และ...บทความตอนท้ายที่ฝากถามอ.กอเซ็มและให้กาถูกผิด คือ...
เหตุผลที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยอ่านอัล-กุรฺอ่านให้เศาะหาบะฮ์ของท่านซึ่งสิ้นชีวิตและถูกฝังที่กุบูรฺบะเกียะอฺ เพราะ ...
1. ( ) ท่านนบีย์ไม่จำอัล-กุรฺอ่าน ...
2. ( ) ท่านนบีย์ไปซิยาเราะฮ์กุบูรฺแล้วรีบกลับ จึงไม่มีเวลาว่างพอที่จะอ่านอัล-
กุรฺอ่านให้พวกเขา ...
3. ( ) ท่านนบีย์ลืมอ่านอัล-กุรฺอ่านทุกครั้งที่ไปซิยาเราะฮ์กุบูรฺบะเกียะอฺ ...
4. ( ) ท่านนบีย์จำอัล-กุรฺอ่านและมีเวลาว่างพอและไม่ลืม แต่ท่านขี้เกียจอ่าน ...
5. ( ) ท่านนบีย์ไม่อยากให้เศาะหาบะฮ์ของท่านได้รับผลบุญจากการอ่านอัล-
กุรฺอ่านของท่าน ...
6. ( ) ท่านนบีย์ไม่รักหรือห่วงไยเศาะหาบะฮ์ของท่านเลย ท่านจึงไม่ยอมอ่าน-
อัล-กุรฺอ่านให้ ...
7. ( ) ท่านนบีย์ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนการอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ ท่านจึงไม่-
ยอมอ่านให้ ...
8. ( ) ท่านนบีย์ไม่รู้ เหมือนอย่างที่พวกเรารู้ ว่า การอ่านอัล-กุรฺอ่านจะมี-
ประโยชน์แก่ผู้ตาย จึงไม่ได้อ่านให้ ...
9. ( ) ท่านนบีย์รู้ว่า การอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ มิใช่เป็นบทบัญญัติของอิสลาม! ท่านจึงไม่ยอมอ่าน, และไม่เคยอ่านอัล-กุรฺอ่านให้ผู้ตายคนใดหรือ อ.กอเซ็มเห็นว่า จะมีเหตุผลอื่นใดอีก .. นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ?? ... ...
อาจารย์ปราโมทต์ ตั้งประพจน์แบบ ตบตา ไม่ตรงกับหลักนิติศาสตร์อิสลาม ถือเป็นคำถามไม่ต้องการคำตอบ ทำไมอาจารย์ปราโมทต์ไม่ถามล่ะครับว่า หลักนิติศาสตร์อิสลามเขามีหลักฐานอย่างไรมาอ้างในเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร
และคำถามอาจารย์ปราโมทย์นั้น ต้องพิจารณาคนถูกถามด้วยซิว่า เขามีจุดยืนตามหลักการอ้างหลักฐาน(ฟิกห์)นิติศาสตร์อิสลามไว้อย่างไร เพราะคำถามแบบนั้นไปตั้งให้เด็กนะซานาวีที่เป็นลูกศิษย์ของ อ.ปราโมทย์ ถึงจะเหมาะกว่านะครับ
แล้วถ้าผมถามว่า มีหลักฐานให้อ่านอัลกุรอานแบบมุฏลัก(แบบกว้างๆ) ไม่ว่าจะที่ใหนก็ตาม (นอกจากมีหลักฐานจำกัดว่าฮะรอมเอาไว้) แล้วมีหลักฐานทีนบีได้บอกจำกัด(มุก็อยยัด)ไหมว่า ห้ามอ่านอัลกุรอานที่กุบูร หากหลักฐานที่มาจำกัดห้ามอ่านกุบูรทั้งชีวิตก็หาไม่เจอและไม่มีหรอกครับ
สำหรับ อ.ปราโมทต์นั้น เรื่องกุนูตที่เขาได้วิจารณ์ ผมยังติดค้างอยู่เพราะยังไม่มีเวลาสะสราง แล้วมาเรื่องอ่านอัลกุรอานที่กุบูรอีก แต่หากผมจะวิจารณ์ข้อเขียนของ อ.ปราโมทย์ในเรื่องอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนี้ ก็มีบางประเด็นที่ให้วิพากษ์วิจารณ์นะครับ
salam
เมื่อวานนี้เห็นทางเว็ปไซด์mureed.com online สองร้อยกว่าคน คงจะได้อ่านบทวิภาษนั้นแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าร้อย
ก็คงต้องรีบสะสางนะครับ เพราะกระผมเกรงว่า อนาคตข้างหน้า ไม่แน่ใจว่าจะมีอาจารย์ท่านไหนมาวิจารย์ในลักษณะอย่างนี้อีก
เรื่องโดนข้อกล่าวหาจากทั่วทุกสารทิศที่โดนตั้งฉายาว่า พวกวะหะบีย์ อาจารย์ฝั่งโน้นเขาก็คงจะชินไปแล้วหล่ะ
แต่หากเรื่องนำหะดีษฎออีฟ หะดีษฎออีฟมากๆ ตีความหะดีษผิดๆ เอาหะดีษเมาฎัวะอฺ มาสอนชาวบ้าน อาจารย์ที่ถูกตั้งฉายาว่าวะหะบีย์นั้น เขาคงจะไม่ปล่อยไปแน่ๆหน่ะครับ...อินชาอัลลอฮ อนาคตข้างหน้า คงจะได้เห็นบทวิภาษที่มีสาระทางวิชาการและมีประโยชน์อย่างนี้ออกมาเรื่อยๆ และคงเป็นภาระที่หนักอึ้งสำหรับอาจารย์ทางนี้ ที่จะต้องมาแก้ต่างให้ และปกปักรักษาไว้ ไม่ให้วะหะบีย์มาก้าวก่ายการประกอบอิบาดัตที่(ส่าว่า)ถูกต้องอีกให้จนได้