เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
การถกเสวนาครั้งใหญ่ระหว่างอุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์กับวะฮาบีย์
munir:
โห..น่าสนใจมากๆ
จะติดตามตอนต่อไปนะครับ
al-azhary:
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน ซุรู๊ร กล่าวกับท่านอัลกะบีบีย์ว่า "ท่านได้ลืมสิ่งที่บรรดาสานุศิษย์ของพวกเขาดำเนินอยู่ โดยที่จดหมายก็ได้อยู่ในมือของเขา(ท่านอะหฺมัด บิน อิดรีส)แล้ว ดังนั้น ท่านอัลกะบีบีย์จึงกล่าวว่า "โอ้ อะหฺมัด บรรดาสานุศิษย์ของท่านได้กระทำสิ่งที่น่าตำหนิ แล้วท่านอะหฺมัดก็หยิบจดหมายมาและทำการนับมัน"
ท่านอัซซัยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส(ร.ฏ.) จึงนั่งพิงหลังบนเก้าอี้พำนักและทำการเคลื่อนย้ายที่นั่งให้อยู่ในตรงกลางของเก้าอี้พำนักนั้น และกล่าวว่า "ท่านโปรดฟังข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าจะกล่าวแก่ท่านต่อไปนี้ และโปรดให้คำตอบบรรดาประการเหล่านี้แบบสรุปและแบบรายละเอียด เพื่อสิ่งที่ได้รับมานั้นจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน และจะได้รับแสงสว่างแห่งรัศมี เนื่องจากท่านยังขาดข้อเท็จจริงในเชิงวิชาการ
ท่านอัลกะบีบีย์กล่าวว่า "ท่านก็จงนำมาซิ"
ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส (ร.ฏ.) กล่าวว่า "ท่านโปรดบอกข้าพเจ้าซิว่า บรรดาสานุศิษย์ของข้าพเจ้าหรือบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)ที่มีความประเสริฐมากกว่ากัน?
ท่านอัลกะบีบีย์ตอบว่า "ต้องเป็นบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)ซิ พวกเขาเป็นประชาชาติในศตวรรษที่ประเสริฐสุด"
ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด จึงถามว่า "ท่านเคยอ่านอัลกุรอานหรือไม่?"
ท่านอัลกะบีบีย์ตอบว่า "ใช่ ฉันเคยอ่านมัน"
ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส(ร.ฏ.) กล่าวว่า" ท่านเคยอ่านผ่านคำตรัสของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา หรือไม่? ที่ว่า
الزَّانِيَةُ وَالزَّانِي
"ผู้ผิดประเวณีหญิงและผู้ผิดประเวณีชาย" อันนูร 2
وَالسَّارِقُ وَالسَّارِقَةُ
"ผู้โขมยชายและผู้โขมยหญิง" อัลมาอิดะฮ์ 38
وَمَن يَعْصِ اللّهَ وَرَسُولَهُ
"ผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์" อันนะสาอฺ 14
وَلاَ تَقْتُلُواْ النَّفْسَ الَّتِي حَرَّمَ اللّهُ إِلاَّ بِالْحَقِّ
"และสุเจ้าจงอย่าฆ่าชีวิตหนึ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติห้ามนอกจากด้วยความชอบธรรม" อัลอันอาม 151
هُ مَن يُشْرِكْ بِاللّهِ فَقَدْ حَرَّمَ اللّهُ عَلَيهِ الْجَنَّةَ
"ผู้ใดที่ตั้งภาคีต่ออัลเลาะฮ์ แน่นอน อัลเลาะฮ์จะทรงห้ามสรวงสวรรค์แก่เขา" อัลมาอิดะฮ์ 72
إِنَّمَا الْخَمْرُ وَالْمَيْسِرُ وَالأَنصَابُ وَالأَزْلاَمُ رِجْسٌ مِّنْ عَمَلِ الشَّيْطَانِ فَاجْتَنِبُوهُ
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! อันที่จริงสุรา, และการพนัน , และการบูชายันต์ , และการเสี่ยงถ้อย(และติ้ว และอื่น ๆ ) , เป็นสิ่งที่ชั่วช้า อันมาจากผลงานของพวกมารร้าย ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลมันเถิด" อัลมาอิดะฮ์ 93
ท่านนาซิร อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "ใช่ ฉันเคยอ่านมัน"
ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส(ร.ฏ.) กล่าวว่า "นี้คือบรรดาบาปใหญ่ ๆ ทั้งหลาย ซึ่งมันถูกประทานลงมาโดยมีบรรดามูลเหตุของโองการหรือว่าไม่มีมูลเหตุของโองการ?
ท่านนาซิร อัลกะบีบีย์ ตอบว่า "มีบรรดามูลเหตุแห่งการประทานโองการ"
ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส(ร.ฏ.) กล่าวว่า "การได้รับปกป้องจากความผิดนั้น จะถูกยกออกไป นอกจากบรรดานบี อะลัยฮิมุสลาม เท่านั้น และลูกหลานอาดัมนั้น ย่อมกระทำผิดพลาด ดังที่มีหะดิษได้รายงานไว้ ดังนั้น หากสมมุติว่าคำกล่าวอ้างของท่านเป็นความจริง ก็ไม่จำเป็นสำหรับเราต้องสืบจับผิดผู้อื่น แต่เราขอกล่าว เสมือนกับเจ้าของชาริอะฮ์ (ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ว่า "ผู้ใดที่ได้กระทำสิ่งหนึ่งจากบรรดาสิ่งที่โสมมนี้ เขาก็จงปกปิดมันไว้ ด้วยการปกติของอัลเลาะฮ์ ดังนั้น ผู้ใดที่เปิดเผยความของเขาแก่เรา แน่นอน การลงโทษของอัลเลาะฮ์นั้น เราจะทำการจัดการแก่เขา"
มีชายคนหนึ่งได้มาหาท่านอิบนุมัสอูด(ร.ฏ.) แล้วกล่าวว่า " ณ ที่นี้ มีบรรดาผู้ดื่มเหล้าได้ทำการปิดประตูดื่มกันอยู่" ดังนั้น ท่านอิบนุมัสอูดกล่าวว่า "โอ้ท่านนี้ เราได้ถูกห้ามจากการสืบจับผิดคนอื่น จากนั้น การกล่าวพูดกันถึงเรื่องนี้ และนำมาถ่ายทอดเป็นจดหมายและทำการนับบรรดาข้อตำหนิของเรานั้น บาปของมัน ย่อมตกอยู่บนพวกท่าน ย่อมใหญ่หลวงกว่า เพราะการพูดกล่าวกันอย่างนี้ ย่อมเป็นการฝ่าฝืน และในการพูดแบบนี้ ย่อมเป็นการกล่าวหา ทั้งที่ท่านทราบดีว่า แท้จริง อัลเลาะฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
فَإِذْ لَمْ يَأْتُوا بِالشُّهَدَاء فَأُوْلَئِكَ عِندَ اللَّهِ هُمُ الْكَاذِبُونَ
"ในเมื่อพวกเขาไม่อาจนำพยานเหล่านั้นมายืนยันได้ พวกเขาเหล่านั้น ณ อัลเลาะฮ์ ย่อมเป็นพวกมดเท็จอย่างแน่นอน" อันนูร 13
ดังนั้น ผู้ใดที่ทำการเล่าสิ่งหนึ่ง จากสิ่งที่ได้ถูกขีดเขียนไว้ในฉบับนี้ โดยที่ไม่(มีพยาน)สมบูรณ์ตามพิกัดของศาสนา เราขอกล่าวแก่เขาว่า "ท่านโกหก" และถ้าหากเขาได้พูดจริงในสิ่งที่เขาได้กล่าวในเรื่องกันนี้ แต่เขาได้เชื่อเพียงลำพังผู้เดียวเกี่ยวกับประเด็นนี้ เขาย่อมโกหกตามทัศนะของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา เพราะฉะนั้น ผู้ใดจากพวกท่านหรืออื่นจากพวกท่านได้กล่าวด้วยกับประเด็นนี้ โดยไม่สามารถยืนยันตามพิกัดของพยานแล้ว เขาย่อมเป็นผู้ที่โกหกตามที่กิตาบุลเลาะฮ์ได้ระบุไว้
al-azhary:
ส่วนการตอบแบบรายละเอียด
ท่านโปรดสะดับรับฟังอย่างตั้งใจ ท่านพึงทราบว่าเถิดว่า อัลเลาะอ์ ตะอาลา ทรงสิทธิ์ในการสรรสร้างและบัญชา พระองค์ทรงสร้างปวงบ่าวสำหรับอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ และพระองค์ทรงกำหนดภาวะต่าง ๆ ต่อบรรดามัคโลคของพระองค์ไว้ในเลาหิลมะหฺฟูซฺ ก่อนที่พระองค์จะสร้างพวกเขา 2000 ปี และรอบรู้ถึงอนาคตของพวกเขา ว่า เป็นเฟร , เป็นผู้ศรัทธา , เป็นผู้ภักดี , เป็นผู้ฝ่าฝืน , เป็นผู้อัปโชค , และมีบุญวาสนา พระองค์ทรงมีคุณลักษณะ ทรงเมตตา กรุณาปราณี ทรงอภัย ทรงประทานภัย ทรงปกปิด ทรงนิรโทษ ทรงตอบแทนโทษ และอื่น ๆ จากบรรดาพระนามอันวิจิตรงดงามและสูงส่ง และพร้อมดังกล่าวนั้น พระองค์ทรงสร้างสองที่พำนัก ที่พำนักหนึ่งสำหรับผู้ภักดี และอีกที่พำนักหนึ่งสำหรับผู้ฝ่าฝืน , ดังนั้น การมีผู้ฝ่าฝืนในผืนแผ่นดินนั้น บรรดาสิ่งที่ฝ่าฝืนก็ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังที่มะลาอิกะฮ์กล่าวไว้ในขณะที่สร้างบิดาแห่งมนุษยชาติ(บนีอาดำ) ซึ่งพวกเขาได้ถามถึงการสร้างนบีอาดำว่า
أَتَجْعَلُ فِيهَا مَن يُفْسِدُ فِيهَا وَيَسْفِكُ الدِّمَاء وَنَحْنُ نُسَبِّحُ بِحَمْدِكَ وَنُقَدِّسُ لَكَ قَالَ إِنِّي أَعْلَمُ مَا لاَ تَعْلَمُونَ
"พระองค์จะสร้างผู้ที่บ่อนทำลายในนั้น และหลั่งโลหิตกระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ความพวกเราก็ทำการถวายสดุดีในพระบพิตรธิคุณพร้อมกับสรรเสริญแด่พระองค์ และถวายสดุดีในพระบริสุทธิคุณแด่พระองค์ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า อันที่จริงข้ารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้" อัลบะกอเราะฮ์ 30
ดังนั้น อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ทรงตัดคำคัดค้านด้วยคำตอบนี้ ฉะนั้น การที่ไม่ให้มีการฝ่าฝืนของบรรดาผู้ที่ถูกบัญญัติใช้ที่พระองค์ไม่ทรงปกป้องจากความผิดนั้น เป็นการบังคับใช้ในสิ่งที่ไม่มีความสามารถ เพราะหากไม่มีคนฝ่าฝืนในแผ่นดินแล้ว ความประเสริฐของบรรดาผู้ภักดีย่อมไม่ปรากฏ หากโรคภัยไม่มี ความประเสริฐของความสุขสบายย่อมไม่รู้จัก หากไม่มีความหิวกระหาย ความประเสริฐของความสดชื่นและอิ่มเอมย่อมไม่เป็นที่รู้จัก หากไม่เกิดความกลัว แน่นอนความประเสริฐของความสงบสุขย่อมไม่เป็นที่รู้จัก และด้วยสิ่งตรงข้ามกับมัน บรรดาสรรพสิ่งต่าง ๆ ย่อมแยกแยะให้เด่นชัดได้
พร้อมกับสิ่งดังกล่าว หากว่ามนุษย์ทั้งหมดทำการภักดีต่ออัลเลาะฮ์ ตะอาลา แน่นอน ย่อมไม่มีคนฝ่าฝืนจากหมู่พวกเขา บรรดาพระนามอันวิจิตรของพระองค์ส่วนมากคงหยุดฉงัก เช่น พระองค์ทรงอภัย ทรงเมตตา ทรงปกปิต เพราะทั้งหมดนี้เป็นที่ปรากฏของบรรดาร่องรอยบาป และแน่นอนว่าการสร้างไฟนรก ก็ย่อมไร้ความหมาย ดังนั้น แท้จริงเคล็ดลับแห่งพระผู้เป็นเจ้าได้กำหนดให้บรรดาการฝ่าฝืนเกิดขึ้นกับผู้ที่ถุกบัญญัติใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรู้จักอัลเลาะฮ์ได้อย่างถ่องแท้ และสิ่งที่ถูกสร้างไม่สามารถชี้นำบรรดมัคโลกทั้งหมดได้
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
وَمَا أَكْثَرُ النَّاسِ وَلَوْ حَرَصْتَ بِمُؤْمِنِينَ
"และมาตร์แม้นเจ้าจะมีความมุ่งมาดอย่างแรงกล้า(ที่จะให้มวลมนุษย์มีศรัทธา) แต่มนุษย์ส่วนมากก็หาได้ศรัทธาไม่" ยูซุฟ 103
นี้คือความเร้นลับของการกำหนดสภาวะแห่งโลกซึ่งบุคคลใดจากบรรดาวะลียุลเลาะฮ์และนักปราชญ์ผู้มีภูมิธรรมได้ล่วงรู้แล้ว เขาย่อมสบายใจ และดังกล่าวนี้ ก็ไม่ได้มาปฏิเสธสิ่งที่เราได้ถูกบัญญัติใช้ในชาริอัตของเรา จากการกำชับให้กระทำความดีและห้ามจากการกระทำความชั่ว แต่จำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคนให้การชี้แนะสิ่งที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกำหนดและหักห้ามสิ่งน่าตำหนิที่เรารู้ และความโกรธกริ้วย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ในการขัดคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของพระองค์ และการชี้นำนั้นอยู่ภายใต้อำนาจของพระเจ้าของทรงสร้างมัน โดยที่พระองค์ทรงทราบดีถึงผู้ได้รับทางนำและผู้ที่ลุ่มหลง
หลังจากนั้น ท่านอัซซัยยิด อะหฺมัด บิน อิดรีส (ร.ฏ.) กล่าวว่า "ย่อมไม่เป็นการดีสำหรับพวกท่านโดยการนับบรรดาบาปของผู้อื่นให้เป็นข้อตำหนิต่อเรา และพวกท่านก็ทำให้มันเป็นบรรดาข้อตำหนิ ทั้ง ๆ ที่การกระทำของทุก ๆ ชีวิตนั้น ย่อมถูกประกัวไว้แล้ว(ในการสะสราง) และหากว่าบรรดาสานุศิษย์ของเราได้กระทำสิ่งที่พวกท่านอ้างแล้ว เราก็จะไม่นิ่งเฉยและจะดำเนินการกับพวกเขากับสิ่งที่ทำให้พระองค์ทรงพิโรจน์ และเราจะชี้นำพวกเขาไปยังการเตาบะฮ์ แต่ทว่าเราไม่ทราบสิ่งดังกล่าว และเราก็ไม่ขอเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องนี้ และเราไม่จำเป็นต้องให้คำตอบในบรรดาประการต่าง ๆ เหล่านี้ บรรดาผู้สมบูรณ์นั้น คือพวกเขาจะมองในบรรดาคุณงามความดี และคนที่บกพร่องนั้น พวกเขาจะจำกัดพิจารณาบรรดาข้อตำหนิของบุคคลอื่น
ดังนั้น ท่านอัลกะบีบีย์จึงพยักหน้าในขณะดังกล่าว ประดุจดังเขาจมในทะเลที่ไม่สามารถแหวกว่ายได้ และเขาก็ไม่เข้าใจถึงมูลความจริง ดังนั้น สิ่งที่ได้รับคือการรับฟังแต่ไม่เข้าใจถึงความละเอียดออดังกล่าว
al-azhary:
ท่าน นาซิร อัลกะบีบีย์ กล่าวว่า "ยังคงเหลืออยู่อีกประเด็นเดียว ท่านและสานุศิษย์กล่าวว่า แท้จริง บรรดาวิชาการต่าง ๆ ของศาสนาแบบผิวเผิน เป็นเพียงการขีดเขียนและเป็นเพียงเปลือกที่ไม่มีเนื้อแท้ในมัน"
ท่านซัยยิดอะหฺมัด กล่าวว่า "นี้คือการชุมนุมพบปะครั้งแรกกับท่าน แล้วท่านได้ยินกรณีนี้มาจากข้าพเจ้ากระนั้นหรือ? หรือผู้ที่เชื่อถือได้ทำการเล่ารายงานแก่ท่าน ดังนั้น จึงเป็นความถูกต้องสำหรับท่านได้อย่างไร ที่ทำการตัดสินเราด้วยสิ่งที่เราไม่เคยกล่าวมัน?"
ท่าน อัลกะบีบีย์ ตอบว่า "ผู้คนเขาพูดกัน" ;D
ท่านซัยยิดอะหฺมัด จึงกล่าวว่า "แท้จริงชัยฏอนได้โยนเฉกเช่นคำพูดนี้ให้อยู่บนลิ้นของผู้ที่ไม่เคร่งครัดในหลักการของศาสนา เพื่อที่จะกล่าวหาผู้คนในสิ่งพวกเขาไม่เกี่ยวข้องด้วยถ้อยที่ว่า...ผู้คนเขาพูดกัน...!!
เด็กท่าเรือ:
;) อัสสลามุอาลัยกุม น้องอัล--อัสอารี (เคยคุยกันทาง MSN บ้างแล้ว)
น้องอัล-อัซอารี บังได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาที่น้องได้เขียนแล้ว บังรู้สึกว่าบังยังยาเหมากๆ
ที่สุดแล้วคนเรายังไม่สายที่จะค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติม นี่ถ้าบังไม่ได้อ่านกระทู้นี้คงเสียดายแย่เลย
เพราะบางเรื่องราวที่น้องได้เขียนมาตามกระทู้ที่ตั้งในเวปบอร์ด www.sunnahstudents.com
นี้ ทำให้บังได้มีความรู้ขึ้นมากมายเลย บังก็แค่เด็กปอเนาะที่เรียนข้างบ้าน ครูพัก ลักจำ ประมาณนี้
เรื่องราวที่ได้รู้บางเรื่องมันใกล้ตัวบังเหลือเกิน บางครั้งเหมือนกับว่ามีคนมาสะกิดเกี่ยวกับเรื่อง วาฮาบี
กับบังบ้างแล้ว และบังก็สงสัยว่าเขาน่าจะใช่ วาฮาบี แต่บังก็นิ่งเสียดีกว่าเพราะบังความรู้น้อย
เรียนกีตาบแค่พารีดะ มูซ้อลลี ตับเสรยาลาเล้นเองน้องเห้อ
ยังไงก็ขอคำแนะนำจากบรรดาผู้รู้ด้วย(นี่ฝากไปยังท่านอื่นๆด้วยนะครับ)
วัสสลามุอาลัยกุม
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version