อะกีดะฮ์ท่านอิบนุ กะษีร

[al-azhary]

การเป็นศิษย์อาจารย์ต่างแนวทางกันนั้นมิใช่เรื่องแปลก  ในเรื่องท่านอิบนุตัยมียะฮ์เองก็มีอาจารย์ที่อยู่ในแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์ด้วย    แต่ศิษย์เอกถอดฉบับของแท้จากท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น  คือท่านอิบนุก็อยยิม 

ท่านอิบนุมุฟลิห์ (ศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์) กล่าวว่า

والمُحْكَم مَا اتَّضَحَ مَعْنَاهُ ، فلم يَحْتَجْ إلى بَيَان ، والمُتشابه : عَكسُهُ ؛ لاشْتراكٍ أو إجمَال ، قال جماعةٌ من أصْحابنا وغيْرُهم : وما ظاهرُهُ التشْبيْه ، كصِفاتِ الله

"ตัวบทมั๊วะห์กัมนั้น  คือสิ่งที่ความหมายของมันชัดเจน  ดังนั้นจึงไม่ต้องไปยังการอธิบาย  ส่วนตัวบทมุตะชาบิฮะฮ์นั้น  ตรงกันข้าม(หมายถึงความหมายไม่ชัดเจน)  เพราะมีความหมายหลายนัยและยังสรุป(คลุมเครือ)อยู่  กลุ่มหนึ่งจากบรรดาปราชญ์(มัซฮับฮัมบาลีย์)ของเราและอื่น ๆ จากเขากล่าวว่า  "สิ่งที่(ความหมาย)ผิวเผิน(ลักษณะภายนอก)นั้น ถือว่าเป็นการตัชบีฮ์(ยืนยันความคล้ายคลึงระหว่างอัลลอฮ์และมัคโลค) เช่น(การให้ความหมายแบบผิวเผินกับ)บรรดาซีฟัตของอัลเลาะฮ์" หนังสืออุศูลุลฟิกห์ 1/316

เห็นไหมครับ  แม้กระทั่งท่านอิบนุมุฟลิห์ศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ยังมีหลักอะกีดะฮ์ในเรื่องซีฟัตที่ตากต่างจากอาจารย์ของตนอย่างท่านอิบนุตัยมียะฮ์เลยเนื่องจากท่านอิบนุตัยมียะฮ์ยืนยันความหมายถ้อยคำแบบผิวเผินเกี่ยวกับซีฟัตของอัลเลาะฮ์ ทั้งที่เป็นศิษย์อาจารย์กันแท้ ๆ  แล้วจะไปแปลกอะไรที่ท่านอิบนุกะษีรมีจุดยืนเรื่องอะกีดะฮ์ที่ต่างกับท่านอิบนุตัยมียะฮ์

[al-azhary]

           ได้มีการยกการตัฟสีรฺของท่านอิบนุ กษีรฺ สนับสนุน พร้อมทั้งมีข้อสังเกตหนึ่ง ที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ เกี่ยวกับท่านอิบนุ กษีรฺ ซึ่งผมเองก็ฉงนอยู่ไม่น้อย ว่า

           "Ibn Katsir sendiri adalah bermazhab Syafi'i dan merupakan anak murid yang utama kepada Ibn Taimiyyah Rahimahullah. Namun yang menjadi peliknya, terdapat segelintir pihak yang menolok Ibn Taimiyyah dan Ibn Qayyim tetapi menerima Ibn Katsir." (hlm.4)

                ความว่า "ท่านอิบนุ กษีรฺ นั้นยึดมัฑฮับชาฟิอีย์ และถือได้ว่าเป็นศิษย์เอกของท่านอิบนุ ตัยมียะฮ์ ร็ฮิมุฮุลลอฮฺ แต่ที่มันแปลกนั้น มีส่วนน้อยจากบางกลุ่มที่ผลักไสท่านอิบนุ ตัยมียะฮ์และท่านอิบนุ ก็อยยิม แต่กลับรับ (หลักการ) ของท่านอิบนุ กษีรฺ (ซะงั้น)" (หน้า 4)

                ท่านอิบนุ กษีรฺ เป็นลูกศิษย์ของท่านอิบนุ ตับมียะฮ์จริงหรือ?

วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม

ท่านชัยคุลอิสลาม  อัลหาฟิซฺ  อิบนุ หะญัร อัลอัสก่อลานีย์   ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ   อัดดุร๊อร อัลกามินะฮ์  ได้กล่าวถึงประวัติของ อิบรอฮีม บุตร มุฮัมมัด บุตร อิบนุก็อยยิม  เขาคือผู้เป็นหลานของท่านอิบนุมุก๊อยยิมซึ่งเขาได้เคยเกิดข้อโต้แย้งระหว่างเขากับท่านอิบนุกะษีรในเรื่องการสอนผู้คนทั้งหลาย  ว่า

وَمِنْ نَوَادِرِهِ أَنَّهُ وَقَعَ بَيْنَهُ وَبَيْنَ عِمَادِ الدَّيْنِ ابْنِ كَثِيْرٍ مُنَازَعَةٌ فِيْ تَدْرِيْسِ النَّاسِ فَقَالَ لَهُ اِبْنُ كَثِيْرٍ أَنْتَ تَكْرَهُنِي لِأَنَّنِي أَشْعَرِيٌّ فَقالَ لَهُ لَوْ كَانَ مِن رَّأْسِكَ إِلَى قَدَمِكَ شَعْرٌ مَا صَدَّقَكَ النَّاسُ فِي قَوْلِكَ إِنَّكَ أَشْعَرِيٌّ وَشَيْخُكَ ابْنُ تَيْمِيَّةَ

"ส่วนหนึ่งจากเกล็ด ประวัติของเขา  คือ แท้จริง  ได้เกิดการโต้แย้งกันเกี่ยวกับการสอนผู้คนทั้งหลายระหว่างเขาและท่านอิมาดุ ดีน อิบนุกะษีร  ซึ่งท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวกับเขาว่า  ท่านรังเกียจฉันหรือ  ที่ฉันนั้นเป็น(ผู้มีอะกีดะฮ์)อัชอะรีย์  ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับท่านอิบนุกะษีร่า  หากแม้นว่าจากศีรษะของท่านจรดเท้านั้นมีเส้นผมแล้วไซร้  บรรดาผู้คนก็ไม่เชื่อในคำพูดของท่านหรอกว่า  แท้จริงท่านคือ(ผู้มีอะกีดะฮ์)อัลอัชอารีย์ โดยที่อาจารย์ของท่านคือ อิบนุตัยมียะฮ์"  ดู  เล่ม 1 หน้า 65  บทอักษรฮัมซะฮ์  (คืออักษรอะลีฟ)

สิ่งที่ได้รับจากการถ่ายทอดของ ชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซฺ  อิบนุ ฮะญัร อัลอัสก่อลานีย์  ผู้มีความเชื่อถือได้(ษิเกาะฮ์)  มีดังนี้

1.  หลานของท่านอิบนุก็อยยิม  มีความตะอัศศุบในหลักอะกีดะฮ์ของตนเอง  จึงทำให้เกิดกับโต้เถียงระหว่างเขาและท่านอิบนุกะษีร

2.  ท่านอิบนุกะษีรยอมรับตัวท่านเองว่าเป็นปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์ 

3.  ท่านอิบนุกะษีรเคยเป็นศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ในช่วงแค่วัยรุ่น

4.  ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุกะษีร  เกิด ฮ.ศ. 701 - เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 774  ท่านอิบนุกะษีรได้ย้ายไปที่ดิมัชก์ในปี ฮ.ศ.  ที่ 707  เมื่ออายุได้ 5 ขวบ  และท่านอิบนุตัยมียะฮ์เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. ที่  728  ในขณะที่ท่านอิบนุกะษีรอายุได้ 21 ปี   และท่านอิบนุกะษีรเสียชีวิตในปี ฮ.ศ. ที่ 774  แสดงว่าหลังจากท่านอิบนตัยมียะฮ์เสียชีวิตนั้น  ท่านอิบนุกะษีรในช่วง 46 ปีที่เหลือ  ท่านก็ร่ำเรียนก็บรรดาคณาจารย์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ท่านอื่น ๆ อีกมากมาย  วิชาความรู้ของท่านเริ่มแน้นแฟ้นมั่นคง  จนได้รับการแต่งตั้งสืบทอดให้เป็นปรมาจารย์สอนอัลฮะดิษอยู่ที่ ดารุลฮะดิษอัลอัชชะรีฟะฮ์  แห่งซีเรีย  ซึ่งผู้ที่จะสอนได้นั้นต้องเป็นนักปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์เท่านั้น 

5.  จึงไม่แปลกที่ผู้เคยศิษย์จะมีทัศนะที่แตกต่างจากอาจารย์ของตน แต่ที่สำคัญคือ ศิษย์ต้องให้เกียรติอาจารย์

วัสลาม

[al-azhary]

 salam

วะฮาบีย์ที่เว็บมรดกฯ ปกปิดบิดเบือนตัดทอนคำกล่าวของท่านอิบนุกะษีรอีกแล้วครับ ซุบฮานัลลอฮ์!  เขานำเสนอว่า

พระองค์ตรัสว่า

ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ

หลังจากนั้นพระองค์ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ [22]

สำหรับ บุคคลที่พวกเขามีหลากหลายทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความจริงเกี่ยวกับสถานที่ของพระองค์นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องหน้าที่เราจะมาทำ การศึกษาค้นคว้าให้ละเอียด กลับกันเรื่องนี้ให้เรายึดมั่นศรัทธาตามบรรดาชาวสาลัฟฟุลซอแหละ เช่น อิหม่ามมาลิก . อัล อูซัยดี . อัซซุรี. อัลลัยษฺ บุตรของสะอัด. อัชชาฟีอี .อะหมัดบุตรของฮัมบัล. อิสหากบุตรของรอฮาวัยฮฺ และบุคคลอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นซึ่งเป็นอิหม่าม(ผู้นำ)ของผู้ศรัทธาจะเป็นอิหม่ามยุคก่อนหรือยุคนี้ ก็ดี กล่าว คือพวกเขาได้ปล่อยตามที่โองการถูกประทานโดยไม่มีการ ตักญิฟ[23] ตัชบิฮฺ[24] และตะติล[25]และอะไรที่มีการจินตนาการณ์มโนภาพในความคิดของกลุ่มคนมูชาบิฮฺ (คือคนที่เทียบเคียงคุณลักษณะของพระองค์อัลลอฮฺเหมือนกับสิ่งถูกสร้าง) ความจริงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์"

แต่เราได้นำเสนอถ่ายทอดที่ตรงเจตนารมณ์ของท่านอิบนุกะษีร ว่า

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى

"ผู้ทรงเมตตาทรงอิสติวาอฺเหนือบัลลังก์"  อัลอะร็อฟ : 54

ท่านอิบนุกะษีรได้อธิบายว่า

وَأَمَّا قَوْله تَعَالَى " ثُمَّ اِسْتَوَى عَلَى الْعَرْش " فَلِلنَّاسِ فِي هَذَا الْمَقَام مَقَالَات كَثِيرَة جِدًّا لَيْسَ هَذَا مَوْضِع بَسْطهَا وَإِنَّمَا نَسْلك فِي هَذَا الْمَقَام مَذْهَب السَّلَف الصَّالِح مَالِك وَالْأَوْزَاعِيّ وَالثَّوْرِيّ وَاللَّيْث بْن سَعْد وَالشَّافِعِيّ وَأَحْمَد وَإِسْحَاق بْن رَاهْوَيْهِ وَغَيْرهمْ مِنْ أَئِمَّة الْمُسْلِمِينَ قَدِيمًا وَحَدِيثًا وَهُوَ إِمْرَارهَا كَمَا جَاءَتْ مِنْ غَيْر تَكْيِيف وَلَا تَشْبِيه وَلَا تَعْطِيل وَالظَّاهِر الْمُتَبَادِر إِلَى أَذْهَان الْمُشَبِّهِينَ مَنْفِيّ عَنْ اللَّه فَإِنَّ اللَّه لَا يُشْبِههُ شَيْء مِنْ خَلْقه

"แท้จริง เกี่ยวกับ ณ ตรงนี้  เราได้ดำเนินตามมัซฮับของสะละฟุศศอลิหฺ  คือท่านมาลิก , ท่านอัลเอาซะอีย์ , ท่านอัษเษารีย์ , ท่านอัลลัยษ์ บิน สะอัด , ท่านอัชชาฟิอีย์ , ท่านอะหฺมัด บิน หัมบัล , ท่านอิสหาก ร่อฮุวัยฮ์ , และท่านอื่น ๆ จากนักปราชญ์บรรดามสุลิมีนทั้งอดีตและปัจจุบัน  ซึ่งแนวทางของสะละฟุศศอลิหฺ ก็คือ ให้ทำการผ่านมันไปเหมือนที่มันได้มีมา(โดยมิได้เจาะจงความหมาย) โดยไม่มีรูปแบบวิธีการ  ไม่ยืนยันการคล้ายคลึง และพรรณาจนไม่มีคุณลักษณะ(ซีฟัต) และ(ความหมาย)แบบผิวเผินที่เข้ามาอยู่ในสมองความเข้าใจของบรรดาพวกมุชับบิฮะฮ์ (คือพวกที่พรรณาการคล้ายคลึงคุณลักษณะระหว่างอัลเลาะฮ์และมัคโลคไม่ว่าจะ แง่ใดแง่หนึ่ง)นั้น  ถูกปฏิเสธจากอัลเลาะฮ์..." ดู ตัฟซีร อิบนุ กะษีร  ซูเราะฮ์ อัลอะร๊อฟ อายะฮ์ที่ 54

โปรดสังเกตุครับว่าวะฮาบีเว็บมรดกฯ เขาตัดถ้อยคำของท่านอิบนุกะษีรที่ว่า " และ(ความหมาย)แบบผิวเผินที่เข้ามาอยู่ในสมองความเข้าใจของบรรดาพวกมุชับบิฮะฮ์ ถูกปฏิเสธจากอัลเลาะฮ์" กล่าวคือ วะฮาบีย์นั้นให้ความหมายแบบผิวเผินที่อยู่ในความหมายของ การนั่ง การสถิต ซึ่งเป็นความหมายผิวเผินที่เข้ามาอยู่ในสมองของบรรดาพวกมุชับบิฮะฮ์เมื่อเขาได้ยิน  ดังนั้นหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์จึงไม่เหมือนกับท่านอิบนุกะษีร พวกเขาจึงพยายามปกปิดตัดทอนบิดเบือน วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ดังนั้นเราขอต่ออัลเลาะฮ์ให้ห่างไกลจากแนวทางวะฮาบีย์ที่ชอบบิดเบือนคำพูดของอุลามาอฺ ยาร็อบ

[ad-dalawy]

อัสลามุอะลัยกุ้ม

เดี๋ยวนี้วะฮาบีที่ไม่รู้แต่อยากชี้มีเยอะ  การร่ำเรียนเรื่องอะกีดะฮ์ต้องเข้าครูได้รับการอธิบายจากครู  มิใช่อ่านอังกฤษได้แล้วจะมาแปลกเรื่องซีฟัตของอัลเลาะฮ์หรือแปลตำราอุลามาอฺจนบิดเบือน  แล้ววะฮาบีตาดำๆ ที่เข้าไปศึกษาจะได้รับความรู้เรื่องศาสนาที่เชื่อถือได้อย่างไร  หลงทางกันเป็นตัวโดมิโน

[ILHAM]

วันรายอ อย่าไปเครียดกับมันเลย

[บาชีร]

ตั้งแต่มาอยู่วิทยะลัยวะฮฺบี

ก็สนใจอ่านในเรื่องของอะกีดะฮฺมากขึ้น

ซึ่งปรกติแล้วไม่ค่อยสนใจเรียนผ่านไป ก็ไม่ได้มาทวน

กระทู้เรื่องอะกีดะก็ไม่ค่อยอ่าน หนังสือก็ผ่านๆไป

วะฮะบีบ้านเราก็มักโต้ในเรื่องของฟิก

ผมก็จะสนใจในเรื่องฟิกเป็นส่วนใหญ่

แต่มาอยู่นี้ ต้องมาตอบคำถามให้วะฮะบีฟังว่าอะชาอิเราะฮฺคืออะไร

เขาเข้าใจผิดเกียวกับแนวทางอะชาอิเราะฮฺอย่างแรง

พอได้อ่านกระทู้ที่บังอัซฮะรี่เขียนไว้

ก็ต้องขอบคุณบังอย่างแรง

ไม่ต้องเหนื่อยในการค้นคว้า

บังช่วยได้สุดยอดมาก

[al-azhary]

แต่มาอยู่นี้ ต้องมาตอบคำถามให้วะฮะบีฟังว่าอะชาอิเราะฮฺคืออะไร

เขาเข้าใจผิดเกียวกับแนวทางอะชาอิเราะฮฺอย่างแรง

บางทีก็สงสารวะฮาบีที่โต้อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์โดยไม่เข้าใจแก่นแท้ของหลักอะกีดะฮ์อะฮ์ลิซซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์อะกีดะฮ์สะลัฟแห่งปวงปราชญ์โลกอิสลามผู้แบกรับหลักการจากสะลัฟมาทุกยุคสมัยดั่งสายโซ่ทอง  เพราะอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ในทุกยุคสมัยนั้นไม่มีวันขาดตอน  และไม่ใช่อะกีดะฮ์ที่หมดบทบาทในศตวรรษที่ 4 แล้วฟื้นขึ้นมาอีกในศตวรรษที่ 7 แล้วหมดบทบาทลง หลังจากนั้นก็ฟื้นมาอีกในศตวรรษที่ 12 แล้วมาอ้างว่าฉันคืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์ของแท้เพียงหนึ่งเดียว  คนอื่นลุ่มหลงหมด  แบบนี้ถือว่าไม่ใช่ครรลองตามธรรมชาติแห่งแนวทางสัจธรรมอย่างแท้จริง

[al-toorab]

 salam

หากชีวิตขาดซึ่งหลักการศรัทธาที่มั่นคงแน่นอนแล้วไซร้ ประตูแห่งการก่อความผิดพลาดมักจะก่อเกิดกับเราได้เสมอ

สู้ ๆ บังบาซีร

วัสสลาม

[almadany]

อัสลามุอะไลกุ้ม...

ขนาดคุณบาชิร...ยังไม่ค่อยได้อ่าน...แล้ววะฮาบีเขาจะอ่านการชี้แจงของเรากันบ้างปล่าวครับ...หากพวกเขาไม่อ่านและเข้าใจการชี้แจงของเรา...วะฮาบีก็ยังคงหลงตนเองอย่าร่ำไป...

และการกล่าวหาของวะฮาบี....ที่มีต่ออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์...ก็ยังคงอยู่ร่ำไป....วัสลาม

[ILHAM]

วัฮฮาบีที่ว่านั้นเป็นคนอาหรับหรือ

[บาชีร]

วัฮฮาบีที่ว่านั้นเป็นคนอาหรับหรือ

คนจีนครับ

มีเด็กเอฟริกาคนนึง

คือคนนี้ผมโต้จนเขาไม่พอใจผมเพราะผมบอกว่าอะกีดะฮฺเขาเป็นอะกีดะฮฺฟิรเอา

ตอนนี้เขาฮัจรุกะลามไม่คุยกับผมเลย

อะกีดะฮฺวะฮะบีก็คือหากเขาคิดว่าเราเป็นพวกบิดอะฮฺ แล้วจะต้องไม่คุย

ผมเลยถามมันว่าจริงป่าว

มันบอกนี้เหละอะกีดะฉัน

แสดงว่าจริงตรงตามกิตาบมันเลย

[ILHAM]

บางคนไม่คุยกับมุสลิมด้วยกัน แต่ไปทำดีกับกาเฟร เยอะแยะ

[al-azhary]

 salam

ท่านอิบนุกะษีรมีอาจารย์มากมาย  แลท่านเคยเป็นศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ในช่วงแค่วัยรุ่น  ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุกะษีร  เกิด ฮ.ศ. 701 - เสียชีวิตปี ฮ.ศ. 774  ท่านอิบนุกะษีรได้ย้ายไปที่ดิมัชก์ในปี ฮ.ศ.  ที่ 707  เมื่ออายุได้ 5 ขวบ  และท่านอิบนุตัยมียะฮ์เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. ที่  728  ในขณะที่ท่านอิบนุกะษีรอายุได้ 21 ปี   และท่านอิบนุกะษีรเสียชีวิตในปี ฮ.ศ. ที่ 774  แสดงว่าหลังจาก ท่านอิบนตัยมียะฮ์เสียชีวิตนั้น  ท่านอิบนุกะษีรในช่วง 46 ปีที่เหลือ  ท่านก็ร่ำเรียนก็บรรดาคณาจารย์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ท่านอื่น ๆ อีกมากมาย  วิชาความรู้ของท่านเริ่มแน้นแฟ้นมั่นคง  จนได้รับการแต่งตั้งสืบทอดให้เป็นปรมาจารย์สอนอัลฮะดิษอยู่ที่ ดารุลฮะดิษอัลอัชชะรีฟะฮ์  แห่งซีเรีย  ซึ่งผู้ที่จะสอนได้นั้นต้องเป็นนักปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์เท่านั้น

ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ กะษีร ได้กล่าวไว้ในหนังสือ  อัลมุคตะซ็อร ฟี ตารีค อัลบะชัร  ซึ่งท่านได้กล่าวถึงประวัติของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ในเหตุการณ์ในปี ฮ.ศ. 705 ไว้ความว่า

وَفِيْهَا اسْتُدْعِيَ تَقِيُّ الدِّيْنِ أَحْمَدُ بْنِ تَيْمِيَّةَ مِنْ دِمَشْقَ إِلَى مِصْرَ وَعُقِدَ لَهُ مَجْلِسٌ وَأَمْسِكَ وَأُوْدَعَ الاِعْتِقَالَ بِسَبَبِ عَقِيْدَتِهِ فَإِنَّهُ كَانَ يَقُوْلُ بِالتَّجْسِيْمِ عَلَى مَا هُوَ مَنْسُوْبٌ إِلَى ابْنِ حَنْبَل

"ในปีที่ 705  ท่านตะกียุดดีน อิบนุ ตัยมียะฮ์ ได้ถูกเชิญจากดิมัชก์ให้ไปยังอียิปต์  และได้จัดให้มีสถานที่ถกปัญหาศาสนาขึ้นแก่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์  และท่านก็ได้ถูกจับกุม  เพราะท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวยืนยันเรื่องอัลเลาะฮ์มีรูปร่างโดยยึมตามสิ่งที่ถูกแอบอ้างไปยังท่าน(อะห์มัด)บิน ฮัมบัล"  หนังสืออัลมุคตะซ็อร ฟี ตารีค อัลบะชัร

แต่ตามทัศนะจริง ๆ ของท่านอิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล นั้น คือปฏิเสธการมีรูปร่างของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ยิ่งกว่านั้นท่านอะห์มัดยังให้การตำหนิอย่างรุนแรง  จนกระทั่งท่านได้กล่าวว่าผู้ที่เชื่อว่าอัลเลาะฮ์มีรูปร่าง(แม้จะไม่เหมือนกับมัคโลคก็ตาม)นั้นกุฟุร  วัลอิยาซุบิลลาฮ์  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอิบนุกะษีร มิได้มีอะกีดะฮ์อัลเลาะฮ์เป็นรูปร่างอย่างแน่นอนนั่นเองครับ

[GeT]

ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ กะษีร ได้กล่าวไว้ในหนังสือ  อัลมุคตะซ็อร ฟี ตารีค อัลบะชัร  ซึ่งท่านได้กล่าวถึงประวัติของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ในเหตุการณ์ในปี ฮ.ศ. 705 ไว้ความว่า

وَفِيْهَا اسْتُدْعِيَ تَقِيُّ الدِّيْنِ أَحْمَدُ بْنِ تَيْمِيَّةَ مِنْ دِمَشْقَ إِلَى مِصْرَ وَعُقِدَ لَهُ مَجْلِسٌ وَأَمْسِكَ وَأُوْدَعَ الاِعْتِقَالَ بِسَبَبِ عَقِيْدَتِهِ فَإِنَّهُ كَانَ يَقُوْلُ بِالتَّجْسِيْمِ عَلَى مَا هُوَ مَنْسُوْبٌ إِلَى ابْنِ حَنْبَل

"ในปีที่ 705  ท่านตะกียุดดีน อิบนุ ตัยมียะฮ์ ได้ถูกเชิญจากดิมัชก์ให้ไปยังอียิปต์  และได้จัดให้มีสถานที่ถกปัญหาศาสนาขึ้นแก่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์  และท่านก็ได้ถูกจับกุม  เพราะท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวยืนยันเรื่องอัลเลาะฮ์มีรูปร่างโดยยึมตามสิ่งที่ถูกแอบอ้างไปยังท่าน(อะห์มัด)บิน ฮัมบัล"  หนังสืออัลมุคตะซ็อร ฟี ตารีค อัลบะชัร

إسماعيل بن عمر بن كثير بن ضوّ القرشي، عماد الدين أبو الفداء البُصْـروي، الدمشقي.  (701 ـ 774 هـ)

إسماعيل بن علي بن محمود بن محمد بن عمر الاَيوبي، الموَرِّخ عماد الدين أبو الفداء الدمشقي، المعروف بالملك المؤيد (672 ـ 732 هـ

[al-azhary]

 salam

ญะซากัลลอฮ์สำหรับคุณเก็ต  ที่ได้ทักท้วงชื่อของผมแต่งหนังสือ อัลมุคตะซ็อร ฟี ตารีค อัลบะชัร  ที่ไม่ใช่ของท่านอะบีฟะดาอฺ อิบนุกะษีร แต่เป็นของอะบิลฟะดาอฺ อัลมะลิก แต่เนื้อหาประวัติยังคงเดิมครับ