แนะนำบอร์ดใหม่ "คุตบะฮฺวันศุกร์"

[เด็กท่าเรือ]

 salam
ขอให้กำลังใจสำหรับนักเขียนทุกท่านที่ส่งเข้ามาที่บอร์ดครับ
ขอรับรองว่าเรื่งที่เขียนมาถูกนำไปอ่านให้พี่น้องฟังแน่นอนครับ
 วัสสลาม

[Hantu]

สอบถามหน่อยครับ  ในการพูด"คุตบะฮวันศุกร์" เราสามารถใช้เรื่องราวที่เกิดขี้นในชุมชนของเรามาพูดได้ไม๊ครับ

ยกตัวอย่างเช่น เรื่องยาเสพติด  การศึกษา การใช้สิทธิ์เลือกตั้ง  เป็นต้น

ขอให้อัลลอฮตอบแทนครับ

[ILHAM]

ที่แก้วนิมิตเห็นพูดตลอดนะเรื่องในชุมชน จักรพงษ์ก็เคยได้ยินพูดเหน็บแนมซาฟีอีช่วงเลือกจุฬา

[Hantu]

คำตอบของคุณILHAM ทำเอาผมเง็งครับ
เพราะคุณเล่นตอบว่ามีพูดอยู่สองแห่ง และหนึ่งในนั้นพูดคุตบะฮเหน็บแนมผู้อื่นได้ด้วย
ผมยอมรับเลยครับว่าผมเป็นคนเอาวามครับ แต่ผมก็ไม่เอาวู่วามครับ
คำตอบแบบนี้จะทำให้ผมเข้าใจผิดได้นะครับ
ขอคำตอบแบบหลักการหน่อยครับ
(ชุมชนบ้านผมขณะนี้ยาเสพติดมาแรงมากครับ ผมเห็นว่าหลายคนที่ไปละหมาดวันศุกร์ไม่สนใจที่จะฟังคุตบะฮกันเลย)
วัสสลาม

[กูปีเยาะฮฺสะอื้น]

ได้ครับ
ทุกเรื่องเกี่ยวข้องกับอิสลามหมด
ยิ่งเนื้อหาเข้ากับปัจจุบันแล้วยิ่งดี

[Bangmud]

 salam

ในหนังสือฟิกอุลมันฮะญียฺ กล่าวถึงหิกมะฮฺของการบัญญัติละหมาดวันศุกร์ไว้ว่า

"ในการบัญญัติญุมอะห์นั้น มีเคล็ดลับและผลประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งไม่อาจนำมากล่าวไว้ในที่นี้ได้ครบถ้วน ส่วนหนึ่งก็คือ การที่พี่น้องมุสลิมทุกระดับชั้นในเมืองได้มาพบปะกันในสถานที่แห่งเดียวกัน คือ มัสยิดที่ทำญุมอะห์ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง พวกเขาจะได้รับคำแนะนำตักเตือนให้มีความสมัครสมานสามัคคีและร่วมมือกัน เช่นเดียวกับความสนิทสนมรักใคร่ก็จะเพิ่มพูนขึ้น จะทำให้พวกเขาได้เอาใจใส่และตื่นตัวกับเหตุการณืต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบสัปดาห์ ซึ่งผู้นำของพวกเขาจะนำมาถ่ายทอดขณะแสดงธรรมคุตบะห์ ญุมอะห์เป็นการประชุมประจำสัปดาห์ที่มุสลิมจะมาร่วมชุมนุมกันอยู่ข้างหลังผู้นำของพวกเขา ด้วยเหตุนี้เอง ผู้บัญญัติศาสนาจึงส่งเสริมให้มุสลิมมาญุมอะห์ และกำชับไม่ให้ละทิ้งและเห็นญุมอะห์เป็นสิ่งไม่สำคัญ...."

ผมจึงเห็นว่า การนำเรื่องราวในชุมชนมานำเสนอโดยการอธิบายด้วยหลักการศาสนา คือ ใช้อัลกุรอานและหะดีษ เพื่อใช้ให้คนในชุมชนมีตักวา เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง

ส่วนในหนังสือ "ฟิกฮุซซุนนะฮฺ ของ ซัยยิด ซาบิก กล่าวว่า

"จงทำให้คำเทศนาหรือคำปราศัยเหล่านั้น เป็นคำที่ชัดเจน เป็นสำนวนที่น่าฟัง ใช้ข้อคิดและตัวบทอันถูกต้อง แต่จะต้องไม่ขาดเป้าหมายอันสำคัญไป"

และเป้าหมายอันสำคัญที่หนังสือนี้กล่าวถึงในย่อหน้าก่อนหน้านี้คือ

"การเน้นถึงหลักศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อมะลาอิกะฮฺ ต่อคัมภีร์ ต่อร่อซูล ต่อวันที่ไปพบหระองค์ กล่าวถึงสวรรค์ นรก สิ่งที่อัลลอฮฺสัญญาไว้แก่บรรดาคนที่พระองค์รักและคนที่ภักดีต่อพระองค์ สิ่งที่พระองค์สัญญาไว้แก่ศัตรูของพระองค์และผู้ที่ทำชั่ว....."

ในทัศนะของสำนักกฎหมายชาฟิอียฺ คุตบะฮฺจะต้องครบรุก่น 5 ประการ
1. การสรรเสริญอัลลอฮฺในคุตบะฮฺที่ 1และ2
2. การเศาะละวาตนะบียฺในคุตบะฮฺที่ 1และ2
3. คำเตือนให้มีความตักวา ในคุตบะฮฺที่ 1และ2
4. อายะฮฺกุรอานในคุตบะฮฺที่ 1หรือ2 และ
5. ขอดุอาอุ์ให้แก่มวลมุสลิม ในคุตบะฮฺที่ 2

ในความเห็นของผมจากสิ่งที่อ้างมาข้างต้น "คุตบะฮฺวันศุกร์ ทำให้ครบรุก่น พูดเรื่องที่เป็นการตักเตือนพี่น้องมุสลิม จะเป็นการเตือนในเรื่องใด ๆ ก็ได้ โดยเน้นให้มีความตักวาและใช้บัญญัติกุรอานเป็นสิ่งอ้างอิง"

อ้างอิง
1. อัลฟิกฮ์ุ (ฟิกฮุลมันฮะญียฺ) แปลโดยอรุณ บุญชม เล่ม 1 หน้า 182
2. ฟิกฮุซซุนนะฮฺ (เขียนโดย ซัยยิด ซาบิก แปล โดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ) เล่ม 1 หน้า 544 - 545

วัสสลาม

[hiddenmin]

ป๋ามาเองเลย

อิอิ

[Hantu]

ขอบคุณครับป๋า (ต้องให้ลำบากคนแก่อีกแหละ เด็กพวกนี้ไม่ไหว..อิอิ)
จากการสังเกตุในการตระเวณละหมาดวันศุกร์ในมัสยิดต่างๆในพื้นที่สามจังหวัด
อย่า่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือแต่ละญุมออฮไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการอ่านคุตบะฮ
ส่วนมากจะอ่านตามในหนังสือ ส่วนน้อยที่จะเขียนขึ้นมาใหม่แต่เนื้อหาจะพูดกว้างๆเดิมๆ
และที่สำคัญเกือบจะทุกที่การอ่านคุตบอฮจะใช้ภาษามลายูสำเนียงภาคกลางมาเลเซีย
ซึ่งบอกตามตรงบางคำบางประโยคเยาวชนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจเลยทำให้ไม่สนใจ
มีทางไม๊ครับที่จะนำเสนอให้มีการอ่านคุตบอฮโดยสอดแทรกเรื่องราวของคนในชุมชนด้วยภาษามลายูสำเนียงท้องถิ่น
ป๋าคิดว่าไงครับ ไอเดียผมพอได้ไม๊ครับ  หรือว่าไม่ได้เรื่องเล้ยยยไอ้ฮันตู ไปขายบูโบกาแจเหอะ ไป๊
W  A  S  S  A  L  A  M

[ILHAM]

ถูกต้อง ส่วนใหญ่แบบนั้นแหละ
แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่ผมชอบคือ มัสญิดกลางยะลา เท่าที่สังเกต เขาไม่อ่านในหนังสือกันเลยแต่ละคน จะเตรียมมาเองทั้งนั้น พูดภาษาสำเนียงถิ่นปนกลางแบบเข้าใจด้วย ลองไปฟังดูสิ (อุสตาสผมทั้งนั้น 55555)

[Bangmud]

 salam

การจะนำเรื่องใดมาพูดในคุฎบะฮฺ ผู้มาร่วมละหมาดก็มีส่วน เช่น เห็นคนในหมู่บ้านกระทำผิดก็แจ้งให้อีหม่ามหรือคอเตบ เสนอคุฏบะฮฺในเรื่องนั้น ๆ เป็นการตักเตือนโดยรวม โดยไม่บ่งชี้ว่าเรื่องนี้ใครทำหรือทำให้คนที่ทำผิดนั้นถูกรังเกียจ/เพ่งเล็งจากสังคม ส่วนภาษาที่ใช้ นอกจากรุก่นคุฏบะฮฺที่ต้องเป็นภาษาอาหรับแล้ว ควรใช้คำอธิบายด้วยภาษาที่ท้องถิ่นนั้นเข้าใจดีที่สุด ต้องคิดว่า คนที่เขามาร่วมละหมาดวันศุกร์นั้น เมื่อกลับไปแล้ว ได้เพิ่มพูนอีหม่านประการใดประการหนึ่ง ไม่ใช่กลับบ้านมือเปล่า
ถ้าท่าน ฮันตู เห็นว่ายาเสพติด/การพนันเป็นปัญหาในกัมปงของท่าน ท่านก็เรียนกับอีหม่ามของท่านเลยว่า "อีหม่ามครับแถวบ้านเรานี่มันชักจะมียาเสพติด/โต๊ะบอลมากขึ้นนะครับ หาทางเตือนกันดีกว่า ฯลฯ " ผมเชื่อว่าอีหม่ามหรือคอเต็บก็ต้องเข้าใจและนำไปแก้ ทั้งโดยคุฏบะฮฺหรือวิธีการทางสังคมอื่น ๆ
วัสสลาม