วะฮาบีย์กล่าวว่า:
ส่วนหนึ่งของตัวอย่างการยึดมั่นของมุอฺตะซิละฮฺที่มีอิทธิพลอย่างชัดเจนต่ออะกีดะฮฺอะชาอิเราะฮฺกุลลาบิยะฮฺจนกระทั่งเวลาปัจจุบันคือ การตีความอายะฮฺ
اَلرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
“พระผู้อภิบาลผู้ทรงเมตตาทรงอยู่สูงเหนืออะรัช” (ฏอฮา/5)
โดยอะชาอิเราะฮฺได้ให้ความหมายของอายะฮฺนี้ว่า “อิสเตาลา” หมายถึง “ครอบครอง” ซึ่งความหมายเช่นนี้เป็นการยึดมั่นของมุอฺตะซิละฮฺ (มะกอลาตอัลอิสลามิยีน หน้า 157, 211, อัลอิบานะฮฺ หน้า 120) ที่ค้านกับการให้ความหมายของอะฮฺลุสสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ (ที่ให้ความหมายว่า “อะลา วัรตะฟะอา หมายถึง อยู่สูงเหนือ)
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์:
การตีความว่า "ปกครอง" ระหว่างมั๊วะตะซิละฮ์กับอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น มีความแตกต่างกัน ซึ่งผมจะนำเสนอต่อไป
ส่วนประเด็นที่เขาบอกว่า "ที่ค้านกับการให้ความหมายของอะฮฺลุสสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ (ที่ให้ความหมายว่า “อะลา วัรตะฟะอา หมายถึง อยู่สูงเหนือ)" ผมขอชี้แจงดังกล่าวนี้ครับ
คำว่า "อฺะลา" عَلا "พระองค์ทรงสูง"นั้น
1. อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์มีทัศนะว่า >------> อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่ง
2. วะฮาบีย์มีทัศนะว่า >------------------------------> อัลเลาะฮ์ทรงอยู่สถานที่สูง และยิ่งกว่านั้น วะฮาบีย์จะให้ความหมายถึงการ "นั่ง" และ “สถิต” ตามหลักการตีความของ พวกอัลกัรรอมียะฮ์ , อัลกัลบีย์ , และมุกอติลผู้อยู่แนวทางบิดอะฮ์ตามที่ปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ได้กล่าวไว้
อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม
1. แนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งในเชิงนามธรรมและทรงมีคุณลักษณะที่สูงส่งเหนือบัลลังก์(อะรัช)
ท่านชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์กล่าวว่า
وَلَا يَلْزَمُ مِنْ كَوْنِ جِهَتَىِ الْعُلُوِّ وَالسُّفْلِ مُحَالاً عَلىَ اللهِ أَنْ لاَ يُوْصَفُ بِالْعُلُوِّ ، لِأَنَّ وَصْفُهُ بِالْعُلُوَّ مِنْ جِهَةِ الْمَعْنَى ، وَالْمُسْتَحِيْلُ كَوْنُ ذَلِكَ مِنْ جِهَةِ الْحِسِّ وَلِذَلِكَ وَرَدَ فِىْ صِفَتِهِ الْعَالِى وَالعَلِىُّ وَالْمُتَعَالِى ، وَلَمْ يَرِدْ ضِدُّ ذَلِكَ ,إِنْ كَانَ قَدْ أَحَاطَ بِكُلِّ شَىْءٍ عِلْماُ جَلَّ وَعَزَّ
ความว่า “การที่มีสองทิศบน(คือมีสถานที่อยู่ทิศบน)และทิศล่างเป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้(มุสตะฮีล)สำหรับอัลเลาะฮ์นั้น ก็ไม่จำเป็นที่พระองค์จะไม่มีคุณลักษณะที่สูงส่ง เพราะลักษณะความสูงส่งของพระองค์นั้น มาจากด้านของนามธรรม(คือสูงส่งมิใช่รูปธรรมที่อยู่ในความหมายว่าพระองค์มีสถานที่สถิต) และเป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ กับ(การมีคุณลักษณะสูงส่ง)ดังกล่าวนั้นมาจากด้าน(ความหมาย)ที่เป็นรูปธรรมสัมผัสได้(คือมีสถานที่อยู่แบบสูงๆขึ้นไป) และด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ได้มีระบุว่าพระองค์มีคุณลักษณะ “อัลอาลีย์” “อัลอะลีย์” และ “อัลมุตะอาลีย์” (ทั้งสามเป็นพระนามของอัลเลาะฮ์ซึ่งหมายถึงพระองค์ทรงสูงส่งยิ่ง) และไม่มีระบุตรงกันข้ามกับสิ่งดังกล่าวเลย(คือไม่มีระบุว่าพระองค์ไม่ทรงสูงส่งเลย) และหากแม้ว่าพระองค์ทรงห้อมล้อมทุก ๆ สิ่งด้วยความรอบรู้ของพระองค์สักทีก็ตาม” ฟัตหฺอัลบารีย์: 6/136
2. วะฮาบีย์เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่สูงในเชิงรูปธรรม หมายถึง อัลเลาะฮ์ทรงอยู่ในสถานที่ที่สูงยิ่งกว่านั้น
ส่วนความหมายคำว่า “อิรตะฟะอ้า” إِرْتَفَعَ นั้น
1. อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ให้ความหมายว่า >------> คือบัญชาของพระองค์ได้ขึ้นไปสู่ฟากฟ้าหรือขึ้นการปกครองบริหารตามที่ท่านอิบนุญะรีรอัฏเฏาะบะรีย์ได้ให้น้ำหนักไว้
2. วะฮาบีย์ให้ความหมายว่า >------------------------------> คืออัลเลาะฮ์ได้ขึ้นไปสู่สถานที่ที่พระองค์ทรงนั่นประทับสถิตอยู่ด้วยซาตของพระองค์
ท่านอัลบัยฮะกีย์ นักปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์ กล่าวว่า
وَمُرَادُهُ بِذَلِكَ وَاللهُ أَعْلَمُ إِرْتِفَاعُ أَمْرِهِ
“จุดมุ่งหมายของท่านอบีอาลียะฮ์ ด้วยกับสิ่งดังกล่าว(คืออิรตะฟะอ้า) - วัลลอฮุอะลัม – คือบัญชาของพระองค์ได้ขึ้นไป(มิใช่ว่าอัลเลาะฮ์ทรงมุ่งลงมาจากฟากฟ้าแล้วขึ้นไป)” ดู หนังสืออัลอัสมาอฺวะอัศศิฟาต หน้า 383
ท่านอิมามอัลกุรตุบีย์กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
وَقَدْ حَكىَ الطَّبَرِيُّ عَنْ قَوْمٍ أَنَّهُمْ قَالُوْا: هُوَ الْعَلِيُّ عَنْ خَلْقِهِ بِإِرْتِفاَعِ مَكَانِهِ عَنْ أَمَاكِنِ خَلْقِهِ . قَالَ ابْنُ عَطِيَّة : هَذَا قَوْلُ جَهَلَةِ الْمُجَسِّمِيْنَ وَكَانَ الْوَجْهُ أَلاَ يُحْكَى
"ท่านอัฏเฏาะบะรีย์ได้รายงานเล่าถึงชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพวกเขากล่าวว่า อัลเลาะฮ์ทรงสูงห่างไกลจากมัคโลคด้วยการที่พระองค์ทรงสูงขึ้นไปด้วยการมีสถานที่ที่มิใช่บรรดาสถานที่อยู่ของบรรดามัคโลค ท่านอิบนุอะฏียะฮ์กล่าวว่า นี้คือทัศนะคำกล่าวของพวกมุญัสสิมะอ์(พวกพรรณาอัลเลาะฮ์เป็นรูปร่าง)ผู้โง่เขลา และทางที่ดีนั้นไม่ควรเล่ารายงาน" ตัฟซีร อัลญาเมี๊ยะอฺ ลิอะห์กามุลกุรอาน 3/278
ดังนั้น พี่น้องคงเห็นถึงความแตกต่างและการให้ความหมายอันเหมาะสมยิ่งสำหรับความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ตาอาลาแล้วนะครับว่า แนวทางใหน?