ประมาณ  843 ปีให้หลัง  และได้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในปี ฮ.ศ.1150 ที่เมืองอันนัจดฺ ซึ่งเขาได้เสียชีวิตในปี ฮ.ศ.1206

เขาได้เริ่มเผยแพร่ด้วยกับการเรียกร้องที่มีการผสมผสานความคิดต่าง ๆ ของเขา โดยอ้างว่า ความคิดเหล่านี้มาจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านและซุนนะฮฺนบี เขาได้ยึดเอาอุตริกรรมบางส่วนมาจากท่านตากียุดดีน อะฮฺหมัด อิบนุ ตัยมียะฮฺ แล้วได้นำมาฟื้นฟูใหม่อีกครั้ง

ส่วนหนึ่งจากอุตริกรรมที่ท่านอิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบที่เอามาจากอิบนุตัยมียะฮฺ คือ

1. การห้ามตะวัสสูลต่อท่านศาสดามูฮัมหมัด
2. การห้ามเดินทางเพื่อไปเยี่ยมสุสานท่านศาสดามูฮัมหมัดและคนอื่น ๆ จากบรรดาศาสนทูตและบรรดาคนซอและฮฺอื่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อไปขอพร ณ ที่นั้น เพื่อหวังการตอบรับการขอพรจากอัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ)
3. ยัดเยียดการเป็นกาเฟรให้แก่บุคคลที่เรียกผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วยคำต่อไปนี้ :- يارَسُولَ اللهِ โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ ,  يَامُحَمَّدُ โอ้ท่านมูฮัมหมัด ,  يَاعَلِيَّ โอ้ท่านอาลี ,หรือกล่าวว่า يَاعبد القادِرِ โอ้ท่านอับดุลกอเดร จงช่วยฉันด้วย หรือเช่นถ้อยคำกล่าวเหล่านี้ นอกเสียจากจะต้องกล่าวกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น
4. ยกเลิกการหย่าแบบมะฟุลบิฮ ที่มีมาพร้อมกับการผิดสาบาน เช่น สาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺในเรื่องที่เสนอว่าจะจ่ายกัฟฟาเราะฮฺ
5. มีความเชื่อว่าอัลลอฮฺมีรูปร่างและมีทิศ

และเขาก็ได้อุตริเรื่องต่าง ๆ ด้วยกับตัวของเขาเอง ซึ่งสิ่งที่เขาได้อุตริขึ้นมาเช่นต่อไปนี้

1. การห้ามกล่าวซอลาวาตต่อท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) ถัดจากอาซาน...
2. และบรรดาลูกศิษย์ของเขาได้ห้ามการจัดงานฉลองวันประสูติท่านศาสดา(เมาลิดดินนบี) โดยขัดแย้งกับคำสอนของท่านอิบนุตัยมียะฮฺซึ่งเป็นอาจารย์ของพวกเขา

...

มรดกในการปฏฺบัติและมารยาท...เหล่านี้เป็นสิ่งที่ตกทอดกันมาจนถึงพี่น้องเราในเมืองไทย ไม่ว่าชาวที่ต้องการให้ผู้คนเรียกว่า ..กลุ่มซุนนะ กลุ่มสลาฟียะ..ฯลฯ  ซึ่งทั้งหลายนั้นก็ปฏิบัติตามแนวคิดเดิมของ ท่านอิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ(วะฮาบียะ)ทั้งนั้น เเม้ว่ามีชื่อแตกต่างกัน..ผมอยากให้คุณอัลอัชฮารีช่วยชี้แนะและทำความกระจ่างในเรื่องนี้ในสิ่งที่ท่านอิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบได้สั่งห้ามกระทำข้างบนนั้น...มีหลักการและหลักฐานอย่างไรครับ เอาพอเข้าใจก็พอขอ
รับ..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
มรดกในการปฏฺบัติและมารยาท...เหล่านี้เป็นสิ่งที่ตกทอดกันมาจนถึงพี่น้องเราในเมืองไทย ไม่ว่าชาวที่ต้องการให้ผู้คนเรียกว่า ..กลุ่มซุนนะ กลุ่มสลาฟียะ..ฯลฯ  ซึ่งทั้งหลายนั้นก็ปฏิบัติตามแนวคิดเดิมของ ท่านอิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ(วะฮาบียะ)ทั้งนั้น เเม้ว่ามีชื่อแตกต่างกัน..ผมอยากให้คุณอัลอัชฮารีช่วยชี้แนะและทำความกระจ่างในเรื่องนี้ในสิ่งที่ท่านอิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบได้สั่งห้ามกระทำข้างบนนั้น...มีหลักการและหลักฐานอย่างไรครับ เอาพอเข้าใจก็พอขอ
รับ..


السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

คุณ Hakeem ครับ  ผมขอมะอัฟด้วยที่จะช่วยชี้แนะและทำความกระจ่างในสิ่งที่ท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบได้สั่งห้ามกระทำข้างต้น  เพราะกระทู้นี้  ผมต้องการนำเสนอ  แนวคิดจากหนังสือของท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์  เท่านั้น  ซึ่งถือว่าสิ่งที่ผมนำเสนอไป  ไม่ใช่หมายความว่า  ผมมีแนวคิดเหมือนกับท่าน ชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ ไปเสียทั้งหมด  แต่ผมนำเสนอเผื่อว่าผู้อ่านจะมีแนวคิดในแง่มุมหนึ่งแง่มุมใดขึ้นมา  จากที่เคยมีอยู่เดิม  ดังนั้น  ในกระทู้นี้  ผมขอนำเสนอสรุปเนื้อความที่มีอยู่ในหนังสือของท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ เท่านั้นน่ะครับ

แต่ผมไม่ห้ามให้ออกความเห็นหรือทำการวิจารณ์เชิงวิชาการของพี่น้องที่เข้ามาอ่านน่ะครับ

والسلام

Al-azhary
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์   กล่าวไว้ในหนังสือของท่านว่า

ชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ไม่ใช่เป็นผู้มีความรู้และเป็นผู้ปฏิรูปเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

ผู้เจริญรอยตามชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ บางส่วนคิดว่า  ท่านชัยค์คือหนึ่งเดียวในสมัยของท่านที่มีความรู้อันโดนเด่น  หัวเมืองต่างของอาณาจักรอิสลามที่ไม่เข้าภายใต้การเรียกร้องของท่านชัยค์  คือเป็นเมืองที่ชิริกและกุฟุร  บรรดาอุลามาอ์ในเมืองนั้น ๆ เป็นผู้ที่โง่เขลาไม่รู้เรื่องศาสนาเลย  ดังนั้น  เฉกเช่นนี้  ถือว่าเป็นความเชื่อของผู้เจริญรอยตามท่านชัยค์ที่อธรรมต่อบรรดาเมืองต่าง ๆ ของมุสลิมีนและอธรรมต่อบรรดาอุลามาอ์ที่อยู่ในสมัยของท่านชัยค์

และเป็นที่น่าเสียใจ  ว่าหลักการอันนี้  ที่เกี่ยวกับการกล่าวกาเฟรต่อบรรดามุสลิมีนและพิจารณาว่าเมืองของพวกเขา เป็นเมืองแห่งการกุฟุร และอุลามาอ์ของพวกเขา  เป็นกาเฟร  ดังที่ฉันได้พบหลักการนั้นในหนังสือของท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุวะฮาบเอง

ทั้งที่เราให้เกียรติผลงานของท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) และบทบาทในการปฏิรูปและการเรียกร้องของท่าน  ที่แผ่ขยายไปสู่บรรดามุสลิมีนมากมายในโลก  แต่ทว่า  มีความจำเป็นต่อผู้แสวงหาความรู้ที่สมควรทราบว่า  ท่านชัยค์และผู้เจริญรอยตามไม่มีความถูกต้องในการกล่าวกาเฟรต่อผู้อื่นเช่นนี้  และทั้งที่พร้อมกับท่านชัยค์เอง  ก็ยังมีบรรดานักเรียกร้อง  นักปฏิรูป  และอุลามาอ์ท่านอื่น ๆ ในยุคสามศตวรรษสุดท้ายที่อัลเลาะฮ์ทรงให้ได้รับผลประโยชน์ด้วยกับความรู้ของพวกเขา  แต่ก็ไม่อนุญาตให้ทำการละเมิดสิทธิและสนับสนุนการกล่าวหากาเฟรต่อผู้อื่น 

