ผู้เขียน หัวข้อ: มรดกตามหลักการศาสนา (2)  (อ่าน 3442 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ابن سفيان السراجى

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 50
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
มรดกตามหลักการศาสนา (2)
« เมื่อ: ม.ค. 31, 2009, 04:22 AM »
0

 salam


ขั้นตอนการจัดการมรดกตามหลักศาสนาอิสลาม

               “มรดก” الميراث หมายถึง ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นของผู้ตาย เมื่อผู้ใดถึงแก่กรรม ทรัพย์สินทั้งหมดจะกลายเป็นมรดก ซึ่งต้องดำเนินการจัดแบ่งให้แก่ผู้รับมรดก ทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้นจะเป็นทรัพย์ที่มีบุคคลกู้ยืมไป หรือเป็นทรัพย์ที่อยู่ในช่วงการดำเนินการหรือผูกพันอยู่กับโครงการใด ๆ ก็ตาม เรียกว่าทั้งหมดนั้นคือ ทรัพย์ “มรดก”

                สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น สามีหรือภรรยาคนใดคนหนึ่งถึงแก่กรรมให้นำทรัพย์สินที่หาได้ในขณะอยู่ร่วมกัน มาแบ่งเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน แล้วมอบให้ฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่งหรือส่วนหนึ่งดังได้กล่าวแล้ว ในกรณีนี้ไม่รวมถึงทรัพย์ที่ผู้ตายที่ได้รับมรดกมา

                หลังจากนั้นให้เอาทรัพย์ทั้งสองส่วน คือ ส่วนที่ได้มาในรูปมรดกและอีกครึ่งหนึ่งของทรัพย์ที่หามาได้พร้อมกับคู่ครองในขณะยังมีชีวิตอยู่มารวมกัน ซึ่งก็เรียกทรัพย์ทั้งสองนี้ว่า ทรัพย์มรดกของผู้ตาย โดยให้ดำเนินการตามขึ้นตอนต่อไปนี้

1.       จัดทำบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด

2.       ระบุทายาทผู้มีสิทธิ์

3.       ชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียชีวิต

4.       ดำเนินการตามพินัยกรรม(คำสั่งเสียในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะ) และที่ไม่ผิดต่อหลักการ เช่น ผู้เสียชีวิตได้ทำพินัยกรรม(วะซีฮัต)ให้แก่ผู้มีสิทธิ์รับมรดก หรือทำวะกัฟ(อุทิศ)ไว้เกินกว่าจำนวนหนึ่งในสามของทรัพย์สินทั้งหมด ในกรณีที่วะซีฮัตทำวะกัฟไว้เกินหนึ่งในสามของทรัพย์สิน ให้ถือเป็นโมฆะ กล่าวคือ ให้ถือว่าใช้ได้ในอัตราส่วนที่ไม่เกินหนึ่งในสาม นอกจากผู้รับมรดกทุกรายให้ความยินยอม อย่างไรก็ตามการดำเนินการใด ๆ โดยอ้างถึงคำสั่งเสียของผู้ตายนั้น ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนตามศาสนบัญญัติเท่านั้น หมายถึง คำอ้างของทายาทหรือคนใดคนหนึ่งจะถือเป็นหลักฐานมิได้

5.       การจัดการแบ่งมรดกควรกระทำให้แล้วเสร็จก่อนการจัดแจงศพ หรือฝังผู้เสียชีวิต เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหารุงรัง ทั้งนี้เมื่อไม่ดำเนินการตามเวลาที่กล่าวแล้ว ความอยากได้ ความไม่เป็นธรรมอาจเกิดขึ้นได้ในหลากหลายกรณี
พึงสังเกตคำสอนของศาสนาที่ว่า ไม่ควรให้ลูกหรือผู้มีสิทธิ์รับมรดก สอน “กะลิมะฮ์” ให้แก่ผู้ใกล้จะตาย เพราะอาจจะนำมาอ้างว่า ก่อนตายได้สั่งเสียเรื่องนั้นเรื่องนี้ไว้ ยกเว้นลูกหรือทายาทที่รับมรดกได้เป็นผู้รู้ ผู้มีคุณธรรมที่สังคมยอมรับ

6.       การแบ่งมรดกต้องแบ่งตามหลักการศาสนา และหากฝ่ายที่มีสิทธิ์ได้รับมากกว่าจะยินดีให้ได้เท่า ๆ กัน ก็ย่อมกระทำได้แต่ต้องแบ่งตามหลักการก่อน ทั้งนี้เนื่องจากโองการสุดท้ายที่สาธยายเกี่ยวกับสิทธิและการจัดการอันหมายรวมถึงส่วนแบ่งตามสิทธิแห่งศาสนบัญญัตินั้น ได้ประกาศถึงโทษทัณฑ์ของผู้ฝ่าฝืนไว้รุนแรง ดังกล่าวไว้ในซูเราะฮ์อันนิซาอ์ โองการที่ 13-14 ว่า :-

 
[ تِلْكَ حُدُوْدُ اللهِ ، وَمَنْ يُطِعِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ يُـدْخِلْهُ جَنَّاتٍ تَجْرِيْ مِنْ تَحْتِهَا اْلأَنْهَارُ خَالِدِيْنَ
فِـيْهَا ، وَ ذلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيْمُ . وَمَنْ يَعْصِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ وَ يَـتَعَدَّ حُدُوْدَهُ يُدْخِلْهُ نَارًا خَالِدًا فِيْهَا وَلَهُ عَذَابٌ مُهِيْنٌ .]
[ سُوْرَةُ النِّسَاءِ ، اَلآيَةَ : 13 – 14 ]
 
ความว่า :-

                ดังกล่าวนี้คือกรอบ(ข้อกำหนด)ของอัลลอฮ์ และผู้ใดที่เชื่อฟังอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์แล้ว พระองค์จะทรงให้เขาเข้าสวนสวรรค์ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายผ่านอยู่เบื้องล่างของมัน โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นตลอดกาล และนั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และผู้ใดฝ่าฝืนอัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ และละเมิดกรอบ(ขอบเขต,ข้อกำหนด)ของพระองค์ พระองค์ก็จะให้เขาเข้านรก โดยที่เขาจะต้องอยู่ในนรกตลอดกาล และเขาจะได้รับการลงโทษที่ยังความอับยศให้แก่เขา(ทั้งดุนยาและอาคีเราะฮ์)

                ส่วนการให้และรับให้ก่อนเสียชีวิต ให้เป็นไปตามนัยนั้น แต่หากไม่มีความยุติธรรมผู้ตายต้องได้รับโทษในฐานะผู้ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งลูก ๆ ทุกคนต้องได้รับความยุติธรรมตามกรอบที่ศาสนากำหนด
                ทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดกทุกคน ด้วยตักวา ด้วยคำนึงถึงสิทธิที่ได้มาโดยระเบียบและกฎแห่งอัลลอฮ์ มิใช่ได้มาด้วยความเหน็ดเหนื่อย อย่าได้ทะเลาะเบาะแว้งแย่งกันเลย พ่อแม่ของเราจะทุกข์ทรมานในอะลัมบัรซัค ขอให้ทุกคนรักกัน ร่วมกันปฏิบัติตามขั้นตอนดังที่กล่าวมานี้ แล้วพ่อแม่ของเราหรือใครก็ตามที่ตายจากไปแล้ว ซึ่งเรามีสิทธิ์รับมรดกจะได้นอนตาหลับ......................ข้อมูลโดยท่านอาจารย์ อับดุลการีม วันแอเลาะ อธิการสถาบัน อัรรอบิตี้
               
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 04, 2009, 09:46 PM โดย ศิษย์ประทีปศาสน์ »

ออฟไลน์ al-toorab

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 172
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มรดกตามหลักการศาสนา (2)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ม.ค. 31, 2009, 05:19 PM »
0
 salam

ขออีกบัง ศิษย์ประทีปศาสน์ ข้อมูลสาระเราชอบ ลงตามหลักวิชาหรือหัวข้อกระทู้ด้วยนะบัง   myGreat:
يقول -صلى الله عليه وسلم-: هلك المتنطعون، هلك المتنطعون، هلك المتنطعون

"บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว"

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏لَيْسَ الْمُؤْمِنُ ‏ ‏بِالطَّعَّانِ ‏ ‏وَلَا اللَّعَّانِ وَلَا ‏ ‏الْفَاحِشِ ‏ ‏وَلَا الْبَذِيءِ

"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  ไม่ใช่เป็นผู้ศรัทธา  ผู้ที่ชอบตำหนิ(ผู้คนทั้งหลาย) ผู้ที่ชอบสาปแช่ง ผู้ที่ด่าทออย่างน่ารังเกียจ  และผู้ที่พูดหยาบคาย" รายงานโดยท่านติรมีซีย์ 1900 ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า  ฮะดิษฮะซัน

ออฟไลน์ ابن سفيان السراجى

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 50
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มรดกตามหลักการศาสนา (2)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ม.ค. 31, 2009, 06:48 PM »
0
salam

ขออีกบัง ศิษย์ประทีปศาสน์ ข้อมูลสาระเราชอบ ลงตามหลักวิชาหรือหัวข้อกระทู้ด้วยนะบัง   myGreat:
salam
ได้ครับ ขอบคุณมากครับ เรื่องนี้ผมคงผิดพลาดเอง เป็นการเข้าใจผิดของผมเองครับ แล้วจะปรับปรุงครับ ;D

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: มรดกตามหลักการศาสนา (2)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 01, 2009, 10:36 AM »
0
เรื่องมรดกเป็นวิชาที่อัลลอฮฺทรงเก็บก่อนเพื่อนเลย
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

 

GoogleTagged