ผู้เขียน หัวข้อ: มัวะยีซาตมหาศาสดา (ซ็อลลัลลอฮุอ้าลัยฮิว่าซั้ลลัม)  (อ่าน 18552 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
salam

รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ (ร.ด.) กล่าวว่า ท่านรอซูล ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้นำละหมาดอัศริให้กับพวกเรา หลังจากนั้นท่านได้เห็นชายคนหนึ่งละหมาด ท่านจึงกล่าวว่า : โอ้ชายคนนั้น จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ จงปฏิบัติละหมาดให้ถูกต้อง พวกเจ้าคิดหรือว่าฉันไม่เห็นพวกเจ้า ! ฉันเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังฉันเหมือนกับฉันมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าฉัน พวกเจ้าจงทำละหมาดให้ถูกต้อง จงรุกูอ์ และซุญูดให้สมบูรณ์  (รายงานโดยอิบนุคุไซมะฮฺ)

 : การที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม   สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังได้ ถือเป็นมุอ์ญิซาตหนึ่งของท่าน

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam

รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ (ร.ด.) กล่าวว่า ท่านรอซูล ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้นำละหมาดอัศริให้กับพวกเรา หลังจากนั้นท่านได้เห็นชายคนหนึ่งละหมาด ท่านจึงกล่าวว่า : โอ้ชายคนนั้น จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ จงปฏิบัติละหมาดให้ถูกต้อง พวกเจ้าคิดหรือว่าฉันไม่เห็นพวกเจ้า ! ฉันเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังฉันเหมือนกับฉันมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าฉัน พวกเจ้าจงทำละหมาดให้ถูกต้อง จงรุกูอ์ และซุญูดให้สมบูรณ์  (รายงานโดยอิบนุคุไซมะฮฺ)

 : การที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม   สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังได้ ถือเป็นมุอ์ญิซาตหนึ่งของท่าน


จากฮะดีษซอฮิห์นี้บ่งชี้ให้เราทราบว่า การที่อัลเลาะฮ์ได้ให้ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เห็นบรรดาซอฮาบะฮ์ที่ละหมาดตามข้างหลังโดยไม่ใช่เห็นด้วยตาเลย ดังนั้นวันกิยามะฮ์อัลลอฮ์จะทำให้เราเห็นพระองค์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีวิธีการ วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(10) จงบริโภคด้วยนามของอัลลอฮ์

ในวันที่กองทัพมุสลิมร่วมกันขุดสนามเพาะรอบมะดีนะห์ เพื่อสะกัดการจู่โจมของกองทัพพันธมิตรกาเฟรมักกะห์ ท่านญาบิร บินอับดุลเลาะห์ (ร.ด) ประสงค์จะเลี้ยงอาหารแก่ท่านนบี (ซ.ล) ท่านญาบิรจึงได้พูดกับภรรยาของเขาให้เอาเเพะมาเชือด เเล้วโม่ข้าวสาลีทำขนมปัง โดยจะเชิญท่านร่อซู้ล (ซ.ล) มารับประทาน เมื่อตอนเย็นใกล้เวลาที่ทุกคนกำลังจะเดินทางกลับ หลังจากที่ได้มาร่วมกันขุดสนามเพาะ ญาบิรได้เข้าไปใกล้ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เเละได้บอกว่า ฉันได้เตรียมอาหารไว้ อยากให้ท่านไปรับประทานพร้อมกับครอบครัวของฉัน ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ตอบรับคำเชิญ เเล้วใช้ให้ผู้เเทนทุกท่านเชิญชวนทุกคนไปร่วมรับประทาน ทำให้ญาบิรตกใจ เเล้วได้กล่าวกับตัวเองว่า เเท้จริงเราเป็นของอัลลอฮ์ เเละเราต้องกลับคืนสู่พระองค์ เเพะที่เราเชือดนี้ตัวเล็กเเละผอมอีกด้วย อีกทั้งขนมปังที่เราทำก็น้อย เรามีอาหารพอเพียงสำหรับคนเพียงสามคนเท่านั้น  เราจะทำอย่างไร? เมื่อทุกคนไปถึงบ้านญาบิร ญาบิรได้ให้ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เข้าไปในบ้านก่อน เเล้วได้นำอาหาารที่เตรียมไว้ออกมา เเล้วท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้กล่าว "บิสมิ้ลลาฮ์" เเละเริ่มรับประทานพร้อม ๆ กับเหล่าซอฮาบะห์อีกสิบคน ซึ่งทุกคนรับประทานจนอิ่ม เเล้วท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ให้อีกสิบคนมารับประทาน ซึ่งทุกคนก็รับประทานจนอิ่มอีก จนทุกคนจำนวนเจ็ดสิบกว่าคนรับประทานจนอิ่ม ปรากฏว่าอาหารก็ยังเหลือให้ครอบครัวของท่านญาบิรรับประทานกันอิ่มทุกคน

อาหารที่เลี้ยงก็ไม่พอนั้น ไฉนจึงเลี้ยงคนให้อิ่มได้กว่าเจ็ดสิบคน?? ใครสามารถทำอย่างนั้นได้?? นี่คือมัวะญิซาตหนึ่งจากบรรดามัวะญิซาตของท่านนะบี (ซ.ล) เพื่อเป็นหลักฐานเเสดงว่า ท่านคือร่อซู้ลโดยสัจจริง

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ


والله سبحانه وتعالى أعلم

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 19, 2009, 02:52 AM โดย Rabit »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(11) ลูกชายของฉันคนนี้เป็นนาย

ตอนที่ท่านอะลีย์ได้รับตำเเหน่งคอลิฟะห์ต่อจากท่านอุสมาน (ร.ด) นั้น มุสลิมตกอยู่ในภาวะวิกฤติ เกิดการขัดเเย้งกันระหว่างอะลีย์เเละมุอาวิยะห์ บิน อะบีซุฟยาน กองทัพทั้งสองสู้รบกัน และในที่สุดการสงครามก็ยุติหลังจากที่อะลีย์ บิน อะบีตอลิบ เสียชีวิต

ท่านฮะซัน (ร.ด) เป็นผู้ที่สำรวม เป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ที่สมถะ ไม่ชอบการสู้รบ เเละไม่ชอบที่จะให้มุสลิมสู้รบกันเอง ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงประสงค์ที่จะรักษาเลือดเนื้อของมุสลิม ประสงค์ที่จะยุติสงคราม เเละประสงค์ที่จะรวมมุสลิมหลังจากที่ได้เเตกเเยกกัน เพื่อให้เกิดเอกภาพอันสูงส่ง เเทนที่จะให้การสนับสนุนกองทัพของอะลีย์ผู้เป็นบิดา จึงได้ทำสัญญาปรองดองกับมุอาวิยะห์ บิน อะบีซุฟยาน อันเป็นเหตุให้การสงครามยุติลง เเละได้กล่าวว่า

“โอ้มุอาวิยะห์ เเท้จริงฉันขอเลือกตามสิ่งที่สอดประสานกับพระประสงค์ของอัลลอฮ์ หากอำนาจเเละตำเเหน่งนี้เป็นของท่าน ก็ไม่เป็นการพึงควรที่ฉันจะยื้อเเย่งมาจากท่าน เเละหากมันเป็นของฉัน ฉันก็ขอสละสิทธิให้เเก่ท่าน”

ด้วยคำพูดนี้ ฮะซันสามารถยุติการสู้รบระหว่างกองทัพที่สนับสนุนบิดาผู้เสียชีวิต(มรณะสักขี) เเละกองทัพของมุอาวิยะห์ลงได้ จนทำให้การขัดเเย้งยุติลง เเละทำให้ประสานความร่วมมือเเละเอกภาพเกิดขึ้นบนพื้นฐานเเห่งอุดมการณ์

เป็นสัจธรรมที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เคยกล่าวไว้เเล้วในหลายปีก่อน ในขณะที่ฮะซันยังเป็นเยาวชนตัวเล็ก ๆ ซึ่งท่านได้กล่าวว่า “ลูกชายของฉันคนนี้เป็นนาย” เเละเเน่นอนย่อมหมายถึงการปรองดองเเละเเก้ไขปัญหาการขัดเเย้งที่เกิดขึ้นในระหว่างอะลีย์เเละมุอาวิยะห์ เป็นการยืนยันความสัจจริงตามที่กล่าวมาเเล้ว

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วัน
แอเลาะ

والله سبحانه وتعالى أعلم
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 19, 2009, 02:41 AM โดย Rabit »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

12 ฝนตกลงมา ศัตรูเผ่นหนี

พืชพันธ์ธัญญาหารเหี่ยวลง น้ำในบ่อขอดเเห้งเเละฝนก็ไม่ตก ชาวมดืนะห์ประสบกับความเเห้งเเล้งอย่างรุนเเรง ในวันหนึ่งท่ามกลางวิกฤตนี้ ขณะที่ท่านนบี (ซ.ล) กำลังเเสดงคุตบะห์อยู่ มีชายคนหนึ่งได้เดินเข้ามาในมัสยิด เเล้วเขาก็พูดกับท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ว่า “โอ้ท่านร้อซูลุ้ลอฮ์  ปศุสัตว์ของเราล้มตายเป็นจำนวนมาก ได้โปรดขอฝนจากอัลลอฮ์ด้วยเถิดเพื่อพืชพันธ์ธัญญาหาร เเละเเก้ไขความเเห้งเเล้งที่เกิดขึ้น”
ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ยกมือขึ้นขอพรจากอัลลอฮ์ เเละอัลลอฮได้ตอบรับคำขอของท่านนบี (ซ.ล) ในทันใดนั้น ลมเริ่มพัดเมฆมารวม ฝนก็เริ่มตกลงมาอย่างหนาเม็ด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นท้องฟ้าสะอาดปราศจากเมฆหมอก ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์จนถึงวันศุกร์ถัดไป ชายคนเดิมได้ยืนขึ้นในขณะที่ท่านนบี (ซ.ล) กำลังเเสดงคุตบะห์ เขากล่าวว่า “โอ้ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ได้โปรดขอดุอาอ์ให้ฝนหยุดตก เพราะน้ำท่วมสร้างความเสียหายมากมายเหลือเกิน บ้านเรือนของพวกเราจะพังพินาศหมดเเล้ว ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ยิ้ม พลางกล่าว่า

حَوَالَيْنَا وَلا عَلَيْنَا يَارَبِّ

ในทันใดนั้น เมฆที่เต็มท้องฟ้าก็ค่อย ๆ กระจาย ถูกลมพัดบ่ายเบนไปเป็นสายฝนตกลงยังที่อื่น ณ มดีนะห์ฝนหยุดสนิท

เเละในปีที่ห้าเเห่งฮิจเราะห์ศักราช กาเฟรมักกะฮ์ได้เริ่มเตรียมทัพมหึมาหวังพิชิตเเละทำลายที่มั่นของมุสลิมที่มดีนะห์ ซึ่งมุสลิมได้เตรียมต้านทัพด้วยกานขุดสนามเพาะรอบมดีนะห์ เพื่อสกัดกั้นกองทัพของกาเฟร
ครั้นเมื่อกาเฟรได้นำทัพอันมหึมานั้นมาถึง ก็ต้องตกใจที่พบสนามเพราะรอบมดีนะห์ พวกเขาห้อมล้อมมดีนะห์อยู่เป็นเดือน ทำให้มุสลิมในมดีนะห์ประสบกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างเครียดตลอดเวลาที่ถูกห้อมล้อม

ในวันหนึ่งตัวท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ขึ้นไปบนภูเขาเเละได้ขอพรต่อพระผู้อภิบาลว่า

اللّهُمَّ اصْرِفْ عَنَّا شَرَّ هؤُلاءِ اْلَقَوْم ِبِقُوَّتِكَ وَحَوْلِكَ وَقُدْرَتِكَ

อัลลอฮ์ได้ทรงตอบรับคำขอของท่านนบี (ซ.ล) ซึ่งในทันใดนั้น ได้เกิดลมพัดขึ้นอย่างเเรง พัดเอากระโจมของกองทัพกาเฟรพังยับเยิน ในตาเเละปากของพวกเขาเต็มไปด้วยเม็ดทราย ทหารของกองทัพกาเฟรเผชิญกับความทุกข์ยากอย่างสาหัสถึงกับต้องเผ่นหนีอย่างกระจัดกระเจิง อันเกิดจากเเรงลมทรายตลบฟุ้งพร้อมกับหัวใจที่สั่นสะท้านสะพรึงกลัว พวกเขาละทิ้งสัมภาระทั้งหมด หอบร่างกายที่มีชีวิตริบหรี่กลับมักกะฮ์

เเละนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งจากมัวะญิซาตของท่านร่อซู้ล (ซ.ล)

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 09, 2009, 06:59 PM โดย Rabit »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(13) หมดสิ้น นอกจากชื่อของอัลลอฮ์

เมื่อบรรดากาเฟรหมดหวังต่อการสกัดการเผยเเพร่อัล-อิสลาม โดยที่พวกเขาเป็นจำนวนไม่น้อยทยอยเข้าขานรับการประกาศเผยเเพร่ของท่านนบี (ซ.ล)  พวกเขาจึงคิดขัดขวางเเละสกัดกั้นการเติบโตของอิสลามในรูปเเบบต่าง ๆ

พวกเขาได้ร่วมกันตัดสัมพันธ์กับมูฮำหมัด เเละบรรดาผู้ศรัทธาตลอดจนผู้ที่ปกป้องคุ้มครอง ด้วยการเนรเทศออกจากมักกะห์บ้าง เเละที่สำคัญที่สุดคือ ห้อมล้อมหรือกำหนดพื้นที่ให้อยู่ในหุบเขา (ซุอีบ) อบีตอลิบ  ได้มีการบันทึกข้อตกลง เเละนำบันทึกนั้นไปเเขวนไว้ในมักกะห์ ข้อความบางส่วนในบันทึกข้อตกลงนั้นคือ ไม่ขาย-ไม่ซื้อสิ่งใดกับมุสลิม ไม่เเต่งงานกับมุสลิม บรรดามุสลิมถูกบอยคอตทางสังคมอันป่าเถื่อนนั้นอยู่ประมาณสามปี จนกระทั่งไม่มีอะไรเป็นอาหารนอกจากใบไม้ ใบหญ้า

อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่ถูกบอยคอต เเละจำกัดพื้นที่อยู่นั้น ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้บอกกับอบีตอลิบ ผู้เป็นลุงถึงเรื่องที่ประหลาดเรื่องหนึ่ง ท่านได้บอกลุงของท่านว่า อัลลอฮ์ท่านได้ให้ปลวกกินวัสดุที่บันทึกข้อตกลง ซึ่งเเขวนอยู่ที่กะอบะห์นั่น ไม่มีข้อความใดในบันทึกหลงเหลือยู่เลย นอกจากนามของอัลลอฮ์

อบูตอลิบจึงได้รีบออกไปจากบริเวณที่ถูกปิดกั้นนั้น โดยมุ่งไปยังชาวกุเรชเเละได้บอกกับพวกเขาว่า “ฉันมาหาพวกท่านเพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีปัญหาของฝ่ายเราเเละฝ่ายพวกท่าน” หลานของฉันได้บอกกับฉันว่า ปลวกได้กินวัสดุที่บันทึกข้อตกลงของพวกท่านหมดเเล้ว เหลือไว้เเต่เพียงนามของอัลลอฮ์เท่านั้น ดังนั้นหากคำพูดของมูฮำหมัดนี้เป็นความจริง ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า พวกเราจะไม่ยอมพวกท่านจนกว่าคนสุดท้ายของพวกเราตาย เเต่หากคำกล่าวของมูฮำหมัดไม่เป็นความจริง เราจะปล่อยพวกท่านทำอย่างไรก็ได้ที่อยากจะทำ ไปเถิดไปพิสูจน์กันให้เห็นกับตา

บรรดากาเฟรมักกะห์ได้ตกลงตามเงื่อนไขที่อบูตอลิบเสนอ ในที่สุดพวกเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อวัสดุที่บันทึกข้อตกลงของพวกเขาถูกปลวกกินจนหมด ยกเว้นนามของอัลลอฮ์ เหมือนดั่งที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) กล่าวไว้

ดังกล่างนี้เป็นอีกมัวะยิซาตหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้ให้พิสูจน์เห็นด้วยตา เพื่อยืนยันในการเป็นร่อซู้ลของมูฮำหมัด (ซ.ล)  ใครจะรู้เรื่องของบันทึกนั้น มูฮำหมัดไม่ได้อยู่ที่บัยตุ้ลลอฮ์ มูฮำหมัดถูกห้อมล้อมกักบริเวณอยู้ในหุบเขา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั้นเพราะอัลลอฮ์บอกเเก่มูฮำหมัดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับวัสดุบันทึกนั่น

ทั้ง ๆ ที่มีมัวะยิซาตขนาดนี้ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อเเละยังกล่าวอย่างไร้เหตผลต่อไปว่า ที่คือมายากล เขากล่าวว่า “โอ้ อะบูตอลิบ หลานของท่านเป็นจอมมายา พวกเราจะไม่เชื่อในเรื่องที่เขานำมาประกาศอย่างเด็ดขาด”

ในที่สุด อัลลอฮ์ท่านก็ได้ให้พวกเขายกเลิกการกักกันบริเวณเเละท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ตลอดจนบรรดาผู้ศรัธาก็กลับสู่เสรีภาพดั่งเดิม

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 19, 2009, 07:56 PM โดย Rabit »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
อัลฮัมดุลิลละฮฺ

เยี่ยมมากๆค่ะ  mycool:

ออฟไลน์ khata

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 209
  • เพศ: หญิง
  • ซอบัร ซอบัรและซอบัร
  • Respect: +5
    • ดูรายละเอียด
 salam

ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร็อนค่ะ.......คุณ.Rabit


13 มัวะยิซาตขอท่านศาสดาแล้ว....เหลืออีก...17 จะรออ่านต่อไปค่ะ........

เยี่ยมมาก....... myGreat:
ฉันไม่มีอะไรพิเศษหรอก หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์ให้ฉันเป็น

ฉันจะขอยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺจนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(14) ซุรอเกาะห์ บิน มาลิกเเละรางวัล

ชาวกุเรชโกรธมาก เพราะค้นหามูฮำหมัดไม่พบ จึงได้ตั้งรางวัลนำจับ ไม่ว่าจะจับเป็นหรือว่าจับตายไว้ถึงอูฐหนึ่งร้อยตัว

ท่านนบี (ซ.ล) ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนยอดเขาซูรถึงสามวัน ครั้นเมื่อการค้นคว้าของกาเฟรเมื่อยล้า จึงได้เดินทางออกจากถ้ำ มุ่งสู่มดีนะห์

ในขณะที่ซุรอเกาะห์ บิน มาลิก นั่งอยู่ในสโมสรของเขา ทันใดนั้นมีชายบ้านนอกคนหนึ่งได้มาที่สโมสรพลางกล่าวว่า ฉันได้เห็นผู้ชายสามคนเดินทางในเส้นทางมุ่งสู่มดีนะห์ ฉันเข้าใจว่า คือ มูฮำหมัด เเละคณะ  ซุรอเกาะห์ได้หลิ่วตาเป็นการบอกใบ้ว่า “อย่าพูด” อย่าได้บอกอะไรเเก่สมาชิกของเรา ในทันใดนั้นเขาได้พูดขึ้นว่า ที่ท่านเห็นนั้นคือพวกฉันเอง พวกเขาอูฐหาย พวกเขาจึงออกตามหาอูฐของพวกเขาที่หาย

อีกสักครู่หนึ่ง ซุรอเกาะห์ ก็กลับไปยังบ้านของเขาด้วยความหวังว่า เขาจะต้องเป็นผู้ได้รับรางวัลนำจับนั้น เเต่เพียงผู้เดียวเขาได้พูดกับตัวของเขาเองว่า ทุกคนที่เห็นมูฮำหมัดจะต้องรีบนำจับเพื่อจะได้รางวัลอันมหาศาลนั้น ซึ่งน่าจะดูเป็นเราเหลือเกิน ดังนั้น เราต้องรีบติดตามไป เพื่อจะได้นำตัวมูฮำหมัดมาให้ชาวกุเรช

ซุรอเกาะห์ได้ออกติดตามด้วยการใช้ม้าเป็นพาหนะ เป็นม้าที่เลื่องลือเเละรู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นม้าที่วิ่งเร็ว เขารีบควบม้าของเขาติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนเมื่อใกล้จะทัน เขาก็ต้องตกใจกับเหตุที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับม้าของเขา นั่นก็คือ ขาของม้าจมมิดลงไปในทะเลทราย จนท้องติดพื้น เขารีบตีม้าของเขาให้ชักขาขึ้นวิ่งไล่ตามเหมือนคนบ้า เเต่ปรากฎว่า มีฝุ่นซึ่งเหมือนหมอกควันตลบทั่วบริเวณนั้น ถึงกับทำให้ซุรอเกาะห์สำลักฝุ่น จนทำให้เขาเปลื่ยนใจเเละเชื่อว่ามูฮำหมัดต้องเป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์อย่างเเน่นอน

ซุรอเกาะห์จึงได้ร้องเรียกท่านร่อซู้ล (ซ.ล) โอ้มูฮำหมัด ได้โปรดให้ความปลอดภัยเเก่ฉันด้วย ได้โปรดขอจากอัลลอฮ์ให้ม้าของฉันรอดพ้นจากการถูกธรณีสูบด้วย ฉันขอยืนยันว่า จะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใครทั้งนั้น เเละจะพยายามสกัดกั้นทุกคนที่ค้นหาท่าน

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ยกมือของท่านขึ้น เเล้วชี้ไปที่ม้าตัวนั้น ก็ทำให้ม้าตัวนั้นถอนขาของมันขึ้นมา เเล้ววิ่งต่อไปได้ เมื่อวิ่งไปจนทันท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ เขาได้เสนอให้อาวุธเเละอาหารของเขา เเต่ร่อซู้ล (ซ.ล) ปฎิเสธทุกอย่างที่กาเฟรให้ เเละได้ใช้ให้เขากลับไป

เมื่อซุรอเกาะห์กลับถึงมักกะห์ เขาไม่ยอมบอกเรื่องใดๆ ที่ประสบกับเขา ทั้งนี้เป็นการรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับท่านนบี (ซ.ล) เเละกลัวอัลลอฮ์จะให้เกิดภัยพิบัติขึ้นเเก่เขา
เเละนี่ก็ถือเป็นมัวะยิซาตอีกอย่างหนึ่ง

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 27, 2009, 03:35 AM โดย AS-SALEEK »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
 salam

สุดท้ายแล้ว ซุรอเกาะห์ บิน มาลิก ได้รับนับถืออิสลามมั้ยคะ ????

(แอบสงสัยอย่างแรง)

วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(15) ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ร้องไห้

ในปีที่เเปดเเห่งฮิจเราะห์ ร่อซุลุ้ลลอฮ์ (ซ.ล) ได้ทรงส่งทหารมุสลิมไปสอนจรรยาบรรณเเก่ชาว “ฆอซาซีน้ะห์” ซึ่งเป็นชุมชนหนึ่งในโรมันที่ไม่มีคุณธรรม ก่อการเป็นปรปักษ์ต่ออิสลาม

โดยปกติท่านร่อซูล(ซ.ล) จะเเต่งตั้งผู้นำทัพเพียงคนเดียว เเต่ในครั้งนี้ ท่านได้ทรงเเต่งตั้งถึงสามคน คือ ท่านเซด บินฮาริซะห์ เเละท่านญะฟัร บินอบีตอลิบ เเละท่านอับดุลลอฮ์ บินร่อวาฮะห์ ตามลำดับ เเละกล่าวว่า หากผู้นำทัพทุกคนนี้ไม่อาจรับผิดชอบงานในหน้าที่ได้จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้คัดเลือกผู้หนึ่งปฎิบัติหน้าที่ต่อ

ทหารมุสลิมได้ประจัญบานกับทหารของศัตรูที่ “มุ้ตะห์” ซึ่งการสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือด นักรบมุสลิมมีจำนวนสามพันคน ในขณะที่ฝ่ายศัตรูมีถึงหนึ่งหมื่นคน ซึ่งเป็นทหารพันธมิตรจากฆอซาซินะห์ จากโรม เเละอื่น ๆ รวมกัน

การสุ้รบดำเนินไปไม่นานนัก ผู้นำทัพของมุสลิมคนเเรกก็ถูกฆ่าในสมรภูมิ เมื่อผู้นำทัพท่านที่สองบัญชาการกองทัพต่อจากท่านเเรกได้ไม่นาน ก็ถูกฆ่าตายในสมรภูมิอีก ท่านอับดุลลอฮ์ บิน ร่อวาฮะห์ ผู้นำทัพคนที่สามก็คุมบังเหียนผู้บัญชาการกองทัพ ซึ่งก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่ได้รับเนียะมัดอันได้เเก่ความตายในสมรภูมิรบ ในขณะนั้นท่านค่อลิด บินอัล-วาลีด ได้บัญชาการกองทัพต่อด้วยการเปลี่ยนยุทธวิธีในการรบ
ณ นครมะดีนะห์ ในขณะที่นักรบของมุสลิมที่ส่งไป มุตะห์ กำลังอยู่ในสมรภูมิ ได้รับการทดสอบอย่างรุนเเรงจากพระเป็นเจ้า ท่านร่อซู้ลได้ใช้ให้อะซานเรียกผู้คนมาละหมาด ท่านได้ก้าวขึ้นบนมิมบัรด้วยดวงตาที่บอบช้ำชุ่มฉ่ำเปียกโชกไปด้วยน้ำตา ท่านกล่าวว่า “โอ้มนุษย์เอ๋ย ฉันขอบอกกับท่านถึงนักรบของท่านในสงครามครั้งนี้ ขณะนี้ เซดได้เสียชีวิตในสมรภูมิ เเละเมื่อญะฟัรได้ทำหน้าที่บัญชาต่อด้วยความทรหดเเละเข้มเเข็งก็เสียชีวิตในสมรภูมิอีก ครั้นเมื่อท่านอับดุลลอฮ์ บิน ร่อวาฮะห์บัญชาการต่อ ด้วยความบึกบึนก็เสียชีวิตในสมรภูมิอีก พวกท่านทั้งหลายได้โปรดช่วยกันขออภัยให้นักรบของเราด้วย เเละขณะนี้ท่านค่อลีด บินอัล-ว่าลีด กำลังทำหน้าที่ผู้บัญชาการรบอยู่ โอ้มหาบริสุทธิ์เเด่อัลลอฮ์ ท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  ท่านอยู่ที่มะดีนะห์ ซึ่งกองทัพถูกส่งไปสู้รบที่มุ้ตะห์เขตติดต่อประเทศซีเรีย ใคร? ใคร? เป็นผู้บอกท่านถึงสภาพการณ์ในสมรภูมิรบ? ซึ่งก็ไม่มีใครเเม้เเต่คนเดียวที่นำเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสนามรบมาบอกท่าน

ใคร ? ใคร? เป็นผู้ให้ท่านรู้ถึงการตายชะหีดของผู้นำทัพ โดยที่ระยะทางระหว่างท่านกับรักรบของท่านไกลถึงหลายวันหลายคืนสำหรับการเดินทาง

มิใช่อัลลอฮ์ (ซ.บ) ดอกหรือ? ที่บอก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นนบีเเละร่อซู้ลของท่าน ในขณะที่ ที่มีชายคนหนึ่งได้นำข่าวการสู้รบมาบอกที่มดีนะห์ ท่านร่อซู้ลได้พูดกับชายผู้นั้นว่า “หากต้องการจะบอกก็จงบอก มิฉะนั้น ฉันจะบอกเอง” ชายผู้นั้นตอบว่า ขอท่านได้บอกเถิด โอ้ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ เพื่ออีหม่านของฉันจะได้เข้มเเข็งเเละเพิ่มพูนขึ้น

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ลำดับเหตการณ์ทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นในสมรภูมิ ชายผู้นั้นกล่าวว่า ขอสาบานต่อผู้ที่เเต่งตั้งท่านว่า ท่านได้ลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดเหมือนกับท่านได้ร่วมรบกับกองทัพในครั้งนี้
เเละนี่เป็นอีกมัวะยิซาตหนึ่งจากบรรดามัวะยิซาตต่าง ๆ ที่เพิ่มอีหม่าน เพิ่มศรัทธาให่เเก่มุสลิมทุก ๆ คน

มีรายงานว่า ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เมื่อท่านไปเยี่ยมภรรยาของนักรบที่ตายชะหีด คือ ภรรยาของท่านญะฟัร บินอบีตอลิบ พบว่าบรรดากลุ่มสตรีเสียใจร้องไห้กันระงม ท่านจึงใช้ให้ทุกคนเงียบ เเล้วทันใดนั้นท่านได้เเหงนหน้าขึ้นฟากฟ้าพลางตอบรับสล่าม จึงถูกถามว่า ท่านรับสล่ามจากใคร? ได้รับคำตอบว่า ฉันเห็นญะฟัร บินอบีตอลิบ อยู่กับมวลมลาอิกะห์บนฟากฟ้า เขากำลังเดินทางเข้าสู่สรวงสวรรค์ ขออัลลอฮ์ทรงยินดีกับชะหีดเพื่ออิสลามทุกคน

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
เอาข้อมูลเกี่ยวกับมัวะญิซาตลงกระทู้ไม่ได้ หว่า...................................
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
รูปแบบบอร์ดเปลี่ยนไปเล็กน้อย อะไรๆก็ดีไม่ค่อยเหมือนเดิม
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

(16) ท่านก็จะถูกเสนอให้ทำอย่างนี้เเหละ โอ้อะลีย์

ในปีที่หกเเห่งฮิจเราะห์ศักราช ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เเละบรรดามุสลิมได้ออกจากมดีนะห์มุ่งสู่มักกะห์เพื่อทำอุมเราะห์ เเละชาวกุเรชไม่ยอมให้เข้ามักกะห์ เพราะการนั้นย่อมหมายถึงมูฮำหมัดเเละผู้ติดตามได้รับชัยชนะ

ก่อนถึงมักกะห์ไม่กี่ไมล์ ณ สถานที่ที่มีชื่อว่า “อัล-หุดัยบิยะห์” อูฐของท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้คุกเข่าลงนอน ซึ่งผู้ติดตามทั้งหมดก็ตั้งเเค้มป์พักผ่อนกันตรงนั้น เเล้วในที่สุดการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ยุติลงด้วยการทำสัญญา

อะลีย์ บิน อบีตอลิบ ได้บันทึกข้อความตามคำสั่งของท่านร่อซู้ล (ซ.ล) โดยท่านได้สั่งให้บันทึกว่า “นี่คือข้อตกลงของมูฮำหมัด ร่อซูลุ้ลลอฮ์” ในทันใดนั้น ผู้เเทนของชาวกุเรชได้คัดค้านขึ้นว่า หากพวกเรายอมรับว่าท่านเป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์ เราก็จะไม่ยับยั้งท่านไว้ตรงนี้ ซึ่งเราจะต้องให้ท่านเข้าจนถึงมักกะฮ์เเน่นอน ยืนยันไม่ยอมให้เขียนว่า ร่อซูลลุ้ลลอฮ์
ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้พูดกับอะลีย์ว่า จงเขียนว่า “มูฮำหมัด บุตร อับดุลเลาะห์ เเทนคำว่า มูฮำหมัดร่อซูลุ้ลลอฮ์” อะลีย์ไม่ยอมทำตาม ท่านร่อซุลุ้ลลอฮ์ (ซ.ล) จึงกล่าวกับอะลีย์ว่า “ท่านก็จะต้องผจญกับปัญหาทำนองนี้ โอ้อะลีย์เอ๋ย” อะลีย์จึงได้ทำตามคำสั่ง

หลังจากที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) กลับสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์เเล้วหลายปี คำพูดของท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ก็เป็นความจริง โดยที่อะลีย์ บิน อบีตอลิบ ก็ได้ประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกันกับที่ท่านนบีได้รับ ในตอนที่ท่านอะลีย์ได้รับตำเเหน่งคอลีฟะห์ ในสงครามซิฟฟินนั้นยุติลงด้วยการทำสัญญาระหว่างอะลีย์กับมุอาวิยะห์ บิน อบีซุฟยาน อะลีย์ได้บันทึกข้อความลงในสัญญาว่า “นี่คือบันทึกข้อตกลงของอะลีย์ บุตร อบีตอลิบ อะมีรุ้ลมุอ์มินีน” ในทันใดนั้นผู้เเทนของมุอาวิยะห์ได้กล่าวขึ้นว่า หากฉันเชื่อว่าท่านเป็นอะมีรุ้ลมุอ์มินีน ก็ไม่เกิดปัญหาระหว่างเราขึ้น ดังนั้น อย่าได้เขียนคำว่า “อะมีรุ้ลมุอ์มินีน” ซึ่งอะลีย์ก็ยอมทำตามคำสั่ง
ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้บอกอะลีย์ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอะลีย์ก่อนหน้าที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นหลายปีเเล้วเหตุการณ์ที่คาดหมายไว้ก็เกิดขึ้นตรงตามที่ท่านนบี (ซ.ล) กล่าวเนื่องจากท่านจะไม่กล่าวอะไรตามอารมณ์ นอกจากมันคือวะฮีจากอัลลอฮ์ทั้งสิ้น

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

 

GoogleTagged