เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
การถกเสวนาครั้งใหญ่ระหว่างอุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์กับวะฮาบีย์
al-azhary:
Tweet
السلام عليكم ورحمة الله وربكاته وطيباته
พอดีว่าง ๆ เดินไปร้านหนังสือ ผมเห็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งหนังสือเล่มเล็กดังกล่าว มีชื่อว่า المناظرة الكبرى "การถกเสวนาครั้งใหญ่" ระหว่าง ท่าน อิมาม อัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กับบรรดาอุลามาอ์แนวทางคิดวะฮาบีย์ ของเมืองเยเมน
ท่าน อิมาม อัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดริส นั้น เป็นนักปราชญ์ท่านหนึ่งของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลยะมาอะฮ์ ซึ่งมีเชื้อสายของท่าน อิมาม อัลหุซัยน์(ร.ฏ.) จากการสืบเซื้อสายทางท่าน อิมามญะฟัร อัศศอดิก (ร.ฏ.)
หนังสือดังกล่าว ได้ตีพิมพ์ ที่ มักตะฮ์ อุมมฺ อัลกุรอ ซึ่งตั้งอยู่หน้า มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร อันทรงเกียรติ
อินชาอัลเลาะฮ์ ในยามว่างเว้นจากภาระกิจเรื่องกาเรียนการสอน ผมจะเข้ามานำเสนอบทการถกเสวนาในตอน ๆ ไปเรื่อย ๆ จนจบเล่มครับ
والسلام
al-azhary
al-azhary:
เริ่มการเสวนา
เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ว่าการจังหวัดซาบัยยา แห่งเยเมน ได้อันเชิญแขกพิเศษกลุ่มหนึ่งอย่างยากลำบาก ในการเข้าร่วมรับฟังการเสวนา แลพวกเขาก็ตอบรับคำเชื้อเชิญ และนั่งล้อมรอบ นักวิชาการฟิกห์(แนวคิดวะฮาบีย์) นามว่า นาซิร อัลกะบีบีย์ และนักวิชาการฟิกห์(แนวคิดวะฮาบีย์)อีกท่านหนึ่ง นามว่า อับดุลเลาะฮ์ บิน ซุรูร
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงนั้น ปรากฏว่า ท่านซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยที่มีบรรดาอุลามาอ์เมืองติฮามะฮ์และบรรดาสานุศิษย์ของท่านทั้งหมดนั้น ขณะที่พวกเขามาถึง ก็เบียดเสียดกันนั่งห้อมล้อมทุก ๆ ด้านของเก้าอี้ท่านอัซซัยยิด
ท่าน นาซิร อัลกะบีบีย์ นั่งอยู่ด้านหน้าเก้าอี้ที่ท่านอัซซยิดพำนักอยู่ พร้อมกับเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ตามหลักการของพวกเขา เขากล่าวว่า "แท้จริง ผู้คนทั้งหลายอยู่ในสภาพของญะฮีลียะฮ์ กราบไว้เจว็ด ทำการอนุมัติสิ่งที่ต้องห้าม ดังนั้น การเรียกร้องดะวะฮ์ของท่าน มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ได้ปลดเปลื้องให้บริสุทธิ์"
ท่าน อัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กล่าวว่า " คำพูดที่ถูกต้องนั้น คือ อัลเลาะฮ์ทรงแต่งตั้งศาสนทูตของพระองค์ คือ มุฮัมมัด บุตร อับดุลเลาะฮ์ (อะลัยฮิสซ่อลาตุวัสสลาม) เพื่อให้เขากอบกู้มนุษย์ทั้งหลาย ให้พ้นจากความโง่เขลา ทำการแบกรับภาระกิจแห่งการเป็นศาสนทูตและวางบทบัญญัติต่าง ๆ ของอิสลาม
al-azhary:
ท่าน อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ คือ ผู้ฟื้นฟูอิสลาม"
ท่าน อัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กล่าวว่า "เราไม่ปฏิเสธความดีงามของเขา และเขาเองก็มีเป้าหมายที่ดีในสิ่งที่กระทำขึ้น โดยได้ทำลายบรรดาบิดอะฮ์และสิ่งที่อุตริกรรม แต่การแอบอ้างดังกล่าวคลุกเคล้าไปด้วยความเลยเถิดและทำการตัดสินกาเฟรกับบุคคลที่ไม่ได้มีความเชื่อว่าการให้คุณประโยชน์และให้โทษนั้นเป็นผู้อื่นจากอัลเลาะฮ์ (ชี้ถึงว่า วะฮาบีย์จะกล่าวกาเฟรกับทุก ๆ คนที่ขัดแย้งกับพวกเขาในแง่ของความเห็น) และเขาได้อนุญาตเลือดเนื้อและทรัพย์สินของพวกเขา โดยไร้หลักฐาน"
al-azhary:
ท่าน อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "เขาไม่กระทำการใด นอกจาก เป็นความถูกต้อง"
ท่าน อัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กล่าวว่า " เขาคือผู้รู้คนหนึ่ง จากบรรดาผู้รู้ทั้งหลาย การปกป้องจากความผิดนั้น ย่อมถูกยกออกไป นอกเสียจากบรรดานบีเท่านั้น เขาย่อมมีทั้งผิดและถูก ดังนั้น หากเขาถูก ก็ย่อมได้รับสองการตอบแทน และหากเขาผิด ย่อมได้รับหนึ่งการตอบแทน และเขาจะถูกอภัยให้จากความผิดพลาด เพราะดังกล่าว คือ สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติใช้แก่เขา ตามระดับความรู้ที่เขามี โดยที่พวกท่านนั้น อันเนื่องจากความไม่รู้นั่นแหละ จึงทำให้ห่างไกลจากการยึดหลักฐานและทราบถึงหลักการของเขา
โปรดติดตามตอนต่อไป...อินชาอัลเลาะฮ์
al-azhary:
ท่าน อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "แท้จริง ชิริกใหญ่ ได้ครอบคลุมทั่วประเทศต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว และผู้คนทั้งหมดได้ตกศาสนาออกจากอิสลามทั้งตะวันตกและออก รวมทั้งเมืองเยเมนและชาม(ซีเรีย , จอแดน , ปาเลสไตน์ , อิรัก) ดังนั้น หากแม้นว่าไม่มีท่านชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ทำการฟื้นฟูอิสลามแล้วไซร้ บรรดามนุษย์ทั้งหลายย่อมอยู่ในความมืดมนแห่งกุฟุร"
ท่าน อัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดริส (ร.ฏ.) กล่าวว่า "เราขอความคุ้มครอบต่ออัลเลาะฮ์ด้วยเถิด นี้ไม่ใช่แนวทางของท่านชัยค์มุฮัมมัด จริงแล้วท่านยังเป็นเพียงบุรุษที่ยังไร้ความอาวุโส อีกทั้งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง และข้าพเจ้าทราบดีว่า ในนครมักกะฮ์นั้น มีท่านมัสอูด บุตร อับดุลอะซีซ (คือมีบางท่านจากราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรซาอุดี้อาราเบีย) และบรรดาผู้รู้ของท่านที่เป็นลูกหลานของชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ(เป็นที่ทราบดีว่า มีการตกลงร่วมมือระหว่างราชวงศ์ซะอูดและวงศ์วานชัยค์อิบนุอับดุลวะฮาบ) คือ ท่านอับดุลเลาะฮ์ บุตร มุฮัมมัด และท่านหุซัยน์และสุไลมานผู้เป็นน้องของเขานั้น ต่างก็เป็นผู้มีความรู้ พวกเขาทราบดีถึงหลักฐานและยึดหลักการอย่างเคร่งครัดในขณะที่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน โดยหลักยึดมั่นของพวกเขาเหล่านั้น ไม่เหมือนกับสิ่งที่ท่านดำเนินอยู่ พวกเขาย่อมไม่เกี่ยวข้องจากสิ่งที่ท่านได้อ้างพาดพิงไปยังพวกเขา , ความจริง ท่านได้ถือกำเนิดในประเทศที่มีแต่คนเอาวามทั่วไป และท่านก็ไม่รู้จักผู้ที่สามารถชี้นำท่านสู่ความถูกต้องได้ แต่ทว่า ท่านเพียงจดจำบางสิ่งบางอย่างและยังมีประการต่าง ๆ อีกมากมายที่ท่านขาดหายไป ดังนั้น การตัดสินฮุกุ่มต่อประเทศอิสลามเหล่านั้นทั้งหมด ว่า กระทำชิริกใหญ่และความลุ่มหลงโดยแผ่คลุมทั่วไปนั้น บรรดาหลักฐานต่าง ๆ ที่มีความเด็ดขาดได้ปฏิเสธมัน เนื่องจาก ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ประชาชาติของท่านนั้น ครึ่งหนึ่งของชาวสวรรค์" ดังนี้ย่อมเท่าเทียมกับประชาชาติศตวรรษต่าง ๆ ตั้งแต่จากสมัยท่านนบีอาดัม ซ่อละวาตุลเลาะฮ์ฮิอะลัยฮ์ จนถึงยุคการแต่งตั้งท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มาเป็นระยะพัน ๆ ปี โดยพวกเขาเหล่านั้น เพิ่มทวีคูณมากมาย ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ได้นอกจากผู้อภิบาลแห่งสากลโลก และพร้อมกันนี้ พวกเขาก็คือครึ่งหนึ่งจากชาวสวรรค์ เพราะฉะนั้น ท่านจงชั่งคำพูดของท่าน ด้วยมาตราฐานของหลักศาสนา แล้วท่านจะรู้ถึงความผิดพลาดออกจากความถูกต้อง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version