ผู้เขียน หัวข้อ: ละหมาดรักษาเวลา  (อ่าน 3533 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ binti-adnan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ละหมาดรักษาเวลา
« เมื่อ: ม.ค. 26, 2009, 09:39 AM »
0

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการละหมาดรักษาเวลาว่า  จะทำได้ในกรณีใดบ้าง

เพราะตอนนี้มีปัญหามาก คือ ทางมหาลัยส่งไปสอนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ซึ่งไม่มีห้องละหมาด  ส่วนห้องน้ำก็เป็นแบบกดชักโครก ไม่มีน้ำให้ล้าง

เวลาไปสอนจะคาบเกี่ยวเวลาละหมาด ซุฮ์ริและอัสริ

คือ ต้องสอนตั้งแต่ เที่ยงถึง ห้าโมงเย็น

ทีแรกคิดว่าไม่น่ามีปัญหา  แต่พอเอาเข้าจริงๆก็เป็นอย่างที่เล่าแหละค่ะ

กรณีแบบนี้จะละหมาดรักษาเวลาได้มั้ย  และถ้าละหมาดรักษาเวลาโดยไม่อาบน้ำละหมาดได้มั้ย

เพราะต้องถอดผ้าคลุมในห้องน้ำ  ซึ่งก็มีกาฟิเราะห์เต็มไปหมด

และไม่มีก็อกด้านล่างให้ล้างเท้าด้วย  จะยกเท้าล้างที่อ้างล้างมือก็ไม่ได้  มันสูงยกไม่ถึง

ต้องการคำตอบด่วนมาก  เพราะวันเสาร์ที่แล้วก็ละหมาดรักษาเวลาไปโดยไม่ได้อาบน้ำละหมาดด้วย

แล้วต้องกลับมาละหมาดใช้ที่บ้านอีกที

ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนค่ะ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ละหมาดรักษาเวลา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ม.ค. 26, 2009, 03:48 PM »
0

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

ประเด็นที่ผู้ถามได้ถามมานั้น  ถือว่าเป็นเรื่องของการทดสอบอีหม่านอย่างหนึ่งเลยทีเดียว  เพราะการละหมาดนั้นเป็นสิ่งที่ฟัรดูสำหรับมุสลิม  ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใหน  เราก็ต้องทำการละหมาด  โดยไม่ต้องอายผู้ใด  ส่วนประเด็นที่ผู้ถามได้ถามมานั้น  ผมจะแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ๆ ดังนี้ครับ

1. หลักการละหมาดรักษาเกียรติของเวลาละหมาด

การละหมาดรักษาเวลานั้น  สำหรับผู้อยู่ในสภาวะคับขัน(ฎ่อรูเราะฮ์)ไม่สามารถที่จะยกฮะดัษเล็กและฮะดัษใหญ่  หมายถึง  ในช่วงเวลาละหมาดนั้น  เขาไม่พบน้ำหรือดินผุ่นที่จะใช้อาบน้ำยกฮะดัษใหญ่หรือทำการอาบน้ำละหมาดนั่นเอง  ก็ให้เขาทำการละหมาดฟัรดูเพื่อรักษาเกียรติของเวลาละหมาดเอาไว้  หลักจากนั้นก็ให้ทำการกลับไปละหมาดใหม่  (หนังสือฮาชียะฮ์อัลบาญูรีย์ 1/102 และหนังสืออิอานะฮ์ อัฏฏอลิบีน 1/109)

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ความว่า

‏أَنَّهَا اسْتَعَارَتْ مِنْ ‏ ‏أَسْمَاءَ ‏ ‏قِلَادَةً فَهَلَكَتْ ‏ ‏فَبَعَثَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏رَجُلًا فَوَجَدَهَا فَأَدْرَكَتْهُمْ الصَّلَاةُ وَلَيْسَ مَعَهُمْ مَاءٌ فَصَلَّوْا فَشَكَوْا ذَلِكَ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏فَأَنْزَلَ اللَّهُ ‏ ‏آيَةَ التَّيَمُّمِ ‏ ‏فَقَالَ ‏ ‏أُسَيْدُ بْنُ حُضَيْرٍ ‏ ‏لِعَائِشَةَ ‏ ‏جَزَاكِ اللَّهُ خَيْرًا فَوَاللَّهِ مَا نَزَلَ بِكِ أَمْرٌ تَكْرَهِينَهُ إِلَّا جَعَلَ اللَّهُ ذَلِكِ لَكِ وَلِلْمُسْلِمِينَ فِيهِ خَيْرًا ‏

"ท่านนางได้ขอยืมสร้อยคอจากท่านนางอัสมาอฺ  แล้วสูญหายไป  ดังนั้นท่านร่อซูลุลอฮฺ  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงส่งบรรดาซอฮาบะฮ์กลุ่มหนึ่งไปหาสร้อย  แล้วเวลาละหมาดก็ได้มาประสบแก่พวกเขา  โดยที่พวกเขาไม่มีน้ำ  แล้วพวกเขาก็ทำการละหมาด(โดยไม่มีน้ำละหมาดและเมื่อพวกเขาได้กลับไปหาท่านนบี) ก็ทำการร้องเรียนสิ่งดังกล่าวต่อท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ดังนั้นอัลเลาะฮ์ก็ทรงประทานอายะฮ์ตะยัมมุมลงมา  และท่านอุซัยด์ บิน ฮุฏัยร์  ได้กล่าวแก่ท่านหญิงอาอิชะฮ์ว่า  ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบแทนความดีงามแก่ท่านนางด้วยเถิด  ขอยืนยันต่ออัลเลาะฮ์ว่า  ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นแก่ท่านนางซึ่งท่านนางมิชอบ  นอกจากว่าอัลเลาะฮ์จะทรงประทานทางออกสิ่งดังกล่าวแก่ท่านนางและบรรดามุสลิมีน  ซึ่งความดีงามในมันเสมอ"  รายงานโดยบุคอรี (324) และมุสลิม (551)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ได้อธิบายว่า  "ในฮะดีษนี้  เป็นหลักฐานสำหรับผู้ที่ไม่มีน้ำ(เพื่ออาบน้ำละหมาด)และดินฝุ่น(สำหรับตะยัมมุม) และให้เขาทำการละหมาดในสภาพดังกล่าว(ที่ไม่มีน้ำละหมาด)...และตามทัศนะที่ชัดเจนที่สุดนั้นตามทัศนะแห่งปราญ์ของเรา(มัซฮับชาฟิอีย์) ก็คือ จำเป็นบนเขา(ที่ไม่มีน้ำเพื่อทำการอาบน้ำละหมาด)ให้ทำการละหมาดและจำเป็นบนเขาต้องกลับไปละหมาดใหม่(หลังจากเมื่อพบน้ำแล้ว) สำหรับการให้ทำละหมาดนั้น  เพราะท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อฉันได้สั่งใช้พวกท่านกับสิ่งหนึ่ง  พวกท่านก็จงกระทำมันสุดเท่าที่มีความสามารถ"  ส่วนการกลับมาละหมาดใหม่นั้น  เพราะมันเป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง  ซึ่งเสมือนกับกรณีที่เขาได้ลืมล้างอวัยวะหนึ่งจากบรรดาอวัยวะที่ต้องทำความสะอาดแล้วทำการละหมาด  ซึ่งจำเป็นบนเขาต้องกลับมาละหมาดใหม่"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม 2/298
 
สรุปคือ  การละหมาดรักษาเวลานั้น  คือการละหมาดที่ไม่ต้องมีน้ำละหมาดนั่นเองครับ  แต่การละหมาดรักษาเวลาเช่นนี้  สำหรับผู้มีความจำเป็นหรืออยู่ในยามขับขัน  ไม่มีน้ำและฝุ่นดินจริง ๆ  แต่ในห้างนั้น  มีน้ำเยอะแยะ  ซึ่งหากไม่มีน้ำที่ก๊อกในห้องน้ำ  ก็ต้องซื้อน้ำที่บรรจุขวดเพื่อนำมาทำการอาบน้ำละหมาดนะครับ

2. อุปสรรคของผู้ถามนั้น  คือ ไม่มีห้องละหมาด , ต้องถอดฮิญาบต่อหน้ากาฟิเราะฮ์ , ในห้องน้ำมีน้ำใช้แต่ไม่มีก๊อกล่างสำหรับการล้างเท้า , สอนคาบเกี่ยวละหมาดซุฮ์ริและอัสริ ,  ซึ่งผมแนะนำไม่ให้รักษารักษาเวลานะครับ  เพราะว่ามิได้มีความจำเป็นหรืออยู่ในยามคับขันตามหลักศาสนาอย่างแท้จริงนะครับ  แต่ผมจะแนะนำทางออกเพื่อให้มีความสะดวกยิ่งขึ้นดังนี้

2.1 เราเป็นมุสลิมะฮ์  ไปสอนหนังสือก็คลุมฮิญาบ  ดังนั้นใคร ๆ ก็รู้ว่าเราเป็นมุสลิมะฮ์ที่มีการละหมาด  ฉะนั้นเราต้องหาที่ละหมาดสักมุมหนึ่งในห้องเรียนที่ทำการสอนเพื่อการละหมาด  โดยหาหรือพกพาผ้าซัจญาดะฮ์หรือหนังสือพิมพ์มาปูสำหรับการละหมาด  ซึ่งตรงนี้บางท่านอาจจะอายเพราะละหมาดท่ามกลางคนกาฟิเราะฮ์  แต่เราต้องมีอีหม่านที่เข้มแข็ง  ต้องไม่ละอายในเรื่องการทำความดีน่ะครับ 

2.2 หากผู้อาบน้ำของมุสลิมะฮ์ที่มีผ้าคลุมผม  ก็ให้เอามือที่เปียกน้ำสอดเข้าไปเช็ดที่ขม่อมก่อนอย่างน้อยให้เปียกผมสามเส้น  ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว  หลังจากนั้นก็เอาน้ำเช็ดบนผ้าคลุมผม  เพื่อให้ดังกล่าวได้ผลบุญเหมือนกับการเช็ดทั้งหมดศีรษะในการอาบน้ำละหมาด นั่นเอง

ท่านอัลมุฆีเราะฮ์ บิน ชั๊วะบะฮ์  กล่าวว่า

‏أَنَّ النَّبِيَّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏مَسَحَ عَلَى الْخُفَّيْنِ وَمُقَدَّمِ رَأْسِهِ وَعَلَى عِمَامَتِهِ

"แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ทำการเช็คสองรองเท้าหุ้มข้อ(คูฟ) และเช็ดขม่อมและบนผ้าโพกศีรษะ"  รายงานโดยมุสลิม (411)

ท่าน อิมามอันนะวาวีย์กล่าวอธิบายว่า  "สำหรับการเช็ดเสริมให้สมบูรณ์ที่ผ้าโพกศีรษะนั้น  ตามทัศนะของอิมามอัชชาฟิอีย์และปราชญ์กลุ่มหนึ่ง  ถือเป็นมุสตะฮับ(หรือสุนัต)  เพื่อให้มีความสะอาดทั่วศีรษะ  และไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ ระหว่างการสวมผ้าโพกศีรษะขณะที่มีน้ำละหมาดหรือขณะที่ยังไม่มีน้ำละหมาด  และเช่นเดียวกัน  หากบนศีรษะของเขามีหมวกโดยเขาไม่ได้ถอดมันออก  ก็ให้เขาทำการเช็ดที่ขม่อมและมุสตะฮับให้เช็ดเสริมให้สมบูรณ์บนหมวกเพราะ เทียบเคียงกับผ้าโพกศีรษะ  และหากเขาจำกัดเพียงแค่เช็คที่ผ้าโพกศีรษะเท่านั้นโดยไม่ทำการเช็คที่ส่วนใด ของศีรษะ  ถือว่าใช้ไม่ได้โดยไม่มีการขัดแย้งใด ๆ   และนี้ก็คือมัซฮับของอิมามมาลิก , อิมามอบูฮะนีฟะฮ์ , และนักปราชญ์ส่วนมาก  - ขออัลเลาะฮ์ประทานความเมตตาต่อพวกเขา -  ส่วนมัซฮับอิมามอะห์มัดนั้น  อนุญาตให้จำกัดเพียงแค่เช็คผ้าโพกได้  และมีกลุ่มหนึ่งจากสะลัฟให้การเห็นพร้อง  วัลลอฮุอะลัม"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 2/176

2.3 หากในห้องน้ำไม่มีก๊อกล่างเพื่อการล้างเท้า  ก็เอาสองมือรองน้ำที่ก๊อก  แล้วนำมาล้างเท้าให้เปียก  จากนั้นน้ำที่เปียกติดอยู่ที่เท้านั้น  ก็ใช้มือลูบให้น้ำเปียกทั่วเท้า  ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว  ไม่จำเป็นต้องรดน้ำให้เปียกทั่วเท้าทั้งหมดหรอกครับ  ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นการล้างแบบเบาบาง ( اَلْغُسْلُ الخَفِيْفُ ) 

2.4 กรณีที่ทำการสอนที่ห้างในช่วงวันเสาร์นั้น  ถือเป็นเหตุที่มิได้เป็นปกติวิสัย  คือไปสอนชั่วคราว  ก็อนุญาตให้ทำการรวมละหมาดระหว่างซุฮ์ริและอัสรินะครับ  ซึ่งผมแนะนำให้รวมละหมาดแบบตะคีร  คือการเอาละหมาดซุฮ์ริไปรวมทำในเวลาละหมาดอัสริ  กล่าวคือเมื่อเข้าเวลาซุฮ์ริก็ให้เหนียตตั้งใจรวมละหมาดซุฮ์ริไปทำในเวลาอัสริ  ดังนั้นเมื่อถึงเวลาอัสริ  ก็ให้ทำละหมาดซุฮ์ริสี่ร่อกะอัต  โดยเหนียตว่า "ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูซุฮ์ริแบบรวมหลัง(ญาเมาะอฺตะคีร) เพื่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา"  หลังจากนั้นก็ละหมาดอัสริสี่ร่อกะอัตตามปกติ 

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวอธิบายเช่นกันว่า

وَذَهَبَ جَمَاعَةٌ مِنْ الْأَئِمَّة إِلَى جَوَاز الْجَمْع فِي الْحَضَر لِلْحَاجَةِ لِمَنْ لَا يَتَّخِذهُ عَادَة , وَهُوَ قَوْل اِبْن سِيرِينَ وَأَشْهَب مِنْ أَصْحَاب مَالِك , وَحَكَاهُ الْخَطَّابِيُّ عَنْ الْقَفَّال وَالشَّاشِيّ الْكَبِير مِنْ أَصْحَاب الشَّافِعِيّ عَنْ أَبِي إِسْحَاق الْمَرْوَزِيِّ عَنْ جَمَاعَة مِنْ أَصْحَاب الْحَدِيث , وَاخْتَارَهُ اِبْن الْمُنْذِر وَيُؤَيِّدهُ ظَاهِر قَوْل اِبْن عَبَّاس : أَرَادَ أَلَّا يُحْرِج أُمَّته , فَلَمْ يُعَلِّلهُ بِمَرَضٍ وَلَا غَيْره وَاللَّهُ أَعْلَم

"กลุ่มหนึ่งจากปวงปราชญ์ได้ดำเนินทัศนะว่า อนุญาตให้รวมละหมาดในขณะที่ไม่ได้เดินทาง เพราะมีความจำเป็น (แต่อนุญาตให้)สำหรับผู้ที่ต้องไม่ทำการรวมละหมาดเป็นปกติวิสัย   และมันคือทัศนะของท่านอิบนุซีรีน , ท่านอัชฮับ จากสานุศิษย์ของท่านอิมามมาลิก  และท่านอัลค๊อฏฏอบีย์ได้ทำการรายงานจาก ท่านอัลก๊อฟฟาล และจากอัชชาชีย์ผู้เป็นพี่ที่มาจากมัซฮับของเรา  ซึ่งได้รายงานจากอบีอิสหาก อัลมัรวะซีย์  จากกลุ่มหนึ่งจากนักปราชญ์หะดิษ  และท่านอิบนุอัลมุนซิรได้เลือกทัศนะนี้  และได้ทำการสนับสนุนกับทัศนะนี้โดยคำกล่าวของท่านอิบนุอับบาสที่ว่า "ท่านนบีต้องการไม่ให้มีความลำบากต่อประชาชาติของท่าน"  ดังนั้น  ท่านอิบนุอับบาสไม่ได้ให้เหตุผลว่าป่วยและอื่น ๆ เลย  วัลลลอฮุอะลัม" ดู  ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม  เล่ม 23 หน้า 236  ดารุลหะดิษ

ท้ายนี้  ก็ขอต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  ทรงประทานความสะดวกง่ายดาย  และอีหม่านอันเข้มแข็งต่อผู้ถามด้วยเถิด  และขอให้คำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า "ผู้ใดที่ยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์  พระองค์จะประทานทางออกให้แก่เขา" อัฏเฏาะล๊าก : 2 จงให้มีแด่ผู้ถามด้วยเถิด ยาร็อบ

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged