ผู้เขียน หัวข้อ: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์  (อ่าน 15075 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« เมื่อ: ต.ค. 23, 2006, 03:37 AM »
+1

ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์

ตะเซาวุฟนั้นเป็นขั้นระดับที่สูงส่ง ตะเซาวุฟ คือการปรับปรุง แก้ไขจิตใจโดยอาศัยจริยธรรมที่มีมาตามบทบัญญัติทั้งภายนอกและภายใน ตะเซาวุฟนั้นดำเนินไปตามครรลองครองธรรมแห่งอัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ โดยปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งอัลลอฮฺและปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของท่านศาสดามูฮำมัดในด้านจริยธรรม สภาวการณ์ บริโภคของฮาล้าล (สิ่งที่อนุญาต) มีความบริสุทธิ์ใจในทุกๆการงาน ตอบรับคำสั่งใช้แห่งอัลลอฮฺทุกประการโดยไม่ละเลยในเรื่องที่วาญิบ (สิ่งจำเป็นต้องปฏิบัติ) ไม่เข้าใกล้ข้อห้ามต่างๆ ประพฤติตนด้วยลักษณะที่น่าสรรเสริญ และละทิ้งพฤติกรรมที่น่าตำหนิ

 ตะเซาวุฟเป็นวิชาที่ว่าด้วยการฝึกจิตใจให้พ้นจากขอตำหนิต่างๆ เป็นแนวทางที่ดำรงอยู่ได้ด้วยกับความรู้และนำความรู้นั้นไปปฏิบัติด้วย ขั้นสูงสุดของตะเซาวุฟก็คือการรู้เตาฮีด (รู้การเป็นเอกะของอัลลอฮฺ) และการนำเอาสิ่งที่วาญิบ (สิ่งจำเป็น) มาปฏิบัติก่อนสิ่งที่เป็นสุนัต (สิ่งที่ส่งเสริมให้ปฏิบัติ) หลังจากนั้นก็ประพฤติตนให้อยู่ในกรอบแห่งความดีงามต่างๆ ใช้ชีวิตอย่างสมถะ และสวมอาภรณ์แห่งจริยธรรมที่ดีงาม แน่นอนอัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า

            ﴿تَتَجَافَى جُنُوبُهُمْ عَنِ الْمَضَاجِعِ يَدْعُونَ رَبَّهُمْ خَوْفًا وَطَمَعًا

 

            وَمِمَّا رَزَقْنَاهُمْ ‏يُنفِقُونَ * فَلا تَعْلَمُ نَفْسٌ مَّا أُخْفِيَ لَهُم مِّن قُرَّةِ

 

            أَعْيُنٍ جَزَاء بِمَا كَانُوا يَعْمَلُونَ ﴾

ความว่า: สีข้างของพวกเขาเคลื่อนห่างจากที่นอน พลางวิงวอนต่อพระเจ้าของพวกเขาด้วยความกลัวและความหวัง และพวกเขาได้อุปโภคบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นเครื่องยังชีพแก่พวกเขา, ดังนั้นจึงไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ถูกซ้อนไว้สำหรับพวกเขา ให้เ(ป็นที่รื่นรมย์)แก่สายตา เพื่อเป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้ประพฤติไว้
(อัสสาญาดะฮฺ : 17)

﴿وَأَمَّا مَنْ خَافَ مَقَامَ رَبِّهِ وَنَهَى النَّفْسَ عَنِ الْهَوَى *


   فَإِنَّ الْجَنَّةَ هِيَ ‏الْمَأْوَى﴾

ความว่า: และส่วนผู้ที่หวาดหวั่นต่อการยืนเบื้องพระพักตร์ของผู้อภิบาลของเขา และได้หักห้ามจิตใจจากอารมณ์ ดังนั้นสวนสวรรค์ก็คือที่พำนักของเขา (อันนาซิอาต : 40-41)


 ท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า

(( أحب العباد إلى ‏الله الأتقياء الأخفياء، الذين إذا غابوا لم يفتقدوا،    

وإذا شهدوا لم يُعرفوا، أولئك هم أئمة الهدى ‏ومصابيح العلم))          

رواه أبو نعيم                                                        

ความว่า: บ่าวผู้เป็นที่รักยิ่ง ณ อัลลอฮฺคือปวงบ่าวผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งอีกทั้งเกร่งกลัวต่อพระองค์ยิ่ง เมื่อพวกเขาหายหน้าไป ก็จะไม่ถูกตามหา เมื่อพวกเขาเผยตัว ก็จะไม่ถูกรู้จัก พวกเขาเหล่านี้คือผู้นำแห่งหนทางอันเที่ยงตรง คือตะเกียงแห่งความรู้


 ท่านอิหม่าม อัชชะอฺรอนีย์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัล-อันวาร อัล-กุดซียะห์ ถึงวิชาตะเซาวุฟที่แท้จริงนั้นคือ การปฏิบัติตนด้วยกับความรู้ไปพร้อมๆกับบทบัญญัติอิสลามบนแนวทางที่มีความบริสุทธิ์ใจและมีสัจจธรรม หากว่าท่านได้กลับไปยังบุคคลรุ้นแรกๆที่วางพื้นฐานตะเซาวุฟอิสลาม ท่านก็จะพบว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นล้วนเป็นนักวิชาการ เป็นผู้ปฏิบัติอยู่ในคุณงามความดี เป็นผู้ที่เรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺ และมุ้งไปสู่พระองค์ด้วยกับพระมหาคัมภีร์อัลกรุอ่านและอัลฮาดิษ เพราะเหตุนี้ รัศมีของพวกเขาจึงเจิดจรัส ร่องรอยรัศมีของพวกเขายังคงอยู่เรื่อยมา แน่นอนตะเซาวุฟก็คือ การศึกษาวิชาการอันประเสริฐซึ่งเป็นฟัรดูอีน (จำเป็น) ต่อมุสลิมทั้งชายและหญิง แล้วนำเอาไปปฏิบัติด้วยกับความรู้ที่ศึกษามา เพื่อแสวงหาสัจธรรมและความบริสุทธิ์ใจ ดังกล่าวนั้นก็ด้วยการขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ระงับความชั่วต่างๆด้วยกับการซิเกร (ระลึกถึงอัลลอฮฺ) ทางกาย วาจา ใจ หมั่นทำอิบาดะห์อยู่เป็นเนืองนิตย์ เพื่อให้วิญญาณมีความสะอาดบริสุทธิ์ มีจิตใจที่สูงส่ง และเพื่อเป็นการรักษาหัวใจให้พ้นจากโรคภัยต่างๆ แน่นอนจะเป็นตะเซาวุฟไม่ได้ หากไร้ซึ่งความรู้ หรือมีความรู้แต่ไม่ได้นำเอาความรู้นั้นไปใช้ประโยชน์หรือนำไปปฏิบัติ ส่วนผู้ที่อ้างว่าตะเซาวุฟคือสิ่งอื่นจากนี้นั้น สิ่งนั้นมิใช่ตะเซาวุฟ หากเป็นการยัดเยียดเพื่อเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย หรือเป็นพฤติกรรมของกลุ่มชนที่โง่เขล่า

 และเพื่อเป็นการอธิบายให้เข้าใจในความหมายของตะเซาวุฟและแก่นแท้ของวิชานี้ สมควรที่จะต้องกล่าวอ้างถึงคำพูดของนักวิชาการ และผู้ที่มีความซอและห์บางท่าน เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้งในตะเซาวุฟ

1. ท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุ ฮัมบัล ผู้เป็นผู้นำสายอะห์ลิสสุนนะห์ได้กล่าวกับลูกของท่านนามว่าอับดุลลอฮฺว่า ?โอ้ลูกของข้าเอ๋ย! จำเป็นแก่เจ้าที่จะต้องไปนั่งร่วมกับกลุ่มชนเหล่านี้ เพราะแท้จริงพวกเขาจะเพิ่มพูนความรู้ ความเกรงกลัว ความยำเกรง ความสมถะ และสุดยอดแห่งความตั้งใจอันแน่วแน่ ให้แก่ตัวเจ้า? โดยที่ท่านอีหม่ามยังได้กล่าวต่อไปอีกถึงเรื่องซูฟีย์ว่า ?ฉันไม่รู้ทราบว่ามีกลุ่มใดๆที่จะประเสริฐยิ่งกว่ากลุ่มพวกเขา (กลุ่มซูฟีย์)? (อ้างอิง: หนังสือ ตันวีร อัล-กุโลบ หน้าที่ 405, หนังสือ ฆอซาอฺ อัล-อัลบาบ ลิชัรฮี่ มันซูมะห์ อัล-อาดาบ ของท่านซาฟารีนีย์)

2. ท่านอิหม่ามอัล-ฆอซาลี ผู้เป็นหลักฐานแห่งอัล-อิสลาม ท่านได้กล่าวว่า ?แน่นอน ฉันรู้โดยมั่นใจเลยว่า ซูฟีย์คือบรรดาผู้เดินทางไปในหนทางแห่งอัลลอฮฺโดยเฉพาะ การเดินทางของพวกเขานั้นเป็นการทางที่ดีที่สุด เส้นทางของพวกเขาคือเส้นทางที่ถูกต้องที่สุด จริยธรรมของพวกเขาคือจริยธรรมที่สูงส่งที่สุด (อ้างอิง: หนังสือ อัล-มุนกิซ มิน อัฎฎอล้าล หน้าที่ 49)

3. ท่านอัล-อิซ อิบนุ อับดุสสลาม ผู้เป็นสุลต่านของมวลนักวิชาการ ท่านได้กล่าวไว้ว่า ?กลุ่มซูฟีย์นั้น นั่งอยู่บนหลักเกณฑ์ของบทบัญญัติอิสลามโดยที่ไม่ได้ทำลายเรื่องของภพนี้และภพหน้า และกลุ่มอื่นที่มิใช้ซูฟีย์นั้น นั่งอยู่บนเส้นของบทบัญญัติอิสลาม?  (อ้างอิง: นูร อัตตะกีก หน้าที่ 96 ของท่านเชค ฮามิด ซอคร์)

4. ท่านอิหม่ามมาลิกได้กล่าวไว้ว่า ?บุคคลใดที่มีฟิกฮฺ (กฎหมายอิสลาม) แต่ไม่มีตะเซาวุฟ แน่แท้เขาคือผู้บิดพริ้ว บุคคลใดที่ไม่มีฟิกฮฺ แน่แท้เขาคือผู้ไม่มีศาสนา  และบุคคลใดที่รวมสองสิ่งเข้าด้วยกัน แน่แท้เขาได้ทำให้บรรลุผล? (อ้างอิง: ฮาชียะห์ อัล-อัลลามะห์ อาลี อัล-อะดะวีย์ อะลา ชัรฮฺ อัล-อิหม่ามริสกอนีย์ อะลา มัตนี่ อัล-อัซบะห์ ฟี อัลฟิกฮฺ อัลมาลีกี , ชัรฮฺ อัยนฺ อัล-อิลมฺ วาซีนุ้ลฮิลมี ของท่านอีหม่าม มะลา อาลี กอรีย์)

5. ท่านอิหม่ามชาฟีอีได้กล่าวว่า ?สามสิ่งจากดุนยา (ภพนี้) ของพวกท่าน มันได้ทำให้ฉันรัก (ซึ่งสามสิ่งนั้นก็คือ) ความไร้ซึ่งการเสแสร้ง การสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อมนุษย์ด้วยความอ่อนโยน การปฏิบัติตามแนวทางของนักตะเซาวุฟ? (อ้างอิง: กาชฟุ้ลคอฟาอฺ วามะซีลุ้ลอัลบาส อัมมาซตาฮาร่อ มินัลอะฮาดิษ อะลา อัลสินะติ้ลอินซาน ของท่านอิหม่ามอัล-อาจลูนีย์)

6. ท่านอิหม่ามนาวาวี ผู้เป็นเชคแห่งสำนักคิดชาฟีอียะห์ ผู้ซึ่งถูกได้รับความไว้วางใจจากการลงมติของประชาชติอิสลาม ท่านได้กล่าวว่า ?รากฐานของแนวทางตะเซาวุฟมีอยู่ 5 ประการ คือ 1) การยำเกรงต่ออัลลอฮฺทั้งที่ลับและที่แจ้ง 2) การปฏิบัติตามแนวทางของท่านศาสดามูฮำมัดทั้งในด้านคำพูดและการกระทำ 3) การแสดงออกอย่างเปิดเผยต่อผู้คน(ด้วยความบริสุทธิ์ใจ) ทั้งต่อหน้าและลับหลัง 4) ความพึงพอใจต่อสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดไม่ว่าจะน้อยหรือมาก 5)การกลับสู่อัลลอฮฺไม่ว่าจะอยู่สภาพที่สุขสบายหรือทุกข์ตรม? (อ้างอิง: มะกอซิด อัล-อิหม่ามอันนาวาวีย์ วัตเตาฮีด วันอิบาดาต วาอุซู้ลตะเซาวุฟ หน้าที่20)

7. ท่านอิหม่ามฟัครุดดีน อัล-รอซีย์ ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการอรรถาธิบายพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน ท่านได้กล่าวไว้ในบทที่ 8 ของหนังสือ อะฮฺวาลุ้ซซูฟีย์ (สถานะของซูฟีย์) ว่า ?จงรู้ไว้เถิด! มากมายจากกลุ่มต่างๆของประชาชาติละที่จะกล่าวถึงซูฟีย์ และดังกล่าวนั้นก็คือความผิดพลาด เพราะผลสรุปของคำพูดของซูฟีย์ก็คือ หนทางไปยังการรู้จักอัลลอฮฺนั้นก็คือ การทำให้บริสุทธิ์ และการขจัดจากความสัมพันธ์ต่างๆทางด้านร่างกาย และนี่แหละคือหนทางที่ดีที่สุด? และท่านอิหม่ามยังได้กล่าวเสริมอีกว่า ?และนักตะเซาวุฟก็คือกลุ่มที่วุ่นอยู่ในเรื่องของความคิด และการทำจิตใจให้ปราศจากการมีความสัมพันธ์กับร่างกาย และพวกเขาก็ยังพยายามที่จะมิให้จิตและใจนั้นบกพร่อง ด้วยการระลึกถึงอัลลอฮฺในทุกสภาพการงานของพวกเขา พวกเขาคือแม่พิมพ์ทางด้านมารยาทที่สมบูรณ์ที่มีต่ออัลลอฮฺ พวกเขาคือกลุ่มชนที่ดีกว่ามนุษย์ชาติทั้งหมด? (อ้างอิง: หนังสือ เอี๊ยะติกอด้าต ฟิรอกุ้ลมุสลิมีน วัลมุชริกีน)

8. ท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุ ตัยมียะห์ ได้กล่าวถึงการยึดถือของซูฟีย์ตามอัลกุรอ่านและฮาดิษว่า ?ดังนั้นส่วนผู้ที่มีความเที่ยงธรรมจากบรรดาผู้เดินทางไปสู่อัลลอฮฺ (กลุ่มซูฟีย์) ที่เหมือนกับบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิของชาวสาลัฟ เฉกเช่น ท่านอัลฟาดีล อิบนุ อิยาฎ ท่านอิบรอฮีม อิบนุ อัดฮัม ท่านสุไลมาน อัดดารอนีย์ ท่านมะรูฟ อัลกัรคีย์ ท่านอัล-สารีย์ อัล-สากอตีย์ ท่านอัล-ญุนีด อิบนุ มูฮำมัด และท่านอื่นๆอีกจากคนอยู่ก่อน และเฉกเช่น เชค อับดุลกอเดร อัลญัยลานีย์ ท่านเชค ฮัมมาด ท่านเชค อุบัย อัลบายาน และท่านอื่นๆอีกจากคนยุคหลัง แน่นอน(บรรดาผู้นำทางด้านซูฟีย์)พวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้ที่เดินทางในหนทางนี้ออกจากคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามตามบทบัญญัติ มาดแม้นว่าผู้ที่เดินทางในหนทางนี้จะบินในอากาศหรือเดินบนน้ำก็ตาม แต่ทว่าผู้ที่เดินทางในหนทางนี้จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งใช้และยับยั้งจากข้อห้ามต่างๆจนกระทั่งตาย นี่แหละคือสัจธรรมพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน อัลฮาดิษและการลงมติของสาลัฟได้ชี้นำ...? (อ้างอิง: มัจมัวะ ฟะตาวา ของท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุ ตัยมียะห์ เล่มที่10)

9. ท่านอิบนิคอลดูลได้กล่าวไว้ในหนังสือ อิลมุตตะเซาวุฟ ว่า ?วิชาตะเซาวุฟนี้ คือหนึ่งจากบรรดาวิชาตามบทบัญญัติอิสลามที่เกิดขึ้นในศาสนา และที่มาของวิชานี้ก็คือ แนวทางของกลุ่มเหล่านี้ที่คงมีอยู่ ณ ปะชาชาติรุ่นก่อนๆ บรรดาผู้อวุโสจากซอฮาบะห์และตาบีอีน และบุคคลรุ่นหลังๆ ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางแห่งความมีสัจธรรม เป็นแนวทางที่ได้รับทางนำ และที่มาของแนวทางนี้ก็คือ การพากเพียรในการปฏิบัติศาสนกิจ การยับยั้งความชั่วร้ายโดยมุ่งสู่อัลลอฮฺ การผินหลังให้กับความฟุ้งเฟ้อและการตบแต่งดุนยา ความมีสมถะในสิ่งที่กลุ่มชนมอบให้จากความเอร็ดอร่อย ทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศ การแยกตัวออกจากผู้คนเพื่อทำศาสนกิจ สิ่งต่างๆดังกล่าวนี้คือเรื่องปรกติของซอฮาบะห์และชาวซาลัฟ  ดังนั้นเมื่อการผิดหลังให้กับดุนยาได้แพร่กระจายออกไปในสมัยที่ 2 และหลังจากนั้น ปีกของมนุษย์ได้แพร่ไปทั่วโลก ผู้ที่หันเข้าสู่แนวทางในการทำอิบาดะห์ (ศาสนกิจ) ก็ได้ให้คำจำกัดความด้วยนามว่า ?ซูฟีย์?

10. ท่านอิหม่ามอัสสายูตีย์ได้กล่าวว่า ?ตะเซาวุฟในตัวของมันแล้วก็คือ วิชาอันประเสริฐ และจุดกำเนิดวิชานี้ก็มาจากการปฏิบัติตามแนวทางของท่านศาสดามูฮำมัด ละทิ้งอุตริกรรม และฉันก็รู้ด้วยว่า มีมากมายจากสิ่งที่แทรกซึมเข้ามาในวิชานี้จากกลุ่มที่มีความคล้ายคลึงกับชาวตะเซาวุฟ โดยที่พวกเขาก็ไม่ใช่ชาวตะเซาวุฟ แล้วพวกเขาก็นำเอาสิ่งที่ไม่ใช่ตะเซาวุฟแทรกซึมเข้ามาในตะเซาวุฟ แล้วสิ่งดังกล่าวนั้นก็นำไปสู่การคาดคะแนของผู้คนต่อตะเซาวุฟอย่างผิดๆ (โดยเหม่ารวมว่าตะเซาวุฟและกลุ่มซูฟีย์เป็นกลุ่มที่ออกนอกลู่นอกทาง)

11. ท่านอบูฮาซัน อัชชาซูลีย์ ได้กล่าวว่า ?เมื่อการวิจัยของท่านมันค้านกับอัลกุรอ่านและฮาดิษ ดังนั้นท่านจงยึดเอาอัลกุรอ่านและฮาดิษ และยังละทิ้งการวิจัยดังกล่าวเสีย จงกล่าวกับตัวท่านเองว่า แท้จริงอัลลอฮฺได้ประกันความปลอดภัยให้กับฉันไว้ในอัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ และอัลลอฮฺจะไม่ทรงประกันความปลอดภัยในด้านการวิจัย การอิลฮาม(การดลใจ) การรู้สึกไปเอง เว้นแต่หลังจากตรวจสอบสิ่งเหล่านั้นด้วยกับอัลกุรอ่าน และอัลฮาดิษ ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องตรวจสอบด้วยการรับฟังจากคำพูดของคนส่วนมากที่มีอุดมคติว่า ความเที่ยงตรงที่อยู่เหนือบทบัญญัติอันสะอาดบริสุทธิ์ก็คือ สิ่งที่ประเสริฐและดีกว่าการอมัต(สิ่งที่เหนือธรรมชาติมนุษย์) ใดๆ

12. ท่านเชค มุฮยิดดีน อิบนุ อาราบีย์ ได้กล่าวไว้ว่า ?ผู้ที่ที่ไม่ปฏิบัติตามท่านศาสดามูฮำมัด (ศ็อลฯ) จะไม่หวังที่จะไปถึงอัลลอฮฺ

13. ท่านอิบนุอาตออิ้ลลาฮฺ อัลอัสกันดารียะห์ ได้กล่าวว่า ?ผู้ใดที่เคร่งคัดกับตัวเองต่อการมีมารยาทตามแนวทางของท่านนบี อัลลอฮฺจะทรงทำให้หัวใจของเขามีรัศมีด้วยกับรัศมีแห่งการรู้จักอัลลอฮฺ และไม่มีมากอม (ระดับขั้นหนึ่งของซูฟีย์) ใดๆที่จะประเสริฐไปกว่ามากอมของผู้ปฏิบัติตามท่านศาสดามูฮำมัดในด้านของคำสั่งใช้ การกระทำ และจรรยามารยาทของท่านศาสดา

14. ท่านเชคอบุลกอเซ็ม อัลกุชัยรีย์ ได้กล่าวว่า ?บรรดาผู้อาวุโสของแนวทางทั้งหมดนั้นได้แนะนำว่า ไม่ว่าคนใดในกลุ่มพวกเขาจะไม่ออกมติใดๆในแนวทางนั้นๆ นอกจากจะต้องมีความรู้อย่างลึกซึงในวิชาการต่างๆทางบทบัติญัติอิสลาม

นี่คือส่วนหนึ่งจากคำพูดของนักวิชาการและผู้นำซูฟีย์ ซึ่งในแต่ละคำพูดนั้นจะดให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามคำสอนแห่งอัลลอฮฺกุรอ่านและอัลฮาดิษ โดยเป็นการปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด ห่างไกลจากสิ่งที่คัดต่อคำสั่งใช้ที่มีมาในทั้งสอง ทุกๆคำพูดได้เรียกร้องไปสู่จริยธรรมอันทรงเกียรติ ไปสู่ความกลัวเกรงอัลลอฮฺ (ตะอาลา) ไปสู่ความยำเกรง ความเมตตาปราณี และแสวงหาความพึงพอพระหทัยจากพระองค์  สรุปก็คือคำพูดของบรรดานักซูฟีย์ได้เรียกร้องไปสู่ความดีทั้งหมด ห้ามปรามความชั่วทั้งมวล และในจุดนี้ยังได้อธิบายให้กับเราอย่างชัดเจดถึงแก่นแท้ของตะเซาวุฟว่า มันคือวิชาหนึ่งที่มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงแก้ไขตัวมุสลิมให้เป็นคนดี เข้าถึงยังการทำให้อัลลอฮฺพึงพอพระหทัย เคร่งคัดต่อบทบัญญัติ และทิ้งสิ่งที่ขัดต่อบทบัญญัติทั้งปวง นี่แหละคือเป้าหมายในการสร้างมนุษย์บนพื้นพิภพแห่งนี้

และนี่ก็เป็นคำชี้แจงและอธิบายให้กับบุคคลที่ต้องการยอมรับต่อแก่นแท้ของตะเซาวุฟ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อัลลอฮฺและศาสนทูตแห่งพระองค์พึงพอพระหทัยใช่หรือไม่ครับ นี่แหละคือตะเซาวุฟ และผู้ที่ปฏิบัติตามแนวทางของตะเซาวุฟก็คือกลุ่มซูฟีย์ และสิ่งที่มันขัดกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เราสามารถกล่าวได้เลยว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ตะเซาวุฟ ไม่ใช่ซูฟีย์ หากเป็นความคิดที่เลยเถิดโดยออกจากบทบัญญัติอิสลาม.

โดย..อิบนุ อาลี

http://www.ridwanclub.com
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ zamani13

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 9
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 23, 2006, 10:01 AM »
0
อืม เยี่ยมยอดเลยครับ

ออฟไลน์ อายะฮ์

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 49
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ต.ค. 23, 2006, 05:19 PM »
0
บางท่านอาจจะคิดว่า  ตะเซาวุฟ กับ ซูฟีย์ นี้แต่งกัน  คือผู้ที่มีอคติ  จะคิดว่า ตะเซาวุฟ คือ วิชาจริยธรรมทั่วไป  ส่วน  ซูฟีย์  คือพวกเลยเถิด  พอพูดถึงซูฟีย์ขึ้นมา  ผู้อคติก็จะคิดไปทันทีว่า คือพวกอย่างนั้น  พวกอย่างนี้  ตามที่พวกต่อต้านซูฟีย์ได้สรรหาคำอ้างมาเพื่อให้ผู้คนรังเกียจพวกซูฟีย์  ความจริงซูฟีย์นั้น  มีทั้งซูฟีย์ที่บริสุทธิ์และซูฟีย์ที่นอกลู่  แต่พวกที่ต่อต้านซูฟีย์  มันเล่นเหมายกเคล้าเลยครับ  ไม่ยอมแบ่งแยกอะไรทั้งนั้น  หากขึ้นชื่อว่าซูฟีย์ละก็  บอกว่าเป็นพวกบิดอะฮ์  พวกกาเฟร  อย่างเดียว  ดังนั้น  พวกต่อต้านซูฟีย์อย่างวะฮาบีย์เนี่ย  พวกเขากล่าวอ้างตัลลีดบอดกันต่อ ๆ มา โดยไม่แยกแยะอะไรเลย
สานุศิษย์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ต.ค. 24, 2006, 03:28 PM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ความจริง  ยังมีผู้คนเข้าใจผิดว่า  ตะเซาวุฟ นั้นอย่างหนึ่ง และ ซูฟีย์ นั้นอย่างหนึ่ง  ซึ่งความจริงแล้ว คำว่า ซูฟีย์ الصوفى  ใช้เรียกกับ "คนที่มีตะเซาวุฟ"  ส่วนคำว่า "เตาเซาวุฟ" التصوف  นั้น เป็นชื่อเรียกวิชา  ดังนั้น ผู้ใดที่ชำนาญวิชาตะเซาวุฟ  เขาเรียกว่า "ซูฟีย์"  เฉกเช่นเดียวกับ วิชาการ ฟิกห์  ซึ่งผู้ใดที่ชำนาญวิชาฟิกห์  เขาจะเรียกว่า "ฟากีฮ์"  และผู้ใดที่ชำนาญวิชาหะดิษ  เขาจะเรียกว่า "มุหัดดิษ"  เป็นต้น  

แต่การมีกลุ่มที่อ้างตนว่าซูฟีย์ ที่นอกลู่นั้น  ก็อีกประเด็นหนึ่งที่เราต้องชี้แจง  จะไปเหมารวมทั้งหมดคงไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ต.ค. 27, 2006, 10:54 AM »
0
ชัดเจนครับ

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พ.ย. 12, 2006, 04:47 PM »
0
อ้างจาก: "sufriyan"
ชัดเจนครับ


*************************************************
อาเดะ ครับ="sufriyan"

บังกาตอ กมมูดอ ฮุกม..กีตอว่า (บิดอะ)ปุเลาะ  ฮ้าๆๆๆ

โดยเฉพาะ เริ่อง ตอรีกัต-ซุฟีนั้น วะฮาบีย์ไออาเอฟ เคยฮูกมและ หาว่าเราทำบิดอะและตั้งภาคีต่อพระองค์เชียวน้าน้องฮ้าๆๆๆ

นี่แหละนะ  อุลามะสายตอรีกัต จึงเรียก..พวกนี้ว่า แนวการศรัทธาแบบมัวตะซีละ และไม่มีวันได้รับเกียรติใดในความรู้ฮ่ากีกัตของพระองค์เลย  นอกจากชารีอัตหรือเปลือกภายนอกเท่านั้น

น่าสงสาร คนแก่บางคนนะน้องนะ  อัลลอฮ์ให้อายุมา4050ปี เลยแต่ยังไม่ได้ลิ้มรสใตสิ่งเหล่านี้เลย แม้กระทั้งเส้นท่างที่ตจะกลับคืนสู่พระองค์ก็หาไม่เจอ..ไม่รู้จะไปทางไหนดี..

-จะไปเส้นทางผู้อื่น (แนวทางทั้ง4)ก็จะมีคนกล่าวว่า...เอ้านี้เอาของเขามาใช้นะ...

ครั้นจะสร้างทางเดินเองก็ไม่มีงบ เอ้ยไม่มี ความรู้พอ ก็ได้แต่เอแบบอ้างและหยิยฉวยทัศนะโน้นนิดทัศนะนี้หน่อย หรือ อยู่กินไปวัน กับซากความรู้ของ4มัสหับ

เฮ้อ...ยายอ..ออแรงแบบนี้บายอๆๆหนอ อะกูนิ...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 13, 2006, 03:44 AM »
0
คนแก่นั้นใครหรือครับ บังคนอยากรู้??  แต่ที่แน่ ๆ คนแก่บางคนหัวแข็ง ไม่ยอมฟังใคร น่าจับมาตีก้นให้ตาย ฮ้า ฮ้า  :mrgreen:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 364
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2006, 04:05 PM »
0
Assalam


ขออีกค่ะ...ชอบมากค่ะ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือ "พระเจ้าที่แท้จริง"

การรู้จักพระเจ้าที่แท้จริงมี 3 ระดับ

1.   การรู้จักพระเจ้าด้วยสติปัญญา

2. การรู้จักพระเจ้าด้วยวิญญาณหรือตาใจ

3. การรู้จักพระเจ้าด้วยจิตแห่งวิญญาณหรือตาวิญญาณ

ซึ่งอธิบายได้เห็นภาพเลยค่ะ แต่ยอมรับน๊ะค่ะว่า ยากมาก

อาจเป็นเพราะเจ้าหญิงฯ คงยังมีหัวใจที่ไม่บริสุทธิ์พอ

จึงไม่สามารถที่จะสัมผัสกับความรู้สึกนั้นได้ค่ะ...
::) ::)


Wassalam

...อยากเป็นคนดี เหมือนกันนะแหละ...


ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: ตะเซาวุฟ – ซูฟีย์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2006, 09:45 PM »
0
Assalam


ขออีกค่ะ...ชอบมากค่ะ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือ "พระเจ้าที่แท้จริง"

การรู้จักพระเจ้าที่แท้จริงมี 3 ระดับ

1.   การรู้จักพระเจ้าด้วยสติปัญญา

2. การรู้จักพระเจ้าด้วยวิญญาณหรือตาใจ

3. การรู้จักพระเจ้าด้วยจิตแห่งวิญญาณหรือตาวิญญาณ

ซึ่งอธิบายได้เห็นภาพเลยค่ะ แต่ยอมรับน๊ะค่ะว่า ยากมาก

อาจเป็นเพราะเจ้าหญิงฯ คงยังมีหัวใจที่ไม่บริสุทธิ์พอ

จึงไม่สามารถที่จะสัมผัสกับความรู้สึกนั้นได้ค่ะ...
::) ::)


Wassalam



แต่อย่างน้อยเราก็รู้จักพระเจ้าด้วย สติปัญญา ถึงแม้จิดจใจของเรายังบริสุทธิ์ไม่พอ

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธ.ค. 23, 2006, 07:45 PM »
0


แต่การมีกลุ่มที่อ้างตนว่าซูฟีย์ ที่นอกลู่นั้น  ก็อีกประเด็นหนึ่งที่เราต้องชี้แจง  จะไปเหมารวมทั้งหมดคงไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด


อยากให้ คุณ อัลฯ ได้ ชี้แจงเกี่ยวกับ กลุ่มซูฟีย์ นอกลู่ ด้วยค่ะ ว่า มีความแตกต่างอย่างไรกับกลุ่มซูฟีย์ ที่ถูกต้อง  เพื่อ ไม่ให้ เป็นการเหมารวมว่า นอกลู่ ทั้งหมด ด้วยค่ะ
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธ.ค. 26, 2006, 06:50 PM »
0
เราจะนำเสนอครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 364
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2006, 03:49 PM »
0


แต่การมีกลุ่มที่อ้างตนว่าซูฟีย์ ที่นอกลู่นั้น  ก็อีกประเด็นหนึ่งที่เราต้องชี้แจง  จะไปเหมารวมทั้งหมดคงไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด


อยากให้ คุณ อัลฯ ได้ ชี้แจงเกี่ยวกับ กลุ่มซูฟีย์ นอกลู่ ด้วยค่ะ ว่า มีความแตกต่างอย่างไรกับกลุ่มซูฟีย์ ที่ถูกต้อง  เพื่อ ไม่ให้ เป็นการเหมารวมว่า นอกลู่ ทั้งหมด ด้วยค่ะ

เราจะนำเสนอครับ  อินชาอัลเลาะฮ์


รอการนำเสนอ...ของปู่อัลฯ ค่ะ  ;D ;D



...อยากเป็นคนดี เหมือนกันนะแหละ...


ออฟไลน์ ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 364
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ม.ค. 31, 2007, 05:33 PM »
0


แต่การมีกลุ่มที่อ้างตนว่าซูฟีย์ ที่นอกลู่นั้น  ก็อีกประเด็นหนึ่งที่เราต้องชี้แจง  จะไปเหมารวมทั้งหมดคงไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด


อยากให้ คุณ อัลฯ ได้ ชี้แจงเกี่ยวกับ กลุ่มซูฟีย์ นอกลู่ ด้วยค่ะ ว่า มีความแตกต่างอย่างไรกับกลุ่มซูฟีย์ ที่ถูกต้อง  เพื่อ ไม่ให้ เป็นการเหมารวมว่า นอกลู่ ทั้งหมด ด้วยค่ะ

เราจะนำเสนอครับ  อินชาอัลเลาะฮ์


รอการนำเสนอ...ของปู่อัลฯ ค่ะ  ;D ;D



...ยังเฝ้ารออยู่น๊ะค๊ะ...

 :D :D :D


วัสลาม

...อยากเป็นคนดี เหมือนกันนะแหละ...


ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ก.พ. 13, 2007, 01:00 AM »
0
ด้วยความรู้น้อยนิดขออนุญาตหาข้อมูลให้พี่น้องนะครับ
ซูฟีย์เองมีอยูหลากหลายกลุ่มครับแต่กลุ่มพี่ผมพอมีข้อมูลคือ
กลุ่มนักร้องครับมีอยู่หลายวงที่ประกาศตัวว่าเป็นมุสลิมศรัทธาต่ออัลเลาะฮ์แต่เขาก็ปฏิเสธฮะดิษของท่านร่อซูล(ซ.ล.)เช่น RAIHAN ที่โด่งดัง วงนี้ถือว่าเป็นวงที่ใช้ดนตรีน้อยชิ้นสุดแส้วนะครับ แต่ก็ยังมีเสียงเบดลอยอยู่ให้ได้ยิน มีเสียงโหม่ง   Nasri หลังจากรับกาลีมะฮ์ชะฮาดะฮ์(ก่อนหน้านั้นเคยเป็นคริสเตียนมาก่อน)หัวหน้าวงคนนี้ก็ยอมรับว่าเขาพยามจะเข้าหาความเป็น ซูฟีย์ทางนะชีดให้ได้ นั่นก็คือการไม่ปฏิเสธดนตรีนี่เอง เพราะก่อนหน้านั้นเขาเคยสังกัดกลุ่มอัรกอมที่มีกลิ่นอายทางดนตรีอยู่บ้าง พูดถึงกลุ่มอัรกอมช่วงแรกๆเขาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงนะครับแต่หลังๆเห็นไม่ได้ต่อต้านแล้วล่ะครับจึงมีผลผลิตอีกวงคือมาวัรดะฮ์ ที่มีเครื่องดนตรีทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกสากล มีอีกมากครับที่ซูฟีย์เลยเถิดทางดนตรี จากทั่วโลกนะครับ ,debu,786,shaam,ahmed tajir,

ซูฟีย์นี่มีหลายกลุ่มมาจากสายอินเดีย เปอร์เชีย แล้วก็ตุรกีย์ นี่คือกลุ่มที่ใหญ่ๆครับ กลุ่มเหล่านี้ต้องสุญูดบาหรือครูหรือผู้นำครับซึ่งเลยเถิดไปถึงอะกีดะห์เลยล่ะครับ บางกลุ่มนี่ถือว่าผู้นำเทียบเคียงกับนบีเลยด้วยซ้ำไป (นะอุซุบิลลาฮ์มินซาลิก) พวกเขามีเครือข่ายเยอะครับ ค่อนข้างน่ากลัวในเรื่องอะกีดะห์ครับ ซูฟีย์ต้องเต้นรำนะครับเพื่อให้ไปถึงอัลเลาะห์ ไม่อยากนึกนะครับว่าพวกเขาจะคิดว่าท่านนบีและบรรดาสี่อิหม่ามและท่านอิหม่ามฆอซาลีเต้นรำด้วย  ทั้งนี้ก็เพราะพวกเขานำบางส่วนมาตีความตีแหลกลาญล่ะครับ ตีจนกระทั่งพวกเขามองต้นไม้ก็โบ้ยว่าคืออัลเลาะห์ประมาณนี้น่ะครับ

http://www.rasamusic.de/cd_bestellung.htm

http://www.isufirock.com/music/index.phpซูฟีย์ร็อกเก้อครับ


http://www.naqshbandi.org/events/SEAsia2000/malaysia2.htm ออกอีเว้นที่มาเลย์


http://www.mumineen.org/jamaat/ ผสมชีอะฮ์
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ก.พ. 13, 2007, 01:26 AM »
0
http://i109.photobucket.com/albums/n55/haqqani-rabbani/MSH%20Visit/0906Cinere/DSC_6416.jpg ทำความเคารพเพื่อผู้นำ

http://www.michaelcreasy.com/photos/Egypt%20and%20Jordan/Cairo/Egypt%20and%20Jordan%20030%20crop.jpg เต้นรำเพื่อบรรลุ

http://www.afropop.org/img/ea/zanzibar/szb2004/Sufi-Maulidi-1.jpg บางกลุ่มก็คล้ายๆดิเกฮูลูบ้านเรานะครับ

http://silattuo.com/SecretsOfTheHeartII14MAR04program2.htm ดนตรีคือจิตใจ

http://www.sikh-heritage.co.uk/arts/musicPunjab/Music%20of%20Punjab.htm เต็มพิกัด
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

 

GoogleTagged