ผู้เขียน หัวข้อ: จะให้คนใกล้ตายที่ไม่ใช่มุสลิม กล่าวกาลีมะห์ได้หรือไม่  (อ่าน 3501 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Browny

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 47
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

 salam

1. อยากทราบว่าเราจะให้คนที่ใกล้จะเสียชีวิต ที่เป็นกาเฟรกล่าวกาลีมะห์ชาฮาดะห์ เพื่อที่เค้าจะได้ตายในสภาพของมุสลิม ได้หรือไม่ค่ะ

2. กรณีที่กล่าวได้ ในส่วนขอมัยยัตจะจัดการอย่างไร หากว่าญาติพี่น้องซึ่งเป็นกาเฟร ไม่ยินยอมให้นำมัยยัตนั้นไปละหมาดและฝังได้

รบกวนไขข้อข้องใจให้ด้วยนะค่ะ ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ loveit:

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

เป็นการดียิ่งในการสอนสองกะลิมะฮ์ชะฮาดะฮ์แก่คนกาเฟรที่ใกล้เสียชีวิต  เพราะการเข้ารับอิสลามของผู้ใกล้ตายนั้น  ถือว่าใช้ได้ครับ

ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์  ได้รายงานว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่อาของท่านในขณะใกล้เสียชีวิตว่า  "ท่านจงกล่าวเถิดว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ" ฉันจะเป็นประจักษ์พยายแก่ท่านด้วยถ้อยคำนี้ในวันกิยามะฮ์  แต่อาของท่านปฏิเสธ  ดังนั้นอัลเลาะฮ์จึงประทานโองการลงมาความว่า "แท้จริงเจ้า (โอ้มุฮำมัด) เจ้าไม่อาจชี้นำแก่ผู้ที่เจ้ารัก (ให้สำฤทธิ์ผลได้หรอก)..." รายงานโดยมุสลิม(25) และบุคอรีย์(3884)
   
ท่านอัชชัยค์ มุฮัมมัด อัลคิฎรีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือประวัติท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ความว่า "หลังจากท่านหญิงค่อดิญะฮ์เสียชีวิตได้หนึ่งเดือน  อาของท่านนบี  คืออะบูฎอลิบ  ได้เสียชีวิต  ซึ่งท่านอะบูฏอลิบเคยเป็นผู้ปกป้องท่านนบีจากการทำร้ายของบรรดาศัตรู  พร้อมกันนั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวโกหกในสิ่งที่ท่านนบีได้นำมา  ยิ่งกว่านั้นท่านยังเชื่อว่าสิ่งที่นบีนำมานั้นเป็นสัจจริง  แต่ทว่าท่านไม่ได้กล่าวสองกะลิมะฮ์ชะฮาดะฮ์จนถึงวินาทีสุดท้าย  ในเหตุการณ์นี้อัลเลาะฮ์ทรงประทานโองการที่ว่า "แท้จริงเจ้า (โอ้มุฮำมัด) เจ้าไม่อาจชี้นำแก่ผู้ที่เจ้ารัก (ให้สำฤทธิ์ผลได้หรอก) แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงชี้นำแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์  และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งนักกับบรรดาผู้ได้รับการชี้นำ" อัลก้อซ้อซ 56  แต่ทว่าผลอะมัลอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้ปฏิบัติกับท่านร่อซูลุลลอฮ์นั้น  เราหวังว่าอัลเลาะฮ์จะทรงผ่อนเบาให้แก่เขา" หนังสือ นูรุลยะกีน ฟีซิร่อติซัยยิดิลมุรซะลีน หน้า 54

ส่วนกรณีการขอมัยยิดมาจัดการตามหลักการอิสลามนั้น  ก็ถือว่าเป็นฟัรดูกิฟายะฮ์สำหรับมุสลิมที่มีชีวิตอยู่จัดการเกี่ยวกับมัยยิด  หากญาติของเขาไม่ยินยอมก็ต้องไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ให้บังคับญาติของผู้ตายมอบให้มุสลิมทำการจัดการกับมัยยิด  ทั้งนี้ทั้งนั้นหากอยู่ในประเทศที่ปกครองโดยอิสลาม  แต่กรณีที่อื่นจากประเทศที่ปกครองโดยอิสลามนั้น  หากญาติผู้ตายแข็งกร้าวไม่ยินยอมให้และอาจทำให้เกิดฟิตนะฮ์  เราก็ขอมอบหมายมัยยิดนั้นให้อัลเลาะฮ์ตะอาลา

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged