อัสลามุอลัยกุม
พี่น้องที่รักของฉัน ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ในการส่งข้อความจากพี่น้องมุสลิมะฮฺในกาซ่าถึงทุกๆ คน ขอได้โปรดรับฟังสิ่งที่เราได้ประสบและบอกให้ทุกคนที่ท่านรู้จัก หรือที่ไม่รู้จักได้รับทราบสถานการณ์ที่เราได้ประสบตอนนี้มันเลวร้ายมาก หากแต่ อีหม่าน ของเรายังคงเข้มแข็ง อัลฮัมดุลิลลา ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีน้ำไว้ดื่ม และเมื่อเราได้ดื่ม น้ำนั้นก็เป็นน้ำเน่า และเราก็ไม่มีเงินที่ซื้อน้ำสะอาดไว้ดื่มได้ และเมื่อเรามีเงิน คนขายของต่างปฏิเสธที่จะขายของแก่เราและบอกเราว่า มันอันตรายเกินกว่าที่พวกเขาจะออกไปซื้อของใหม่มาเพิ่ม เราไม่มีแก๊สหุงต้มมานานกว่า 4 เดือนแล้ว เราทำอาหารเท่าที่เรามีโดยใช้ไฟเผาสดๆ และนั่นเป็นวิธีการที่เราได้เรียนรู้เพื่อทำอาหาร
บรรดาผู้ชายของเรา ต่างตกงาน ทุกวันนี้พวกเขาใช้เวลาอยู่ที่บ้าน สามีของฉันเอง วันๆ ก็ทำได้เพียงแค่ออกไปข้างนอกจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งเพื่อหาปัจจัยยังชีพพื้นฐาน อย่างเช่น น้ำดื่ม และเขามักจะกลับมามือเปล่าเสมอ ที่นี้ไม่มีโรงเรียน ไม่มีธนาคาร และแทบจะไม่มีโรงพยาบาลไหนเปิดให้เราเข้าไปทำการรักษา เราต่างรู้ดีว่าเราต้องเสี่ยงชีวิตแค่ไหนเวลาที่เราต้องออกนอกบ้าน หรือแม้แต่เวลาที่เราอยู่ในบ้าน พวกเขาประกาศภาวะฉุกเฉินในช่วงเวลาบ่าย 1 ถึง บ่าย 4 โมง พวกเขาบอกเราว่า เราสามารถที่จะออกไปข้างนอกเพื่อจะหาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย แต่นั่นคือ การโกหก พวกเขามักจะใช้ โอกาสนี้ ในการเพิ่มบรรดาชะฮาดะให้มากขึ้นในรายชื่อของพวกเขา
แต่ละวันเรากินข้าว หรือไม่ก็ขนมปัง เนื้อสัตว์และนมถือเป็นอาหารหรูหราสำหรับพวกเรา พวกเขาทำสงครามโดยใช้สารเคมีในบริเวณที่เป็นเขตชายแดนต่างๆ
ทั้งหมดนี้ เราได้รับการบอกกล่าวว่า" ผู้คนทั่วโลกทำการประท้วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" มาชาอัลลอฮฺ ความจริงที่ว่าพวกท่านทั้งหลายไปยังสถานทูตและออกจากบ้านเพื่อการนี้ก็ทำให้ เราต่างรู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวภายใต้การต่อสู้นี้
แต่รู้ไหมว่า เมื่อยามที่ท่านกลับไปบ้านตอนกลางคืนและล็อกประตูบ้านไว้ เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ตัวฉันเองต้องออกจากบ้านที่อยู่บนชั้นสองทุกๆ คืน เพื่อไปอยู่กับน้องสาวของฉันที่ชั้นล่าง เพราะหากว่ามีการโจมตีเกิดขึ้น เราจะสามารถหนีได้เร็วขึ้นจากชั้นล่าง
ใช่แล้วหละ เราต่างเหน็ดเหนื่อย ในเวลาที่เราได้ยินเสียงลูกปืน ระเบิด และเห็นเครื่องบินบินเข้ามาใกล้อาคารของเรา ฉันกับลูกชายคนเล็กต่างกรีดร้อง ส่วนสามีของฉันก็รู้สึกท้อแท้หมดหวัง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครอีกแล้ว นอกจาก อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ทรงสามารถให้การปกป้องคุ้มครองเราได้ แต่บรรดาอุมมะฮฺต่างถามหาว่า บรรดากองทัพทหารอยู่ไหน ชัยชนะอยู่ที่ไหน -- จงอย่าได้ลืมพวกเรา เพราะ พวกท่าน เป็นสิ่งเดียวที่เรามีอยู่ในตอนนี้ ศอดาเกาะฮฺของท่านไม่ได้มาถึงเราและเมื่อพวกเขาเปิดเขตชายแดน สิ่งที่ท่านบริจาคก็มายังเราเพียงเล็กน้อย
ขอท่านได้โปรดทำงานเพื่ออัลลอฮฺต่อไปและขอดุอาอฺต่อพระองค์ให้ ชัยชนะ มาประสบแก่เราโดยเร็ว อินชาอัลลอฮฺ
วัสลาม
พี่สาวของท่าน อุมมุ ตากี
พี่สาวของเรา อุมมุ ตากีได้เขียนจดหมายจากกาซาถึงเรา
ซึ่งจดหมายฉบับนี้ได้รับการแปลจากภาษาอาหรับเป็นภาษาอังกฤษ (ในเวปไซน์
www.idealmuslimah.com เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552)
คัดลอกภาษาไทยจาก
www.baanmuslimah.com หมายเหตุ : จดหมายฉบับนี้ผมได้รับจากอีเมลล์ของเพื่อนที่ forward มาอีกที เพื่อสานเจตนารมณ์ของผู้เขียนจดหมาย ก็เลยนำมาลงกระทู้