ผู้เขียน หัวข้อ: การถกเสวนาครั้งใหญ่ระหว่างอุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์กับวะฮาบีย์  (อ่าน 18465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
แต่ผมก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากวะฮาบีย์เลยครับว่า  อัล-อะชาอิเราะฮ์เป็นพี่น้องกับพวกเขาหรือเปล่า?
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Sunnah so

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 56
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมยืนยันได้ว่าเป็นพี่น้องกันครับ ผมเคยไปดูฝ่ายวะฮาบีย์เขาไปบรรยายเรื่องชีอะห์ที่สถานที่แห่งหนึ่ง เขาพูดว่า"วันนี้จะไม่ขอพูดเรื่องคณะเก่าที่เกี่ยวกับพี่น้องอะลิสซุนนะห์วัลญามาอะห์ของเรา  เพราะอันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานเข้ามา นั่นคือพวกชีอะห์ "
จงเข้มข้นกับความฝัน และเข้มแข็งกับผลลัพท์ (แอบเอามาจากรถเมล์)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ต่อผมจะนำเสนอเกี่ยวกับ  การเสวนาระหว่างอัซซัยยิด อัซซัมซะมีย์ กับ ชัยค์ อัลบานีย์  ครับ  โปรดติดตาม  ต่อไป  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ผมยืนยันได้ว่าเป็นพี่น้องกันครับ ผมเคยไปดูฝ่ายวะฮาบีย์เขาไปบรรยายเรื่องชีอะห์ที่สถานที่แห่งหนึ่ง เขาพูดว่า"วันนี้จะไม่ขอพูดเรื่องคณะเก่าที่เกี่ยวกับพี่น้องอะลิสซุนนะห์วัลญามาอะห์ของเรา  เพราะอันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานเข้ามา นั่นคือพวกชีอะห์ "


อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ผมจะนำเสนอเกี่ยวกับ  การเสวนาระหว่างอัซซัยยิด อัซซัมซะมีย์ กับ ชัยค์ อัลบานีย์ ตามคำสัญญาครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
بسم الله الرحمن الرحيم الحمد لله والصلاة والسلام على رسول الله وعلى آله وصحبه ومن اتبع هداه

หนังสือ  مناظرة بين الزمزمي والألباني "การเสวนาระหว่างอัซซัมซะมีย์และอัลบานีย์" ตีพิมพ์ที่ ดารุลอิมามอันนะวาวีย์ ฮ.ศ. 1414 - ฮ.ศ. 1993 ซึ่งเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเสวนาเรื่อง "ซีฟาต" ระหว่างชัยค์อัลบานีย์(ร่อฮิมะฮุลเลาะฮ์) กับ ท่านชัยค์อัซซัยยิดมุฮัมมัด อัซซัมซะมีย์ อัลหะซะนีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ตะอาลา) ซึ่งท่านเป็นอุลามาอ์อัล-อัซฮัรและเป็นอุลามาอ์มัฆริบ(โมร๊อกโค)

ท่านชัยค์ อัซซัยยิด อัซซัมซะมีย์ กล่าวว่า

بسم الله الرحمن الرحيم الحمد لله والصلاة والسلام على رسول الله وعلى آله وصحبه ومن اتبع هداه

อัลบานีย์  ได้ร้องขอให้ฉันมีการพบปะระหว่างเราเพื่อทำการทบทวนเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่อง "บรรดาตัวบทที่เกี่ยวกับซิฟาตของอัลเลาะฮ์" ฉันจึงทำการตอบรับตามคำขอร้องของเขา (1)  การเสวนาทบทวนแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันนั้นมีหลายประเด็นด้วยกัน

ประเด็นที่หนึ่ง

อัลบานีย์ ถามว่า "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการอธิบายบรรดาความหมายต่าง ๆ ของตัวบทที่เกี่ยวกับบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์หรือไม่?"

ฉัน (ท่านชัยค์ อัซซัยยิด อัซซัมซะมีย์)ตอบว่า "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้ทำการอธิบายความหมายต่าง ๆ ของตัวบทที่เกี่ยวกับบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  เนื่องจากมีความเพียงพอแล้ว  ด้วยการอธิบายของอัลกุรอาน  เพราะการอธิบายที่มีความจำเป็นเกี่ยวกับบรรดาอายะฮ์ซีฟาตของอัลเลาะฮ์นี้  ได้มีอธิบายไว้ในอัลกุรอานเรียบร้อยแล้ว  คือคำตรัสของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ความว่า

 ليس كمثله شئ

"ไม่มีสิ่งมาคล้ายเหมือนกับพระองค์"

พระองค์ตรัสเช่นกันว่า

ولم يكن له كفؤا أحد

"ไม่มีผู้ใดมาเทียบเทียม(เหมือน)กับพระองค์ได้"

ดังนั้น อัลบานีย์ จึงกล่าวว่า "คำพูดเช่นนี้  หมายถึง  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บกปิดอำพรางบรรดาความหมายของอายะฮ์ซีฟาตน่ะซิ"

ฉันกล่าวตอบว่า "ท่านอย่าใช้คำว่า "อำพราง" ซิ  เพราะการอำพรางวิชาความรู้นั้น  เป็นสิ่งที่ได้รับการตำหนิตามหลักของศาสนา  เนื่องจาก การอำพรางตามความหมายของศาสนา  คือ  ความตระหนี่ในวิชาความรู้ที่มีความจำเป็นต้องทราบ  แต่บรรดาอายะอ์ซีฟาตนั้น  บรรดาผู้คนทั้งหลายไม่มีความต้องการที่จะทราบการอธิบายความหมายที่นอกเหนือจากความหมายที่อัลกุรอานได้อธิบายไว้  เพราะเหตุที่ว่า  สติปัญญาของพวกเขาไม่สามารถเข้าใจและหยั่งถึงได้   และจะเกิดความสับสน(ฟิตนะฮ์)ให้กับพวกเขา  เหมือนกับที่ท่านอิมามอะลี (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุวะกัรร่อมัลลอฮุวัจญฺฮะฮ์) กล่าวว่า

حدثوا الناس بما يفهمون ، أتريدون أن يكذب الله ورسوله ؟

"พวกท่านจงพูดกับบรรดามนุษย์  ด้วยกับสิ่งที่พวกเขาเข้าใจ  หรือว่าพวกท่านต้องการให้มีการกล่าวโกหกต่ออัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์กระนั้นหรือ?" รายงานโดย อัลบุคอรีย์  ดู หนังสือฟัตหุลบารีย์ เล่ม 1 หน้า 225

ด้วยเหตุนี้  เราจึงกล่าวว่า  "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้อธิบายความหมายต่าง ๆ ของตัวบทที่เกี่ยวกับบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  และไม่ได้กล่าวว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ปิดบังอำพรางบรรดาความหมายต่าง ๆ ของมัน  เนื่องจากบรรดาผู้คนไม่ต้องการไปยังการอธิบายถึงบรรดาความหมายเหล่านั้น

และไม่สงสัยเลยว่า  ยังมีประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้ทำการอธิบายแจกแจงไว้  อันเนื่องจากเหตุผลเดียวกันที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว  เช่นประเด็นปัญหาเรื่องของ "อัลกุรอาน" ที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางที่ทราบกันดี (หมายถึงประเด็นที่ว่า อัลกุรอานเป็นมัคโลคหรือไม่? ซึ่งท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ได้อธิบายไว้ เนื่องจากในยุคสมัยนั้น ไม่มีความต้องการไปยังการอธิบาย ทั้งที่ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องของอะกีดะฮ์ที่มีความสำคัญ)  ดู  หนังสือ  หน้า 11 - 13
-----------------------
(1) ในวันอาทิตย์ที่ 10 เดือนร่อมะฏอน ฮ.ศ. 1396
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
 ญะซากัลลอฮ์ สำหรับน้องๆ จากการนำเสนอ  เสวนาระหว่างอุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์กับอุลามาอ์วะฮาบีย์ครับ  ทำให้พี่น้องเราเข้าใจหลักอะกีดะฮ์ขึ้นเยอะ  อัลฮัมดุลิลลาฮ์ครับ

ออฟไลน์ saq

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 18
  • หาวิชา
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ขออัลลอฮ์ตอบแทนความดีงาม ครับเกี่ยวกับการนำเสนอความรู  ;)้
มาดูๆแล้วก็ไป

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ดังนั้น อัลบานีย์ จึงกล่าวว่า "คำพูดเช่นนี้  หมายถึง  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บกปิดอำพรางบรรดาความหมายของอายะฮ์ซีฟาตน่ะซิ"

ฉันกล่าวตอบว่า "ท่านอย่าใช้คำว่า "อำพราง" ซิ  เพราะการอำพรางวิชาความรู้นั้น  เป็นสิ่งที่ได้รับการตำหนิตามหลักของศาสนา  เนื่องจาก การอำพรางตามความหมายของศาสนา  คือ  ความตระหนี่ในวิชาความรู้ที่มีความจำเป็นต้องทราบ  แต่บรรดาอายะอ์ซีฟาตนั้น  บรรดาผู้คนทั้งหลายไม่มีความต้องการที่จะทราบการอธิบายความหมายที่นอกเหนือจากความหมายที่อัลกุรอานได้อธิบายไว้  เพราะเหตุที่ว่า  สติปัญญาของพวกเขาไม่สามารถเข้าใจและหยั่งถึงได้   และจะเกิดความสับสน(ฟิตนะฮ์)ให้กับพวกเขา  เหมือนกับที่ท่านอิมามอะลี (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุวะกัรร่อมัลลอฮุวัจญฺฮะฮ์) กล่าวว่า

حدثوا الناس بما يفهمون ، أتريدون أن يكذب الله ورسوله ؟

"พวกท่านจงพูดกับบรรดามนุษย์  ด้วยกับสิ่งที่พวกเขาเข้าใจ  หรือว่าพวกท่านต้องการให้มีการกล่าวโกหกต่ออัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์กระนั้นหรือ?" รายงานโดย อัลบุคอรีย์  ดู หนังสือฟัตหุลบารีย์ เล่ม 1 หน้า 225

ด้วยเหตุนี้  เราจึงกล่าวว่า  "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้อธิบายความหมายต่าง ๆ ของตัวบทที่เกี่ยวกับบรรดาซีฟาตของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  และไม่ได้กล่าวว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ปิดบังอำพรางบรรดาความหมายต่าง ๆ ของมัน  เนื่องจากบรรดาผู้คนไม่ต้องการไปยังการอธิบายถึงบรรดาความหมายเหล่านั้น

และไม่สงสัยเลยว่า  ยังมีประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้ทำการอธิบายแจกแจงไว้  อันเนื่องจากเหตุผลเดียวกันที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว  เช่นประเด็นปัญหาเรื่องของ "อัลกุรอาน" ที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางที่ทราบกันดี (หมายถึงประเด็นที่ว่า อัลกุรอานเป็นมัคโลคหรือไม่? ซึ่งท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ได้อธิบายไว้ เนื่องจากในยุคสมัยนั้น ไม่มีความต้องการไปยังการอธิบาย ทั้งที่ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องของอะกีดะฮ์ที่มีความสำคัญ)  ดู  หนังสือ  หน้า 11 - 13
-----------------------
(1) ในวันอาทิตย์ที่ 10 เดือนร่อมะฏอน ฮ.ศ. 1396

เป็นที่ทราบดีว่า...อัลอะชาอิเราะฮ์มีอยู่ 2 แนวทาง...คือหนึ่ง...มอบหมายทั้งความหมายและรูปแบบวิธีการไปยังอัลเลาะฮ์...และสอง....ทำการตีความตามหลักภาษาอาหรับบริสุทธิ์โดยตรงกับเจตนารมณ์อัลกุรอานที่ว่าอัลเลาะฮ์ทรงไม่คล้ายและเหมือนกับสิ่งใด....จึงมีคำถามจากฝ่ายวะฮาบีย์ขึ้นมาว่า....หากเป็นแบบนี้นบีก็ไม่รู้ความหมายแก่นแท้ในซีฟัตของอัลเลาะฮ์ซิ...และเป็นไปได้หรอที่นบีได้พูดฮะดิษออกไปโดยที่ซอฮาบะฮ์ไม่เข้าใจความหมาย...

ออฟไลน์ Assaf

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 147
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ญะซากัลลอฮ์

ทบทวนกันอีกครั้ง myGreat:

ออฟไลน์ myflove

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมากเลยคับ

ออฟไลน์ khozafii@windowslive.com

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salamผมคิดว่าน่ะ เดียวนี้รู้สึกว่าจะมีหนังสืออกมาแล้วน่ะ เรื่องขบวนการวะฮะบีย์ ไปหาอ่านดีกว่าเนาะ จะได้เข้าใจว่าวะฮะบีย์คืออะไร ว่าไหม

รู้ไหม่ว่า อาณาจักรโรมถึงล่มสลายที่อิตาลีหรือที่โรมา เพราะอะไร ก้อเพราะพวกเขาในสมัยนั้นเป็นเหมือนพวกเรากำลังเป็นอยู่ในสมัยนี้


จงอ่านตัปซีรอัลกุรอาน ที่แปลไทยให้มากๆ อ่านฮาดีษบุคคอรี และมุสลิมให้มากๆ ศึกษาอัลกุรอานให้เอยะๆแล้วจะเข้าใจเนาะ


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salamผมคิดว่าน่ะ เดียวนี้รู้สึกว่าจะมีหนังสืออกมาแล้วน่ะ เรื่องขบวนการวะฮะบีย์ ไปหาอ่านดีกว่าเนาะ จะได้เข้าใจว่าวะฮะบีย์คืออะไร

ผมได้อ่านประวัติของวะฮาบีย์และหลักการของวะฮาบีย์จากบรรดาหนังสือดั้งเดิมของวะฮาบีย์เองเลย  ซึ่งเนื้อหาข้อเท็จจริงไม่ค่อยเหมือนกับ  หนังสือเรื่องขบวนการวะฮะบีย์  อย่างน้อยบทสรุปที่ผมได้บางประการก็คือ วะฮาบีย์  ไม่เคยรบทำสงครามกับพวก ยิว  นะซอรอ  หรือพวกโรม  แต่ทำสงครามกับผู้ที่มีกะลีเมาะฮ์ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ทั้งสิ้น ประกาศเป็นศรัตรูกับค่อลิฟะฮ์อิสมียะฮ์อุษมานียะฮ์อย่างเต็มรูปแบบ  โดยตัดสินว่า ค่อลิฟะฮ์อิสลามียะฮ์อุษมานียะฮ์  เป็นค่อลิฟะฮ์กาฟิเราะฮ์(เป็นอาณาจักรค่อลีฟะฮ์กาเฟรไม่ใช่อิสลาม)ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 15, 2010, 02:33 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

 

GoogleTagged