โพลล์

0 (0%)
ๅๅ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 0

ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นไปได้หรือไม่ที่หากเราเห็นท่านนบีในฝันแล้วจะได้เห็นท่านในขณะที่เราตื่นอยู่?  (อ่าน 1930 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด

 salam


       
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานีผู้ทรงเมตตาเสมอ

เราในปัจจุบันนี้มีโอกาสหรือไม่ที่จะได้เห็นนบีจริงๆไม่ใช่ในฝัน และเห็นในดุนยานี้ด้วย

ซึ่งท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้จากโลกดุนยานี้ไปแล้ว

และถ้าเป็นไปได้เราจะมีโอกาสมากน้อยเพียงใด

ผมขอนำเสนอคำกล่าวของอิหม่ามซะยูตีที่ได้เขียนเรื่องนี้เอาไว้ในอัลฮาวี่ลิลฟะตะวี

ซึ่งท่านนั้นได้เขียนเรื่องนี้ไว้สิบสี่หน้า แต่ผมนั้นอ่อนแอที่จะแปลหมด

เลยขอแปลเพียงแค่หน้าครึ่งของหนังสือ ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับคำตอบเหล่านี้

และหากใครอยากอ่านมากกว่านี้ก็ให้กลับอ่านในหนังสือของท่านดังกล่าว

(หรือมีคนมาแปลเพิ่ม)

อิหม่ามซะยูตีได้กล่าววไว้ในบท ความสว่างไสวจากความมืดในความเป็นไปได้ที่จะเห็นท่านนบีและมะลัก(มะลาอิกะฮฺ)

 تنوير الحُلَك في إمكان رؤية النبي والملك     

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله ، وسلام على عباده الذي اصطفى ، وبعد : فقد كثر السؤال عن رؤية أرباب الأحوال

للنبي صلى الله عليه وسلم في اليقظة ، وأن طْائفة من أهل العصر ممن لا قدم لهم في العلم

بالغوا في إنكار ذلك وتعجب منه ، وادعوا أنه مستحيل ، فألفت هذه الكراسة في ذلك وسميتها :

(( تنوير الحلك في إمكان رؤية النبي والملك )) : وتمسكت بالحديث الصحيح الوارد في ذلك :

أخرج البخاري ، ومسلم ، وأبو داود عن أبي هريرة رضي الله عنه قال : قال رسول الله

صلى الله عليه وسلم : (( من رآني في المنام فسيراني في اليقظة ولا يتمثل الشيطان بي)).

وأخرج الطبراني مثله من حديث مالك بن عبد الله الخثعمي ، ومن حديث أبي بكرة.

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานีผู้ทรงเมตตาเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ

วะบะอฺดฺ ได้มีการถามอย่างมากมายเกี่ยวกับการเห็นของอัรบาบุลอะหฺวาลแด่ท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

และกลุ่มหนึ่งจากคนร่วมสมัยที่พวกเขานั้นไม่มีความเก่าแก่ในด้านความรู้ ได้รังเกียจแบบเลยเถิดในสิ่งนั้น

และรึสึกแปลกกับมัน และได้เรียกร้องว่าสิ่งนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นฉันจึงได้เขียนในกระดาษน้อยๆนี้

เกี่ยวกับเรื่องนั้นและตั้งชื่อมันว่าความสว่างไสวจากความมืดในความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นท่านนบีและมะลัก

และฉันได้ยึดถือหะดีษที่ศอฮีฮฺที่ได้มีรางงานมาเกี่ยวกับเรื่องนั้น

นำเสนอโดยบุคอรี และมุสลิม และอบูดาวุด จากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺซอลลอลลอฮุอะ

ลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ได้เห็นฉันในฝัน เขาก็จะได้เห็นฉันในสภาพที่ตื่นอยู่ และชัยตอนนั้นไม่

สามารถที่จะเลียนแบบตัวของฉันได้” และได้มีการนำเสนอของอัตตอบรอนีเหมือนกับที่ผ่านมา

จากหะดีษของมาลิก บิน อับดุลลอฮฺ อัลคอสอะมี่ และจากหะดีษของอบีบักเราะฮฺ.

وأخرج الدارمي مثله من حديث أبي قتادة ، قال العلماء : اختلفوا في معنى قوله (( فسيراني في

اليقظة )) فقيل : معناه فسيراني في القيامة ، وتعقب بأنه لا فائدة في هذا التخصيص ،

لأن كل أمته يرونه يوم القيامة ؛ من رآه منهم و من لم يره ، وقيل : المراد من آمن به في حياته

و لم يره لكونه  حينئذ غائبا عنه ؛ فيكون مبشرا له أنه لا بد أن يراه في اليقظة قبل موته ،

وقال قوم : هو على ظاهره ؛ فمن رآه في المنام فلا بد أن يراه في اليقظة – يعني بعيني رأسه– 
و قيل بعين في قلبه – حكاهما القاضي أبو بكر بن العربي ،
 
และได้นำเสนอโดยท่านดัยลิมี่ เหมือนกับที่ผ่านมา จากหะดีษของอบีกอตาดะฮฺ  อุลลามาอฺผู้รู้ได้กล่าวว่า มี

ความเห็นที่แตกต่างกันในความหมายของคำกล่าวที่ว่า (فسيراني في اليقظة) ดังนั้นเขาจะได้เห็นฉันในสภาพ

ที่ตื่นจึงมีทัศนะที่กล่าวว่า(คือقيل เป็นคำที่บ่งบอกว่าเป็นทัศนะที่อ่อน) ความหมายนั้นคือ

เขาจะได้เห็นฉันในวันกิยามะฮฺ  แต่ก็ได้ถูกติดตามว่าการให้ความหมายเช่นนี้นั้นไม่มีประโยชน์ในการเจาะจง

เพราะว่าอุมมะฮฺของท่านนบีทุกท่านนั้นจะได้เห็นท่านนบีในวันกิยามะฮฺอยู่แล้ว เขาจะเห็นนบี(ในฝัน)หรือไม่เห็น

ก็ตาม

และได้มีทัศนะที่กล่าวว่า(قيل)จุดประสงค์นี้คือใครก็ตามที่ศรัทธาท่านนบีในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่และ

เขานั้นไม่ได้เห็นท่านนบีเนื่องจากว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ต่อหน้าท่านนบี จึงทำให้(การเห็นในฝันนั้น)เป็นข่าวดี

แก่เขาว่าเขาจะต้องได้เห็นท่านนบีในขณะที่ตื่นก่อนที่เขาจะตาย

และกลุ่มหนึ่งได้ให้ทัศนะว่า(قال) ความหมายนั้นตามซอฮิรที่ปรากฏอยู่ ดังนั้นใครก็ตามที่ได้ฝันเห็นท่านนบี

เขาจะต้องได้เห็นท่านนบีในสภาพที่ตื่น –หมายถึงเห็นด้วยกับตาสองข้างที่หัว- และ(قيل)มีทัศนะ(ที่อ่อน)กล่าวว่า

ด้วยกับตาใจ-  ทัศนะทั้งสองนี้ได้เล่ามาจาก อัลกอฎีอบูบักร บินอะรอบี
               
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
   
وقال الإمام أبو محمد

 بن أبي جمرة في تعليقه على الأحاديث التي انتقاها من البخاري : هذا الحديث يدل على أنه من

رآه صلى الله عليه و سلم في المنام فسيراه في اليقظة ، وهل هذا على عمومه في حياته

وبعد مماته ؟ أو هذا كان في حياته ؟ وهل ذلك لكل من رآه مطلقا ؟

أو خاص بمن فيه الأهلية والاتباع لسنته عليه السلام ؟ اللفظ يعطي العموم ، ومن يدعي

الخصوص فيه بغير مخصص منه صلى الله عليه وسلم فمتعسف.

 قال : وقد وقع

 من بعض الناس عدم التصديق بعمومه ، وقال – على ما أعطاه عقله -: وكيف يكون من قد

مات يراه الحي في عالم الشاهد ؟ قال : و في هذا قول من المحذور وجهان خطران ،

 أحدهما : عدم التصديق لقول الصادق عليه السلام الذي لا ينطق عن الهوى.

