ผู้เขียน หัวข้อ: การให้ความหมาย อิสติวาอฺ ของกลุ่มวะฮาบีย์  (อ่าน 5732 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป

วะฮาบีย์กล่าวว่าอัลเลาะฮ์ นั่ง บนบัลลังก์


อัรรอญิฮีย์ อุลามาอ์ วะฮาบีย์  อธิบายว่า อัลอิสติวาอ์ คือ  "อัลเลาะฮ์นั่งอยู่บนบัลลังก์" ทั้งที่ไม่มีสะลัฟสักคนเดียวที่กล่าวอธิบายและให้ความหมายอย่างนี้!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 21, 2011, 06:31 AM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
0

ในหนังสืออัลกุรอานแปลภาษาไทย  ซึ่งแปลโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ  โดยได้รับมอบหมายให้ทำการแปลจากอุลามาอฺวะฮาบีย์  นาม ศอลิห์ บิน อับดุลอะซีซ บิน มุฮัมมัด อาลิ ชัยค์ (คำว่า อาลิชัยค์  หมายถึง วงศ์วานของชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ) รัฐมนตรีกิจการ  อิสลาม ศาสนสมบัติ และการเผยแพร่ชี้นำ  ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์กษัตริ ฟัฮดฺ(ฟะฮัด)เพื่อการพิมพ์อัลกุรอาน

หนังสืออัลกุรอานแปลไทยดังกล่าว  ได้ให้ความหมายของ “อิสติวาอฺ” ไว้ดังนี้

อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสว่า

إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ
 
“แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกเจ้านั้น คืออัลลอฮฺผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผนดินภายในหกวันแล้วทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์” [อัลอะร็อฟ 54]

อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสเช่นกันว่า

إِنََّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ يُدَبِّرُ الأمْرَ مَا مِنْ شَفِيعٍ إِلا مِنْ بَعْدِ إِذْنِهِ ذَلِكُمُ اللَّهُ رَبُّكُمْ فَاعْبُدُوهُ أَفَلا تَذَكَّرُونَ

“แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าคืออัลลอฮ.ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผนดินในเวลาหกวันแล้วพระองค์ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์ ทรงบริหารกิจการไม่มีผู้ใดให้ความช่วยเหลือใดๆ เว้นแต่ต้องได้รับอนุมัติจากพระองค์นั้นคืออัลลอฮ.พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า พวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อพระองค์เถิด พวกเจ้าไม่ได้ใคร่ครวญดอกหรือ?” [ยูนุส 3]

อนึ่ง อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์  ไม่เคยปฏิเสธ ซีฟัต “อิสติวาอฺ” ของอัลเลาะฮ์เลย  และยังเชื่อว่า  “อัลเลาะฮ์ทรงอิสติวาเหนือบัลลังก์”  แต่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ปฏิเสธวะฮาบีย์ในการให้ความหมาย อิสติวาอฺ ว่า  “สถิต” และ “นั่งประทับ” บนบัลลังก์ ต่างหาก  นี่คือประเด็นแบ่งแยกระหว่างอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์กับวะฮาบียะฮ์

ด้วยเหตุนี้  บรรดาปราชญ์แห่งอุมมะฮ์ผู้เป็นทายาทท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงให้การตำหนิผู้ที่ให้ความหมายว่า  “สถิต” หรือ “นั่งประทับ” ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  และซ้ำร้ายมันยังเป็นการให้ความหมายของพวกอัลมุญัสสิมะฮ์ ,พวกอัลกัรรอมียะฮ์ , อัลกัลบีย์ ,และมุกอติล , วัลอิยาซูบิลลาฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
0

ส่วนหนึ่งที่กลุ่มวะฮาบีย์อ้างคำอธิบายความหมายอิสติวาอฺโดยอ้างอิงการอธิบายที่ว่า

ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ : قَالَ الْكَلْبِي وَمُقَاتِل: اِسْتَقَرَّ

"การอิสติวาอฺบนบัลลังก์นั้น  อัลกัลบีย์และมะกอฏิลกล่าวว่า  หมายถึง  ทรงสถิตอยู่"
 
คำกล่าวของ อัลกะละบีย์และมุกอติล นี้แหละครับ ที่วะฮาบีย์ทั้งหลายเขายึดเอามาเป็นบรรทัดฐานในเรื่องของอะกีดะ ฮ์ เกี่ยวกับ อัลอิสติวาอ์ เพราะวะฮาบีย์จะแปลเกี่ยวกับอายะฮ์ อัลอิสติวาอ์นี้  บางทีแปลว่า "ประทับ(นั่ง)" (جَلَسَ) หรือแปลว่า "สถิต"  (اِسْتَقَرَّ) เท่านั้น และกลุ่มวะฮาบีย์ก็เลือกแปลแบบนี้  ซึ่งเมื่อตรวจสอบไปยังต้นขั่วเดิมก็เป็นคำกล่าวที่ให้ความหมายโดย  อัลกัลบีย์ และ มุกอติล

ท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์กล่าวเล่าถึงทัศนะการให้ความหมาย “สถิต) ว่า

فَأَمَّا مَا أَخْبَرَنَا أَبُوْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ مُحَمَّدُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ مَحْبُوْرٍ الدَّهَّانُ ، أَنَا الْحُسَيْنُ بْنُ مُحَمَّدُ بْنُ هَارُوْنَ ، أَنَا أَحْمَدُ بْنُ مُحَمَّدِ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ نُصْرٍ اَللَّبَّادُ ، ثَنَا يُوْسُفُ بْنُ بِلاَلٍ ، عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ مَرْوَانَ عَنِ الْكَلْبِيِّ ، عَنْ أَبِيْ صَالِحٍ ، عَنْ اِبْنِ عَبَّاسٍ ، رَضِيَ اللهُ عَنْهُمَا فِيْ قَوْلِهِ : (ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ) يَقُوْلُ : اِسْتَقَرَّ عَلَى الْعَرْشِ
 
“สำหรับสิ่งที่ได้บอกเล่าแก่เรา โดย อะบู อับดุรเราะห์มาน มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะห์ บิน มุฮัมมัด บิน มะห์บูร อัดดะฮ์ฮาน,  ฉันคืออัลหุซัยน์ บิน มุฮัมมัด บิน ฮารูณ, ฉันคืออะห์มัด บิน มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด บิน นัศร์ อัลลับบาด, ได้เล่าแก่เราโดย ยูซุฟ บิน บิล้าล, จากมุฮัมมัด บิน มัรวาน รายงานจากอัลกัลบีย์, จากอะบีศอลิห์, จากท่านอิบนุ อับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา, เกี่ยวกับคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า  “หลังจากนั้นพระองค์ทรงอิสติวาอฺเหนือบัลลังก์” (อะร็อฟ 54) ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า “ทรงสถิตบนบัลลังก์” อัลอัสมาอ์ วะ อัสซิฟาต ของท่าน อัล-บัยฮะกีย์ หน้าที่ 383

และท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ได้ตัดสินสายรายงานดังกล่าวนี้ว่า

فَهَذِهِ الرِّوَايَةُ مُنْكَرَةٌ

“ดังนั้นสายรายงานนี้  ถือว่ามุงกัร” อัลอัสมาอ์ วะ อัสซิฟาต ของท่าน อัล-บัยฮะกีย์ หน้าที่ 383

ต่อมาท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ได้พิจารณาถึงสถานะภาพของ  อะบีศอลิห์, อัลกัลบีย์, และ อัลมุกติล ดังนี้ 

1. อบูซอลิหฺ , อัล-กัลบีย์ , และมุฮัมมัด บิน มัรวาน

ท่านอัล-บัยฮะกีย์ ได้กล่าววิจารณ์และถ่ายทอดคำวิจารณ์ของบรรดานักหะดิษว่า

وَأَبُوْ صَالِحٍ هَذَا وَالْكَلْبِيُّ وَمُحَمَّدُ بْنُ مَرْوَانَ كُلُّهُمْ مَتْرُوْكٌ عِنْدَ أَهْلِ الْعِلْمِ بِالْحَدِيْثِ ، لاَ يُحْتَجُّوْنَ بِشَيْءٍ مِنْ رِوَايَاتِهِمْ لِكَثْرَةِ الْمَنَاكِيْرِ فِيْهَا ، وَظُهُوْرِ الْكَذْبِ مِنْهُمْ فِيْ رِوَايَاتِهِمْ

“อบูซอลิหฺ , อัล-กัลบีย์ , และมุฮัมมัด บิน มัรวาน  ซึ่งพวกเขาทั้งหมดนี้  ถูกทิ้ง ตามทัศนะของอุลามาอ์หะดิษ ซึ่งบรรดานักฮะดิษจะไม่นำมาอ้างหลักฐานด้วยกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย จากบรรดาสายรายงานของพวกเขา  เนื่องจากมีสิ่งที่ขัดกับหลักการอย่างมาก และปรากฏความเท็จในบรรดาสายรายงานของพวกเขา” ดู อัลอัสมาอ์ วะ อัสซิฟาต ของท่าน อัล-บัยฮะกีย์ หน้าที่ 384

ท่านอัลบัยฮะกีย์ต่อว่า

وَأَخْبَرَنَا أَبُوْ عَبْدِ اللهِ اَلْحَافِظُ ، أَنَا أَبُوْ بَكْرٍ اَلْحَفِيْدُ ، ثَنَا هَارُوْنُ بْنُ عَبْدِ الصَّمَدِ ، ثَنَا عَلِيُّ بْنُ الْمَدِيْنِيِّ ، قَالَ : سَمِعْتُ يَحْيَى بْنَ سَعِيْدٍ الْقَطَّانَ ، يُحَدِّثُ عَنْ سُفْيَانَ ، قَالَ : قَالَ الْكَلْبِيُّ : قَالَ لِيْ أَبُوْ صَالِحٍ : كُلُّ مَا حَدَّثْتُكَ كَذْبٌ

“ท่านอลี บิน อัลมะดีนีย์ กล่าวว่า ฉันได้ยิน ยะหฺยา บิน สะอีด อัลก็อฏฏอน ได้เล่า จากท่านซุฟยาน  ซึ่งท่านซุฟยานกล่าวว่า อัลกัลบีย์ กล่าวว่า "อบู ซอลิหฺ กล่าวกับฉันว่า ทุกสิ่งที่ฉันได้รายงานเล่ากับท่านนั้น เป็นการโกหก” เล่มเดียวกัน หน้าที่ 380

ท่านอัลบัยฮะกีย์เช่นกันว่า

وَأَخْبَرَنَا أَبُوْ أَحْمَدَ ، ثَنَا الْجُنَيْدِيُّ ، ثَنَا الْبُخَارِيُّ قَالَ : مُحَمَّدُ بْنُ السَّائِبِ أَبُوْ النَّضْرِ الْكَلْبِيُّ الْكُوْفِيُّ تَرَكَهُ يَحْيَى بْنُ سَعِيْدٍ وَعَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ مَهْدِيٍّ

“... อัล-กัลบีย์ นั้น ท่านยะหฺยา บิน สะอีด และ ท่านอับดุรเราะฮ์มาน บิน มะฮ์ดี ได้ทิ้ง(การรายงาน) กับเขา” เล่มเดียวกัน หน้าที่ 380
และท่านอัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า  “อัลกัลป์บีย์นั้น ฎออีฟ” ดู  ตัฟซีร อัล-กุรฏุบีย์ เล่ม 1 หน้า 271

2. มุกอติล บิน สุลัยมาน

มุกอติล ท่านนี้ ฏออีฟ อย่างมาก และเป็นพวกมุชับบิฮะฮ์ (กลุ่มที่พรรณาอัลเลาะฮ์คล้ายคลึงกับมัคโลค)

ท่านอะบุลอับบาส อิบนุ อัลค่อลิกาน  กล่าวว่า

وَقَالَ أَحْمَدُ بْنُ حَنْبَلٍ: مُقَاتِلُ بْنُ سُلَيْمَانَ صَاحِبُ التَّفْسِيْرِ مَا يُعْجِبُنْيْ أَنْ أَرْوِيَ عَنْهُ

“ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า  มุกอติล บิน สุไลมาน  ที่เป็นนักตัฟซีรนั้น  ไม่มีสิ่งใดทำให้ฉันประทับใจที่ฉันจะรายงาน(สิ่งใด)จากเขาเลย” หนังสือวะฟะยาตุลอะอฺยาน เล่ม 5 หน้า 256

ท่านอะบุลอับบาส อิบนุ อัลค่อลิกาน  กล่าวว่า

وَقَالَ أَبُوْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ النَّسَائِيُّ: اِلْكَذَّابُوْنَ الْمَعْرُوْفُوْنَ بِوَضْعِ الْحَدِيْثِ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّمَ أَرْبَعَةٌ: اِبْنُ يَحْيَى بِالْمَدِيْنَةِ، وَالْوَاقِدِيُّ بِبَغْدَادَ، وَمُقَاتِلُ بْنُ سُلَيْمَانَ بِخُرَاسَانَ، وَمُحَمَّدُ بْنُ سَعِيْدٍ

“ท่านอะบูอับดิรเราะห์มาน อันนะซาอีย์  ได้กล่าวว่า  บรรดาจอมโกหกที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าชอบกุฮะดีษแก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  มีอยู่ 4 คน  คือ: อิบนุ ยะห์ยา  ณ  อัลมะดีนะฮ์,  อัลวะกีดีย์ ณ บัฆดาด, มุกอติล บิน สุไลมาน ณ คุรอซาน, และมุฮัมมัด บิน ยะห์ยา ณ เมืองชาม” หนังสือวะฟะยาตุลอะอฺยาน เล่ม 5 หน้า 256

