ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่ออะมานะฮ์และความซื่อสัตย์ถูกยกขึ้นไป  (อ่าน 4433 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

salam




เล่าจากฮุซัยฟะฮ์ (ร.ด.) ได้กล่าวว่า : ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เล่าให้พวกเราฟังสองหะดิษ
ข้าพเจ้าได้พบแล้วหนึ่งจากสองในนั้น  และข้าพเจ้ากำลังคอยอีกหะดิษหนึ่ง ท่านได้เล่าให้พวกเราฟังว่า 
ความซื่อสัตย์นั้นได้ลงมาอยู่ในขั้วหัวใจของพวกผู้ชาย หลังจากนั้นพวกเขาได้รู้จากอัลกุรอาน และต่อมาได้รู้จากซุนนะฮ์
(ความซื่อสัตย์ในหมู่พวกเขาเกิดจากสันดานเดิม และการขวนขวายจากบัญญัติศาสนา)

และท่านนบีได้เล่าให้พวกเราฟังถึงการยกความซื่อสัตย์ขึ้นไป ท่านได้กล่าวว่า :
ชายคนหนึ่งจะนอนหลับไปงีบหนึ่ง และความซื่อสัตย์ก็จะถูกเก็บไปจากหัวใจของเขา
รอยของมันจะยังคงอยู่เหมือนจุดดำเล็กๆ หลังจากเขานอนไปอีกงีบหนึ่ง มันก็จะถูกเก็บไป
รอยของมันจะเหลืออยู่เหมือนรอยพองคล้ายถ่านไฟที่ท่านได้กลิ้งมันบนเท้าของท่าน
แล้วมันก็พอง  ท่านจะเห็นมันนูนขี้นมา แต่ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นเลย

ประชาชนจะทำการซื้อขายกัน แต่เกือบไม่มีใครสักคนที่มีความซื่อสัตย์ จะมีผู้กล่าวว่า
ในตระกูลนั้นๆ มีชายคนหนึ่งที่ซื่อสัตย์ และจะมีผู้กล่าวแก่ชายคนหนึ่ง อะไรหนอทำให้เขามีความเฉลียวฉลาด ?
อะไรหนอทำให้เขามีความเพียบพร้อม ? และอะไรหนอทำให้เขาเข้มแข็ง ?
ทั้งที่หัวใจของเขาไม่มีศรัทธาอยู่เลย แม้เพียงเท่าเมล็ดผักกาด

และขอสาบานว่า จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่มาประสบกับฉัน ฉันจะไม่หวั่นไหวเลยว่าใครจากพวกท่านที่ฉันจะค้าขายด้วย
ขอสาบานว่า ถ้าหากเขาเป็นมุสลิม การเป็นอิสลามของเขาก็จะให้ความเป็นธรรมแก่ฉัน
และถ้าหากเขาเป็นนัสรอนี หรือ ยะฮูดี ผู้ปกครองของเขาก็จะให้ความเป็นธรรมแก่ฉัน
สำหรับในวันนี้ฉันจะไม่ทำการค้าขาย นอกจากคนนั้นกับคนนั้น  (รายงานโดยบุคอรี มุสลิม และตัรมีซีย์)

หมายความว่า : ยุคแห่งความซื่อสัตย์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ในปัจจุบันฉันจะไม่ทำธุรกิจกับใคร
นอกจากคนบางคนเท่านั้น เพราะไม่มีความซื่อสัตย์ และไว้วางใจกันไม่ได้
ในเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในยุคของอัครสาวก แล้วจะเป็นอย่างไรในยุคปัจจุบันของเรานี้
  natural:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 19, 2009, 06:22 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อความซื่อสัตย์ถูกยกขึ้นไป
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 18, 2009, 11:57 AM »
0
 salam

แท้จริงท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า :

" เมื่อความซื่อสัตย์พินาศไปแล้ว ก็จงคอยวันสิ้นโลกเถิด "

อะบูฮุรอยเราะฮ์ (ร.ด.) ถามว่า มันจะพินาศไปอย่างไร โอ้ท่านรอซูลุ้ลเลาะฮ์ ?
ท่านกล่าวว่า เมื่อกิจการถูกมอบให้แก่ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ ก็จงคอยวันสิ้นโลกเถิด

กิจการงานในที่นี้ หมายถึง ตำแหน่งหน้าที่ทั้งในด้านปกครองและการตัดสิน


อ้างอิง :  ฮะดิษซอเฮี๊ยะห์ อัตตาจญ์ แปลโดยท่าน อ.อรุณ บุญชม  

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อความซื่อสัตย์ถูกยกขึ้นไป
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ต.ค. 18, 2009, 12:34 PM »
0
 salam

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อเตือนใจดีๆที่นำมาฝากกัน

แต่บางสถานการณ์เราก็ต้องลองเส่ียงที่จะไว้ใจฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งการไว้ใจในครั้งนั้นเราก็จำต้องมีอาวุธ
สำหรับตัวข้าน้อยนั้น อาวุธของข้าน้อยคือความพอใจในผลลัพธ์
ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง ข้าน้อยก็จะพยายามพอใจกับมัน...

หากปรากฏว่าโดนหลอก ก็ไม่เป็นไรค่ะ...
อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าคนๆนั้นซื่อสัตย์กับเราแค่ไหน...
แถมยังได้กำไรชีวิตกลับมาด้วยค่ะ...

ไม่ได้เสียอะไรเลยค่ะ...นอกจากเสียดายยยยยยยยยยยยยยย

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


 loveit:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
มีรายงานจากท่าน อับดุลลอฮฺ บุตร มัสอูด (ร.ด.) ได้กล่าวว่า :
"การพลีชีพในหนทางของอัลลอฮฺตะอาลาจะลบล้างบาปทั้งหมดเว้นไว้แต่ "อะมานะห์"
ในวันกิยามะห์บ่าวจะถูกนำมา แล้วมีผู้กล่าวกับเขาว่า "ท่านจงชดใช้อะมานะห์ของท่านเถิด"
บ่าวคนนั้นก็กล่าวตอบว่า "โอ้อัลลอฮฺตะอาลา (ชดใช้) อย่างไรเล่าในเมื่อฉันได้จากโลกดุนยามาแล้ว ? "
มีผู้กล่าวว่า จงนำเขาไปสู่ขุมนรกญะฮันนัม โดยที่อะมานะห์ถูกจำแลงรูปให้อยู่ในลักษณะที่เหมือนกับวันที่เขารับฝาก เมื่อเขาเห็นเขาก็รู้จักมัน".....
ต่อมาอิบนิมัสอูดกล่าวว่า "ละหมาด คืออะมานะห์ อาบน้ำละหมาดคืออะมานะห์ ทุกสิ่งถูกนับว่าเป็นอะมานะห์ทั้งหมด อะมานะห์ที่หนักที่สุด คือ ของฝาก"

ผู้รายงานฮาดีษได้กล่าวว่า
"ฉันได้ไปหาท่าน บัรรออฺ บุตร อาซิม ฉันได้กล่าวแก่ท่านว่า ท่านเห็นว่าอย่างไรในคำพูดของท่าน อิบนุมัสอูด"
ท่านบัรรออฺได้กล่าวตอบว่า "ถูกต้องแล้ว" ท่านไม่เคยได้ยินหรือต่อโองการที่ว่า




แท้จริงอัลลอฮ์ทรงมีบัญชาแก่พวกเจ้าให้พวกเจ้ามอบความไว้วางใจ (ให้รับผิดชอบการงานหรือตำแหน่งหน้าที่ใดๆ)
แก่ผู้ทรงสิทธิ์ของมัน และเมื่อพวกเจ้าทำการตัดสินในระหว่างมนุษย์ทั้งหลาย
พวกเจ้าจะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม แท้จริงเป็นการดียิ่งนักที่พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าในสิ่งนั้น
แท้จริงอัลลอฮ์ทรงได้ยินอีกทั้งทรงมองเห็น

( ซูเราะฮ์อันนิซาอ์ : 58 )

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
 salam

ส่วนหนึ่งจากความหมายของคำว่า อะมานะห์ คือการเก็บวางทุก ๆ สิ่งในที่เหมาะสมกับมัน
ดังนั้นตำแหน่งเกียรติยศจะไม่ถูกสรรเสริญแก่คนที่ไม่เหมาะสมกับผู้นั้น
และอาชีพการงานทั่วไปจะไม่ถูกวางให้กับคนที่ไม่มีคุณวุติที่เหมาะสมกับเขาฉันใดก็ฉันนั้น
การพิจารณาในเรื่องการปกครองและกิจการงานทั่ว ๆไปว่าเป็นอะมานะห์ที่จะต้องถูกสอบสวนนั้น มีอยู่หลายแง่มุมด้วยกัน

เช่นรายงานจาก อะบีซัรท่านได้ถามแก่ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม   ว่า
"โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ ทำไมท่านไม่แต่งตั้งฉันเป็นผู้รับผิดชอบงานสักตำแหน่งหนึ่ง ?

ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ตบไหล่ฉัน แล้วกล่าวว่า
"โอ้อะบาซัร ท่านเป็นผู้ที่อ่อนแอ และแน่แท้การมีตำแหน่งหน้าที่นั้นเป็น "อะมานะห์" และมันเป็นความอัปยศ
อีกทั้งเป็นความรันทดใจในวันปรโลก เว้นไว้แต่บุคคลที่เคารพในสิทธิ์และปฏิบัติภาระหน้าที่ที่มีอยู่อย่างครบถ้วนเท่านั้น"
(รายงานโดย มุสลิม)

แท้จริงวิชา หรือ อะมั้ล อย่างเดียวไม่สามารถช่วยผู้นั้นดีขึ้น บางครั้งผู้นั้นพอใจกับความประพฤติ และศรัทธาที่สมบูรณ์
แต่ทว่าไม่สามารถรับภาระการงานที่เฉพาะจำกัด มีความรับผิดชอบสูงได้ ท่านไม่เห็นหรือว่า
ตัวของท่านนบียะโก๊บเองไม่สามารถบริหารกิจการทรัพย์สินได้ โดยการเป็นนบี และมีความยำเกรง
ทว่าท่านสามารถปกป้อง รักษาและรู้เรื่องทรัพย์สิน ดังโองการซึ่งใจความว่า

"เขากล่าวว่า ขอท่านได้โปรดแต่งตั้งฉันเป็นผู้ควบคุมท้องพระคลังแผ่นดิน (อิยิปต์)
แท้จริงฉันเป็นผู้รักษา (พระคลังได้) อีกทั้งมีความรู้ (พอที่จะบริหารงานได้)"
(ซูเราะห์ ยูซุฟ  : 55 )

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. ได้รับสมญาว่าผู้ซื่อสัตย์ ท่านเป็นพ่อค้าผู้มีความซื่อสัตย์

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. ได้รับสมญาว่าผู้ซื่อสัตย์ ท่านเป็นพ่อค้าผู้มีความซื่อสัตย์

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. ได้รับสมญาว่าผู้ซื่อสัตย์ ท่านเป็นพ่อค้าผู้มีความซื่อสัตย์

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

...อันตำแหน่งนั้น จะมาพร้อมกับภาระหน้าที่...

แม้คนอื่นจะมองว่าเราเหมาะสมกับตำแหน่งนั้น
ตำแหน่งนี้ ทว่า เรานั้นย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่า
เราสามารถแบกรับภาระหน้าที่ที่มาพร้อมกับตำแหน่งดังกล่าว
ได้หรือไม่...

พ่อบอกว่า...ผู้ที่ซื่อสัตย์ ใครก็อยากร่วมงานร่วมธุรกิจด้วย...
และผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์มักจะขี้ระแวง ไม่ค่อยจะไว้ใจผู้อื่น...

เพราะ

...คนที่ไม่น่าไว้ใจที่สุด ก็คือ คนที่ไม่เคยไว้ใจใคร...

วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged