بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
การบนบาน (นะซัร) ว่าจะทำอุดฮียะห์(กุรบาน) เช่นกล่าวว่า : ข้าพเจ้าทำอุดฮียะห์เพื่ออัลเลาะห์ก็จะกลายเป็นวาญิบเหนือเขา เช่นเดียวกับการบนบาน (นะซัร) ในอิบาดะห์อื่น ๆ
ดังนั้น ถ้าหากอุดฮียะห์นั้นเป็นวาญิบ : โดยการบนบาน (นะซัร) ไว้ หรือโดยการระบุแน่นอนว่าสัตว์ดังนี้จะทำอุดฮียะห์ดังได้อธิบายมาแล้ว จะไม่อนุญาตให้ผู้ทำอุดฮียะห์ และคนใดในครอบครัวของเขาที่เขาจำเป็นต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ รับประทานอุดฮียะห์นั้น ถ้าหากผู้ใดรับประทานส่วนหนึ่งของอุดฮียะห์ ก็จะต้องถูกปรับเท่ากับที่รับประทานไปหรือถูกปรับเป็นราคา
ส่วนกรณีที่ใส่เพิ่ม เนื้ออื่นปรุงเข้าไปด้วยนั้น ก็อนุญาตให้รับประทานได้ ท่านอิมามอัลบาญูรีย์กล่าวว่า "การที่เขาได้ปรุงโดยนำเนื้ออื่นเพิ่มเข้ามาสมทบกับเนื้ออุดฮียะห์ที่วายิบ ก็อนุญาตให้เขารับประทานจากมันได้เพราะมันมีเนื้ออื่นที่ไม่ใช่เนื้ออุดฮียะห์วายิบเพิ่มเข้ามา แต่พร้อมกับมักโระห์สำหรับเขา" ฮาชียะห์อัลบาญูรีย์ 2/310
ฉะนั้น ถ้าหากผู้บาบานทำกุรบาน ได้ทำการเชือดสัตว์กุรบานดังกล่าว ก็จำเป็นต้องนำเนื้อไปบริจาคให้หมดนะครับ แต่ถ้าหากนำเนื้อส่วนหนึ่งมาปรุงเป็นอาหารก็ห้ามรับประทานเนื้อนั้น แต่ถ้าหากเจ้าของกุรบานต้องการรับประทานด้วย ก็ทำอย่างนี้ครับ ให้แบ่งตักน้ำแกงออกมาแล้วซื้อเนื้ออื่นที่ไม่ใช่กุรบานนำมาปรุงแล้วร่วมรับประทานกับพี่น้องมุสลิมทั่วไป หรือซื้อเนื้ออื่นที่ไม่ใช่กุรบานบนบานมาปนเพิ่มเข้ามาก็อนุญาตให้กระทำได้แต่มักโระฮ์ไม่บังควรกระทำครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