ท่านอัลค่อฏีบ อัลบุฆดาดีย์  ได้รายงานถึงท่านอะห์มัด บิน ยาซาร  ความว่า  "มุกอติลนั้นฮะดิษเขาถูกทิ้ง  โดยเขาได้พูดเกี่ยวกับบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์ด้วยกับสิ่งที่ไม่อนุญาตให้รายงานจากเขา" หนังสือตารีคบุฆดาด 13/162

ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮิบบาน กล่าวว่า

 كَانَ يَأْخُذُ عَنِ الْيَهُوْدِ وَالنَّصَارَى عَلْمَ الْقُرْآنِ الَّذِىْ يُوَافِقُ كُتُبَهُمْ وَكَانَ مُشَبِّهاً يُشَبِّهُ الرَّبَّ بِالْمَخْلُوْقِيْنَ وَكَانَ يُكَذِّبُ مَعَ ذَلِكَ فِي الْحَدِيْثِ

"มุกอติลได้รับเอามาจากพวกยาฮูดีและนะซอรอเกี่ยวกับวิชาอัลกุรอานเพื่อให้สอดคล้องกับพวกเขา และมุกอติลเป็นพวกมุชับบิฮะฮ์ที่พรรณาความคล้ายคลึงระหว่างอัลเลาะฮ์กับมัคโลคและพร้อมกับสิ่งดังกล่าว  เขายังโกหกเกี่ยวกับฮะดิษ" ดู หนังสืออัลมัจญฺรูฮีน 2/15 , หนังสืออัฏฏุอะฟาอฺ ของท่านอิบนุเญาซีย์ 1/136

ท่านสุไลมาน บิน ค่อลัฟ อัลบาญีย์กล่าวว่า

مَا يَرْوِيْهِ مُقَاتِلُ بْنُ سُلَيْمَانَ الْخُرَاسَانِيُّ الْبَلْخِيُّ الْمُفَسِّرُ فَإِنَّهُ كَذَّابٌ كَانَ يَسْأَلُ أَهْلَ الْكِتَابِ مِنَ الْيَهُوْدِ وَالنَّصَارَى وَيُفَسِّرُ بِذَلِكَ الْقُرْآنَ وَهُوَ مِشْهُوْرٌ بِالْكَذْبِ

“สิ่งได้มุกอติล บิน สุไลมาน อัลคุรอซานีย์ อัลบัลคีย์ นักตัฟซีรนั้น  เขาเป็นจอมโกหก  เขาได้ทำการถามพวกอะฮ์ลุลกิตาบจากยะฮูดีและนะซอรอ  และทำการตัฟซีรอัลกุรอานด้วยการถามดังกล่าว และเขานั้นเป็นที่เลื่องลือถึงความโกหก” หนังสืออัตตะดีล วัตตัจญ์รีห์ เล่ม 1 หน้า 271

ท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์กล่าวว่า

وَسُئِلَ وَكَيْعٌ عَنْ تَفْسِيْرِ مُقَاتِلٍ، فَقَالَ: لاَ تَنْظُرُوْا فِيْهِ، فَقَالَ: مَا أَصْنَعُ بِهِ؟ قَالَ: اِدْفِنْهُ، يَعْنِى التَّفْسِيْرَ. وَقَالَ وَكِيْعٌ أَيْضًا: كَانَ مُقَاتِلُ بْنُ سُلَيْمَانَ كَذَّابًا

“ท่านวะเกี๊ยะอฺ ได้ถูกถามถึง ตัฟซีรของ มุกอติล  ท่านวะเกี๊ยะอฺกล่าวว่า  “พวกท่านอย่าไปดูในหนังสือตัฟซีรของมุกอติล”  ผู้ถามกล่าวว่า  “แล้วจะให้จัดการมันอย่างไ?”  ท่านวะเกี๊ยะอฺตอบว่า  “ท่านจงฝังตัฟซีรของเขาเถิด”  และท่านวะเกี๊ยะอฺกล่าวเช่นกันว่า  “มุกอติล บิน สุไลมาน นั้น เป็นจอมโกหก” หนังสือตะฮ์ซีบ อัลอัสมาอฺ เล่ม 2 หน้า 140

เมื่อผู้ที่รายงานและผู้ที่กล่าวว่า อัลอิสติวาอ์ มีความหมายว่า "สถิต" นั้น เป็นบุคคลที่อุลามาอ์ไม่ให้ความเชื่อถือ พูดไม่สัจจะ  และยังเอาหลักความเชื่อของยะฮูดีเข้ามาอธิอบายอัลกุรอานอีกด้วย  ดังนั้นการแปลความหมายอิสติวาอฺของวะฮาบีย์ที่ว่า “สถิต” นั้น  จึงเป็นการแปลตามหลักอะกีดะฮ์ของกลุ่มอะกีดะฮ์บิดอะฮ์

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged