ตะเซาวุฟ ? ซูฟีย์

[Qortubah]

   ผมเคยได้ยินอุลามเมาะตะเซาวุฟมักกล่าวว่าท่านนบีกล่าวว่า

ผู้หนึ่งผู้ใดที่มีเฉพาะวิชาชะรีอัตโดยไม่มีวิชาฮากีกัต  อ้าม้าลเขาลีบ(ขาดทุน)

และผู้หนึ่งผู้ใดที่เขามีเพียงแต่ฮากีกัตแต่ไม่มีชารีอัตเขานั้นจะเสียหาย(บ้าต้อล)


อยากให้ผู้รู้วิจารณ์สถานะของหะดิสนี้ให้ทีครับ   ขอบคุณ

เท่าที่ทราบมา อิศฏิลาหฺ หรือศัำพท์เทคนิคเช่น "ฮากีกัต" หรือ "ชารีอัต" ตามความเข้าใจในยุคหลังนั้น ในสมัยท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังไม่มีใช้กันนะครับ (หมายถึงในความหมายตามแบบตะเศาวุฟ) เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะเป็นตัวบทหะดีษจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม วัลลอฮุอะลัม

ผิดถูกประการใด ไว้ท่านผู้รู้เข้ามาชี้แจงละกันครับ

[เด็กท่าเรือ]

 
หยากทราบว่าซูฟีที่มีอยู่ในบ้านเรามีพวกไหนบ้าง ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหรือ
หาข้อมูลไห้ด้วยครับ เพราะพวกเขากำลังเข้ามาหาเราแล้ว

[เด็กท่าเรือ]

 
เข้ามาคุ้ยอีกครั้ง เพราะเสนอมาเกือบเดือนไม่เห็นมีใครมาตอบให้ความกระจ่างชัดถึงแนวทางซูฟีย์ ขอถามนะครับ
1.เรื่องของการตอบัต
1.1การตอบัตปกติ กาย ภายนอก ด้วยลิ้นจิตรใจ
1.2การตอบัตรั๊วะ(วิญญาณ) ***ผู้รู้ช่วยอธิบายด้วยครับ***
 พอดีได้หนังสือ ที่ชื่อว่า "ตอรีกอตุ้ลลอฮฺ แนวทางแห่งอัลอิสลาม" มี 4 เล่ม เขียนโดย อ.มูฮำมัด ดำรงค์หวัง
พิมพืโดย ส.วงศ์เสงี่ยม
ฝากผู้รู้ด้วยครับ...ว่าหนังสือนี้สามารถศึกษาได้หรือไม่
โดยเฉพาะ...ท่าน al-azhary

[al-azhary]

1.เรื่องของการตอบัต
1.1การตอบัตปกติ กาย ภายนอก ด้วยลิ้นจิตรใจ
1.2การตอบัตรั๊วะ(วิญญาณ) ***ผู้รู้ช่วยอธิบายด้วยครับ***

1.1 การเตาบะฮ์ปกติ  ซึ่งเป็นสิ่งที่วาญิบต้องทำ  คือเตาบะฮ์ทางพฤติกรรม  กล่าวคือร่างกายไม่ไปทำกระทำความชั่ว  เตาบะฮ์จิตใจ  ก็คือจิตใจเลิกตะกั๊บบุร  ตะอัจญุด(ลำพองตน)  ไม่อิฉจาริษยา  ไม่โอ้อวด และไม่อคติต่อพี่น้องมุสลิม  เป็นต้น

1.2 เตาบะฮ์จิตวิญญาณ  คือเรามีความรู้สึกว่าไม่ต้องการสนใจสิ่งใดนอกจากอัลเลาะฮ์เท่านั้น 

การเตาบะฮ์ประเภทแรก  เพื่อให้ร่างกายและหัวใจสะอาดจากบาป  ส่วนเตาบะฮ์ประเภทที่สองนั้น  เพื่อยกระดับจิตใจให้มีความผูกกับอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ดังนั้นถ้าหากไม่สามารถผ่านการเตาบะฮ์ประเภทแรกได้  ก็จะไม่สามารถลิ้มรสเตาบะฮ์ประเภทที่สองได้หรอก  นอกจากผู้ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงเมตตาเท่านั้น

ซึ่งรายละเอียดดังกล่าว  ก็ต้องศึกษาร่ำเรียนจากคนเป็นหลักและจากหนังสือเป็นรอง  นอกจากผู้ที่อัลเลาะฮ์ทรงเมตตา  เขาก็จะสามารถลิ้มรสการเตาบะฮ์ประเภทที่สองได้โดยเพียงแค่อ่านหนังสือ  แล้วเราอยู่ในกลุ่มที่อัลเลาะฮ์ทรงเมตตาเป็นพิเศษหรือเปล่าเท่านั้นเอง  แต่อย่างน้อยการอ่านหนังสือจะทำให้สติปัญญาของเรามีความรู้และเป็นทางไปสู่การเตาบะฮ์ประเภทแรกได้  อินชาอัลเลาะฮ์

วัลลอฮุอะลัม

[suhaimi]

แล้วที่เขาเรียกว่า ซูฟี ที่ร้องเพลง ใน ยูทูบ คือ ยังไง คับ

[Al Fatoni]

แล้วที่เขาเรียกว่า ซูฟี ที่ร้องเพลง ใน ยูทูบ คือ ยังไง คับ

            ศูฟีย์ที่เป็นอยู่ในร่องในรอยอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์ก็มีครับ ซึ่งจะเป็นศูฟีย์ที่แท้จริง ลักษณะเด่นของศูฟีย์ที่แท้จริงเท่าที่ผมเข้าใจก็คือ จะไม่เน้นการพูดถึงเรื่องกะรอมะฮ์ (เรื่องเหนือธรรมชาติ) แต่จะเน้นหนักในการพูด ทำความเข้าใจ และใฝ่ปฏิบัติในเรื่องการขัดเกลาตนเอง ขจัดชิริกทุกรูปแบบ โดยเฉพาะชิริกเฅาะฟีย์ (ซ่อนเร้น) หมั่นตรวจสอบตนเองเพื่อปรับปรุงตน ยอมทำทุกอย่างที่อัลลอฮฺพึงพอพระทัย และจะหลีกห่างในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม หรือไม่ชอบ ว่าไปแล้ว ศูฟีย์ที่แท้จริงนั้นก็คือผู้ที่ปฏิบัติชะรีอะฮ์ในภาคบังคับ (ฟัรฎุ หรือวาจิบ) อย่างเคร่งครัดและครบถ้วนทั้งหมดเสียก่อน ก่อนที่จะไปปฏิบัติชะรีอะฮ์ภาคส่งเสริม (สุนัต) โดยเฉพาะสุนัตที่ไม่ได้ถูกกำหนดรูปแบบ เวลา สถานที่ และอื่นๆ อย่างตายตัวแล้ว ศูฟีย์ก็ถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่จะตักตวงปฏิบัติสิ่งเหล่านี้มากเป็นพิเศษกว่าคนปกติทั่วไปอย่างเท่านัก ... วัลลอฮุอะอ์ลัม

[babyboy300]

   ชอบบทความนี้ครับ.....อ่านแล้วอยากที่จะนำมาปฏิบัติบ้างจริงๆครับ   ใครที่พอจะมีความรู้ทางด้านนี้ช่วยแนะนำให้ผมที่ครับ