ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อ สอนลูก  (อ่าน 16196 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 09:52 PM »
0
อิจฉาจัง...คนที่ได้อยู่กับพ่อ ได้คุยปรึกษากับพ่อ
ฟังพ่อสอนความเป็นไปของชีวิต
รักพ่อรักแม่ให้มากๆนะคะ

ได้อย่างก็เสียอย่างเป็นธรรมดา

เค้าว่าเจ๊ากันแล้วนะคะเพราะก๊ะก็มี พ่อทูนหัว  อยู่ข้างกายแล้วทั้งคน

ในขณะที่บางคนยังต้องบอกกับตัวเองว่า  whatever  will  be  ,  willbe

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: พ.ย. 02, 2009, 03:37 PM »
0
อิจฉาจัง...คนที่ได้อยู่กับพ่อ ได้คุยปรึกษากับพ่อ
ฟังพ่อสอนความเป็นไปของชีวิต
รักพ่อรักแม่ให้มากๆนะคะ

ได้อย่างก็เสียอย่างเป็นธรรมดา

เค้าว่าเจ๊ากันแล้วนะคะเพราะก๊ะก็มี พ่อทูนหัว  อยู่ข้างกายแล้วทั้งคน

ในขณะที่บางคนยังต้องบอกกับตัวเองว่า  whatever  will  be  ,  willbe

 loveit:

555+

 boulay:
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: พ.ย. 20, 2009, 09:05 PM »
0
  salam

เด็กน้อยวัย 5 ขวบนั่งเล่นขายของอยู่หน้าบ้าน  โดยที่มีพ่อนั่งทำงานอยู่ไม่ไกลนัก

ดูเหมือนตอนนี้เด็กน้อยกำลังมีโลกส่วนตัวของตัวเองอยู่อย่างมากมาย

นั่งเล่นไปสักพัก  เด็กน้อยก็วิ่งหายเข้าไปในครัวพร้อมกับหยิบมีดมาเล่น

     ขณะที่เด็กน้อยกำลังใช้มีดอยู่นั้น  พ่อก็ส่งเสียงเตือนออกมาว่าอย่าเล่นเลยลูกมันอันตราย

เด็กน้อยไม่ฟังเสียง  รั้นที่จะเล่นมีดนั้นต่อ

     พี่สาวเดินผ่านมาร้องทักให้เด็กน้อยเอามีดไปเก็บเดี๋ยวนี้

แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้ใส่ใจ  (พ่อยังคงสังเกตอยู่ไม่ห่าง)

    แม่เดินผ่านมาเห็นเข้าก็ทักเด็กน้อยจอมซนอีกคนว่าให้เอาไปเก็บเดี๋ยวนี้

แต่เด็กน้อยก็ไม่ใส่ใจเหมือนเช่นเคย  (พ่อยังคงนั่งนิ่งคอยดูอยู่ไม่ห่าง)

และแล้วสิ่งที่ทั้งพี่สาวและแม่เกรงว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นจริง

     เด็กน้อยเดินร้องไห้มาหาพ่อพร้อม่ชูนิ้วมือที่อาบเลือดให้พ่อดู

พ่อจ๋าหนูโดนมีดบาด

พ่อพาเด็กน้อยไปล้างมือและทำแผลให้

พ่อถามเด็กน้อยว่า  "แล้วเป็นไง"

     เด็กน้อยเก็บคำถามนั้นไว้ในใจ  เธอสงสัยมากมายกับคำถามที่พ่อถาม

แต่ด้วยความเป็นเด็ก  เธอไม่อาจเข้าใจนัยยะในคำถามนั้นได้

มีต่อ...

เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: พ.ย. 20, 2009, 09:17 PM »
0
^
^
เวลาผ่านไป(ไวเหมือนโกหก)

เด็กน้อยเริ่มเติบโตขึ้น

ไม่ว่าเธอจะทำอะไรพ่อมักจะไม่ห้าม

(เพราะเกือบทุกครั้งที่ห้ามเธอไม่ค่อยฟังซักเท่าไหร่  แบบว่าเชื่อมั่นในตัวเองสูง)

จนกระทั่งบดทดสอบหนึ่งประสบกับเธอ

เธอรู้สึกว่าบอบช้ำมากมาย  พ่อเองก็เฝ้าดูแลเธอไม่ห่าง

จนวันหนึ่งเธอสบโอกาส  ถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจมาตั้งนานว่า

- - ทำไมครั้งนี้พ่อถึงไม่ห้าม

- - ที่ผ่านมาห้ามแล้วเคยเชื่อไหม

- - นิ่งเงียบ  ก่อนตอบว่า  ไม่ค่ะ

- - นั่นแหละ  แล้วเป็นไง

- - นิ่งเงียบ  น้ำตาคลอ  แล้วเป็นไง  อีกแล้วเหรอ?

- - อะไรคือแล้วเป็นไงหล่ะคะพ่อ

- - ก็เราไม่เคยเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้ามปรามหรือตักเตือนไม่ใช่หรือ

- - เราชอบที่จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ

แล้วเป็นไงหล่ะ

          กับบางสิ่งบางอย่างนั้นประสบการณ์เป็นสิ่งที่สมควรจะได้เรียนรู้

          แต่กับบางเรื่องนั้นเลือกที่จะเชื่อมันก็อาจจะดีกว่าพิสูจน์นะลูกรัก




เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: ธ.ค. 04, 2009, 09:16 PM »
0


 salam

พ่อบอกว่า...

"อย่าคิดว่าปลาที่เราได้มานั้นมันตัวใหญ่แล้ว"

ให้ศึกษาต่อไปเรื่อยๆจนหมดลมหายใจ...
ศึกษาและปฏิบัติตามที่ได้ศึกษามา...
และอย่าหยุดศึกษาจนกว่าจะหมดลมหายใจ...
พ่อไม่บังคับให้ลูกต้องเหมือนพ่อทุกอย่าง
เดินตามพ่อทุกฝีก้าว แต่เราจะไปเจอกันที่ปลายทาง...
เมื่อความฝันของเราไม่ได้หยุดแค่ดุนยา...
และเป้าหมายของเราคือสิ่งเดียวกัน
อย่าหวั่น หากรู้สึกว่าพ่อไม่ได้อยู่เคียงข้างบนเส้นทางที่ลูกกำลังเดิน...
เพราะว่าอัลลอฮฺทรงอยู่กับลูก คอยคุ้มครองลูก
พระองค์คือผู้คุ้มครอง พระองค์คือผู้ช่วยเหลือ...
ทุกลมหายใจเราจึงต้องศึกษาเพื่อค้นหาสัจธรรม...
ค้นหาความจริงเพื่อเราจะได้อยู่กับความจริง...
พ่อก็ทำอยู่...ลูกก็ต้องทำมันด้วย...
เพราะสุดท้ายแล้ว...ความจริงที่เราค้นหามีอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น...

วัลลอฮุอะลัม

วัสลามุอะลัยกุมวะเราะมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: ธ.ค. 23, 2009, 12:42 PM »
0
มีพ่ออยู่คนหนึ่งได้ต้นเชอรี่พันธุ์ดีมา ก็เอามาปลูกไว้ที่บ้าน
และสั่งให้ทุกคนในบ้าน ช่วยกันดูแล ......

เพื่อว่าเมื่อต้นเชอรี่โตขึ้นทุกคนจะได้กินผลที่อร่อยจากต้นเชอรี่พันธุ์ ดีนี้

และคุณพ่อเองก็เฝ้ารดน้ำ ใส่ปุ๋ย
ดูแลมันอย่างดีเป็นเชอรี่ต้นโปรดของคุณพ่อทีเดียว
อยู่มาวันหนึ่งขณะที่คุณพ่อออกไปทำงาน ....
ลูกชายชื่อจอร์จซึ่งได้ขวานเล็กๆ อันใหม่มา ด้วยความซน
ก็ฟันนู่นฟันนี่ แล้วก็ไปโดนต้นเชอรี่แสนรักของคุณพ่อเข้า
ต้นเชอรี่ค่อยๆ เอนตัวแล้วก็ล้มลงกับพื้น
เหลือแต่ตอที่อยู่เหนือพื้นดินมาไม่กี่นิ้ว
เมื่อคุณพ่อกลับมาถึงบ้านเห็นต้นเชอรี่แสนรักในสภาพอย่างนั้น
ก็ตกใจมาก เรียกทุกคนในบ้านมาถามก็ไม่มีใครทราบ .....
จนคุณพ่อนึกถึงลูกชายคนนี้ก็ตะโกนเรียก ด้วยเสียงอันดังว่า

"จอร์จ มา นี่ซิ "

จอร์จก็เดินออกมาหาคุณพ่อ คุณพ่อได้ถามจอร์จว่า

"จอร์จ ลูกรู้ไหมว่าทำไมต้นเชอรี่ถึงเป็นแบบนี้"

จอร์จก้มหน้าแต่ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นตอบคุณพ่อว่า .....

"ผมไม่กล้าโกหกคุณพ่อหรอกครับว่า
ผมเป็นคนเอาขวานฟันต้นเชอรี่นี้เอง"
คุณพ่อบอกจอร์จว่า "เข้าไปรอพ่อในบ้าน" ….
จอร์จเดินเข้าไปรอคุณพ่อในห้องของเค้า
เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ คุณพ่อก็เข้ามาในห้อง และถามจอร์จว่า....

"ทำไมลูกถึงตัดต้นเชอรี่ ที่อีกหน่อยทุกคนในบ้านจะได้กินผลจากมันล่ะ"
จอร์จตอบคุณพ่อว่า "ผมไม่ได้ตั้งใจครับ
ผมทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมเอง"
แล้วจอร์จก็ก้มหน้าลง หน้าแดงด้วยความละอาย
แล้วก็ได้ยินเสียงคุณพ่อพูดว่า "จอร์จ ลูกดูหน้าพ่อซิ .....
ถึงพ่อจะรู้สึกเสียใจที่ต้นเชอรี่ที่พ่อรักถูกโค่นไป
แต่พ่อก็ดีใจยิ่งกว่าที่ลูกของพ่อซื่อสัตย์
และกล้าหาญที่ยอมรับในการกระทำของตัวเอง
ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ถึงแม้จะมีเชอรี่พันธุ์ดีเต็มสวนก็ไม่มีประโยชน์ อะไร"
จอร์จจดจำเรื่องราวเหล่านี้
และใช้ความกล้าหาญและซื่อสัตย์ตลอดมา....
จนกระทั่งในการดำรงฐานะเป็นประธานาธิบดี "จอร์จ วอชิงตัน"
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของท่านประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน
ฟังแล้วประทับใจในวิธีการ สอนของคุณพ่อ .....
แทนที่คุณพ่อจะทำโทษลูกด้วยวิธีอันรุนแรง เกรี้ยวกราดกับลูก

หรือให้ความสำคัญกับสิ่งของแต่คุณพ่อกลับพูดกับลูกอย่างอ่อนโยน....
ด้วยถ้อยคำที่ทำให้ลูกต้องจดจำไปตลอดชีวิต
ถ้าคุณพ่อทำโทษแรง ๆ ก็อาจจะไม่มีประธานาธิบดีจอร์จ
วอชิงตันแบบนี้ก็ ได้…..

ในชีวิตมีสักครั้งไหม....ที่เราเกรี้ยวกราดกับสิ่งที่ไม่มีวันได้คืน.....
แทนที่จะใส่ใจกับสิ่งที่ยังอยู่ มากกว่า ...
ถ้าคุณยังไม่เคยได้นึก ถึง
รึว่าอาจลืมไป...
ยังไม่สายหรอก....มาเติมเต็มชีวิตกันเถอะ.....
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ muhibbah

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 268
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 04:26 AM »
0
คิดถึงอาเยาะห์ค๊าบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: ม.ค. 18, 2010, 02:53 PM »
0
พ่อ - - ทำหน้าตาบูดบึ้งซะขนาดนั้นไปเคืองใครมารึยังไง

ลูก - - ก็...หน่ะสิคะเอาความลับของลูกไปบอกต่อใครต่อใคร  หนูหน่ะโกรธสุด ๆ เลย  รู้งี้ไม่บอกซะก็ดี

พ่อ - -  จงอย่าโกรธเพื่อน  ที่บอกความลับของเราให้แก่ผู้อื่นรู้
          แต่จงโกรธ  คนที่บอกความลับนั้นให้กับเพื่อนคุณรู้[20/b]
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: ม.ค. 18, 2010, 09:40 PM »
0
ถ้าเราไม่ได้บอกแต่เขาแอบสืบรู้มาล่ะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: ม.ค. 18, 2010, 09:58 PM »
0
แสดงว่าต้องโกรธตัวเองอ่ะจิ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: ม.ค. 18, 2010, 10:19 PM »
0

ความลับของเรา เมื่อออกจากปากเราแล้ว
มันก็ย่อมไม่ใช่ความลับของเราอีกต่อไป... ;D
เพราะเราได้ฝากมันไว้กับใครอีกคนไปแล้ว
จะเอาคืนมาก็ไม่ได้...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 08:37 AM »
0
อืม
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 12:22 AM »
0

 salam

คำสอนของพ่อแม่บางครั้งกว่าจะเข้าใจก็เมื่อต้องเจอะกับตัวเองถึงรู้...
ช่วงหลังๆมามักนึกถึงสิ่งที่ท่านพร่ำสอนตอนเรายังอยู่ในความดูแลของท่าน
ช่วงที่เรายังตั้งหลักไม่ได้ ช่วงที่เรายังกระพือปีกบินเองได้ไม่คล่อง
และไม่ว่าจะผ่่านมากี่ร้อนหนาว ท่านทั้งสองก็ยังคงเป็นดั่งสายลมใต้ปีก
เป็นสายลมคอยหนุนนำ
ไม่ว่าจะบินไปยังแห่งหนใด หรือต้องบินไปยังแดนไกล ณ ที่ใดก็ตาม
แม้ไม่มีตัวท่านติดตามไปด้วย
แต่ทุกครั้งที่เราหมดแรงหรืออ่อนล้า คำสอนต่างๆก่อนหน้านั้น
จะเป็นดั่งสายลมที่คอยส่งเราให้บินขึ้นได้อีกครั้ง ส่งเราไปถึงขอบฝัน...
เป็นความอบอุ่น เป็นความรักที่ไม่ต้องมีตัวตนของท่านมาโอบกอดก็อุ่นได้...
เพียงแค่นึกถึง...และมันเป็นความรักที่กว่าจะรู้กว่าจะซึ้ง
บางทีก็เมื่อต้องพรากจากกัน ต้องห่างกันไกล...
ระยะทางและความห่าง แท้จริงไม่มีผลอันใดเลย เพราะบางทีใกล้กัน
ก็ไม่ได้ห่วงหาอาทรกันหรือรักกันเท่าเมื่อยามห่างกันเลย...

และวันนี้คำพูดนึงที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะพูดตามที่ท่านพูดได้แป๊ะๆ
แต่ท่านได้สอนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว นานมาก...
แต่มันจะผุดมาทุกครั้ง เมื่อตัวเองรู้สึกว่ากำลังจะแตะต้องของร้อน
ด้วยอดทนรอไม่ได้...ท่านเคยบอกเมื่อตอนกินข้าวว่า

...อย่ากินข้าวหรือดื่มน้ำในขณะที่มันยังร้อนอยู่ และอย่าเป่าเพื่อให้มันหายร้อน
เพียงเพราะมันไม่ทันใจเรา เราต้องทนและค่อยกินเมื่ออาหารมันอุ่นกำลังดี
ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป...

ยอมรับว่าตอนนั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราจะเป่าอาหารที่เราจะกินไม่ได้
พ่อนั่นแหล่ะเป็นคนบอกว่า มันมีสิ่งดีๆมีฮิกมะฮฺซ่อนอยู่ในนั้น...ทำไปเถิด...

ท่านบอกว่าบางทีอาหารดีๆมีประโยชน์ตรงหน้าเรา
เมื่อเราเป่า เศษฝุ่นที่กำลังปลิวว่อนอยู่ ทั้งที่เราเห็นและไม่เห็น
จะเข้าไปอยู่ในอาหารด้วยเพราะลมปากของเรา แค่เราอดทนรอ
อาหารดีๆก็จะมาอยู่ในท้องของเราอีกในไม่ช้า...

ณ ตอนนั้น ได้แค่คิดว่า พ่อคงเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของเรา
และคิดว่าพ่อเราที่ไม่ใช่นักวิชาการ ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ผู้รู้มากมายอะไร
แต่ทำไมถึงละเอียดได้ขนาดนั้น ท่านพูดอธิบายมากกว่าจะสั่งให้ทำ...
เลยทำให้เราเข้าใจว่า ท่านหวังดี เลยยอมตาม ทั้งๆที่ก็ไม่เข้าใจมากมายนัก
และคิดว่า ไม่ทำก็ไม่น่าจะเป็นอะไร...

แต่ ณ ปัจจุบัน หลังจากโตมา ก็ได้เรียนรู้เพิ่มว่า ในสิ่งที่ท่านสอนนั้น
มันมีฮิกมะฮฺซ่อนอยู่มากมาย

เพราะทุกครั้งที่รู้สึกว่า เรานั้นร้อนรุ่ม ใจร้อน ทนรอไม่ไหว รอไม่ได้
ใจและมือมันกำลังจะทำตามอารมณ์ร้อนเพื่อให้ได้ดังใจนั้น
ต้องหยุดชะงักลงอยู่บ่อยครั้ง เพราะได้เรียนรู้มาว่า
ของร้อนนั้นต้องห้าม และต้องรอให้มันอุ่นกำลังดีก่อนแล้วค่อยแตะ
เพราะถ้าแตะตอนมันยังร้อนอยู่ มันจะลวกมือเรา ลวกปากเรา
ทำให้รสชาติดีๆที่ควรจะได้หายไป แต่เมื่อมันอุ่นกำลังดี หรือเย็นลงแล้ว
เราก็สามารถทานได้คล่อง ทานได้เร็ว
และได้ประโยชน์จากอาหารนั้นตามที่ควรจะได้

และมันไม่ใช่แค่อาหาร แต่มันหมายถึงทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เป็นของร้อน!!

และหากเราต้องการจะเป่าของที่ร้อนให้มันหายร้อนเพื่อจะได้รับมันเข้ามาได้นั้น...
บางทีมันไม่ได้ให้ประโยชน์อันใดแก่เราเลย...แต่กลับกันอาจจะให้โทษแก่เรา
โทษที่เรามองไม่เห็น โทษที่เราไม่รู้ว่าเราได้รับมันมาไว้ในร่างกาย
ในจิตใจของเราแล้ว เพราะฝุ่นหรือเชื้อโรคเล็กๆที่ลอยอยู่ในอากาศ
ที่สายตาของเราไม่อาจมองเห็นได้นั้น มันได้ไปปะปนลงบนอาหารที่เรากำลังจะกิน
หรือของร้อนที่เรากำลังเป่าลงไปโดยที่เราไม่รู้ตัว...
และสิ่งที่เราควรเป่า หาใช่อาหารหรือของร้อนตรงหน้าไม่ แต่เป็นใจของเรา...


ไม่แน่ใจว่า...การไม่เป่าอาหารในขณะร้อนก่อนรับประทานอาหาร
เป็นซุนนะฮฺนบีรึเปล่าค่ะ... เพราะว่าส่วนใหญ่สิ่งที่พ่อสอนมักมาจาก
แบบฉบับของท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ซึ่งท่านก็มักจะบอกเหมือนกันค่ะว่่าอะไรบ้างมาจากแบบฉบับของท่านนบี
แต่ตัวลูกเองนั้น ไม่ค่อยจะสนเท่าไหร่ จำมาแต่เนื้อหาคร่าวๆ
ส่วนที่มาที่แท้จริง ลืมค่ะ... ;D

แต่ก็เชื่อพ่อแม่นะคะ เพราะรู้ว่าท่่านทั้งสองจักไม่มีวันโยนลูกของท่าน
ลงไปในเปลวเพลิงอย่างแน่นอน...ทุกสิ่งที่ท่านพร่ำสอน
เพราะท่านหวังดีต่อลูกของท่านโดยแท้...

แม้จะเคยดื้อเคยรั้นมาเยอะ และก็ยังดื้อรั้นอยู่บ้าง
แต่ก็คิดว่าน่าจะน้อยลงกว่าแต่ก่อน เพราะเคยถามท่่าน ท่านบอกว่า
ข้าน้อยไม่ใช่คนดื้อ แต่หัวรั้นมากกว่า เลยถามท่านว่า
มันต่างกันด้วยหรือ...ท่านบอกว่า ต่างกันไม่มากหรอก
เพราะคนดื้อนั้น จะมีเหตุผลหรือไม่มีก็ขอดื้อไว้ก่อน ไม่ฟังใครแล้ว ค้านหัวทิ่มดิน
แต่คนรั้นนั้น มักเชื่อในเหตุผลของตนแล้วรั้นจะไปให้ได้ ไม่ฟังใครแล้ว...
มุทะลุชนฝาจะไปให้ได้ดั่งที่ตนคิด...
เพราะคิดว่าสิ่งที่ตนคิดมันถูกต้องแล้ว ณ ตอนนั้น...

สรุปเอาเองว่า ไม่ไหวทั้งคู่ค่ะ ทั้งคนดื้อและคนรั้น hehe
พ่อแม่เลยพยายามบอกว่า เพลาๆลงบ้าง ชีวิตจะได้เบาขึ้น เจ็บตัวน้อยลง... ;D

ยอมรับเลยค่ะว่า เวลารั้นไม่ฟังใคร แล้วสุดท้ายพลาดนั้น มันเจ็บ!!!

แต่ก็ยังดีค่ะ ที่เวลาล้มก็มีเบาะอย่างพ่อกับแม่คอยรองรับ เลยไม่เจ็บมากนัก  hehe


มาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ปล.ขออภัยในความยาวค่ะ (ทั้งที่ปกติก็ไม่เคยจะทำให้สั้นได้เลยสักที ;D )

วัสลามค่ะ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 09:19 AM »
0
ยาวมกามาย
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อ สอนลูก
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 03:12 PM »
0

ความลับของเรา เมื่อออกจากปากเราแล้ว
มันก็ย่อมไม่ใช่ความลับของเราอีกต่อไป... ;D
เพราะเราได้ฝากมันไว้กับใครอีกคนไปแล้ว
จะเอาคืนมาก็ไม่ได้...



ลูก - - บางคนแนะลูกว่าตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน  แต่หลายต่อหลายครั้งทำให้ลูกไม่เชื่อว่าลูกจะพึ่งตัวเองได้เลย  ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วลูกควรจะหวังพึ่งสิ่งใดได้อีกฤา

พ่อ - - สัจธรรมที่แท้จริงย่อมเป็นสัจธรรมที่แท้จริง  ดั่งในซูเราะห์อัล-อิคลาส  ความว่า
          

           "อัลลอฮุซเซาะมัด" และอัลลอฮ์เท่านั้นเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

 

GoogleTagged