ส่วนหนึ่งจากนักเรียกร้องและนักปฏิรูปอิสลาม คือ ท่านชัยค์ อัชชาฮ์ วะลียุลลอฮ์ อัลดิฮ์ลาวีย์  ,  ท่านชัยค์ มุฮัมมัด หะยาฮ์ อัซซินดีย์ , ท่านชัยค์ อัตติฮานาวีย์ อัลฮินดีย์ , ท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อิสมาอีล อัซซ๊อนอานีย์  ซึ่งเขามีความรู้ยิ่งกว่าท่านชัยค์  มีความลึกซึ้งและเป็นกลางมากกว่า  หากแม้นว่า  การเรียกร้องของท่านชัยค์จะมีการเคลื่อนไหวและกว้างขวางมากกว่าก็ตาม  และยังมีท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน ฟัยรูซฺ อัลอะห์ซาอีย์  ซึ่งเป็นอุลามาอ์ของฮัมบาลีย์ท่านสำคัญในเมื่อง อัลอะห์ซาอ์ และเป็นอุลามาอ์ท่านสำคัญในหิยาซฺ  หลังจากนั้นเล็กน้อย  ท่านชัยค์ อัชเชากานีย์  ได้มาหลังจากท่านชัยค์เล็กน้อย  และยังมีท่านอื่น ๆ อีก

การเรียกร้องของบรรดานักปฏิรูปนั้น  โดยสรุปแล้วเป็นการเรียกร้องอิสลาม  ทั้งที่เป็นการเรียกร้องอิสลาม  แต่ไม่ได้หมายความว่าปราศจากความผิดพลาด  ซึ่งประเด็นเหล่านี้  บรรดาผู้เจริญรอยตามท่านชัยค์ส่วนมากไม่ตระหนักถึงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการเรียกร้อง  หลังจากนั้น  ข้อผิดพลาดต่าง ๆ ทำให้มีผลในเชิงลบต่อนักศึกษาบางส่วนที่มีความเลยเถิดและห้ามวิจารณ์ข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของพวกเขาที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน  ซึ่งหากแม้นว่าพวกเขาจะยอมรับในทฤษฏีที่ว่า บรรดาอุลามาอ์มีทั้งผิดและถูกก็ตาม  แต่ในขณะเดียวกัน  เกือบจะไม่พบจากบรรดาผู้เจริญรอยตามว่าจะมีการแบ่งแยกระหว่างฐานะของนักปฏิรูปกับท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

หลังจากนั้น  พวกเขาจึงมีความเกินเลย จนกระทั่งทิ้งผลงานการเรียกร้องของท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  ในการตำหนิความเลยเถิดต่อบรรดาผู้มีคุณธรรม(ซอลิห์)  ความเลยเถิดต่อบรรดาผู้มีคุณธรรมจึงเป็นประเด็นหลักที่ท่านชัยค์ให้การวิจารณ์และยังเป็นประเด็นหลักที่มีผลต่อหลักอะกีดะฮ์พื้นฐานตามทัศนะของผู้เจริญรอยตามท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ

แต่มีบางตัวอย่างของความเลยเถิดในตัวท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  อาทิเช่น  บางส่วนของพวกเขากล่าวยกย่องท่านชัยค์ว่า

العالم الربانى والصديق الثانى مجدد الدعوة الإسلامية أوحد العلماء

"(ท่านชัยค์)เป็นนักปราชญ์ที่เคร่งครัด  เป็นอัศศิดดีก(เป็นอบูบักร)คนที่สอง  เป็นผู้ฟื้นฟูการเรียกร้องอิสลาม  อีกทั้งเป็นผู้โดดเด่นที่สุดหนึ่งเดียวในหมู่บรรดานักปราชญ์"  ดู หนังสือ อัดดุรร๊อร อัลซะนียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 29

อิบนุ อุบัยด์  ได้กล่าวในหนังสือ ตัซกิเราะฮ์ อุลิลนุฮา วัลอิรฟาน  เล่ม 1 หน้า 173 ว่า

الشيخ محمد بن عبد الوهاب الذى افتخر به أمة محمد على سائر الأمم

"ท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  เป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจของประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัดที่เหนือกว่าบรรดาประชาติอื่น ๆ "

อิบนุ อุบัยด์  ได้ตั้งฉายาให้ท่านชัยค์มุฮัมมัดว่า

شيخ الوجود

"ปรมาจารย์แห่งการมี"  ดู  เล่ม 1 หน้า 33

ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ยิ่งใหญ่  หากคนใดที่นำมาใช้กับท่านนบี มุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แน่นอนว่า บรรดาบุคคลที่ตักลีดตามท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุวะฮาบ ก็จะทำการตำหนิและกล่าวหากาเฟรกับเขาทันที!  (สรุปจาก หน้า 13 - 14)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Hakeem

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 49
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
แต่มีบางตัวอย่างของความเลยเถิดในตัวท่านชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  อาทิเช่น  บางส่วนของพวกเขากล่าวยกย่องท่านชัยค์ว่า

العالم الربانى والصديق الثانى مجدد الدعوة الإسلامية أوحد العلماء

"(ท่านชัยค์)เป็นนักปราชญ์ที่เคร่งครัด  เป็นอัศศิดดีก(เป็นอบูบักร)คนที่สอง  เป็นผู้ฟื้นฟูการเรียกร้องอิสลาม  อีกทั้งเป็นผู้โดดเด่นที่สุดหนึ่งเดียวในหมู่บรรดานักปราชญ์"   ดู หนังสือ อัดดุรร๊อร อัลซะนียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 29

อิบนุ อุบัยด์  ได้กล่าวในหนังสือ ตัซกิเราะฮ์ อุลิลนุฮา วัลอิรฟาน  เล่ม 1 หน้า 173 ว่า

الشيخ محمد بن عبد الوهاب الذى افتخر به أمة محمد على سائر الأمم

"ท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  เป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจของประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัดที่เหนือกว่าบรรดาประชาติอื่น ๆ "

อิบนุ อุบัยด์  ได้ตั้งฉายาให้ท่านชัยค์มุฮัมมัดว่า

شيخ الوجود

"ปรมาจารย์แห่งการมี"   ดู  เล่ม 1 หน้า 33
...เอ...ที่กล่าวมาแล้วนั้น  ถ้าไอ้กระผมจะบอกว่าคนที่มีความคิดเช่นนี้ เป็นการตะอัศสุบและเลยเถิดในตัวบุคคลแบบสุดโต่งและคลั่งไคล้จะได้ไหมขอรับ  คุณอัลอัชฮารีย์..................

....โดยเฉพาะคำๆนี้ที่พวกเขากล่าวว่า..

"ท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ  เป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจของประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัดที่เหนือกว่าบรรดาประชาติอื่น ๆ ".........

........เมื่อความคิดของผู้ยกย่องชมชอบท่านผู้นี้แบบเลยเถิดเช่นนี้แล้ว...........มุสลิมที่เคย ปลื้มปิติและชื่นชอบและภาคภูมิใจกับเหล่าบรรดาซอฮาบะของท่านนบี อย่างเช่น..ท่านอบูบักร์  ท่านอุมัร ท่านอุสมาน ท่านอะลีและบรรดาซอฮาบะชั้นแนวหน้าอีกหลายท่าน   ก็ในเมื่อท่านเหล่านั้นได้รับข่าวว่า......เป็นชาวสวรรค์........อัลลอฮ์(ซบ)และรอซุ้ล(ซล)ก็ทรงภาคภูมิใจประชาชาติของท่านเหล่านั้นที่อยู่ร่วมคียงบ่าเคียงไหล่กับร้อซุ้ลของอัลเลาะในยามทุกข์และสุข. ละขอรับ เขาจะคิดเช่นไร............กับการยินดีของมุสลิมบางกลุ่มที่มีความภูมิใจแบบออกหน้าออกตาในสิ่งที่รอซู้ลของอัลลอฮ์ไม่ได้รับรู้ในการกระทำและไม่ได้บอกกล่าวไว้..........

..........ตรงกันข้ามถ้าหากว่ารอซู้ลของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่..ไอ้กระผมว่า..ท่านรอซุ้ลของอัลลอฮ์คงตะเพิดและเรียกเขาว่าช่าวกุฟุรก็เป็นไปได้.....ซึ่งการยกยอเช่นนี้เป็นแนวทางของพวกคอวาริจณ์และชีอะที่ยกย่องท่านอะลีและวงค์วานอย่างน่ารังเกียจ...................................

ในขณะเดียวกันนั้น ความแตกต่าง ของชาวอะลิสซุนนะวัลญามะอะ.มัสหับทั้ง4นั้น  จะไม่มีการยกยอหรือสรรเสริญให้เกียตริ ต่อบรรดาอีม่ามเจ้าของมัสหับทั้ง4..เลย..........ไม่เคยเอาหลักการมัสหับ1มัสหับของอีม่ามทั้ง4ใดมาตัดสินและฮุกมว่า...มัสหับฉันถูก มัสหับท่านผิด..........แต่เราต่างให้เกียรติในความรู้ของท่านเหล่านั้น หลังจากหลักฐานการชี้แจงได้ชัดแจ้งมายังเราแล้ว..............

ยกตัวอย่างคำพูดของพี่น้องวะฮาบีย์เมืองไทยคนหนึ่งกล่าวว่า................

อ้างถึงนายอะมัดอีซา..กล่าวว่า...

..........นี่แหละคือ..ความโดดเด่นของกลุ่มสลาฟที่ตามแนวทางของชัยค์มูฮำมัดอิบนวะฮาบ...........


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
جزاك الله خير الجزاء ครับ คุณ ฮากีม  ว่าง ๆ ผมจะนำเสนอต่อ  ซึ่งต่อ ๆ ไปก็จะเข้มข้นกว่านี้  คือได้มุมมองนะครับ  อินชาอัลเลาะฮ์ ;D
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านชัยค์ หะซัน บิน ฟัรหาน อัลมาลิกีย์ กล่าว

การอ่านหนังสือ  กัชฟุชชุบฮาด كشف الشبهات  ของท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบีย์  (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์)

เหตุใดถึง กุชฟุชชุบฮาด (การคลี่คลายข้อสงสัย) ?

ฉันจะเน้นนำเสนอหนังสือกุชฟุชชุบฮาด  จากสิ่งที่ท่านชัยค์ มุฮัมมัด ได้เขียนขึ้น  เพราะหนังสือเล่มนี้  เป็นหนังสือเล่มเล็กที่มีความโดดเด่นอย่างชัดเจน  มีการกล่าวหลักฐานต่าง ๆ และเพราะมีบรรดาแนวคิดที่ชัดเจนและหนังสือเล่มนี้ได้แพร่หลายในหมู่บรรดานักศึกษาและมีผลอันชัดเจนต่อพวกเขา  และในความโด่งดังของหนังสือเล่มนี้  ก็เฉกเช่นเดียวกันกับหนังสืออีกเล่มหนึ่งของท่านชัยค์ที่ชื่อว่า  "กิตาบุตเตาฮีด" كتاب التوحيد 
ฉันไม่ขอกล่าวถึงส่วนดีต่าง ๆ ของหนังสือเล่มนี้  เพราะเหตุ  4  ประการ

1. บรรดาส่วนที่ดีงามนั้น  มีน้อยโดยพิจารณาถึงแนวทางทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้  เนื่องจากมันถูกใส่ไปด้วยความเลยเถิดในการกล่าวฮุกุ่มกาเฟร  ถึงแม้นว่า  สำนวนต่าง ๆ ส่วนมากจะไม่ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนนัก

2.  ฉันได้กล่าวผ่านมาแล้วกับคุณความดี   การทุ่มเท  และการเรียกร้องของท่านชัยค์  ดังนั้นส่วนที่เป็นความดีงามของหนังสือเล่มนี้ ย่อมเข้าอยู่ในการยกย่องโดยรวมอันนี้แล้ว

3.  การอ่านนำเสนอนี้  เป้าหมายเพื่อแจกแจงข้อน่าสังเกตุและข้อผิดพลาดต่าง ๆ   คือจะกล่าวสิ่งที่น่าสังเกตุหลัก ๆ  ที่อธิบายถึงการกล่าวฮุกุ่มกาเฟรที่อยู่ในหนังสือของท่านชัยค์บางเล่ม  และหนังสือเล่มอื่น ๆ อีกบางส่วนของอุลามาอ์ที่เจริญรอยตามท่านชัยค์

