การเตาบัตอย่างนี้ใช้ได้มั้ย

[binti-adnan]

Tweet

ถ้าเราใส่ร้ายหรือนินทา  ต่อมาสำนึกผิด จึงจะทำการเตาบัต

โดยอยู่ในเงื่อนไข 1.เสียใจในความผิด    2. ขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ 

                                 3.ตั้งใจจะไม่ทำอีก   4. ขอมาอัฟกับเจ้าตัวคนที่เราเคยใส่ร้ายหรือนินทา

สำหรับข้อ 4 นั้น หากขอมาอัฟอย่างเดียว แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าไปใส่ร้ายหรือนินทาเค้าเรื่องอะไร

และคนที่เราเคยใส่ร้ายหรือนินทาก็มาอัฟให้  อย่างนี้การเตาบัตของเราถือว่าใช้ได้มั้ย

รบกวนผู้รู้หน่อยค่ะ

[ADB]

 salam

กดที่ลิงค์ รอสักครู่เพื่อฟัง www.muslim2world.com/adb4.swf  น่าจะเป็นคำตอบได้

[binti-adnan]

ที่จริงคำถามนี้ก็เกิดจากที่ได้ฟังlink นั้นแหละค่ะ

[ADB]

ซะงั้น

[คะลัคคะลุย]

ท่านอิมามอันนะวาวีได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอัซการของท่านว่า

اعلم أن كلّ من ارتكب معصيةً لزمه المبادرةُ إلى التوبة منها، والتوبةُ من حقوق اللّه تعالى يُشترط فيها ثلاثة أشياء‏:‏ أن يُقلع عن المعصية في الحال، وأن يندمَ على فعلها، وأن يَعزِمَ ألاّ يعود إليها‏.‏

"ท่านจงรู้ไว้เถิด  ทุกคนที่ก่อกระทำการฝ่าฝืนนั้น  จำเป็นบนเขาต้องรีบเตาบะฮ์  และการเตาบะฮ์เป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์(ที่พึงได้รับจากพวกเรา)  ดังนั้นจึงถูกวางเงื่อนไขในการเตาบะฮ์ไว้ 3 ประการ

1. ให้เขาถอนตัวจากการทำบาปในบัดเดี๋ยวนั้นเลย

2. เศร้าใจต่อการกระทำดังกล่าว

3. เด็ดขาดมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หวนกลับไปกระทำมันอีก

والتوبةُ من حقوق الآدميين يُشترط فيها هذه الثلاثة، ورابع‏:‏ وهو ردّ الظلامة إلى صاحبها، أو طلب عفوه عنها والإِبراء منها؛ فيجبُ على المغتاب التوبة بهذه الأمور الأربعة، لأن الغيبة حقّ آدمي، ولا بدّ من استحلاله مَن اغتابَه، وهل يكفيه أن يقول‏:‏ قد اغتبتُك فاجعلني في حلّ، أم لا بُدَّ أن يبيّنَ ما اغتابه به‏؟‏ فيه وجهان لأصحاب الشافعي رحمهم اللّه‏:‏ أحدهما يُشترط بيانُه، فإن أبرأه من غير بيانه لم يصحّ؛ كما لو أبرأه عن مال مجهول‏.‏ والثاني لا يُشترط، لأن هذا مما يُتسامحُ فيه فلا يُشترط علمه بخلاف المال‏.‏ والأوّل أظهرُ، لأن الإِنسانََ قد يسمحُ بالعفو عن غيبة دونَ غِيبة؛ فإن كان صاحبُ الغيبةِ ميّتاً أو غائباً فقد تعذّرَ تحصيلُ البراءة منها؛ لكن قال العلماء‏:‏ ينبغي أن يُكثرَ الاستغفار له والدعاء ويُكثر
من الحسنات‏.‏

การเตาบะฮ์ประเภทฮักกุลอาดัม(สิทธิ์ของมนุษย์)นั้น  มีเงื่อนไข 3 ประการที่ได้กล่าวไปแล้วนี้  และประการที่

4. คืนความอธรรมของเราให้(สารภาพ)กลับไปยังเจ้าของเขา  และขออภัยจากสิ่งที่เราเคยอธรรมและขอให้พ้นจากความอธรรมที่เราได้เคยทำไว้กับเขา

ดังนั้นจึงจำเป็นต่อผู้ที่ทำการนินทา เตาบะฮ์ด้วยกับสี่ประการนี้  เพราะการนินทาเป็นฮักกุลอาดัม  ซึ่งจำเป็นต้องขอฮะล้าลแก่ผู้ที่ถูกนินทา

หากมีคำถามว่า  เพียงพอหรือไม่ที่บุคคลหนึ่งจะกล่าวว่า "ฉันได้เคยนินทาท่าน  ดังนั้นท่านจงฮะล้าล(อภัย)ให้แก่ฉันด้วย หรือ จำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดสิ่งที่เขาได้นินทา?

ตอบ คือมีขัดแย้งกัน 2 ทัศนะจากปราชญ์มัซฮับชาฟิอีย์  (รอหิมะฮุลลอฮ์)

ทัศนะที่ 1. เขาต้องอธิบายรายละเอียดด้วย ดังนั้นเขาจะขอฮะล้าลโดยไม่อธิบายรายละเอียดย่อมไม่ได้  ซึ่งเหมือนกับเขาขอฮะล้าลทรัพย์สินที่ไม่รู้จำนวน

ทัศนะที่ 2. ไม่ถูกวางเงื่อนไขว่าต้องอธิบายชี้แจงรายละเอียด  เพราะดังนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผ่อนปรนให้  ดังนั้นจึงไม่ถูกวางเงื่อนไขว่าต้องชี้แจงรายละเอียด  ซึ่งแตกต่างกับเรื่องทรัพย์สิน  ที่ต้องบอกจำนวนให้ชัดเจน

และทัศนะแรกนั้น  ชัดเจนยิ่งกว่า  เพราะมนุษย์คนหนึ่งนั้น  เขาจะผ่อนปรนให้จากการนินทาหนึ่ง และไม่ผ่อนปรนให้กับอีกนินทาหนึ่ง  และถ้าหากผู้ถูกนินทางนั้นตายไปแล้วและไม่อยู่  ก็ถือว่าเป็นอุปสรรคในการขอฮะล้าลจากกานินทา  แต่ทว่านักปราชญ์ได้กล่าวว่า สมควรทำการอิสติฆฟาร ขอดุอาแก่ผู้ถูกนินทา และขอให้เขาได้รับความดีงามอย่างมากมาย

วัลลอฮุอะลัมบิสศ่อวาบ

[ILHAM]

ผม ถ้านินทาใคร ถ้ามีอารมณ์จะไปขอโทษก็บอกแค่ว่า "เมื่อกี้กูได้พูดถึงมึงนิดหน่อยนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย" การพูดแบบนี้จะทำให้เขาฟังแล้วรู้สึกดีกว่าการบอกตรงๆว่านินทา หากเราบอกว่าเรานินทา เขาอาจจะอคติ และให้ยกโทษให้ หากเขาถามว่าพูดถึงเรื่องอะไรก็บอกแนวๆไปนิดหน่อย อย่าลึกมากพอเป็นพิธี แค่นี้เขาก็มาอัฟให้แล้ว 5555 ทำประจำ

[บาชีร]

สมมุตว่าหากเราไม่มีโอกาสจะไปขอโทษเขาจริงๆ

อุลามะเสนอทางออกให้อีกทางคือ ให้เราดุอาให้แก่เขาเยอะๆ

[binti-adnan]

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาร่วมให้ความรู้

ตอนนี้พอจะสรุปได้ว่า มีทัศนะที่ต่างกันว่าจำเป็นต้องเล่ารายละเอียดหรือไม่

โดยส่วนตัวคิดว่าเรื่องฮักกุลอะดัมการเตาบัตสิ่งสำคัญคือต้องให้ผู้ที่ถูกละเมิดมาอัฟให้ หรือฮาลาลให้

ส่วนรายละเอียด วัลลอฮุอะลัม

คิดอย่างนี้ถูกมั้ยเนี่ย

[ADB]

 salam

จะทัศนะไหนก้อเหอะ ชื่อก้อบอกอยู่แล้วว่า ฮักกุ้ลอาดัม อัลลอฮฺให้เป็นสิทธิระหว่างมนุษย์อย่างเต็มที่ จิตใจคนเราก้อไม่เหมือนกัน เราคิดง่ายๆ ว่าถ้ามีคนมาบอกว่า เค้าขโมยของเราไป หรือนินทาอะไรเราไว้ เจ้าตัวเค้าอาจจะอยากรู้ก้อได้ว่าขโมยอะไรไป หรือนินทาอะไรไว้

ถ้าผิดพลาดกันเล็กๆน้อยๆ ขอมะอัฟกันแบบอุมมูม เราก้อให้อภัยอย่างอุมมูม แต่ความผิดที่คอสลงไป แล้วเรารู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่ขอฮาล้าลจากเค้า อันนี้ก้อขึ้นอยู่กับเจตนาของเราแล้วล่ะ ขออภัยตามอะดัร คนให้อภัยเค้าก้อให้อภัยตามอะดัรเช่นกัน

ส่วนการทำความดี การขอดุอา ให้กับคนที่เราละเมิดสิทธิ์ อันนี้เป็นทางออกสุดท้ายจริงๆ

[ILHAM]

ถ้าเขาไม่ให้อภัย เขาก็จะไม่ได้เข้าสวรรค์ เขาต้องรอเราจนกว่าเราจะเจอเขาและเอาผลบุญเราให้เขา เขาถึงจะผ่านเข้าสวรรค์ไปได้ ถ้าเขาให้อภัย เขาจะได้บุญนั้นทันทีและไม่ต้องรอเรา และเขาจะได้เข้าสวรรค์เลยเพราะไม่ติดอะไรใคร