ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อมีของงสูญหายเราสามารถ ไปหาหมอที่สามารถดูได้หรือไม่  (อ่าน 16636 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ۞QolbunSaleem۞

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 168
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam
เวลาเลี้ยง ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกับญินหรือเปล่าครับ?

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
salam
เวลาเลี้ยง ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกับญินหรือเปล่าครับ?

หรือจะบอกว่าต้องมีของเส้นไหว้  ฮ่าฮ้า  ;D   อันนี้ต้องไปถามคนเลี้ยงยิน  อย่าปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อฮุกุ่มเหมาคนเลี้ยงยิน  hihi:

اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
salam

ขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮโดยตรง จะปลอดภัยกว่ามั๊ยครับ
ซึ่งหากอัลลอฮรับดุอาอ์อินชาอัลลอฮ ก็คงจะเจอ
แต่หากไม่เจอ ก็คิดซะว่าเป็นบททดสอบจากพระองค์

แล้วเรื่องญินนั้น เราสามารถเลี้ยงได้ด้วยหรือครับ เพื่อจะใช้งานเขา ?
มันเกี่ยวกับไสยศาสตร์หรือเปล่า?
คนมุอ์มิน คนที่มีอีหม่านจริงๆ เขาเลี้ยงญินด้วยหรือครับ เห็นมีบางคนอ้างโตะครูบางคนช่วยหาของได้ด้วย ชาวบ้านก็เลยนับถือ ไม่รู้ว่านับถือตรงที่เขามีอีหม่านมาก หรือนับถือตรงที่เขามีของพิเศษมากกันแน่


ฮุกุ่มการใช้ญิน

وسئل الشيخ محمد بن صالح العثيمين يرحمه الله تعالى ما حكم خدمة الجن للإنس ؟:

ชัยคฺมุฮัมมัด บิน ซอและฮ์ อัลอุษัยมีน์  ยัรฮุมุฮุลลอฮุตาอาลา  ถูกถามเกี่ยวกับฮุกุ่มการใช้ญิน

فأجاب بقوله :

เขาตอบว่า

ذكر شيخ الإسلام ـ رحمه الله ـ في المجلد الحادي عشر من مجموع الفتاوى ما مقتضاه أن استخدام الإنس للجن له ثلاث حالات :

ชัยคุลอิสลาม  อิบนุตัยมียะฮ์  รอฮิมะฮุลลอฮฺ  ได้กล่าวไว้ในเล่มที่ 11 จากหนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ อัลฟะตาวา  ซึ่งมีนัยยะความหมายคือ การที่มนุษย์ได้ทำการใช้ญินนั้น  มี 3 สภาพด้วยกัน

الأولى :

สภาพที่หนึ่ง

أن يستخدمه في طاعة الله كأن يكون نائبا عنه في تبليغ الشرع ، فمثلا إذا كان له صاحب من الجن مؤمن يأخذ عنه العلم فيستخدمه في تبليغ الشرع لنظرائه من الجن ، أوفي المعونة على أمور مطلوبة شرعا فإنه يكون أمرا محمودا أو مطلوبا وهو من الدعوة إلى الله عز وجل . والجن حضروا للنبي ، صلى الله عليه وسلم ، وقرأ عليهم القرآن وولوا إلى قومهم منذرين ، والجن فيهم الصلحاء والعباد والزهاد والعلماء لأن المنذر لا بد أن يكون عالما بما ينذر عابدا.

การที่มนุษย์ใช้ญินเกี่ยวกับการฏออัตต่ออัลเลาะฮ์  เช่นให้ญินเดินเนินการแทนเขาในการเผยแพร่ศาสนา  อาทิเช่น  เมื่อเขามีมิตรสหายเป็ญินที่ผู้มีผู้ศรัทธาได้รับความรู้มาจากเขา  แล้วเขาก็ใช้ญินในการเผยแพร่ศาสนาให้กับมิตรสายทั้งหลายของเขาที่เป็นญิน , หรือให้ช่วยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่ถูกส่งเสริมในศาสนา  แท้จริงแล้วมันย่อมเป็นสิ่งที่ได้รับการสรรเสริญและถูกบัญชาใ  และมันยังเป็นการเรียกร้องไปสู่อัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลล่า  และญินก็ได้หามาท่านนบี (ซ.ล.)  แล้วท่านก็อ่านอัลกุรอานให้แก่พวกเขา  และพวกเขาก็หวนกลับไปยังกลุ่มชนของพวกเขาโดยทำหน้าที่ผู้คอยตักเตือน  ในญินนั้นมีทั้งบรรดาญินดี  ญินที่ทำอิบาดะฮ์  ญินที่มีความสมถะ  และเป็นญินที่มีความรู้  เนื่องจากผู้ที่ทำหน้าที่ตักเตือนนั้นจำเป็นต้องเป็นผู้รู้ต่อสิ่งที่เขาได้นำมาบอกต่อผู้ทำอิบาดะฮ์

