ผู้เขียน หัวข้อ: เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีย์แห่งอียิปต์ เดินทางเยือนประเทศไทย  (อ่าน 6290 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

“มุฟตีแห่งอียิปต์”แนะแนวการใช้กฎหมายอิสลามในประเทศไทย"      

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2009 09:20น. 
แวลีเมาะ ปูซู
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา



          การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การพัฒนาแนวทางการบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัวและมรดกที่เกี่ยวข้องกับชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม" ซึ่งจัดโดยสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ จ.ปัตตานี เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นเวทีที่ผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ความสนใจกันอย่างกว้างขวาง

          เพราะผู้ที่มาร่วมปาฐกถาพิเศษเป็น “บุคคลพิเศษ” จริงๆ ท่านผู้นั้นคือ เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ (Sheikh Professor Dr. Ali Gomaa Mohamed Abdel Wahab) ผู้ชี้ขาดทางศาสนาอิสลาม (Mufti : มุฟตี) แห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวทางการใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกในการพัฒนาประเทศ” เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายอิสลาม และแนวปฏิบัติสำหรับการนำกฎหมายอิสลามมาใช้กับพี่น้องมุสลิมในเมืองไทย

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ เริ่มต้นที่ประเด็นสถานภาพบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในอิสลาม...

          "เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาบางประการ เราจะเริ่มกันที่เรื่องของสถานภาพบุคคล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตของผู้คนผิดเพี้ยนบิดเบือนไปได้ สถานภาพบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อของผู้คน ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายพลเรือน กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎหมายอาญา เพราะกฎหมายเหล่านี้โดยส่วนใหญ่แล้วไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ จึงไม่แตกต่างกันมากระหว่างกฎหมายอิสลามกับกฎหมายที่มนุษย์คิดค้นขึ้น แต่เราให้ความสำคัญกับสถานภาพบุคคล เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้เมื่อพูดถึงการใช้กฎหมายอิสลามจึงจำเป็นต้องเริ่มที่เรื่องของสถานภาพบุคคล”




คณะกรรมาธิการยกร่างกฎหมาย

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ ชี้ว่า การจะผลักดันให้กฎหมายอิสลามมีผลบังคับใช้ได้ ต้องใช้อำนาจนิติบัญญัติ หมายความว่าต้องมี คณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎหมาย หรือ คณะกรรมาธิการยกร่างกฎหมาย

          “ปัจจุบันรัฐบาลมีความต้องการที่จะให้สิทธิกับมุสลิมในเรื่องกฎหมายครอบครัวและมรดก รวมทั้งต้องการสร้างศาลชารีอะห์ขึ้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องขอบคุณรัฐบาลมาก แต่จะทำอย่างไรให้ถึงจุดนั้นได้ เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องมีคณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎหมาย ซึ่งสามารถยกร่างกฎหมายว่าด้วยครอบครัวและมรดกออกมาใหม่ให้สอดคล้องกับกฎหมายอิสลาม”

          แล้วคณะกรรมาธิการที่ว่านี้จะสร้างขึ้นมาได้อย่างไร? นี่คือโจทย์ข้อต่อมา ซึ่ง เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ เล่าประสบการณ์ของอียิปต์ให้ฟัง

          “เมื่อประเทศอียิปต์ต้องการออกกฎหมายว่าด้วยครอบครัวและมรดก อียิปต์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ฉะนั้นคณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎหมายครอบครัวและมรดกนี้จะประกอบขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ เอามาช่วยกันยกร่างกฎหมาย ซึ่งประเทศอิรักและจอร์แดนก็ทำแบบเดียวกัน”

          เมื่อมีผู้ร่างแล้ว คำถามข้อต่อมาก็คือ จะร่างกันอย่างไร? เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ ไขปริศนาว่า ต้องอาศัยหลักการและทิศทางจากสำนักกฎหมาย

          “เริ่มแรกจะต้องมีท่าทีที่ชัดเจนเสียก่อนว่าจะรับเอาหลักคิดและแนวทางจากสำนักกฎหมายใดในการร่างกฎหมาย ในโลกมุสลิมเรามีมรดกทางกฎหมายอิสลาม นั่นก็คือมีสำนักกฎหมายมากกว่า 80 สำนัก แต่ว่าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับสืบทอดมาถึงปัจจุบันมีอยู่ 4 สำนักใหญ่”

          อย่างไรก็ดี เนื่องจากกฎหมายอิสลามเป็นเรื่องที่กว้างขวางและใหญ่โตมาก การเลือกสำนักกฎหมายจึงไม่จำเป็นต้องเลือกสำนักเดียว แต่อาจเลือกสำนักใดสำนักหนึ่งเป็นหลัก แล้วก็รับเอาแนวคิดของสำนักอื่นมาใช้ด้วยก็ได้ ซึ่งอียิปต์ก็ทำเช่นนี้ ทั้งยังรับจากบรรดานักวิชาการที่มีความเห็นแตกต่างกันด้วย

 

กำหนดนิยาม “ครอบครัว-มรดก”

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ กล่าวต่อว่า เมื่อได้คณะกรรมาธิการฯ ตลอดจนแนวคิดแนวทางแล้ว คณะกรรมาธิการฯจำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้กฎหมายซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันในประเทศนั้นๆ รวมไปถึงกฎหมายอื่นๆ ซึ่งว่าด้วยครอบครัวและมรดกอันมีอยู่มากมาย เขียนขึ้นทั้งจากประเทศอียิปต์เอง โมร็อกโค ซีเรีย จอร์แดน อิรัก และคูเวต คณะกรรมาธิการชุดนี้จะต้องศึกษากฎหมายของประเทศต่างๆ ให้มากที่สุด เพื่อจะได้หยิบข้อดีมาใช้ประโยชน์สำหรับประเทศไทย

          "ท่านสามารถเอาจากที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง และรวบรวมเป็นบทสรุปเพื่อที่จะใช้เป็นกฎหมายอิสลามของประเทศไทย เรื่องนี้เป็นหน้าที่หนึ่งที่ไม่สามารถมองเป็นเรื่องเล็กได้”

          จุดเน้นอีกประการหนึ่งซึ่งเชื่อมโยงกับความจำเป็นที่คณะกรรมาธิการฯจะต้องศึกษากฎหมายของประเทศอื่นๆ อย่างถ้วนถี่ก็คือ คณะกรรมาธิการฯมีหน้าที่ต้องตีความหมายของคำว่าครอบครัวและมรดก ว่ามีความหมายกว้างแค่ไหน จะให้จำกัดเฉพาะครอบครัว การแต่งงาน การหย่า การใช้จ่าย และการเลี้ยงดูบุตรหรือไม่

          คำว่าครอบครัวและมรดกนั้น ตามที่ใช้ในอียิปต์จะมีความหมายกว้าง ครอบคลุมถึงประเด็นว่าด้วยกฎหมายบริจาค การกุศล และยังครอบคลุมไปถึงกฎหมายการสืบทอดมรดก การสั่งเสีย ดังนั้นคณะกรรมาธิการชุดนี้ต้องกำหนดกรอบความหมายของครอบครัวและมรดกให้ชัดเจนก่อน

 

เตรียมความพร้อมผู้พิพากษา

          เรื่องที่ 2 ที่ต้องมีหากจะผลักดันกฎหมายอิสลามคือ ผู้พิพากษา


          “เรามีผู้พิพากษาที่พร้อมจะทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอิสลามแล้วหรือยัง หรือว่าเราจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกผู้พิพากษาเหล่านี้ ผมได้ยินมาว่าผู้พิพากษาที่นี่ (ไทย) ทำงานมาแล้วมากกว่า 60 ปี ดังนั้นน่าจะมีประสบการณ์” ผู้ชี้ขาดทางศาสนาอิสลามแห่งอียิปต์ตั้งประเด็น และว่า

          “ต้องมีการวางเงื่อนไขสำหรับคนที่จะเป็นผู้พิพากษา และให้มีการฝึกผู้พิพากษาเหล่านี้เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้กฎหมายอิสลามได้อย่างดี เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายอิสลามและสิทธิมนุษยชน ผมเห็นว่าการเตรียมผู้พิพากษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเช่นเดียวกับการที่เราต้องมีคณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎหมาย”

          "เราต้องเริ่มตอนนี้ เราจะไม่รอให้รัฐบาลหรือรัฐสภารับรองกฎหมายก่อน เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อรับรองแล้วเราก็ยังไม่มีผู้พิพากษาที่จะทำหน้าที่นี้ได้ ดังนั้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจำเป็นที่ต้องสร้างต้องเตรียมผู้พิพากษาโดยผ่านการให้ความรู้และการฝึกปรือ"




ทำบันทึกเจตนารมณ์ประกอบตัวบท

          เรื่องต่อมาที่จะต้องทำต่อไปคือ การวางมาตรการที่ว่าด้วยกฎหมายครอบครัวและมรดก เพราะเมื่อเรายกร่างกฎหมายครอบครัวและมรดกขึ้นแล้ว บางกรณีอาจไปขัดหรือแย้งกับกฎหมายที่ใช้อยู่ทั่วๆ ไปภายในประเทศไทย เราไม่ต้องการให้เกิดสภาพเช่นนั้น จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและมาตรการที่จะทำให้กฎหมายทั้งสองฉบับไม่มีความขัดแย้งกัน

          “ในขณะที่เรายกร่างกฎหมาย เรามีความจำเป็นต้องอาศัยบันทึกเจตนารมณ์ ซึ่งจะช่วยอธิบายความตามตัวบทอย่างกว้างขวางว่ากฎหมายแต่ละมาตรานำมาจากไหน เอามาจากสำนักความคิดหรือแหล่งใด ทำไมถึงต้องมีกฎหมายนี้ทั้งๆ ที่มีกฎหมายอื่นอยู่แล้ว”

          “เวลาพิจารณาคดีจริงๆ ผู้พิพากษาจะไม่ทบทวนเฉพาะตัวบทกฎหมายเท่านั้น แต่จะต้องย้อนกลับไปดูบันทึกเจตนารมณ์ที่อธิบายความเป็นมาเป็นไปของมาตราหรือถ้อยคำนั้นๆ ด้วย หากไม่มีบันทึกเจตนารมณ์นี้ อาจทำให้มีปัญหาได้ ผู้พิพากษาอาจเกิดความสับสน เพราะบางคำบางข้อความอาจตีความได้ 2 ความหมาย เป็นไปได้สองแง่สองมุมมอง ดังนั้นถ้ามีบันทึกเจตนารมณ์มาช่วยอธิบายความ ก็จะช่วยให้ผู้พิพากษามีความเข้าใจแจ่มชัด ไม่สับสน ช่วยลดความขัดแย้ง และลดการทะเลาะเบาะแว้งในศาลลง”





บริบททางสังคมต้องรองรับ

          เรื่องสุดท้ายคือ ผลของการใช้กฎหมาย กล่าวคือหลังจากที่ได้มีการยกร่างกฎหมายอิสลามและจัดทำบันทึกเจตนารมณ์เรียบร้อย กระทั่งนำไปใช้ตัดสินคดีต่างๆ แล้ว จำเป็นจะต้องมีการสร้างบริบทเกี่ยวกับกฎหมายขึ้น เพื่อให้สถานภาพกฎหมายนี้ดำรงอยู่ไปตลอด

          “ตัวอย่างเช่น กฎหมายครอบครัวและมรดกที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน ดังนั้น จะต้องมีองค์กรที่สามารถรับรองการแต่งงานได้ ในประเทศอียิปต์มีการสร้างองค์กรนี้ขึ้นมา เรียกว่า “อนุญาโตตุลาการ” อันเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน เมื่อจะแต่งงานให้ไปหาบุคคลนี้ รวมถึงกรณีที่คนอียิปต์จะแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่คนอียิปต์ด้วย”

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ ชี้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย หลักการคือบริบทที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเหมือนเป็นการเตรียมสถานที่ เตรียมดินที่จะปลูกต้นไม้ตามที่เราต้องการ แม้ดินจะไม่ใช่ต้นไม้ และไม่ใช่ผลของต้นไม้ แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงอยู่ของต้นไม้และผลไม้ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการตระเตรียมบริบทของสังคมตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อรองรับการใช้กฎหมายอิสลาม

          “ตัวอย่างการจัดเตรียมการสร้างสภาพสังคมที่จะใช้กฎหมายนี้ เราพบว่าในคูเวตเมื่อพวกเขาเรียกร้องจะใช้กฎหมายอิสลาม เขาสร้างองค์กรหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า องค์กรการจัดเตรียมบริบททางสังคมเพื่อที่จะใช้กฎหมายอิสลาม องค์กรนี้ทำงานมาแล้วมากกว่า 20 ปีในการจัดเตรียมสภาพทางสังคม ซึ่งเมื่อคูเวตใช้กฎหมายอิสลามแล้วก็สามารถใช้ได้เป็นอย่างดี”




บทสรุป

          เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ สรุปว่า การมีและใช้กฎหมายอิสลามไม่ได้เป็นแค่คำพูดที่จะพูดกันง่ายๆ พูดวันนี้แล้วจะเป็นไปได้เลยในวันพรุ่งนี้เพียงแค่เมื่อรัฐบาลเห็นชอบเท่านั้น แต่มีความจำเป็นจะต้องจัดเตรียมสภาพทางสังคมให้สามารถรองรับกฎหมายนี้ด้วย และต้องเริ่มวันนี้เลย ไม่ใช่ผ่อนเวลาออกไป

          "นี่คือความคิดบางตอน บางเรื่องที่จะนำมาใช้ มาเตรียมการสำหรับการใช้กฎหมายอิสลาม ซึ่งมาจากประสบการณ์ที่อียิปต์ใช้มาแล้วมากกว่าร้อยปี และเป็นที่ชัดเจนสำหรับเราว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำงานอย่างเร่งด่วน เพราะเวลานั้นเหมือนคมดาบ ถ้าหากท่านไม่ตัดมัน มันก็จะตัดท่าน แต่ว่าในขณะที่เราทำงานอย่างเร่งด่วนนั้น จะต้องทำงานในรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักวิชา ดังนั้นเราต้องเลือกคนที่มีความรู้อย่างแท้จริง และต้องเอาประสบการณ์ของผู้อื่นมาใช้ประโยชน์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่เขียนเอาไว้หรือประสบการณ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันก็ตาม”





มุฟตีของประชาชน

          ดร.อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ ผู้ชี้ขาดทางศาสนาอิสลาม (Mufti ) แห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ผู้นี้ อยู่ในวัย 57 ปี เรียนจบปริญญาตรีสาขาพาณิชยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Ain Shams เมื่อปี พ.ศ.2516 ต่อมาในปี พ.ศ.2522 สำเร็จปริญญาตรีอีกใบด้านอิสลามศึกษาและภาษาอาหรับ จากมหาวิทยาลัยอัล-อัสฮัร (Al Azhar) ปี 2528 จบปริญญาโทสาขานิติศาสตร์อิสลาม และปี 2531 จบปริญญาเอกสาขาวิชาหลักนิติศาสตร์อิสลามจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน

          ด้านประสบการณ์การทำงาน ปี พ.ศ.2528- 2546 เป็นอาจารย์ประจำคณะอิสลามศึกษาและภาษาอาหรับ มหาวิทยาลัยอัล-อัสฮัร ปัจจุบันเป็นผู้ชี้ขาดทางศาสนา (Mufti)

          ดร.อาลี เป็นปราชญ์ทางนิติศาสตร์อิสลามซึ่งได้รับการยอมรับมากที่สุดผู้หนึ่งในโลกมุสลิมฝ่ายสุหนี่ เป็นผู้ที่มีจุดยืนในการวินิจฉัยชี้ขาดและตีความศาสนาโดยให้คุณค่าต่อองค์ความรู้และขนบธรรมเนียมเดิม พร้อมทั้งคำนึงถึงสภาพการณ์ความเป็นจริงของโลกสมัยใหม่ จึงปฏิเสธการตีความศาสนาแบบเคร่งจารีต หรือสุดโต่ง และคัดค้านการทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยแอบอ้างศาสนาของกลุ่มหัวรุนแรง โดยชี้ว่าว่าเป็นการละเมิดข้อห้ามและขัดกับหลักศาสนา

          จุดยืนดังกล่าวนี้ทำให้ ดร.อาลี ได้รับยกย่องว่าเป็น “ผู้นำแห่งแนวทางอิสลามสายกลาง” ขณะที่กลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ถือว่า ดร.อาลี เป็นปฏิปักษ์ของพวกตน

          ดร.อาลี ยังคัดค้านการบิดเบือนแนวคิดเรื่อง “ญิฮาด” ของกลุ่มหัวรุนแรง และกลุ่มก่อการร้ายเพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำร้ายคนนอกศาสนา และต่อต้านการออกฟัตวา (fatwa) ของกลุ่มดังกล่าวเพื่อให้ความชอบธรรมแก่การทำร้ายคนมุสลิมด้วยกัน

          ดร.อาลี เป็นผู้มีบทบาทแข็งขันในการเผยแผ่หลักการทางศาสนาที่ถูกต้องแก่ประชาชนโดยผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ Al- Ahram และเว็บไซต์ ประมาณการณ์ว่า ดร.อาลี ได้ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับหลักศาสนาแก่ประชาชนสัปดาห์ละกว่า 5,000 เรื่อง ทำให้ได้รับการเรียกขานว่า People’s Mufti หรือ มุฟตีของประชาชน


 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 23, 2009, 11:15 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
          เพราะผู้ที่มาร่วมปาฐกถาพิเศษเป็น “บุคคลพิเศษ” จริงๆ ท่านผู้นั้นคือ เชค อาลี โกมาร์ โมฮัมเหม็ด อับเดล วาฮับ (Sheikh Professor Dr. Ali Gomaa Mohamed Abdel Wahab) ผู้ชี้ขาดทางศาสนาอิสลาม (Mufti : มุฟตี) แห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

นักข่าวอิสรา แปลมาจากอังกฤษอย่างแท้จริง  คำว่า Ali Gomaa  อ่านว่า "อะลี ญุมอะฮ์"  ไม่ใช่ "อะลี โกมาร์"    loveit:
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ไม่ใช่แค่คำนั้นนะ ขนาดชื่อก็เอากับเขาด้วย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
แล้วหนังสือทางศาสนาหลายต่อหลายเล่มที่เป็นภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ, ทำไงดีครับ? จะปล่อยให้ให้มีต่อไป เพราะคิดว่าไม่เป็นไร หรือผู้ที่รู้เรื่องภาษาอาหรับอีกทั้งเรียนศาสนาสมควรที่รวมตัวและตระหนักถึงเรื่องนี้กันบ้าง เพียงแค่เชิญชวนเขาให้มาเรียนศาสนาที่สถาบันทางศาสนาต่างๆ ปัจจุบันคงเป็นไปได้ยากอะครับ ขอมาอัฟที่พูดกระทบบางท่าน แต่ก็ถือว่าสมควรต้องพูด เพราะสังคมเราอยู่ในภาวะวิกฤตทางศรัทธาอย่างหนัก

           ในส่วนของมุฟตีอียิปต์นั้น ท่านอลีย์ ญุมอะฮ์ที่เป็นที่เสียดายว่า ตอนที่ท่านมา มอ.ปัตตานี ผมอยู่ที่ กทม. ถือได้ว่า ท่านมาใกล้ถิ่นที่อยู่ของผมมากๆ ดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าอุละมาอ์ระดับโลกอย่างท่านจะมาที่ มอ.ปัตตานี ใกล้บ้านผมแค่เนี่ยะ

            ผมประทับใจกับคำพูดของท่านที่แนะนำว่า "...หากจะมีการร่างกฎหมายอิสลามขึ้นในประเทศไทยแล้ว สำนักกฎหมายสายชาฟิอีย์ถือว่าเหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด เพราะผู้คนในประเทศนี้ถือสายชาฟิอีย์มานมนามอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรปฏิเสธแนวคิดอื่นหากมีความจำเป็น..." (สรุปจากคำพูดของท่านตามความเข้าใจของผม) - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อาจารย์ยังเรียกชื่อผมว่า อิลแฮม เลย 5555
ภาษาอังกฤษก็แบบนี้แหละ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ถ้าผมได้เจอก็จะดีใจมากๆเหมือนกันครับ

หากได้สลามจูบมือก็จะยิ่งดีใจยิ่งขึ้นครับ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ถ้าไปจูบแก้มเขาจะให้หรือเปล่า เห็นตอนผู้รักษาการจุฬามาถึงงาน เจ้างานตรงเข้าไปสลามแล้วจูบแก้มทั้ง2ข้าง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
ท่ามุฟตีย์อียิปต์ ไปเยือนถึงเมืองไทย และเดินทางไปถึง มอ.ปัตตานี  ซึ่งที่นั่นมีอาจารย์และนักศึกษา
ที่เป็นวะฮาบีย์เยอะแยะ  ทำไมไม่มีใครถามท่านเชคมุฟตีย์  มั้งว่าทำเมาลิดเป็นบิดอะฮฺที่หลงผิดหรือเปล่า
หรือ การยึดมัซฮับทั้งสี่ เป็นบิดอะฮฺที่ลุ่มหลงหรือเปล่า หรืออาจจะถามท่านเชคว่า พวกซูฟีย์หลงผิดหรือเปล่า ??
หรืออาจจะถามว่าอัลลอฮฺอยู่บนอะรัชหรือเปล่า ??  แหม ... น่าเสียดาย ที่ไม่มีใครถาม อุละมาอฺอะชาอิเราะอฺ มัซฮับชาฟิอีย์ อุตส่าห์ไปถึงที่แล้ว  เหอะๆ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 26, 2009, 12:18 AM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ถ้าผมได้เจอก็จะดีใจมากๆเหมือนกันครับ

หากได้สลามจูบมือก็จะยิ่งดีใจยิ่งขึ้นครับ

อัลฮัมดุลิลลาฮ์  บังได้จับมือสลามและกุจุ๊บมือท่านหลายครั้ง มือนิ่มนวลน่าจับ  อนึ่ง ท่านชัยค์อะลี ญุมอะฮ์ เป็นลูกหลานนบี เชื้อสายทางท่านซัยยิดินาฮะซัน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ครับ   loveit:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ถ้าเชื้อสายนั้นก็แสดงว่าต้องเป็นลูกหลานอีมามซาฟีอีใช่มั้ยบัง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
            ผมประทับใจกับคำพูดของท่านที่แนะนำว่า "...หากจะมีการร่างกฎหมายอิสลามขึ้นในประเทศไทยแล้ว สำนักกฎหมายสายชาฟิอีย์ถือว่าเหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด เพราะผู้คนในประเทศนี้ถือสายชาฟิอีย์มานมนามอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรปฏิเสธแนวคิดอื่นหากมีความจำเป็น..." (สรุปจากคำพูดของท่านตามความเข้าใจของผม) - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม

เชคอะลี ญุมอะฮ์  ท่านเป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ระดับแนวหน้าของประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน  ตอนที่ผมเรีนยวิชาอุศูลุลฟิกห์ ตัชนีฟุลมะซาเมี๊ยะอฺ(ของอิมามอัซซัรกาชีย์) อธิบายหนังสือญัมอุลญะมาเมี๊ยะอฺของอิมามอัศศุบกีย์ ที่มัสยิดอัลอัซฮัร  ท่านกล่าวว่า

أَنَا عَلِيٌّ جُمُعَةُ الشَّافِعِيُّ

"ฉันคืออะลี ญุมอะฮ์ อัชชาฟิอีย์"

เช้าวันนั้นแหละครับ ที่ผมเพิ่งรู้ว่าท่านเป็นอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีย์ จิตใจเลยเบิกบาน
  loveit:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ vrallbrothers

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 498
  • ALLAH MAHA BESAR...
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด


อัลฮัมดุลิลลาฮ์  บังได้จับมือสลามและกุจุ๊บมือท่านหลายครั้ง มือนิ่มนวลน่าจับ  อนึ่ง ท่านชัยค์อะลี ญุมอะฮ์ เป็นลูกหลานนบี เชื้อสายทางท่านซัยยิดินาฮะซัน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ครับ   loveit:




เชคอะลี ญุมอะฮ์  ท่านเป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ระดับแนวหน้าของประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน  ตอนที่ผมเรีนยวิชาอุศูลุลฟิกห์ ตัชนีฟุลมะซาเมี๊ยะอฺ(ของอิมามอัซซัรกาชีย์) อธิบายหนังสือญัมอุลญะมาเมี๊ยะอฺของอิมามอัศศุบกีย์ ที่มัสยิดอัลอัซฮัร  ท่านกล่าวว่า

أَنَا عَلِيٌّ جُمُعَةُ الشَّافِعِيُّ

"ฉันคืออะลี ญุมอะฮ์ อัชชาฟิอีย์"

เช้าวันนั้นแหละครับ ที่ผมเพิ่งรู้ว่าท่านเป็นอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีย์ จิตใจเลยเบิกบาน  loveit:

จะได้ไหมถ้าเราจะบอกว่า... ขนาดลูกหลานท่านนบียังมีมัซฮับเลย แล้วคนธรรมดาอย่างเรา ๆ หล่ะ...?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 27, 2009, 06:12 AM โดย vrallbrothers »


เวลาเปรียบเสมือนคมดาบ...หากท่านไม่ตัดมัน มันจะตัดท่าน



ยะฮูดีใช้ระเบิดฟอสฟอรัส... เลวร้าย ป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
 salam

แววตาท่าน...น่าเกรงขามแฝงด้วยความอ่อนโยนค่ะ :ameen:

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด


อัลฮัมดุลิลลาฮ์  บังได้จับมือสลามและกุจุ๊บมือท่านหลายครั้ง มือนิ่มนวลน่าจับ  อนึ่ง ท่านชัยค์อะลี ญุมอะฮ์ เป็นลูกหลานนบี เชื้อสายทางท่านซัยยิดินาฮะซัน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ครับ   loveit:




เชคอะลี ญุมอะฮ์  ท่านเป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ระดับแนวหน้าของประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน  ตอนที่ผมเรีนยวิชาอุศูลุลฟิกห์ ตัชนีฟุลมะซาเมี๊ยะอฺ(ของอิมามอัซซัรกาชีย์) อธิบายหนังสือญัมอุลญะมาเมี๊ยะอฺของอิมามอัศศุบกีย์ ที่มัสยิดอัลอัซฮัร  ท่านกล่าวว่า

أَنَا عَلِيٌّ جُمُعَةُ الشَّافِعِيُّ

"ฉันคืออะลี ญุมอะฮ์ อัชชาฟิอีย์"

เช้าวันนั้นแหละครับ ที่ผมเพิ่งรู้ว่าท่านเป็นอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีย์ จิตใจเลยเบิกบาน  loveit:

จะได้ไหมถ้าเราจะบอกว่า... ขนาดลูกหลานท่านนบียังมีมัซฮับเลย แล้วคนธรรมดาอย่างเรา ๆ หล่ะ...?

ใช่แล้วครับ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
หรอครับบัง เชคอะลียุมอะฮฺก็เป็นอะฮฺลุลเบตเหมือนกัน

ถ้าหากเชคอลียุมอะฮฺไปเยเมน เค้าไม่เรียกเชคแล้วครับ

เขาเรียกฮะบีบ อลี ยุมอะฮฺ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

 

GoogleTagged