ผู้เขียน หัวข้อ: มัวะยีซาตมหาศาสดา (ซ็อลลัลลอฮุอ้าลัยฮิว่าซั้ลลัม)  (อ่าน 19348 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

17 โอ้ อุเมร ท่านมาทำไม?

ในวันหนึ่งที่มักกะห์ หลังจากที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ฮิจเราะฮ์ไปมะดีนะห์เเล้ว ท่าวะฮับ บุตร อุเมร เเละท่านซ็อฟวาน บุตรอุมัยยะห์ ได้พูดกันถึงเรื่องที่พวกของเขาถูกฆ่าตายในสมรภูมิบะดัร ที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพมุสลิมเเละกองทัพมุชริกีน ซึ่งเป็นสงครามที่ฝ่ายมุสลิมได้รับชัยชนะ

อิบนุอุเมรกล่าวว่า หากฉันไม่มีหนี้เเละไม่มีลูกเล็ก ๆ ที่กลัวว่าพวกเขาจะต้องลำบาก ฉันจะต้องไปฆ่ามูฮำหมัดถึงมะดีนะห์เเน่ ๆ ท่านซ็อฟวานได้รีบกล่าวตอบว่า ฉันเห็นด้วยในความคิดของท่าน โอ้ อุเมร ท่านไม่ต้องห่วงลูกของท่าน ฉันจะดูเเลพวกเขาเอง ฉันจะให้พวกเขาอยู่กลับลูก ๆ ของฉัน สำหรับหนี้ที่ท่านมีอยู่ฉันจะรับผิดชอบชำระเอง

อุเมร รีบลุกขึ้นยืนเเล้วหยิบดาบ เเละเริ่มออกเดินทางไปมะดีนะห์เพื่อฆ่ามูฮำหมัด (ซ.ล)

เมื่อเขาเดินทางสู่มะดีนะห์ อุมัรได้เห็นเขา เเล้วได้พูดกับพี่น้องมุสลิมทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เขา ในขณะนั้นว่า นี่คือศัตรูของอัลลอฮ์ เขาไม่ได้เดินทางมาเนื่องจากปรารถนาดีอะไร นอกจากคิดร้าย ว่าเเล้วก็เดินไปหา เเล้วจับตัวเขามาหาท่านร่อซูลุลลฮ์ (ซ.ล)

เมื่อท่านร่อซู้ล (ซ.ล) อนุญาตให้เข้าพบ อุเมรได้พูดทักทายตามประสาคนถ่อย ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้พูดกลับเขาว่า อัลลอฮ์ได้ให้การเเสดงความคารวะต่อกันที่ดีเเละประเสริฐกว่าที่ท่านพูดนั้น เเล้วท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ถามต่อไปว่า “โอ้ อุเมร ท่านมาที่นี่ทำไม?” อุเมรตอบว่า ฉันมาเรื่องลูกของฉันที่ถูกจับเป็นเชลย มาเพื่อขอให้ท่านปฎิบัติดี ๆ ต่อเขา ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ถามต่อไปว่าเเล้วเอาดาบนั้นมาด้วยทำไม? เขาตอบว่า ไอ้ดาบบ้า ๆ ไม่เห็นให้ประโยชน์อะไรเเก่เราในสงครามบะดัรเลย ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) กล่าวว่า พูดตรงไปตรงมากับฉันเถิดว่า ท่านมาที่มะดีนะห์ทำไม? เขาตอบว่า ฉันไม่ได้มาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่องสิ่งที่ฉันพูดมาเมื่อครู่นี้ ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้พูดกับอุเมร ว่า ท่านอย่าโกหก ท่านนั่งคุยกับซ็อฟวานที่หินโค้งกะอ์บะห์ ท่านได้พูดกันอย่างนี้-อย่างนี้ ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้เล่ารายละเอียดทุกขั้นตอนที่เขาสองคนคุยกัน
ทันใดนั้น อุเมรได้พูดกับตัวของเขาเองว่า เเท้จริงมูฮำหมัดคือร่อซูลุ้ลลอฮ์เเน่นอน เขามีสัจจะในสิ่งที่พระผู้อภิบาลของเขาส่งมา มิฉนั้นเขาคงไม่รู้ว่า เราพูดอะไรไปกับซ็อฟวาน ซึ่งวันนั้นก็ไม่มีใครนั่งฟังอยู่ด้วยเลย อีกทั้งเราก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่เราพูดให้ใครฟัง เเละเเม้เเต่เรื่องที่เรามาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร ต่าง ๆ เหล่านี้เราไม่เคยพูดกับใคร

อุเมรจึงได้รับนับถืออิสลาม เเล้วเดินทางกลับมักกะฮ์พร้อมลูกชายที่เป็นเชลย ทั้งนี้ หลังจากที่เหล่าซอฮะบะห์ได้ช่วยกันสอนเรื่องต่าง ๆ ของศาสนาให้เเก่เขา

ส่วนซ็อฟวาน บิน อุมัยยะห์ ได้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามหลังจากฟัตห์มักกะห์เเล้ว

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam
18 ผู้ชายกับดาบ

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) นั้นเมื่อออกไปทำสงครามหรือออกเดินทาง บรรดาซอฮะบะห์จะทำที่พักให้หรือไม่ก็จะเลือกสถานที่ที่มีร่มเงา เช่น ใต้ต้นไม้ ให้ท่านได้พักผ่อน

ในสงครามครั้งหนึ่ง ในขณะที่บรรดาซอฮะบะห์กำลังทำสงครามกับฝ่ายศรัตู กาเฟรคนหนึ่งฉวยโอกาสในขณะที่ซอฮะบะห์เผลอ หลบเข้าไปยังที่พักของท่านนบี (ซ.ล) หมายจะฆ่าท่านนบี (ซ.ล) ในขณะที่ท่านนร่อซู้ล (ซ.ล) ท่านนั่งอยู่คนเดียวไม่มีดาบ ไม่มีอาวุธ ไม่มีใครอื่น เมื่อเขาเข้าไปถึงที่พักของท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เขาได้ไปยืนเบื้องหน้าท่านร่อซู้ล เเล้วยกดาบจะฟันท่านร่อซู้ลพลางพูดว่า โอ้มูฮำหมัด ใครจะยับยั้งไม่ให้ฉันฆ่าท่านได้? ฉันกับท่านอยู่กันตัวต่อตัว นี่ดาบอยู่ในมือของฉัน เเต่ท่านไม่มีดาบอยู่ในมือเพื่อป้องกันตัวของท่าน เเละก็ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องคุ้งครองท่านจากคมดาบของฉัน

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้มองไปยังดาบของชายผู้นั้นเเละกล่าวว่า อัลลอฮุอัซซะวะญัลละ คือผู้ห้ามเเละยับยั้งไม่ให้ท่านฆ่าฉัน

เเล้วมือเขาก็สั่นจนดาบหลุดออกจากมือ ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) หัวเราะ เเล้วหยิบดาบด้ามนั้นมาถือไว้ เเล้วได้พูดกับชายผู้นั้นว่า ใครห้ามหรือปกป้องท่านให้คลาดเเคล้วจากคมดาบของฉัน? ชายผู้นั้นตอบว่า การให้อภัยของท่านไง ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ใช้ให้เขากล่าว ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์ เเละเเท้จริงฉันคือร่อซูลุ้ลลอฮ์ กาเฟรคนนั้นพูดต่อไปว่า ไม่.....เเต่ฉันจะไม่ทำสงครามกับท่านหลังจากวันนี้โดยเด็ดขาด...ฉันจะไม่เป็นเช่นท่าน เเละจะไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ กับผู้คิดทำลายท่าน...ซึ่ลท่านร่อซู้ล(ซ.ล) ได้ให้อภัยเขา เเละก็ปล่อยเขาไปตามทางของเขา

กาเฟรคนนั้นได้เห็นมัวะญิซาตด้วยตาตัวเอง เเละเห็นการปกป้องคุ้งครองของอัลลอฮ์ที่มีต่อท่านร่อซู้ล (ซ.ล) กระนั้น เขาก็ยังดื้อดึงเเละดันทุรัง ดาบไม่ได้หลุดจากมือของเขา เพราะความออ่อนเเอของเขา หรือเพราะเขาไม่เคยไม่คุ้นกับการใช้ดาบ หากเเต่เขาคือจอมยุทธของชาวอาหรับ เป็นไปไม่ได้ที่ดาบจะหลุดออกจากมือจอมยุทธ

หากเเต่คือมัวะญิซาตที่อัลลอฮ์ให้ความคุ้มครองร่อซู้ล (ซ.ล) ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า

وَالله يَعْصِمُكَ مِنَ النَّاسِ
 
ความว่า “เเละอัลลอฮ์ทรงคุ้มครองท่านให้คลาดเเคล้วจากการปองร้ายของมนุษย์
 
( อัล-มาอิดะห์ 67 )

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ

الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

19 ชาวยิวเเละเเพะ

หลังจากที่มีสนธิสัญญาปรองดองกันระหว่างกองทัพมุสลิมกับยิวคอยบัร ในวันหนึ่งหลังจากละหมาดอัศริเเล้ว ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้กลับเข้าไปในเเคมป์ พบหญิงชาวยิวคนหนึ่งชื่อ ซัยหนับ บินติ อัล-ฮารีษ รออยู่ หญิงคนนั้นได้พูดกับท่านว่า ฉันได้เชือดเเพะตัวหนึ่ง เเละได้ทำอาหารมาฮะดิยะห์ให้กับท่าน ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้รับฮะดิยะห์ เเละขอบคุณนาง เมื่อนางกลับไป ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้เรียกซอฮาบะห์ของท่านมาร่วมรับประทานกับท่าน ทุกคนจึงนั่งร่วมกันรับประทาน ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้ยื่นมือไปจับตรงขาเเพะเพื่อที่จะรับประทาน เเละบรรดาซอฮาบะห์ก็ยื่นมือพร้อมที่จะรับประทาน

ในบัดดลนั้นท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้คายอาหารในปากออกมา เเละได้พูดกับบรรดาซอฮาบะห์ของท่านว่า ขอให้ทุกคนจงยกมือขึ้น เพราะเเพะตัวนี้มียาพิษ ทุกคนจึงหยุดรับประทาน

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ได้เรียกหญิงคนนั้นมา เเล้วถามว่า เพราะอะไรที่ทำให้เธอต้องทำเเบบนี้ ? นางตอบว่า ฉันทำไปเพื่อต้องการที่จะรู้ว่า หากท่านเป็นนบี ท่านก็จะต้องรู้ว่า เเพะตัวนี้อาบยาพิษ เเละหากท่านโกหก ฉันก็จะได้บอกให้คนเขารู้

ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เกือบจะให้อภัยหญิงคนนั้น หากท่านบัซร บิน อัล-บัรรอฮ์ ซอฮาบะห์คนหนึ่งของท่านไม่เสียชีวิต เนื่องจากการกินเเพะตัวนั้น

เเพะตัวนั้นได้พูดกับท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ว่า ท่านอย่ากินขา เพราะมียาพิษ อัลลอฮ์ได้ทรงคุ้มครองนะบีของพระองค์ให้รอดพ้น เเละปลอดภัยจากหญิงชาวยิวเจ้าเล่ห์คนนั้น

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

20 เเบกฟืน

เเละนี่เป็นอีกมัวะยิซาตหนึ่ง ที่อัลลอฮ์ทรงรักษาเเละคุ้มครองร่อซู้ลของพระองค์ ไม่ให้ถูกปองร้าย

อบูละฮับ เเละอุมมุญะมีลผู้เป็นภรรยา ซึ่งเป็นหัวโจกของกุฟฟาร เป็นศัตรูตัวสำคัญที่ปองร้ายท่านนบี (ซ.ล) มาโดยตลอด

อุมมุญะมีลนั้น เเบกหนามเเละสิ่งโสโครกมากีดขวางทางไปมาของท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  เเละมากองไว้ที่หน้าบ้านของท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  อัลลอฮ์จึงได้ประธานอัลกุรอ่านลงมาประนามเขาเเละภรรยาของเขา เมื่ออุมมุญะมีล ภรรยาของเขารู้ว่า อัลกุรอ่านประธานลงมาประนามการกระทำของเขากับสามี ถึงกับสาบานว่า จะล้างเเค้นมูฮำหมัด เขาจึงหยิบก้อนหินเเล้วรีบไปเพื่อที่จะขว้างท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  ขณะนั้นท่านร่อซู้ล (ซ.ล) นั่งอยู่กับอบูบักร์ที่กะอ์บะห์เมื่ออุมุญะมีลเดินเข้าไป พร้อมก้อนหินในมือ อัลลอฮ์ท่านได้ปิดตาเขาไม่ให้เห็นท่านนบี คงเห็นเเต่เพียงอบูบักร์เท่านั้น เขาจึงถามอบูบักรว่า เพื่อนท่านไปไหน ? ฉันได้ยินมาว่า มูฮำหมัดประนามฉัน ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า หากฉันพบเขา ฉันจะขว้างเขาด้วยก้อนหินที่อยู่ในมือนี้ ว่าเเล้วนางก็หันหลังกลับไป

อบูบักรกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ผู้หญิงคนนี้เขาไม่เห็นท่านกระนั้นหรือ ?  ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) กล่าวว่า เขาไม่เห็นฉัน อัลลอฮ์ได้ทรงปิดตาเขาไม่ให้เห็นฉัน

โอ้มหาบริสุทธ์เเด่อัลลอฮ์ ภรรยาของอบูละฮับได้เข้ามาหาท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เเต่เขาไม่เห็นท่านร่อซู้ล เขาเห็นเเต่ท่านอบูบักรเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) นั่งอยู้ข้าง ๆ

นี่มิใช่มัวะยิซาตดอกหรือ ? ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) จึงไม่ถูกปองร้าย อัลลอฮ์ได้ปิดตาทั้งสองข้างของอุมมุญะมีลไม่ให้เห็นท่านนะบี (ซ.ล) ให้เห็นเเต่เพียงอบูบักรเท่านั้น

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
อ่านเรื่องที่สิบเจ็ดแล้วคิดถึงฮะบีบอุมัรต่อสอนประวัติศาสเลย

เพราะฮะบีบได้สอนเรื่องนี้ ฟังแล้วเห็นภาพเลย

วันนี้ได้มาอ่านอีกก็รึสึกดีใจ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ khata

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 209
  • เพศ: หญิง
  • ซอบัร ซอบัรและซอบัร
  • Respect: +5
    • ดูรายละเอียด
ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร็อนค่ะ...      บัง  As-Zaleek
ฉันไม่มีอะไรพิเศษหรอก หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์ให้ฉันเป็น

ฉันจะขอยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺจนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ทำไมมันต้องสาบานด้วยชื่อของอัลลอฮด้วย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

21 ผู้เเทนประทุษร้าย

ในปีที่เก้าเเห่งฮิจเราะห์ศักราช ผู้เเทนหัวเมืองต่างๆ ในคาบสมุทรอาหรับต่างเดินทางมาพบท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เพื่อศึกษาเเละเรียนรู้เรื่องศาสนา จนปีนี้มีชื่อเรียกว่า “ปีเเห่งการต้อนรับอาคันตุกะ”

ในบรรดาผู้เเทนที่เดินทางมานั้น มีผู้เเทนที่มาเพื่อประทุษร้าย มาเพื่อที่จะฆ่าท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  ผู้เเทนของบะนีอามิร คือ ผู้ที่เดินทางมามะดีนะห์ด้วยเเผนการที่สารเลว

ผู้นำของบะนีอามิรที่เดินทางมาด้วยเเผนปองร้ายดังกล่าวมีชือว่า อามิร บิน อัตตุเฟล เขาผู้นี้ได้วางเเผนร่วมกับ อิรบิด บิน กอยซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งจากคณะที่มาในฐานะผู้เเทน โดยให้อามิรนั่งสนทนากับท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ เเละในขณะนั้นก็ให้อิรบิดใช้ดาบฟันท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ซึ่งกำลังพูดคุยอยู่

เมื่อถึงเวลาตามที่ตกลง อามิรได้นั่งพูดคุยสนทนาซักถามเรื่องราวของศาสนาจากท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เเละในขณะเดียวกันก็รอการประทุษร้ายตามที่ได้วางเเผนไว้

อามิรได้ใช้เวลาซักถามเรื่องราวต่างๆ จากท่านร่อซู้ลอยู่นานด้วยความกระวนกระวายใจว่า ทำไมอิรบิด จึงยังไม่ลงมือตามเเผน? เมือเขาอำลาจากท่านร่อซู้ล ทุกคนในคณะก็ร่วมกันอำลา ซึ่งพอพ้นออกมา อามิรตะหวาดใส่หน้าอิรบิดว่า ไอ้ขี้ขลาด ทำไมไม่ทำตามเเผน? อิรบิดกล่าวว่า ใจเย็นๆ สิ อะมิร ฉันไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดอย่างที่ท่านพูด ท่านก็รู้ว่าฉันเป็นคนที่เก่งกล้าเเละมีความสามารถขนาดไหน?  มันยิ่งทำให้ความโกรธของอามิรมีมากยิ่งขึ้น จึงได้กล่าวกระเเทกเสียงขึ้นอีกว่า งั้นใคร? ใครหักห้ามไม่ให้ท่านฆ่าเขา? อิรบิดกล่าวว่า โอ้อามิร มันมีเรื่องที่เเปลกมากเกิดขึ้น นั่นคือ ทุกครั้งที่ฉันจะฟันเขาด้วยดาบ ฉันไม่เห็นเขา นอกจากเห็นท่านเพียงผู้เดียว หรือท่านชอบที่จะให้ฉันฟันท่านด้วยดาบที่อยู่ในมือของฉัน?

อามิรถึงกับตะโกนด้วยเสียงอันดัง ทั้งๆ ที่อิรบิดก็อยู่ข้างๆ เขานั่นเอง อิรบิดกล่าวว่า ฉันเห็นเขา เเต่...พอจะฟันเขา ก็ไม่เห็นเขา เเต่กับเห็นเป็นท่าน เเล้วผู้เเทนที่ดักประทุษร้ายนั้นก็เดินทางกลับ
อัลลอฮ์ท่านได้ทรงคุ้มครองร่อซู้ลของพระองค์ ซึ่งท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ก็รู้สึกอยู่ด้วยเเล้วว่า พวกเขาไม่ได้มาด้วยความปรารถนาดี เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมประกาศการเป็นมุสลิม ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) จึงขอให้อัลลอฮ์ลงโทษพวกเขา

พวกเขาเดินทางกลับไม่ทันห่างมะดีนะห์เท่าใดนัก อามิรล้มป่วยด้วยโรคท้องร่วงอย่างรุนเเรง ส่วนอิรบิดนั้นถูกฟ้าผ่าถึงเเก่ความตาย ร่างกายไหม้เกรียม โดยที่ไม่ถึงบ้านกันเเเม้เเต่คนเดียว

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ

الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
salam

21 ผู้เเทนประทุษร้าย

ในปีที่เก้าเเห่งฮิจเราะห์ศักราช ผู้เเทนหัวเมืองต่างๆ ในคาบสมุทรอาหรับต่างเดินทางมาพบท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เพื่อศึกษาเเละเรียนรู้เรื่องศาสนา จนปีนี้มีชื่อเรียกว่า “ปีเเห่งการต้อนรับอาคันตุกะ”

ในบรรดาผู้เเทนที่เดินทางมานั้น มีผู้เเทนที่มาเพื่อประทุษร้าย มาเพื่อที่จะฆ่าท่านร่อซู้ล (ซ.ล)  ผู้เเทนของบะนีอามิร คือ ผู้ที่เดินทางมามะดีนะห์ด้วยเเผนการที่สารเลว

ผู้นำของบะนีอามิรที่เดินทางมาด้วยเเผนปองร้ายดังกล่าวมีชือว่า อามิร บิน อัตตุเฟล เขาผู้นี้ได้วางเเผนร่วมกับ อิรบิด บิน กอยซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งจากคณะที่มาในฐานะผู้เเทน โดยให้อามิรนั่งสนทนากับท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ เเละในขณะนั้นก็ให้อิรบิดใช้ดาบฟันท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ซึ่งกำลังพูดคุยอยู่

เมื่อถึงเวลาตามที่ตกลง อามิรได้นั่งพูดคุยสนทนาซักถามเรื่องราวของศาสนาจากท่านร่อซู้ล (ซ.ล) เเละในขณะเดียวกันก็รอการประทุษร้ายตามที่ได้วางเเผนไว้

อามิรได้ใช้เวลาซักถามเรื่องราวต่างๆ จากท่านร่อซู้ลอยู่นานด้วยความกระวนกระวายใจว่า ทำไมอิรบิด จึงยังไม่ลงมือตามเเผน? เมือเขาอำลาจากท่านร่อซู้ล ทุกคนในคณะก็ร่วมกันอำลา ซึ่งพอพ้นออกมา อามิรตะหวาดใส่หน้าอิรบิดว่า ไอ้ขี้ขลาด ทำไมไม่ทำตามเเผน? อิรบิดกล่าวว่า ใจเย็นๆ สิ อะมิร ฉันไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดอย่างที่ท่านพูด ท่านก็รู้ว่าฉันเป็นคนที่เก่งกล้าเเละมีความสามารถขนาดไหน?  มันยิ่งทำให้ความโกรธของอามิรมีมากยิ่งขึ้น จึงได้กล่าวกระเเทกเสียงขึ้นอีกว่า งั้นใคร? ใครหักห้ามไม่ให้ท่านฆ่าเขา? อิรบิดกล่าวว่า โอ้อามิร มันมีเรื่องที่เเปลกมากเกิดขึ้น นั่นคือ ทุกครั้งที่ฉันจะฟันเขาด้วยดาบ ฉันไม่เห็นเขา นอกจากเห็นท่านเพียงผู้เดียว หรือท่านชอบที่จะให้ฉันฟันท่านด้วยดาบที่อยู่ในมือของฉัน?

อามิรถึงกับตะโกนด้วยเสียงอันดัง ทั้งๆ ที่อิรบิดก็อยู่ข้างๆ เขานั่นเอง อิรบิดกล่าวว่า ฉันเห็นเขา เเต่...พอจะฟันเขา ก็ไม่เห็นเขา เเต่กับเห็นเป็นท่าน เเล้วผู้เเทนที่ดักประทุษร้ายนั้นก็เดินทางกลับ
อัลลอฮ์ท่านได้ทรงคุ้มครองร่อซู้ลของพระองค์ ซึ่งท่านร่อซู้ล (ซ.ล) ก็รู้สึกอยู่ด้วยเเล้วว่า พวกเขาไม่ได้มาด้วยความปรารถนาดี เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมประกาศการเป็นมุสลิม ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) จึงขอให้อัลลอฮ์ลงโทษพวกเขา

พวกเขาเดินทางกลับไม่ทันห่างมะดีนะห์เท่าใดนัก อามิรล้มป่วยด้วยโรคท้องร่วงอย่างรุนเเรง ส่วนอิรบิดนั้นถูกฟ้าผ่าถึงเเก่ความตาย ร่างกายไหม้เกรียม โดยที่ไม่ถึงบ้านกันเเเม้เเต่คนเดียว

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ



ขอบคุณมากที่ช่วยนำเสนอ

แล้วหนังสือของอาจารย์ อับดุลการีม หาซื้อได้ที่ไหนมั่งครับ 

พอดีตอนนี้อยู่ภาคใต้
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
 mycool: myGreat: mycool:

     กระทู้ดีที่หลายคนยังไม่รู้

เฉพาะคนที่ถูกเลือกเท่านั้นที่อัลลอฮ์ประสงค์จะมอบให้

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

22 ฝุ่นเเละตา

ในขณะที่บรรดากาเฟรวางเเผนฆาตกรรมท่านร่อซู้ล (ซ.ล) โดยให้เเต่ละตระกูลส่งชายฉกรรจ์พร้อมดาบมาเป็นผู้เเทน ตามเเผนที่ได้กำหนดไว้

บรดาชายฉกรรจ์เหล่านั้นได้มาร่วมกับห้อมล้อมบ้านของท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ โดยมาเฝ้าดูความเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งตามเเผนนั้น เมื่อท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์นอนหลับก็จะร่วมกันฟันดาบลงบนเรือนร่างของท่านร่อซู้ล (ซ.ล) พร้อมๆกัน

อัลลอฮ์ได้ทรงเปิดเผยแผนการร้ายของพวกเขาให้ท่านร่อซู้ล(ซ.ล)รู้ และได้ทรงบัญชาให้ท่านอพยพ(ฮิจเราะห์) ไปยังมดีนะห์ ซึ่งท่านนบีก็ได้วางแผนการเดินทางกับท่านอบูบักร อัศศิดดี้ก

ในคืนที่ชายฉกรรจ์ได้มาห้อมล้อมบ้านของท่าน ท่านได้เดินทางออกจากบ้านของท่าน โดยท่านได้หยิบดินขึ้นมากำมือหนึ่ง แล้วโยนใส่หน้าพวกชายฉกรรจ์เหล่านั้น พลางอ่านอัลกุรอ่านโองการที่ว่า

وَجَعَلْنَا مِنْ بَيْنِ أَيْدِيْهِْم سَدّا وَمِنْ خَلْفِهِمْ سَدّا فَأَغْشَيْنَاهُمْ فَهُمْ لايُبْصِرُوْنَ

ความว่า “และเรา(อัลลอฮ์)ได้ทำเครื่องกีดขวางไว้เบื้องหน้าพวกเขา และเครื่องกิดขวางไว้เบื้องหลังของพวกเขา และเราได้ปกคลุมพวกเขาไว้อย่างมิดชิด พวกเขาจึงมองไม่เห็น” (ซูเราะห์ยาซีน อายะห์ที่ 9)

แล้วท่านก็เดินฝ่าการห้อมล้อมของพวกเขาออกไป โดยพวกเขาไม่เห็น ไม่รู้ ทั้งๆที่ดวงตาพวกเขาเบิกกว้างอยู่ อัลลอฮ์ได้ทรงทำให้ดวงตาของพวกเขามองไม่เห็น เพื่อคุ้มครองร่อซู้ลของพระองค์

ท่านได้เดินทางไปยังบ้านของอบูบักร(ร.ด) แล้วทั้งสองก็ออกเดินทางจากมักกะห์ จนกระทั่งถึงภูเขาซูร ท่านได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนยอดเขา และก่อนที่ท่านร่อซู้ล(ซ.ล) จะเข้าไป ท่านอบูบักรได้เข้าไปก่อนเพื่อตรวจตราให้เกิดความมั่นใจว่า ในถ้ำไม่มีสัตว์ร้ายและอื่นใดที่อาจเป็นภัยต่อท่านร่อซู้ลได้ และยังได้เคลียร์พื้นที่ภายในด้วยการเก็บก้อนหินโยนออกมานอกถ้ำ ตลอดจนฉีกผ้านุ่งและผ้าห่มของท่านนำมาอุดรูรอบๆถ้ำแล้วจึงเรียกท่านร่อซู้ลเข้าไป ไม่นานนัก ท่านร่อซู้ล(ซ.ล) ด้วยความอ่อนเพลีย ท่านจึงนอนหลับโดยใช้ขาอ่อนของท่านอบูบักรทำหมอน

ในขณะนั้นได้มีสัตว์มีพิษไชตัวขึ้นมาจากทราย ท่านอบูบักรจึงได้ใช้ปลายเท้ากดมันไว้ ทำให้มันบิดตัวแล้วกัดที่ตาตุ่มของท่านอบูบักร ซึ่งทำให้อบูบักรเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่ก็ไม่ได้กระดิกเท้า เพราะเกรงว่าท่านร่อซู้ล(ซ.ล) จะตื่น ท่านเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จนหยดลงบนใบหน้าของท่านร่อซู้ล(ซ.ล) อันเป็นเหตุให้ท่านร่อซู้ล(ซ.ล) สะดุ้งตื่น และได้ถามอบูบักรถึงเหตุที่ทำให้ร้องไห้ ซึ่งอบูบักรก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับเขา ท่านร่อซู้ล(ซ.ล) ได้จับข้อเท้าของอบูบักรและลูบตรงบริเวณที่ถูกสัตว์ร้ายกัด ซึ่งอบูบักรเล่าว่า หายเจ็บปวดทันที

ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในถ้ำแมลงมุมได้ชักใยปิดปากถ้ำ และมีนกพิราบสองตัวมาช่วยกันทำรัง โดยตัวเมียได้ไข่แล้วนอนฟักอยู่ เป็นมัวะยีซาตที่อัลลอฮ์สนับสนุนการหนีของท่านร่อซู้ลของพระองค์ และป้องกันภัยให้กับท่าน

เมื่อกุฟฟารที่ติดตามมา เดินทางมาถึง พวกเขาได้ค้นหาและตรวจจุดตามปากถ้ำ พบใยแมลงมุมและรังนกพิราบ ซึ่งมีนกฟักไข่อยู่ที่ปากถ้ำ โดยที่พวกเขาไม่เห็นท่านร่อซู้ลและอบูบักร ซึ่งอบูบักรเล่าว่า หากพวกเขาก้มดูในถ้ำ พวกเขาจะต้องเห็นเรา  แต่อัลลอฮ์ท่านทรงทำให้ตาของพวกเขามองไม่เห็น และทรงคุ้มครองนบีของพระองค์

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 11:30 AM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ญะซากัลลอฮ์ค็อยรอนสำหรับเรื่องราวมัวะยีซาตของท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอ้าลัยฮิว่าซั้ลลัม
และเชื่อว่า หลายๆคนอาจไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ที่ได้นำเสนอมานี้
เยี่ยมมากๆ ค่ะ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam


23  ศัตรูของอัลลอฮ์และก้อนหิน

มั้วะยีซาตของท่านนบี (ซ.ล) นั้นก็คือ การคุ้มครองของอัลลอฮ์ต่อท่านนบี (ซ.ล) ให้คลาดแคล้วจากการประทุษร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อท่านนบี (ซ.ล) ทั้งนี้ การประทุษร้ายทุกรูปแบบย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

ในวันหนึ่ง อบูญะฮัลได้พูดกับพรรคพวกของเขาว่า โอ้ชาวกุเรช มูฮำหมัดประนามเทพเจ้าของพวกเรา และลบหลู่ศาสนาของพวกเรา มูฮำหมัดให้พวกเราเลิกการสักการะรูปปั้นเทวรูป ให้พวกเราสักการะต่อพระเจ้าของเขาเพียงองค์เดียว ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า พรุ่งนี้ฉันจะนั่งรอเขา พร้อมกับก้อนหินก้อนใหญ่ เมื่อเขามาละหมาด เมื่อเขาสุหยูด ฉันจะเอาก้อนหินใหญ่นั้นทุบหัวเขา มันจะเกิดอย่างนี้แน่ ฉันจะทำให้พวกท่านสบายใจกันเสียที

ในตอนเช้า อบูญะฮัลได้เอาก้อหินก้อนโตก้อนหนึ่ง ไปนั่งรอท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ โดยที่ชาวกุเรชนั่งกันอยู่ในสโมสรของพวกเขา รอดูการกระทำของอบูญะฮัล

เมื่อท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์เดินมา โดยไม่รู้ว่าอบูญะฮัลคิดอะไร จะทำอะไร และท่านก็ละหมาดตามปกติ เมื่อถึงเวลาสุหยูด อบูญะฮัลได้แบกหินก้อนใหญ่นั้นด้วยความยากลำบากเนื่องจากความหนักของมัน แล้วก็เดินไปทางมูฮำหมัด จนกระทั่งเมื่อเดินไปถึง ก็พอดีกันกับที่ท่านนบี (ซ.ล) กำลังสุหยูด ในทันใดนั้น เขาต้องเดินถอยกลับ เขาเกิดความกลัวขึ้นอย่างรุนแรงจนหน้าตาเหลือง(ซีด) แล้วก็ได้โยนก้อนหินไปทางอื่นเพียงเพื่อให้พ้นมือของเขา

ชาวกุเรชที่จ้องดูอยู่ ต่างแปลกใจกับสายตาที่เห็นภาพนั้น พลางสงสัยว่า ทำไมอบูญะฮัลถึงถอยกลับ ทำไมอบูญะฮัลจึงไม่เอาหินทุบหัวมูฮำหมัด ซึ่งเขาก็อยู่ใกล้กับมูฮำหมัด
คนหนึ่งจากพวกกุเรชจึงยืนขึ้น แล้วเดินไปถามอบูญะฮัลว่า มันเกิดอะไรขึ้นหรืออบูญะฮัล? ทำไมจึงถอยกลับ? ทำไมจึงไม่เอาหินทุบหัว? อบูญะฮัลตอบว่า “ เมื่อฉันเข้าไปใกล้มูฮำหมัด พร้อมกับหินก้อนนั้น ฉันเห็นอูฐตัวใหญ่เหลือเกิน ซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มันยืนขวางฉันกับ มูฮำหมัด มันทำท่าเหมือนกับจะกินฉันเป็นอาหาร ฉันจึงต้องถอยหลังกลับ”

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 11:30 AM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺ

  ติดตามอ่านมาตลอดคะ  ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนผู้นำเสนอคะ

วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam

24. อัลลอฮ์จะคุ้มครองท่านให้ปลอดถัยจาการประทุษร้ายของมนุษย์

แท้จริงมัวะญิซาตนั้น คือ ปรากฎการณ์ที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ กล่าวคือผิดไปจากกฎเกณฑ์ของโลก ไม่มีใครสามารถทำได้นอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และอัลลอฮ์ท่านก็ไม่ได้ให้เกิดแก่ใครนอกจากท่านร่อซู้ลของพระองค์เท่านั้น ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นหลักฐานแก่ผู้คนว่านี่คือร่อซู้ลจากอัลลอฮ์ และเพื่อเป็นการยืนยันว่า สิ่งที่ท่านร่อซู้ล (ซ.ล) นำมาเผยแพร่นั้น เป็นสิ่งที่มาจากอัลลอฮ์ทั้งสิ้น

มั้วะยิซาตที่เกิดขึ้นแก่ร่อซู้ลทุกท่านนั้น ล้วนเป็นมั้วยิซาตที่ยืนยันและให้ความมั่นใจ บางครั้งถึงกับท้าทายให้ได้ทดลองกระทำเมื่อผู้คนไม่สามารถเลียนแบบได้ ก็เป็นความจำเป็นที่จะต้องยอมรับในสัจธรรมแห่งร่อซู้ลว่า ท่านคือผู้ที่อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งให้เป็นร่อซู้ลอย่างแน่นอน

บางครั้งเกิดมั้วะยิซาตในลักษณะที่ไม่ได้ท้าทายให้มนุษย์ได้กระทำบ้าง แต่เป็นมั้วะยิซาตที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงอานุภาพของอัลลอฮ์ว่าพระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้ตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ทรงสร้างจักรวาลและเป็นผู้ทรงกำหนดกฎกติกาให้แก่มัน ดังนั้น พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะเปลี่ยนกฎกติกาและทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ โดยไม่ต้องมีเหตุมาเป็นปัจจัยแห่งผลแต่อย่างใด

อีกทั้ง เป็นการตอกย้ำอีหม่านให้แก่ผู้ที่อยู่ในเหตการณ์ และเพื่อเป็นการผ่อนปรนความรุนแรงของศัตรูและพลพรรค เนื่องจากประจักษ์ในหลักฐานที่สามารถสยบความคิดและความดันทุรันได้

บรรดามั้วะยิซาตที่เกิดขึ้นกับท่านร่อซู้ล (ซ.ล) นั้น มีทั้งสองประการ กล่าวคือมีทั้งประเภทท้าทายให้กระทำให้เหมือน มั้วะยิซาตดังกล่าวนี้คือคัมภีร์อัลกุรอ่าน เป็นมั้วะยิซาตที่สถาพร ซึ่งยังคงท้าทายให้ประพันธ์ให้เหมือน เปี่ยมล้นไปด้วยอรรถรสและความเสนาะนุ่มนวลไพเราะน่าฟังจวบจนปัจจุบัน

ในขณะที่ชาวอาหรับเจ้าของภาษามีความเข้าใจในวรรณกรรมและภาษา ตลอดจนวาทะและความคมคายในการใช้ภาษา แต่พวกเขาก็จนปัญญาที่จะประพันธ์ได้
และมั้วะยิซาตอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ใช่มั้วะยิซาตที่ท้าทาย หากแต่เกิดขึ้นเพื่อยืนยันในการเป็นร่อซู้ล (ซ.ล) เท่านั้น ซึ่งจะได้นำมากล่าวเพียงบางอย่างจากมั้วะยิซาตทั้งสองประเภท

อ้างอิงจาก หนังสือ 30 มัวะยีซาตมหาศาสดาศ็อลฯ (ฉบับภาษาไทย) โดยท่าน อ. อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 11:31 AM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

 

GoogleTagged