ท่าน อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "แท้จริง ชิริกใหญ่ ได้ครอบคลุมทั่วประเทศต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว และผู้คนทั้งหมดได้ตกศาสนาออกจากอิสลามทั้งตะวันตกและออก รวมทั้งเมืองเยเมนและชาม(ซีเรีย , จอแดน , ปาเลสไตน์ , อิรัก) ดังนั้น หากแม้นว่าไม่มีท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ทำการฟื้นฟูอิสลามแล้วไซร้ บรรดามนุษย์ทั้งหลายย่อมอยู่ในความมืดมนแห่งกุฟุร"
ท่าน อัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กล่าวว่า "เราขอความคุ้มครอบต่ออัลเลาะฮ์ด้วยเถิด นี้ไม่ใช่แนวทางของท่านชัยค์มุฮัมมัด จริงแล้วท่านยังเป็นเพียงบุรุษที่ยังไร้ความอาวุโส อีกทั้งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง และข้าพเจ้าทราบดีว่า ในนครมักกะฮ์นั้น มีท่านมัสอูด บุตร อับดุลอะซีซ (คือมีบางท่านจากราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรซาอุดี้อาราเบีย) และบรรดาผู้รู้ของท่านที่เป็นลูกหลานของชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ(เป็นที่ทราบดีว่า มีการตกลงร่วมมือระหว่างราชวงศ์ซะอูดและวงศ์วานชัยค์อิบนุอับดุลวะฮาบ) คือ ท่านอับดุลเลาะฮ์ บุตร มุฮัมมัด และท่านหุซัยน์และสุไลมานผู้เป็นน้องของเขานั้น ต่างก็เป็นผู้มีความรู้ พวกเขาทราบดีถึงหลักฐานและยึดหลักการอย่างเคร่งครัดในขณะที่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน โดยหลักยึดมั่นของพวกเขาเหล่านั้น ไม่เหมือนกับสิ่งที่ท่านดำเนินอยู่ พวกเขาย่อมไม่เกี่ยวข้องจากสิ่งที่ท่านได้อ้างพาดพิงไปยังพวกเขา , ความจริง ท่านได้ถือกำเนิดในประเทศที่มีแต่คนเอาวามทั่วไป และท่านก็ไม่รู้จักผู้ที่สามารถชี้นำท่านสู่ความถูกต้องได้ แต่ทว่า ท่านเพียงจดจำบางสิ่งบางอย่างและยังมีประการต่าง ๆ อีกมากมายที่ท่านขาดหายไป ดังนั้น การตัดสินฮุกุ่มต่อประเทศอิสลามเหล่านั้นทั้งหมด ว่า กระทำชิริกใหญ่และความลุ่มหลงโดยแผ่คลุมทั่วไปนั้น บรรดาหลักฐานต่าง ๆ ที่มีความเด็ดขาดได้ปฏิเสธมัน เนื่องจาก ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ประชาชาติของท่านนั้น ครึ่งหนึ่งของชาวสวรรค์" ดังนี้ย่อมเท่าเทียมกับประชาชาติศตวรรษต่าง ๆ ตั้งแต่จากสมัยท่านนบีอาดัม ซ่อละวาตุลเลาะฮ์ฮิอะลัยฮ์ จนถึงยุคการแต่งตั้งท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มาเป็นระยะพัน ๆ ปี โดยพวกเขาเหล่านั้น เพิ่มทวีคูณมากมาย ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ได้นอกจากผู้อภิบาลแห่งสากลโลก และพร้อมกันนี้ พวกเขาก็คือครึ่งหนึ่งจากชาวสวรรค์ เพราะฉะนั้น ท่านจงชั่งคำพูดของท่าน ด้วยมาตราฐานของหลักศาสนา แล้วท่านจะรู้ถึงความผิดพลาดออกจากความถูกต้อง