4.  การขัดแย้งไม่ใช่เกี่ยวกับการยกย่องท่านชัยค์ หรือการเรียกร้องและเจตนาอันดีของท่านชัยค์  และไม่ใช่สิ่งที่ท่านชัยค์ได้เรียกร้องไปสู่การละทิ้งชิริก  ความเหลวไหล และบิดอะฮ์ต่าง ๆ  ซึ่งดังกล่าวนี้  เป็นสิ่งที่มีความสอดคล้องกันตามทัศนะของมุสลิมีนทั้งหมด  -  อย่างน้อยก็สอดคล้องกันระหว่างฉันและบรรดาผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับฉันเกี่ยวกับปรับหลักการเรียกร้องของท่านชัยค์ -  ดังนั้น  ด้วยเหตุดังกล่าวนี้   ขอให้พี่น้องอภัยแก่ฉัน  หากว่าส่วนมากของหนังสือเล่มนี้นำเสนอเกี่ยวกับข้อสังเกตุ ไม่ใช่สิ่งที่สอดคล้องกัน  เพราะการขัดแย้งกันนั้น  ย่อมคงอยู่ตั้งแต่สมัยท่านชัยค์มุฮัม บิน อับดุลวะฮ์ฮาบ  จนถึงปัจจุบันนี้  ระหว่างผู้ที่คลั่งไคล้ในตัวท่านชัยค์กับผู้ที่ต่อต้าน  พร้อมกับไม่ขอเน้นจุดที่ขัดแย้งกัน  คือ. -

-  ท่านชัยค์เลยเถิดในการเตือนให้ระวังจากชิริกหรือเปล่า  จนกระทั่งท่านชัยค์นำสิ่งไม่ใช่ชิริกเข้าไปอยู่ในสิ่งที่เป็นชิริก  และตามครรลองนี้  ถือว่าเป็นการเกินเลยจากการฮุกุ่มชิริกต่อบรรดามุสลิมีนหรือไม่?

-  ท่านชัยค์มีความเลยเถิดในการฮุกุ่มกาเฟรต่อผู้อื่นหรือไม่ ?  และอะไรคือขั้นระดับของความเลยเถิด ?

-   การที่ท่านชัยค์ตำหนิบรรดาผู้ที่ขัดแย้งกับท่านจากอะฮ์ลิสซุนนะฮืวัลญะมาอะฮ์ทั่วไป และนักปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ทั่วไปนั้น  เป็นการตำหนิที่เป็นกุฟุร(กาเฟร) ทำให้ออกจากศาสนาหรือไม่?

-  หากสิ่งดังกล่าวได้ถูกรับรอง  ดังนั้น  ปัจจุบัน อนุญาตให้เรายอมรับทัศนะดังกล่าวได้หรือไม่?

ดังนั้น  ณ  ที่นี้  ฉันนำเสนอเกี่ยวกับข้อสังเกตจากหนังสือกุชฟุชชุบฮาด  และตำราอื่น ๆ

อันดับแรก  ข้อสังเกตุต่าง ๆ จากหนังสือ กุชฟุชชุฮาด

ข้อสังเกตุต่าง ๆ เหล่านี้  ฉันจะทำการกล่าวเป็นลำดับขั้นตอน  และฉันจะทำการกล่าวคำพูดของชัยค์  หลังจากนั้น  ฉันจะทำการตอบสิ่งที่เห็นผิดพลาดและเกินเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวฮุกุ่มกาเฟร  เป็นที่ทราบดีว่าหนังสือถูกตีพิมพ์หลังครั้งด้วยกัน  ด้วยการอธิบายและวิเคราะห์จากผู้ที่มีความรู้  โดยที่พวกเขาไม่ตระหนักของข้อผิดพลาดอันหนึ่ง  จากบรรดาข้อผิดพลาดทั้งหลายที่มีนำมาเสนอต่อไป  และข้อผิดพลาดนี้  บางส่วนจากพวกเขานั้น  บางครั้งทราบถึงข้อผิดพลาดและบางครั้งไม่รู้ถึงข้อผิดพลาด  ซึ่งทั้งสองประการนี้ถือว่าขมขื่น   ดังนั้น  ข้อสังเกตุที่โดนเด่นมีดังต่อไปนี้
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ saq

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 18
  • หาวิชา
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
กระทู้นี้ เงียบหายไปอ่ะครับ
เหมือนจะยังไม่จบนะ
มาดูๆแล้วก็ไป

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด


-  ท่านชัยค์เลยเถิดในการเตือนให้ระวังจากชิริกหรือเปล่า  จนกระทั่งท่านชัยค์นำสิ่งไม่ใช่ชิริกเข้าไปอยู่ในสิ่งที่เป็นชิริก  และตามครรลองนี้  ถือว่าเป็นการเกินเลยจากการฮุกุ่มชิริกต่อบรรดามุสลิมีนหรือไม่?

-  ท่านชัยค์มีความเลยเถิดในการฮุกุ่มกาเฟรต่อผู้อื่นหรือไม่ ?  และอะไรคือขั้นระดับของความเลยเถิด ?

-   การที่ท่านชัยค์ตำหนิบรรดาผู้ที่ขัดแย้งกับท่านจากอะฮ์ลิสซุนนะฮืวัลญะมาอะฮ์ทั่วไป และนักปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ทั่วไปนั้น  เป็นการตำหนิที่เป็นกุฟุร(กาเฟร) ทำให้ออกจากศาสนาหรือไม่?

-  หากสิ่งดังกล่าวได้ถูกรับรอง  ดังนั้น  ปัจจุบัน อนุญาตให้เรายอมรับทัศนะดังกล่าวได้หรือไม่?


ประเด็นน่าสืบสวน ดีค่ะ  รอการนำเสนอต่อไป
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ในขณะเดียวกันนั้น ความแตกต่าง ของชาวอะลิสซุนนะวัลญามะอะ.มัสหับทั้ง4นั้น  จะไม่มีการยกยอหรือสรรเสริญให้เกียตริ ต่อบรรดาอีม่ามเจ้าของมัสหับทั้ง4..เลย..........ไม่เคยเอาหลักการมัสหับ1มัสหับของอีม่ามทั้ง4ใดมาตัดสินและฮุกมว่า...มัสหับฉันถูก มัสหับท่านผิด..........แต่เราต่างให้เกียรติในความรู้ของท่านเหล่านั้น หลังจากหลักฐานการชี้แจงได้ชัดแจ้งมายังเราแล้ว..............

แต่ก็มีไม่น้อยนะครับ ที่หุก่มว่าที่ฉันเรียนมาถูกทั้งหมด
ถ้าไม่เหมือนฉันผิด

จะว่ายังไงดี

คือว่า คนเหล่านี้ ฟังแต่คำผู้สอนตัวเองอย่างเดียวและคนเดียวด้วย
ไม่ฟังคนอื่น ว่ากันอย่างนั้นแหล่ะ

"นั้นมันพวกวาฮาบีย์ อย่าไปตามมัน มันไม่ถูกต้อง"

ผมโดนมาแล้วคำนี้นะ

หลายๆ ครั้งกลัวเลยแหละว่า
จะพูดดีหรือเปล่าว้า...
พูดไปแล้วจะเป็นยังไง

เพราะถ้าโดนเรียกว่า วาฮาบีย์ ทันใด
พวกก็ไม่เอาเราเดี๋ยวนั้น

บอกอะไรไปผิดหมด

วัสลาม
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ Fathoni

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 79
  • Kid d Tum d อัลลอฮฺรู้
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
วะฮาบีย์ ไม่ใช่หรอ คับ   

ที่ชอบบอกว่าเราถูก   ตามเราซิ

ถูกไหมคับ 
   ;D ;D ;D
อิสลามสอนฉันให้รู้จักเสียสละเพื่อสังคม แม้สังคมจะจำสิ่งที่ฉันทำไม่ได้เลย

ฉันไม่เคยท้อที่จะทำมันต่อเพราะรู้ว่าอัลลอฮฺจะอยู่ข้างฉัน จะไม่ทิ้งฉันแน่นอน ...

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
วะฮาบีย์ ไม่ใช่หรอ คับ   

ที่ชอบบอกว่าเราถูก   ตามเราซิ

ถูกไหมคับ 


ฟังสิ่งที่เขาบอก
แล้วนำมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนดีกว่า

บางครั้งสิ่งที่เขาบอกมันก็มาจากกุรอานและซุนนะหฺจริงๆ

แต่เหตุผลหนึ่งที่ผมได้มาจากบังอัซฮารี ก็คือ

"การที่ไปหุกมคนอื่นผิด บิดอะหฺ นั้นต่างหากที่ทำให้เขาเป็นวะฮาบีย์"

วัสลาม
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ขอฟากถึงพี่น้องทุกคน
เป็น หิกมะฮฺที่สำคัญมากๆ
คือไม่ควรเรียกคนที่มีแนวคิดนี้ว่าวะฮาบี
ถ้าเรียกไป ยากสุดที่เขาจะยอมรับคุณ
ถ้าอยากให้ผู้คนอยู่บนฮิดายะฮฺ
ก็อย่าได้เรียกเขาอย่างนั้น
เพราะหลายคนไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้
แต่วงส่วนตัวนั้นไม่เป็นไรอยู่แล้ว
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

 

GoogleTagged