อับบาส อาลี ไม่ใช่นักฟุตบอลครับ
เพียงปุถุชนธรรมดาที่รักและชอบในวิถีของสายเก่าคนหนึ่งที่ไม่อยากเปลี่ยนใจไปอยู่คณะไหนๆอีกแล้วในวันนี้และวันข้างหน้า และที่เขียนเป็นบทความออกมาก็ไม่ได้นั่งเทียน แต่เขียนมาจากคนในพื้นที่จริงๆ ที่ประสบพบเห็นคณะใหม่กับคณะเก่าอยู่คนละฟากถนนเท่านั้น จึงเกิดความรู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็คงไม่แคล้วเสร็จเขาจริงๆนั่นแหละ เพราะคณะใหม่มีเงินเบิกทางเยอะแยะ มีภาพพจน์ดูหรูหรา น่าเกรงขาม เพราะมีดีกรีเรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนา สำหรับผมอับบาส อาลี เขียนมาเพื่อตักเตือนตัวเอง และเพื่อนผู้ร่วมหมู่บ้าน ที่ยึดถือสายเก่าอยู่ว่าน่าจะหันมาทบทวนมามันเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้านของเราในขณะนี้ หากทุกคนพร้อมใจเปลี่ยนเส้นทางสายเดิมก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรหากเป็นมติของชาวบ้านส่วนใหญ่ แต่ในหมู่บ้านบางแห่งนำเข้าวาฮาบีย์มาโดยไม่ยอมบอกความจริง ตัดสินใจเอาเงินมาสร้างมัสยิดอย่างเดียวโดยไม่รอลงมติเสียงส่วนใหญ่ของชาวบ้าน กล่าวคือ ไม่บอกแหล่งที่มาของเงิน เพราะทราบดีว่าชาวบ้านส่วนใหญ่คงไม่ยอมมาตั้งแต่ต้น ทีนี้ จะลองตั้งคำถามดูว่า หากเมื่อมัสยิดสร้างเสร็จ และวิชาการของวาฮาบีย์ที่นำเข้ามาเผยแพร่ ตามสูตรของเขา ชาวบ้านคงจะรับไม่ได้ เพราะเขายังยินดีอ่านหนังสือที่กูโบร์ ทำบุญ เจ็ดวัน ฯลฯ เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในหมู่บ้านใครจะรับผิดชอบ ผมจะถามต่อว่าว่า ใครกันแน่ที่มาสร้างความแตกแยกกันแน่ หนึ่งผู้นำ สองโกมมูดา สามชาวบ้าน ผมเพียงตั้งข้อสังเกต ให้เพื่อนร่วมวิเคราะห์ออกความเห็นกันบ้าง เพราะที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องที่กุขึ้นมา วัซซาลาม