الثانية :

สภาพที่สอง

أن يستخدمهم في أمور مباحة فهذا جائز بشرط أن تكون الوسيلة مباحة فإن كانت محرمة فهو محرم مثل أن لا يخدمه الجني إلا أن يشرك بالله كأن يذبح للجني أو يركع له أو يسجد ونحو ذلك .

การที่มนุษย์ใช้ญินในเรื่องต่าง ๆ ที่มุบาฮฺ  ซึ่งดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต  แต่ด้วยเงื่อนไขที่ว่าสื่อที่นำมาใช้ต้องมุบาฮฺด้วย  ดังนั้นหากสื่อที่นำมาใช้เป็นสิ่งที่ฮะรอม  แน่นอนการใช้ญินก็เป็นสิ่งฮะรอม  เช่น  ญินจะไม่รับใช้เขานอกจากเขาต้องกระทำการตั้งภาคีต่ออัลเลาะฮ์  เช่น  เชื่อสัตว์ให้ญิน  หรือก้มรอกั๊วะหรือสุยูดให้แก่ญิน และอื่นๆ

الثالثة :

สภาพที่สาม

أن يستخدمهم في أمور محرمة كنهب أموال الناس وترويعهم وما أشبه ذلك ، فهذا محرم لمافية من العدوان والظلم .ثم إن كانت الوسيلة محرمة أو شركا كان أعظم وأشد .

มนุษย์ใช้ญินในเรื่องที่ฮะรอม  เช่น  ปล้นสดมภ์ทรัพย์สินของผู้คนทั้งหลาย  หรือทำให้ผู้คนหวาดกลัว  และสิ่งที่คล้ายคลึงกับกรณีดังกล่าว  ซึ่งดังกล่าวนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ฮะรอม  เพราะทำให้มีความเป็นศัตรูและอธรรมต่อกัน  จากนั้นหากว่าสื่อ(ในการใช้ญิน)เป็นสิ่งที่ฮะรอมหรือชิริ  การใช้ญินก็ย่อมเป็นบาปใหญ่และรุนแรง

ัวัลลอฮุอะลัม

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3258.0

อ่ะ  งานนี้ท่านอิบนุตัยมียะฮ์และเชคอุษัยมีนมาเอง  คงทำให้โต๊ะครูวะฮาบีสงบปากสงบคำเหมาฮุกุ่มคนใช้ญินชิริกและเป็นกาเฟรได้บ้างซิน่ะ  mycool:
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
อ่านๆ ดูแล้ว คิดว่าอยู่ที่หมอที่หาให้ด้วยว่าเป็นหมอประเภทไหน

เราจะรู้ได้ไงว่าหมอใช้ญินให้ไปถามญินที่บ้านเรา  หรือหมอไม่ชอบหน้าคนที่หมอบอกว่าเอาของไป



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 26, 2008, 04:20 PM โดย Deeneeyah »

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
บางครั้งก้ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอนะ ชาวบ้านจะไปหาโต๊ะอีมาม บาบอปอเนาะ โต๊ะวอลี อะไรพวกนี้
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า หากของหาย ก็สมควรจะมาพิจารณาตัวเองนะครับว่า เราเก็บของไว้ดีแล้วหรือ หากมั่นใจว่าเก็บดีแล้ว ก็สมควรระลึกในใจเสมอว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งนั้นอย่างแท้จริง นั่นแสดงถึงความอ่อนแอของเรา ผู้เป็นสิทธิ์ที่แท้จริงคือ อัลลอฮฺ แต่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แล้วพระองค์ก็ย่อมมีสิทธิ์เอาของพระองค์คืนกลับไป หรือบางครั้งของหายอาจจะทำให้เรานึกถึงความตายได้ หากคิดดีๆ นั่นเป็นสิ่งของที่อยู่กับเรา พระองค์ได้เอาไปแล้ว แล้วเมื่อไรหละจะถึงทีของเรา ที่จะต้องไปบ้าง ไปอย่างไม่มีวันกลับ จงอย่าให้การหายของเป็นสิ่งที่เราต้องมานั่งกังวลใจจนหลงลืมหลายๆ อย่างที่จำเป็นไป จงอย่าให้เพียงการหายของเป็นสิ่งที่เราต้องทำสิ่งที่ชิริก และจงอย่าให้เพียงการหายของทำให้เราต้องมาสาปแช่งมนุษย์ หรือแม้กระทั่งพี่น้องของเราเลย - วัลอิยาฑุบิลลาฮฺ - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ของของเราหาย

ดันไปพึ่งคนอื่น โดยเฉพาะ ไม่ใช่คน

แบบนี้ ไม่เห็นด้วยเลย...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

เรื่องของสูญหายเนี่ย  ตามธรรมเนียมแล้ว  พี่น้องเราก็จะสืบหาและค้นหากันก่อนอย่างสุดความสามารถ  วอนขอดุอาแล้วขออีกทุกวัน ๆ  จนบางครั้งก็ต้องไปพึ่งพาผู้มีวิชาความรู้เพื่อทำการขอดุอาให้ (แต่บางคนเหมาไปว่าโต๊ะครูใช้ญิน...เป็นงั้นไป)  หรือไปรับดุอาที่โต๊ะครูให้มาอ่านเพื่อขอต่ออัลเลาะฮ์  แต่บางทำสุดความสามารถทุกวิถีทางแล้ว  ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตนเองหวัง  ก็คิดไปหาคนที่ใช้ญินซึ่งคนที่ใช้ญินนี้ก็แตกต่างกันไปหากใช้ในทางที่มุบาห์และมีดุอาโดยใช้อัลกุรอานและพระนามของอัลเลาะฮ์ก็ไม่มีปัญหา  ส่วนบางคนใช้ญินแบบอ่านด้วยภาษาอื่นเช่น เขมร  อันนี้ฮะรอมเสี่ยงชิริกและกุฟุรอย่างไม่ต้องสงสัย (แต่วะฮาบีย์ปัจจุบันอคติคนที่ใช้ญินแบบเหมารวมฮุกุ่มชิริกยกเคล้ากล่าวหาว่าไม่ใช่มุอฺมินกันหมดอันนี้ต้องระวังคำพูดหน่อยเพราะอาจจะไปละเมิดคนที่ใช้ญินอย่างถูกต้อง)

แต่เมื่อไปให้คนใช้ญินที่อยู่ในครรลองคลองธรรม  ช่วยเหลือในการหาของมีค่าสำคัญที่สูญหายละก็  ผมขอบอกว่าเขาไม่บอกตรง ๆ หรอกว่าอยู่ที่ใหนเพราะมันผิดธรรมเนียมปฏิบัติ  จะดูเหมือนผู้ที่ยั่งรู้สิ่งเร้นลับทำให้คนหลงเชื่องมงายกันไปอีก (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นผู้รู้สิ่งเร้นลับอะไรหรอกเพราะอัลเลาะฮ์ต่างหากที่ให้เขารู้ด้วยการช่วยเหลือของญิน) นี่คือประเด็นหาของที่หาย  แต่หากหาตัวคนที่โขมยล่ะก็  อันนี้จะใช้ญินมาหาตัวและบอกว่าคนนั้นคนนี้เป็นหัวขโมยย่อมไม่ได้เด็ดขาด  เพราะการใช้ญินสืบนั้นจะนำมาเป็นหลักฐานไม่ได้  ยิ่งกว่านั้นยังเป็นฟิตนะฮ์อีกด้วย แถมได้รับบาปใหญ่เข้ามาอีก  บางคนมีของหายเช่นทอง 6 บาทหายเพราะทราบว่ามีขโมยงัดบ้าน  พอไปให้คนที่ใช้ญินช่วยเหลือ  ผลออกก็คือ  เขาบอกว่าเขารู้ว่าใครขโมยไป  แต่เขาพูดว่า  "เขาบอกเป็นชื่อไม่ได้หรอกว่าขโมยเป็นใคร" นั่นก็เพราะว่ามันจะผิดหลักศาสนา  ฟิตนะฮ์คนอื่นโดยไร้หลักฐาน จะบอกว่าเอาญินช่วย  ตามหลักศาสนาเขาไม่รับหลักฐานยืนยันเช่นนี้มาดำเนินคดี

ดังนั้นผมคิดว่าคนที่ไปหาผู้ที่ใช้ญินช่วยเหลือนั้น  คงเป็นทางสุดท้ายที่พอจะทำได้ตามที่เขาเลือก  เราจะไปฮุกุ่มเขาแบบเหมารวมอันนี้ต้องระวังนิดส์นึง  เพราะปากของเราที่ไปตัดสินแบบเหมารวมจะเปื้อนเหม็นสกปรกเพราะไปฮุกุ่มกล่าวหาผู้ที่มิได้กระทำผิดหลกการอย่างแจ้งชัด  โดยเขามิได้เป็นอย่างที่เราฮุกุ่มตัดสิน  เพราะอย่างน้อยคำฟัตวาของท่านอิบนุตัยมียและเชคอุษัยมีน  ก็พอที่จะมาทอนความอคิตและความเข้าใจของวะฮาบีย์ที่ชอบฮุกุ่มเหมาผู้ที่ใช้ญินได้ไม่มากก็น้อยแหละครับ  และอย่างน้อยก็ทำให้วะฮาบีย์ที่เกลียดคนใช้ญินแยกแยะประเด็นให้ถูกต้องในเรื่องการใช้ญิน 

ที่ผมพูดมานี้  มิได้หมายความว่าสนับสนุนและชอบให้ใช้ญินน่ะ เพราะผมไม่นิยมและไม่สนับสนุนอยู่แล้ว  แถวบ้านผมก็มีคนที่ใช้ญินซึ่งปู่ผมก็ขอร้องห้ามเขาไม่ให้ใช้ญินแล้ว  ซึ่งตอนที่ผมกลับไปเมืองไทยผู้ที่ใช้ญินคนนั้นเจอผม  แล้วพูดกับผมว่า  "แช(คือปู่)เองน่ะห้ามเราไม่ให้ใช้ญิน ทั้งที่เราก็ใช้อายะฮ์อัลกุรอานใช้ดุอาขอต่ออัลเลาะฮ์ในการใช้ญิน"  ซึ่งคนใช้ญินดังกล่าวก็เชื่อปู่ แต่เขาต้องการมาบ่นให้ผมฟัง  ผมก็ยิ้ม ๆ และคน ๆ นี้แหละที่ใช้ญินไม่ผิดหลักการตามที่ผมเล่ายกตัวอย่างมาแล้วข้างต้น  จึงไปฮุกุ่มเขาไม่ได้แต่ห้ามปรามได้ (โดยไม่ต้องไปใช้บันทึกวิดีโอมาเปิดโชว์ให้ดูก็นะซีฮัดคนใช้ญินได้ผลแล้ว) แต่คนที่อยากลองของหรืออยากจะใช้ญิน  หากไม่รู้วิธีการระวังของจะเข้าตัวเสียคนและหัวเสียกันไปได้นะครับ  อันนี้ขอเตือนพี่น้องไว้ก่อน   

สุดท้ายนี้  ผมขอทบทวนยกฟัตวาของท่านอิบนุตัยมียะฮ์และเชคอุษัยมีน มาให้พี่น้องวะฮาบีย์ก่อนกันอีกรอบ  เพราะกระเทาะความอคติออกไปได้บ้างสักครึ่งนึงก็ยังดีครับ

ฮุกุ่มการใช้ญิน

وسئل الشيخ محمد بن صالح العثيمين يرحمه الله تعالى ما حكم خدمة الجن للإنس ؟:

ชัยคฺมุฮัมมัด บิน ซอและฮ์ อัลอุษัยมีน์  ยัรฮุมุฮุลลอฮุตาอาลา  ถูกถามเกี่ยวกับฮุกุ่มการใช้ญิน

فأجاب بقوله :

เขาตอบว่า

ذكر شيخ الإسلام ـ رحمه الله ـ في المجلد الحادي عشر من مجموع الفتاوى ما مقتضاه أن استخدام الإنس للجن له ثلاث حالات :

ชัยคุลอิสลาม  อิบนุตัยมียะฮ์  รอฮิมะฮุลลอฮฺ  ได้กล่าวไว้ในเล่มที่ 11 จากหนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ อัลฟะตาวา  ซึ่งมีนัยยะความหมายคือ การที่มนุษย์ได้ทำการใช้ญินนั้น  มี 3 สภาพด้วยกัน

الأولى :

สภาพที่หนึ่ง

أن يستخدمه في طاعة الله كأن يكون نائبا عنه في تبليغ الشرع ، فمثلا إذا كان له صاحب من الجن مؤمن يأخذ عنه العلم فيستخدمه في تبليغ الشرع لنظرائه من الجن ، أوفي المعونة على أمور مطلوبة شرعا فإنه يكون أمرا محمودا أو مطلوبا وهو من الدعوة إلى الله عز وجل . والجن حضروا للنبي ، صلى الله عليه وسلم ، وقرأ عليهم القرآن وولوا إلى قومهم منذرين ، والجن فيهم الصلحاء والعباد والزهاد والعلماء لأن المنذر لا بد أن يكون عالما بما ينذر عابدا.

การที่มนุษย์ใช้ญินเกี่ยวกับการฏออัตต่ออัลเลาะฮ์  เช่นให้ญินเดินเนินการแทนเขาในการเผยแพร่ศาสนา  อาทิเช่น  เมื่อเขามีมิตรสหายเป็ญินที่ผู้มีผู้ศรัทธาได้รับความรู้มาจากเขา  แล้วเขาก็ใช้ญินในการเผยแพร่ศาสนาให้กับมิตรสายทั้งหลายของเขาที่เป็นญิน , หรือให้ช่วยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่ถูกส่งเสริมในศาสนา  แท้จริงแล้วมันย่อมเป็นสิ่งที่ได้รับการสรรเสริญและถูกบัญชาใช้และมันยังเป็นการเรียกร้องไปสู่อัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลล่า  และญินก็ได้หามาท่านนบี (ซ.ล.)  แล้วท่านก็อ่านอัลกุรอานให้แก่พวกเขา  และพวกเขาก็หวนกลับไปยังกลุ่มชนของพวกเขาโดยทำหน้าที่ผู้คอยตักเตือน  ในญินนั้นมีทั้งบรรดาญินดี  ญินที่ทำอิบาดะฮ์  ญินที่มีความสมถะ  และเป็นญินที่มีความรู้  เนื่องจากผู้ที่ทำหน้าที่ตักเตือนนั้นจำเป็นต้องเป็นผู้รู้ต่อสิ่งที่เขาได้นำมาบอกต่อผู้ทำอิบาดะฮ์

الثانية :

สภาพที่สอง

أن يستخدمهم في أمور مباحة فهذا جائز بشرط أن تكون الوسيلة مباحة فإن كانت محرمة فهو محرم مثل أن لا يخدمه الجني إلا أن يشرك بالله كأن يذبح للجني أو يركع له أو يسجد ونحو ذلك .

การที่มนุษย์ใช้ญินในเรื่องต่าง ๆ ที่มุบาฮฺ  ซึ่งดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต  แต่ด้วยเงื่อนไขที่ว่าสื่อที่นำมาใช้ต้องมุบาฮฺด้วย  ดังนั้นหากสื่อที่นำมาใช้เป็นสิ่งที่ฮะรอม  แน่นอนการใช้ญินก็เป็นสิ่งฮะรอม  เช่น  ญินจะไม่รับใช้เขานอกจากเขาต้องกระทำการตั้งภาคีต่ออัลเลาะฮ์  เช่น  เชื่อสัตว์ให้ญิน  หรือก้มรอกั๊วะหรือสุยูดให้แก่ญิน และอื่นๆ

الثالثة :

สภาพที่สาม

أن يستخدمهم في أمور محرمة كنهب أموال الناس وترويعهم وما أشبه ذلك ، فهذا محرم لمافية من العدوان والظلم .ثم إن كانت الوسيلة محرمة أو شركا كان أعظم وأشد .

มนุษย์ใช้ญินในเรื่องที่ฮะรอม  เช่น  ปล้นสดมภ์ทรัพย์สินของผู้คนทั้งหลาย  หรือทำให้ผู้คนหวาดกลัว  และสิ่งที่คล้ายคลึงกับกรณีดังกล่าว  ซึ่งดังกล่าวนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ฮะรอม  เพราะทำให้มีความเป็นศัตรูและอธรรมต่อกัน  จากนั้นหากว่าสื่อ(ในการใช้ญิน)เป็นสิ่งที่ฮะรอมหรือชิริ  การใช้ญินก็ย่อมเป็นบาปใหญ่และรุนแรง : อ้างอิงจากหนังสือ มัจญ์มั๊วะอฺอัลฟะตาวา วัรร่อซาอิล เล่ม 2 หน้า 239 - 240 ของชัยค์อุษัยมีน เรื่อง الجنّ (อัลญิน)

ัวัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 27, 2008, 12:21 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
มีคนใช้ญิน  ผมว่าก็ต้องมีคนถูกญินใช้บ้างล่ะ
มีคนเลี้ยงญิน  ก็น่าจะมีคนถูกญินเลี้ยงจนเชื่องเหมือนกัน   ;D

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
มีคนใช้ญิน  ผมว่าก็ต้องมีคนถูกญินใช้บ้างล่ะ
มีคนเลี้ยงญิน  ก็น่าจะมีคนถูกญินเลี้ยงจนเชื่องเหมือนกัน   ;D

เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับญิน  มีแต่เสี่ยงลูกเดียว   cool2:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า หากของหาย ก็สมควรจะมาพิจารณาตัวเองนะครับว่า เราเก็บของไว้ดีแล้วหรือ หากมั่นใจว่าเก็บดีแล้ว ก็สมควรระลึกในใจเสมอว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งนั้นอย่างแท้จริง นั่นแสดงถึงความอ่อนแอของเรา ผู้เป็นสิทธิ์ที่แท้จริงคือ อัลลอฮฺ แต่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น


     เห็นด้วยค่ะ

ครั้งหนึ่งเคยมีของที่คิดว่ามีค่าพอสมควรสำหรับเราหายไป

ใจนึงก็เสียดายอีกใจก็คิดว่ามันไม่ใช่ของ ๆ เรา

ในเมื่ออัลลอฮ์ประสงค์จะให้สิ่งนั้นหายไป

ไม่ว่าเราจะเก็บรักษาไว้อย่างดีเท่าไหร่

มันก็ต้องหายอยู่ดี

ก็เลยตาวักกัลอย่างเต็มที่

ถ้าจะได้คืนก็ด้วยประสงค์ของอัลลอฮ์

หากไม่ได้คืนก็ด้วยประสงค์ของอัลลอฮ์

มอบหมายทุกอย่างไว้กับอัลลอฮ์

ไม่นานของสิ่งนั้นก็ได้คืน

อัลฮัมดูลิลลาฮ์

ของที่หายไปอาจเป็นบททดสอบความบริสุทธิ์ใจในการมอบหมายสิ่งต่าง ๆ ไว้กับอัลลอฮ์ก็เป็นได้

วัลลอฮูอะอ์ลาวาอะอ์ลัม

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
เบื่อคนที่แยกไม่ออกระหว่างชิริกกับสิ่งที่เป็นสาเหตุ


สำคัญคืออีหม่านเรายอมจำนนกับอัลลอฮฺ กับอำนาจของพระองค์ ยอมรับว่ามัคลูกไม่มีความสามารถ และดำเนินตามสาเหตุพร้อมกับตะวักกัล
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ตราบใดที่เราลึกซึ้งให้พระนามของอัลเลาะฮ์ที่ว่า الْمَالِكُ "ผู้ทรงครอบครอง" ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อของมีค่าหาย  แล้วจิตใจสำนึกต่ออัลเลาะฮ์เสมอว่า  มันไม่ใช่ของ ๆ เรา  อัลเลาะฮ์มิใช่ให้มันเป็นของ ๆ เรา  ซึ่งเป็นการใช้หลักตะเซาวุฟกลับไปหาอัลเลาะฮ์  ถือว่าสิ่งยอดเยี่ยมหากเขามีอีหม่านเข้มแข็งพอและก็จะไม่ทุกข์ใจเลย  
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
หากของไม่หาย ก็ไม่ได้ของใหม่  มันก็ต้องหายกันบาง
ในของที่เราคิดว่าไม่ดีนั้นมันก็มีสิ่งดีที่เราคิดไม่ถึงอยู่


อย่าลืมคำสอนที่ชัดเจน คือให้เรากล่าว อินนาลิ้ลลาฮิวะอินนาฮิลัยฮิรอญิอูน และ โอ้อัลลออฮฺของพระองค์ได้ทรงโปรดประทานผลบุญให้แก่ฉันในภัยภิบัติ (การสูญเสีย) นี้  และขอพระองค์ได้ทรงให้เกิดขึ้นซึ่งสิ่งที่ดีกว่าในภายหลัง

ที่สำคัญคือต้องซ่อบัรในทันทีที่โดนทดสอบ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 27, 2008, 04:42 PM โดย Deeneeyah »

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ผมว่าคนที่ไปขอช่วยคนที่ใช้ยินหาของที่หายนั้น  คงเป็นสิ่งสูญหายที่มีค่า  ไม่ใช่หายแบบของเล็ก ๆ น้อย ๆ  เท่าที่ผมทราบมามีสองรายที่ต้องไปให้คนใช้ญินหา  คือ แหวนทองหล่นหาย  กับทอง 6 บาท ถูกโขมย  ไปแจ้งตำรวจก็แล้ว  สืบหาคนขโมยก็แล้ว  คิดกันไปบ้างว่าคนนั้นคนนี้  ฟิตนะฮ์เกิดขึ้นอย่างมากเลย  อิมามบอกให้ขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ให้มาก ๆ กล่าวพระนามของอัลเลาะฮ์ว่า الخَالِقُ "อัลคอลิก" (ผู้ทรงสร้าง)  ให้มาก ๆ  เขาก็พยายามทำ  ช่วงหลังได้ข่าวว่าเขาขอให้คนที่สามารถใช้ญินช่วย  ซึ่งคนที่ใช้ญินนี้ก็บริบทด้วยอัลกุรอานและดุอาต่ออัลเลาะฮ์ในการใช้ญินนี่แหละ  ซึ่งเขารู้ว่าใคร  แต่บอกไม่ได้เพราะจะเป็นฟิตนะฮ์เนื่องจากไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้  เขาทำได้แค่นี้

สรุปว่า แหวนทองนั้นเจอ  แต่ทอง 6 บาทที่ทำงานกันมาหลายปีไม่เจอเพราะไม่ได้หล่นหายแต่มีคนขโมยไปจะไปกล่าวหาโดยอ้างว่าใช้ญินก็ไม่ได้  ผมก็เห็นใจที่เขาต้องไปพึงพาให้คนใช้ญินช่วยหา  แต่เมื่อไม่เจอของที่ถูกขโมยไป  นั่นก็ต้องเป็นเรื่องของอัลเลาะฮ์ที่ทรงทดสอบแล้วล่ะ มุสลิมก็สิ้นสุดตรงที่อัลเลาะฮ์นั่นเอง

ที่ผมพูดอย่างนี้  มิใช่ว่าสนับสนุนเรื่องการใช้ญิน  แต่พูดถึงฮุกุ่มว่าทำได้หรือไม่ได้  ซึ่งหาใช้ญินในสิ่งที่มุบาห์หรือในการช่วยเหลือ  ก็อนุญาตให้กระทำได้  นี่พูดกันตามฮุกุ่มแม้จิตใจของเราจะไม่ค่อยจะชอบที่ให้ทำเช่นนี้ก็ตาม  เพราะเรื่องญินนั้นมันเป็นเรื่องที่เร้นลับอย่างหนึ่งที่คนส่วนมากไม่ค่อยได้สัมผัสนอกจากผู้ที่เลือกที่จะไปเกี่ยวข้องกับญินหรือผู้ที่ปราบญินด้วยอัลกุรอาน  บุคคลเช่นนี้ก็จะรู้เรื่องญินเยอะ  ส่วนคนอย่างเรา ๆ รู้ไม่ค่อยเยอะ  จิตใจก็เลยไม่ชอบและตำหนิคนที่ใช้ญิน  ยิ่งกว่านั้นยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องญินเข้าสิงอีกด้วย  หาว่าเป็นเรื่องไร้สาระ 

มีคนที่จบมะดีนะฮ์วะฮาบีของแท้เลย  ได้ภรรยาที่เป็นญาติของผม  ซึ่งวันหนึ่งภรรยาถูกแกล้งจากคนไม่หวังดีโดยให้ญินเข้ามาแกล้งซึ่งมักจะเกิดอาการแปลก ๆ ในบางครั้ง  สามีผู้จบจากมะดีนะฮ์ก็พาไปหาหมอ  พยายามให้ภรรยาดุอาให้มาก ๆ แต่ญาติผู้ใหญ่บอกว่าถูกของ  เขาก็ไม่เชื่อ  แต่เป็นนาน ๆ เข้าหาทางแก้ไม่ได้  ก็เลยต้องยอมทดลองให้ผู้ที่สามารถไล่ญินช่วยจัดการ  ตอนแรกที่ญินออกมานั้น  ภรรยาเขาพูดกลางแท้ ๆ แหลงใต้ไม่เป็น  แต่วันนั้นตอนก่อนที่จะไล่ญินออกไปนั้น  ภรรยาเขาแหลงใต้เฉย  เสียงก็เปลี่ยนไป  ซึ่งเสียงที่พูดใต้นั้นคือญินที่มันสิงอยู่นั่นเอง  ดังนั้นสามีของเขาที่จบจากมะดีนะฮ์ก็ต้องเชื่อในเรื่องญินเข้าสิงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  เพราะเจอมากับตัวเอง  ส่วนญาติอาวุโสที่ไล่ญินนั้น  ก็พูดกับผมว่า  "พวกคณะใหม่เนี่ยมันต้องเจอด้วยกับตัวเองถึงจะเชื่อ"  ไม่งั้นวะฮาบีก็ชอบกล่าวหาคนอื่นไม่สิ้นสุด

วันนั้นญาติอาวุโสที่มีวิชาไล่ญินด้วยอัลกุรอานและพระนามของอัลเลาะฮ์  ก็บอกจะสอนวิชาไล่ญินกับผม  แต่ผมปฏิเสธเพราะไม่อยากยุ่งกับเรื่องญิน  ผมบอกว่าอยากเป็นคนที่มีความรู้เหมือนปู่ของผมก็พอ ไม่อยากเรียนเรื่องปราบญินสักเท่าไหร่  แต่ผมก็อ่านหนังสืออาหรับเกี่ยวกับการใช้อัลกุรอานปราบญินน่ะครับ  วันนั้นผมจึงใช้อายะฮ์อัลกุรอานเกี่ยวกับการ ผูกหรือมัดญินไม่ให้หนีไปใหน(เพื่อต้องการสอบถามหรือสอบสวนญินก่อนเสียว่ามาจากใหน หากเป็นญินกาเฟรก็เรียกร้องให้เข้าอิสลาม  หากเป็นญินมุสลิมก็ให้เตาบะฮ์)  และอายะฮ์ที่ใช้เผาญิน(ที่มันดื้อไม่ยอมออก)  คือผมแค่รู้ทฤษฎีเท่านั้น  ส่วนภาคปฏิบัติผมไม่เคยทำเพราะไม่อยากลอง  แต่แค่ศึกษาให้รู้เท่านั้นว่าอายะฮ์ใหนบ้างที่ใช้ปราบญิน  อย่างน้อยหากเกิดเหตุกับครอบครัวหรือคนที่เรารัก ก็สามารถแก้เฉพาะหน้าได้ก่อนที่จะให้ผู้ที่สันทัดจริง ๆ จัดการ 

ดังนั้นเรื่องญินหรืคนที่ปราบญินหรือคนที่ใช้ญินได้เนี่ย  ผมไม่อคติไปทั้งหมดแต่ต้องทำการแยกแยะ  หากเขาปราบญินหรือใช้ญินในทางที่มุบาห์  ใช้อายะฮ์อัลกุรอานและดุอาต่ออัลเลาะฮ์ในการใช้ญิน  ก็ถือว่าไม่เป็นไร  แต่หากใช้อ่านเป็นภาษาเขมร  ทำยาเสน่ห์  หรืออะไร ๆ ที่ไร้สาระละก็  ผมไม่สนับสนุนและไม่ขอคบค้าสมาคมด้วย  เพราะถือว่าเขาได้กระทำบาปใหญ่  หรือเกือบกุฟุรก็ว่าได้  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

วัลลอฮุอะลัม
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 27, 2008, 08:33 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged