salam
ท่านอิบนุมาญะฮ์ ได้กล่าวรายงานว่า
حَدَّثَنَا الْحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ الْخَلاَّلُ، حَدَّثَنَا الْحَسَنُ بْنُ مُوسَى، حَدَّثَنَا سَعِيدُ بْنُ زَيْدٍ، حَدَّثَنَا عَمْرُو بْنُ دِينَارٍ، قَهْرَمَانُ آلِ الزُّبَيْرِ قَالَ سَمِعْتُ سَالِمَ بْنَ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُمَرَ، قَالَ سَمِعْتُ أَبِي يَقُولُ، سَمِعْتُ عُمَرَ بْنَ الْخَطَّابِ، يَقُولُ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ـ صلى الله عليه وسلم ـ كُلُوا جَمِيعًا وَلاَ تَفَرَّقُوا فَإِنَّ الْبَرَكَةَ مَعَ الْجَمَاعَةِ
ได้เล่าให้เราทราบโดย อัลฮะซัน บิน อะลี อัลค็อลล้าล , ได้เล่าให้เราทราบโดยอัลฮะซัน บิน มูซา , ได้เล่าให้เราทราบโดยสะอีด บิน ซัยด์ , ได้เล่าให้เราทราบโดยอัมร์ บิน ดีนาร เกาะฮ์ร่อมาน อาลิอัซซุบัยร์ เขาได้กล่าวว่า ฉันได้ยินซาลิม บิน อับดิลลาฮ์ บุตร ท่านอิบนุอุมัร ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินบิดาของฉัน(คือท่านอิบนุอุมัร)กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอุมัร อิบนุ ค็อฏฏ็อบ กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "พวกท่านจงรับประทานพร้อมกันทั้งหมดและอย่าแยกรับประทาน เพราะแท้จริงความสิริมงคลนั้นจะอยู่พร้อมกับการเป็นกลุ่ม" ฮะดิษลำดับที่ (3278) ฮะดิษนี้ฏออีฟ
ฮะดิษนี้ฏออีฟ เพราะมีนักรายงานที่ชื่อ : อัมร์ บิน ดีนาร เกาะฮ์ร่อมาน อาลิอัซซุบัยร์ ซึ่งท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร กล่าวว่า "เขานั้นฏออีฟ" หนังสือตักรีบอัตตะฮ์ซีบ หน้า 376 นักรายงานลำดับที่ 5025
ผมขอกล่าวว่า : การรับประทานอาหารเป็นกลุ่มในถาดเดียวกันก็คือซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมทั้งมีความสิริมงคง
ท่านอะบูดาวูด รายงานจากท่านญาบิร ความว่า
أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَخَذَ بِيَدِ مَجْذُومٍ فَوَضَعَهَا مَعَهُ فِي الْقَصْعَةِ وَقَالَ كُلْ ثِقَةً بِاللَّهِ وَتَوَكُّلًا عَلَيْهِ
"แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้จับมือผู้เป็นโรคเรื้อน แล้วจับวางมือนั้นพร้อมกับท่านนบีในถาดหนึ่ง และกล่าวว่า ท่านจงรับประทานโดยไว้วางใจต่ออัลเลาะฮ์และมอบหมายต่อพระองค์เถิด" (3424) ฮะดิษซอฮิหฺ
ฮะดิษนี้ชี้ให้เห็นว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีความนอบน้อมถ่อมตนในการร่วมรับประทานอาหารถาดเดียวกันกับผู้ที่ถูกบะลาและชี้ให้เห็นว่าการรับประทานพร้อมกับผู้ที่ได้รับบะลาในถาดเดียวกันนั้นเป็นที่อนุญาต แล้วบุคคลที่ปกติย่อมอนุญาตและเป็นซุนนะฮ์ยิ่งกว่า
ท่านอิมามอะห์มัด ได้รายงานจากท่านอิบนุอับบาสความว่า
عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ كُلُوا فِي الْقَصْعَةِ مِنْ جَوَانِبِهَا وَلَا تَأْكُلُوا مِنْ وَسَطِهَا فَإِنَّ الْبَرَكَةَ تَنْزِلُ فِي وَسَطِهَا
จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวว่า พวกท่านจงรับประทานในถาดหนึ่งจากบรรดาด้านข้างของมัน และพวกท่านอย่ารับประทานจากตรงกลางของมัน เพราะความสิริมงคลจะลงมาตรงกลางถาด" (2313) ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์กล่าวว่า "ฮะดิษนี้ฮะซัน" ไว้ในหนังสืออัลญาเมี๊ยะอัศศ่อฆีรของท่านในฮะดิษที่ (6399)
ท่านอัตติรมีซีย์ ได้กล่าวรายงานว่า
عَنْ عَائِشَةَ ، قَالَتْ : كَانَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم يَأْكُلُ الطَّعَامَ فِي سِتَّةٍ مِنْ أَصْحَابِهِ ، فَجَاءَ أَعْرَابِيٌّ ، فَأَكَلَهُ بِلُقْمَتَيْنِ ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم : لَوْ سَمَّى لَكَفَاكُمْ
จากท่านหญิงอาอิชะอ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ท่านนางได้กล่าวว่า "ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม รับประทานอาหารกับซอฮาบะฮ์ 6 คน ดังนั้นมีชายชนบทคนหนึ่งได้มา แล้วร่วมรับประทานอาหาร 2 คำ (แบบมากๆ) ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า หากเขากล่าวบิสมิลลาฮ์ แน่นอน อาหารก็จะเพียงพอแก่พวกท่าน" (1781) ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า ฮะดิษฮะซันซอฮิห์
วัลลอฮุอะลัม