والثاني : الجهل بقدر القادر وتعجيزها ، كأنه لم يسمع في سورة البقرة ؟ قصة البقرة ؟

وكيف قال الله تعالى : { اضربوه ببعضها كذلك يحي الله الموتى }[البقرة73] وقصة إبراهيم

عليه السلام في الأربع من الطيور ؟ وقصة عزير ؟ فالذي جعل ضرب الميت ببعض البقرة

 سببا لحياته ؛ وجعل دعاء إبرهيم سببا لإحياء الطيور ؟ وجعل تعجب عزير سببا لموته

 و موت حماره ؛ ثم لإحيائهما بعد مائة سنة قادر أن يجعل رؤيته صلى الله عليه وسلم في النوم

سببا لرؤيته في اليقظة ! و قد ذكر عن صحابة – أظنه ابن عباس رضي الله عنهما – أنه رأى

النبي صلى الله عليه وسلم في النوم ، فتذكر هذا الحديث وبقي يفكر فيه ! ثم دخل على بعض

أزواجه النبي – أظنها ميمونة – فقص عليها قصته فقامت وأخرجت له مرآته صلى الله عليه

وسلم  قال رضي الله عنه : فنظرت في المرآة ، فرأيت صورة النبي صلى الله عليه وسلم ولم أر

لنفسي صورة ، قال : وقد ذكرعن بعض السلف والخلف وهلم جرا عن جماعة ممن كانوا

رأوه صلى الله عليه وسلم في النوم ، و كانوا ممن يصدقون بهذا الحديث فرأوه بعد ذلك في

 اليقظة وسألوه عن أشياء كانوا منها متشوشين ؟ فأخبرهم بتفريجها ، ونص لهم على الوجوه

التي منها يكون فرجها فجاء الأمر كذلك بلا زيادة ولا نقص.

قال : والمنكر  لهذا لا يخلو إما أن يصدق بكرمات الأولياء أو يكذب بها ، فإن كان ممن يكذب

 بها فقد سقط البحث معه ، فإنه يكذب ما أثبتته السنة بالدلائل الواضحة ، و إن كان مصدقا بها

فهذه من ذلك القبيل لأن الأولياء يكشف لهم بخرق العادة عن أشياء في العالمين العلوي والسفلي

عديدة ، فلا ينكر هذا مع التصديق بذالك. انتهى كلام ابن أبي جمرة.


และท่านอิหม่าม อบูมุหัมหมัด บิน อบียัมเราะฮฺ ได้กล่าวไว้นั้นกำกับความของเขา(กอฎีอบูบักร)บนหะดีษที่เขาได้

คัดเลือกมาจาก(อีหม่าม)บุคอรี ว่าหะดีษนี้ได้บ่งบอกว่าใครก็ตามได้เห็นท่าน(นบี)ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัมใน

ฝันเขาจะได้เห็นท่านนบีในสภาพที่ตื่น และคำนี้บ่งบอกแบบทั่วไปในช่วงที่ท่านนบีมีชีวิตอยู่และหลังจากตายไป

แล้ว? หรือคำนี้เจาะจงในช่วงเวลาที่ท่านนบีมีชีวิตอยู่เท่านั้น?

 และการเห็นนั้นท่านนบีนั้นสำหรับทุกคนที่เห็นท่านนบีเลยรึปล่าว?

หรือเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ที่มีความเหมาะสมและผู้ที่ตามซุนนะฮฺของท่านนบีอะลัยฮิสสลาม?

คำ(اللفظ)นั้นให้ความหมายโดยทั่วๆไป และใครที่เรียกร้องว่าเจาะจง(الخصوص )โดยไม่มี(مخصص منه)สิ่ง

ที่เหมาะสมจากการเจาะจง นั้นเป็นคำพูดที่ไร้ซึ่งหลักการ

เขา(อบูมุหัมหมัดบินอบียัมเราะฮฺ)ได้กล่าวต่อไปว่า และได้มีผู้คนกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อถึงคำ(ในหะดีษนั้น)ที่บ่งบอก

โดยทั้วไป(อุมูม) และเขา(คนที่ไม่เชื่อ)ได้กล่าวว่า(-กล่าวแบบเท่าที่สมองเข้ารู้เท่านั้น-)จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อ

คนตายที่ไปแล้วจะทำให้คนเห็นแบบคนเป็นได้อีกในโลกชาฮิด(โลกดุนยา)

ท่าน(อบูมุหัมหมัด)ได้กล่าวต่อไปว่า คำกล่าวแบบนี้เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง อันตรายในสองแง่มุม

หนึ่งคือ การที่เขาไม่เชื่อคำพูดที่สัจจริง(ของท่านนบี)อะลัยฮิสลาม ซึ่งท่านนบีนั้นไม่พูดด้วยอารมณ์ส่วนตัว(ฮาวา)

สองคือ ความเขลาในความสามารถของผู้ที่มีความสามารถ(อัลลอฮฺ) และการที่พระองจะให้มุอฺยิซาตในสิ่งนั้น

หยั่งกับว่าเขานั้นไม่เคยได้ยินในซูเราะฮฺ อัลบะกอเราะฮฺ ? เรื่องราวของวัวตัวเมีย?

และอย่างไรล่ะในเมื่อพระองค์อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “พวกเจ้าจงตีเขาด้วยบางส่วนของวัวตัวนั้น ในทำนองนั้นแหละ

ที่อัลลอฮฺนั้นให้ผู้ที่ตายได้มีชีวิตขึ้นมา”(ซูเราะฮฺบะกอเราะฮฺอายะฮฺที่เจ็ดสิบสาม) และเรื่องราวของอิบรอฮีม อะ

ลัยฮิสลามเกี่ยวกับนกสี่ตัว? เริ่องราวของอุซัยรฺ     

แล้วการที่ทำการตีผู้ตายด้วยบางส่วนของวัวตัวเมียเป็นสาเหตุที่ทำให้คนนั้นมีชีวิตขึ้นมา

 และการที่(ท่านนบี)อิบรอฮีมดุอาเป็นสาเหตุที่ทำให้นกเหล่านั้นฟื้นคืนชีพ

และการที่อุซัรแปลกใจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตายพร้อมกับลาของเขาหลังจากนั้นทั้งสองก็ฟื้นคืนชีพหลังจากหนึ่งร้อยปี

(อัลลอฮฺนั้นคือ)ผู้ที่สามารถที่จะให้การฝันเห็นท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเป็นสาเหตุที่จะให้เขาได้เห็น

ท่านนบีในสภาพที่เขา ตื่น

และได้มีการกล่าวถึงซอฮาบะฮฺ(อิหม่ามซะยูตีบอกว่า-ฉันคิดว่าคืออิบนุอับบาส รอดิยัลลอฮุอันฮุมา-)

ว่าซอฮาบะฮฺท่านนี้ได้ฝันเห็นท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แ ล้วเขาก็ได้รำลึกถึงหะดีษนี้ แล้วเขาก็คิดไป

เรื่อยๆ และจากนั้น เขาก็ได้เข้าไปหาภรรยาบางท่านของท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม(อิหม่ามซะยูตีบอก

ว่า-ฉันคิดว่าคือนางมัยมูนะฮฺ-)แล้วเขาก็ได้เล่าเรื่องราวของเขาให้ภรรยานบีฟัง นางจึงลุกขึ้น และได้นำกระจกของ

ท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัล ให้แก่เขา ซอฮะบะฮฺท่านนี้ได้กล่าวว่า แล้วฉันก็ได้มองไปยังกระจก

แล้วฉันได้ก็ได้เห็นรูปท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมและฉันนั้นไม่ได้เห็นรูปของฉัน

เขา(อบูมุหัมหมัด)ได้กล่าวต่อไปว่าได้มีการกล่าวถึงบางส่วนของชาวสลัฟและคอลัฟ และฯลฯจากกลุ่ม(ยะ

มาอะฮฺ)ที่พวกเขานั้นเคยได้เห็น(ท่านนบี)ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมในฝัน และปรากฏว่าพวกเขานั้นเป็นส่วน

หนึ่งจากผู้ที่เชื่อในหะดีษนั้น แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นท่านนบีในสภาพที่ตื่นอยู่ และพวกเขาได้ทำการถาม

ท่านนบีจากหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งพวกเขานั้นเป็นทุกข์สับสนกับปัญหานั้น

แล้วท่านรอซูลก็ได้บอกถึงทางออกของปัญหา โดยท่านได้กำหนดอย่างชัดเจนถึงรูปแบบต่างๆที่เป็นทางออกของ

ปัญหา แล้วมันก็ได้เป็นไปตามที่รอซูลบอกโดยไม่เกินหรือขาดแต่อย่างใด.

เขา(อบูมุหัมหมัดบินอบียัมเราะฮฺ)ได้กล่าวต่อไปว่า และผู้ที่รังเกียจในเรื่องนี้ไม่พ้นไปจาก

การที่เขาเชื่อในเรื่องกะรอมาตของบรรดาวลี(ผู้ที่อัลลอฮฺรัก)หรือปฏิเสธกะรอมาต

แล้วถ้าหากว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่ปฏิเสธในเรื่องกะรอมาตนั้น การค้นคว้าในเรื่องนี้ก็ต้องตกลงไป

เพราะว่าเขานั้นปฏิเสธในสิ่งที่มีความมั่นคงของสุนนะฮฺด้วยกับหลักฐานที่ชัดแจ้ง

แต่ถ้าหากว่าเขานั้น เป็นผู้ที่เชื่อในเรื่องของกะรอมาต และในเรื่องนี้(เรื่องการเห็นนบีนี้)ก็เช่นเดียวกับเมื่อกี้(เรื่อง

กะรอมาต) ก็เพราะว่าบรรดาวลี(ผู้อัลลอฮฺรัก)นั้น ได้ถูกเปิดให้กับพวกเขาในสิ่งที่พิเศษเหนือธรรมชาติในสากล

โลก ทั้งที่สูงและที่ต่ำจำนวนมาก

ดังนั้นจึงไม่มีการรังเกียจในสิ่งนี้(ในการเห็นท่านนบี)พร้อมกับการที่เขาเชื่อในเรื่องกะรอมาต

จบคำพูดของอิบนุอบียัมเราะฮฺ(อบูมุหัมหมัดบินอบียัมเราะฮฺ)

             
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
   

      و قوله : ( إن ذلك عام وليس بخاص بمن فيه الأهلية والا تباع لسنته عليه السلام ) مراده وقوع

الرؤية الموعود بها في اليقظة على الرؤية في المنام ولو مرة واحدة تحقيقا لوعده الشريف الذي

لا يخلف ، وأكثر ما يقع ذلك للعامة قبيل الموت عند الاحتضار ، فلا يخرج روحه من جسده

حتى يراه وفاء بوعده ، وأما غيرهم فتحصل لهم الرؤية في طول حياتهم ؛ إما كثيرا؛ وإما قليلا

بحسب اجتهادهم ومحافظتهم على السنة ، والإخلال بالسنة مانع كبير.

(อิหม่ามซะยูตีกล่าวว่า)และคำกล่าวของเอิบนุอบียัมเราะที่ว่า “ในสิ่งนั้น(การเห็นท่านนบีในสภาพที่ตื่นอยู่)

เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ที่มีความเหมาะสม

และผู้ที่ตามซุนนะฮฺของท่านนบีอะลัยฮิสสลาม” จุดประสงค์ของเขาก็คือ เกิดการเห็นที่ถูกสัญญาว่าจะได้เห็นใน

สภาพที่ตื่นอยู่ หากว่าเขาได้เห็นในฝัน แม้ว่าเขาจะได้เห็นท่านนบี(ขณะที้ตื่นอยู่)เพียงครั้งเดียวก็ตาม

เป็นการพิสูจย์สัญญาของท่านนบีผู้มีเกียรติซึ่งท่านนั้นไม่ใช่ผู้ที่ผิดสัญญา

และโดยส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นแก่คนทั่วไปนั้นจะได้เห็นท่านนบีก่อนที่เขาจะตายในขณะที่เขาใกล้จะตาย

ดังนั้นวิญญาณของเขาจะไม่ออกจากร่างกายจนกว่าเขาจะได้เห็นท่านนบี ที่เป็นไปตามสัญญาที่ท่านได้สัญญา

เอาไว้ ส่วนคนอื่นๆจากพวกเขานั้น พวกเขาจะได้รับการเห็นท่านนบีตลอดช่วงชีวิตของเขา จะมาก หรือว่าน้อย

นั้น ขึ้นอยู่กับความขยันและการรักษาสุนนะฮฺของพวกเขา และการบกพร่องในสุนนะฮฺนั้นเป็นสาเหตุใหญ่ที่จะทำ

ให้ไม่ได้เห็นท่านนบี(ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม).


         

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ผมขอให้ผู้รู้ช่วยตรวจทานการแปลของผมด้วยครับ บังอัซฮะรี่ หรือคุณมุฟตี หรือบังนูร

หากเจอส่วนใดที่ผมแปลผิดให้เข้าไปแก้ไขได้เลยครับ

และมีอยู่คำหนึ่งผมขอให้บังอัซฮะรีแปลให้หน่อยครับ

عن رؤية أرباب الأحوال

للنبي صلى الله عليه وسلم في اليقظة

คำว่าอัรบาบุลอะฮฺวาล



ส่วนพี่น้องท่านใดที่มีความเห็นไม่ตรงกัน

ก็ช่วยนำเสนอในทัศนะที่ต่างกันด้วยนะครับ

เพื่อตัวผมเองและพี่น้องจะได้รับประโยชน์

วะยะซากุมุลลอฮุคอยรอน

วัสลาม
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
123
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มี.ค. 06, 2009, 12:27 AM »
0
อยากรู้จริงว่ามูรีดกับรีดอจะเคยฝันเห็นนบีบ้างหรือเปล่าหนอ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
เคยอ่านเจอในหนังสือหะดิษ แต่ไม่ละเอียดเท่านี้...ญะซากัลลอฮฺ 

ขอเพิ่มอีกนะคะ... myGreat:

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ผมเองก็เคยได้ยินว่าท่านรอซูลเคยมาหาฮะบีบอุมัรตอนที่ท่านทำเมาลิด

แต่ผมเองก็คิดในใจว่าเป็นไปได้หรอ เพื่อนผมก็ยกหลักฐานให้ผมฟัง ผมเองก็ไม่สนใจอะไร

จนกระทั่งได้มาเจอคำพูดของอิหม่ามซะยูตีนี่ละครับเลยเกิดความสนใจขึ้นมา
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 salam
วะฮาบีปฏิเสธเรื่องการเห็นนบีในขณะที่ตื่น  เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นและไม่ได้เห็นในดุนยานั่นเองครับ  เนื่องจากมีหลักการที่หยาบคายต่อนบีโดยพวกเขาไม่รู้ตัว  เกียรติ (กะรอมัต) พวกเขาจึงไม่ได้รับ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM

ผมไปเจอมาในเว็บมูรีดครับ
คือว่ามีคนที่ชื่ออายูมิจังได้ถามไปแล้วมูรีดยังไม่ได้ตอบ ศิษย์เขาเลยมาตอบแทนขัดตาทัพก่อน

คนที่ถาม
อ้างถึง
คำถามที่ : 11865
คำถาม : อาจารย์เคยฝันเห็นนบีหรือเปล่า
ไม่ทราบว่า ท่านเคยฝันเห็นนบีหรือเปล่าคะ แบบว่า เพื่อนเคยบอกว่า ถ้าท่านเคยฝันเห็นนบีจริงๆ เขาจะเชื่อทุกๆอย่างที่อาจารย์นำเสนอ ที่เขาไม่เชื่อตอนนี้ก็เพราะเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาเรียนอยู่ว่าถูกต้องกว่าของท่าน เขาบอกว่าบรรดาบาบอ อุสตาสของเขาหลายๆคนได้เคยฝันเห็นท่านนบี ผู้ที่ฝันเห็นนบีคือผู้ที่ได้เข้าสวรรค์แน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะสอนในสิ่งที่ผิด และสิ่งที่เขาสอนนั้นขัดกับของท่านทั้งนั้น เขาเลยเลือกที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่ท่านนำเสนอ
ที่ตั้งคำถามนี้ไม่ได้จะสร้างความขัดแย้งแต่ประการใดนะคะ เพียงแค่อยากถามให้รู้กันไปเลย ถ้าท่านเคยฝันเห็นนบีจริงๆเขาก็ยอมจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง ถ้าของท่านถูกดิฉันก็พร้อมที่ชักชวนเขามาตามแนวทางของท่านทันที ดิฉันไม่อยากให้เพื่อนๆของดิฉันเป็นผู้หลงผิด
ขอบคุณอย่างสูงล่วงหน้าค่ะ

by: อายูมิจัง - ayumi-conan@hotmail.com - 27/3/2009

Copy Right 2004 "WWW.MUREED.COM®"


คนที่มาตอบ
อ้างถึง
คำถามที่ : 11866
คำถาม : ตอบ อายูมิจัง อายูมิจัง อายูมิจัง อายูมิจัง อายูมิจัง อายูมิจัง อายูมิจัง
อัสลามมู่อาลัยกุม ขออนุญาติตอบก่อน อ.มูรีด ครับ คืออยากให้คุณลองคิดตามนะครับ บรรทัดฐานของอั้ลอิสลามนั้นอยู่ที่ ไหน คำตอบคือ อยู่ที่อัลกรุอาน และ ซุนนะห์ (หะดีษ) ของท่านนบี คำว่าสุนนะห์คือแบบฉบับของท่านนบี หะดีษนั้นความหมายทางวิชาการนั้นคือ คำพูด การกระทำ การยอมรับ และคุณลักษณะของท่าน นบี และซุนนะห์นั้น ก็จะมีตัวบทหลักฐานที่มุสลิมทั่วโลกยอมรับคือ หะดีษที่นักวิชาการบันทึกมาแต่ละคน เช่น บุคอรี มุสลิม ติรมีซีย์ อบูดาวูด หรือท่านอื่นๆ และเป็นแนวทางที่จะปฏิบัติตามตัวบทหลังฐาน ไม่ใช่ว่าอิสลามนั้นมาจากความฝันซื่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่มีหลักฐานทั้งในอัลกรุอานหรือหะดีษว่า การฝันเห็นท่านนบีจะได้เข้าสวรรค์ เป็นข้ออ้างหรือความคิดที่เลอะเทอะ เพราะถ้าศาสนาอยู่ที่ความฝัน สังคมก็หายนะนั้นแหละครับ ขอให้คุณได้พิจารณา อัลกรุอานและหะดีษ กับความฝันนั้น อะไรคือศาสนา อีกอย่างหนึ่งคือ พวกที่ชอบและศรัทธาในเรื่องความฝัน นั้น เหมือนกับพวก ตอรีกัต คือพวกบำเพ็ญภาวนาจนบรรลุโสดาบรร และก็นั้งยานมองทะลุนรก ทะลุสวรรค์ มองเห็นเหตุการล่วงหน้าพวกลัทธิตอรีกัตนี้ล้วนแต่มีอากีดะห์ที่เลอะเทอะทั้งนั้น ฉะนั้นศาสนาเราจะเอากันอย่างไร ก็ต้องยึดหลัก ของเราคือ สองสิ่งนะครับจำไว้ให้ดี คือ กรุอาน และ ซุนนะห์(หะดีษ) ของท่านนบี และเราจะไม่หลงทางเราจะอยู่กับญามาอะห์เดียวกับท่านนบี แพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่พูดหรือปฏิบัติสวนทางกับ อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูว่าต้าอาลา และท่านนบี ก็จงอย่าเชื่อและอย่าปฏิบัติตาม สังคม หรือคนจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ คนจะเป็นอย่างไรก็ตาม จงอย่าทิ้งหลักการของอั้ลอิสลาม ที่มาจาก กิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ของท่านนบี เท่าที่ได้ศีกษามานั้น เว็บไซค์ของ อ.มูรีด นั้นยังยืนหยัดอยู่ในหนทางของกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ของท่านนบี ท่าท่านมีข้อสงสัยอย่างไร ก็ถามได้ในเว็บนี้นะครับ ต้องขอมาอัฟ อ.มูรีด ด้วยนะครับ แค่อยากชี้แจงเท่านั้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ มูฮัมมัด มะดอลอ

by: มูฮัมมัด - madorlor@citigroup.com - 27/3/2009

Copy Right 2004 "WWW.MUREED.COM®"

มันบ่งบอกว่า พวกเขาไม่เคยแม้แต่การฝันเห็นเลย แถมยังมาว่าเป็นพวกตอรีกัตพวกเลอะเทอะ
เจริญ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ลัทธิตอรีกัตนี้ล้วนแต่มีอากีดะห์ที่เลอะเทอะ

เหมือนว่า...มีม่านหมอกมากั้นตากั้นใจพวกที่ชอบกล่าวหาคนอื่นแบบนี้..งัยไม่รู้...พูดไม่ออกบอกไม่ถูก sad:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 28, 2009, 04:26 PM โดย zaifuddeen »

 

GoogleTagged