ผู้เขียน หัวข้อ: การทำอะซีมะฮฺมีหลักการอย่างไรครับ  (อ่าน 1911 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด

 salam

เนื่องจากไม่กี่วันมานี้ มีเพื่อนผมคนนึงได้ถามถึงหลักการอะซีมะฮฺ

ว่าหุกุมว่าอย่างไร มีกฎเกณหลักการอย่างไร

ทำได้หรือปล่าว หรือว่าชิริก แบบที่คณะใหม่ชอบพูดกัน

ผมเองก็เคยเห็นเขาใส่กันบ้าง แต่ยังรู้รายละเอียด เนื่องจากไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

หากในเวปนี้มีการกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว กรุณาช่วยลิ้งให้ผมอ่านหน่อยครับพี่น้อง

หรือใครมีมัรยิอฺ หนังสือที่ให้ไปค้นคว้าเรื่องนี้ที่ไหนได้ อยู่ในส่วนไหน

ผมจะได้ไปค้นคว้าครับ

วัสลาม
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: การทำอะซีมะฮฺมีหลักการอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มี.ค. 22, 2009, 12:36 AM »
0
ผมขอข้อมูลหน่อยครับ

บังอัซฮะรี่ครับ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: การทำอะซีมะฮฺมีหลักการอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มี.ค. 22, 2009, 06:09 AM »
0
เรื่องแบบนี้ต้องถามคุณ ก๊อดซาฟี แห่งสตูล หรืออูลามาฝึกวิชา เขาถนัดครับ 555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: การทำอะซีมะฮฺมีหลักการอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มี.ค. 22, 2009, 07:01 AM »
0
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: การทำอะซีมะฮฺมีหลักการอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เม.ย. 11, 2009, 11:35 AM »
0
เป็นคำถามตอบที่มีประโยชน์ที่มุสลิมไทยครับ

คุณ  กล่าวถามว่า

อ่านที่ท่านฮอนด้านำเสนอมา ก็พลอยให้คิดไปอีกไกลครับ ผมถามหน่อยนะถ้ามีคนพูดว่า

"ยาของหมอนี่ดีจริงๆกินแล้วหายขาดเลย ผมกินยามาตั้งหลายที่แล้วอาการไม่เห็นดีขึ้นเลย พอเจอยาของหมอหายขาดเลย อัลลอฮฺให้จริงๆ" คำถามของผมเข้าข่ายชีริกเล็กหรือไม่ครับ เพราะจริงๆผู้ที่ให้หายคืออัลลอฮฺไม่ใช่ยา ใช่ไหมครับ

อีกหนึ่งกรณี

"ตั้งแต่แขวนอาซีมัตมาญินไม่เข้าอีกเลย มันเป็นเครื่องป้องกันได้ดีจริง อัลฮัมดุลิลลาฮฺ"  คำพูดอย่างนี้ล่ะ อัลลอฮูคือผู้คุ้มครองใช่ไหมครับ เข้าข่ายชีริกเล็กไหมครับ

ช่วยตอบด้วยครับ

ตอบชี้แจง

คำพูดดังกล่าว  ถ้าหากเขาเอี๊ยะติก็อต(เชื่อ)ว่า  "ต้องกินยาอัลเลาะฮ์จะได้ทำให้หาย"  ถือว่าไม่ถูกต้อง  เพราะการที่พระองค์จะให้บังเกิดผลการหายนั้น  จะไม่ขึ้นอยู่บนเงื่อนไขใด ๆ (เช่นจะต้องกินยาก่อนถึงอัลเลาะฮ์จะให้หาย เป็นต้น) แต่ถ้าหากเขาพูดออกไปโดยดำเนินตามกฏธรรมดาทั่วไป(อาดัต)ที่ป่วยแล้วต้องกินยาเพราะอัลเลาะฮ์ทรงสร้างยามาให้แก่เรา พร้อมกับกฏแห่งสติปัญญานั้นเขาเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ผู้เดียวเท่านั้นคือผู้บังเกิดผลการหาย  ถือว่าเขามีเตาฮีดที่สมบูรณ์ 

ส่วนเรื่องการแขวนอะซีมัตนั้น  สำหรับผู้มีความจำเป็นที่ญินมันเล่นงานเป็นพิเศษอันเนื่องจากเขามีจิตใจที่อ่อนแอ  อะซีมัตที่เป็นอายะฮ์อัลกุรอานและพระนามอันวิจิตของอัลเลาะฮ์นั้น  ก็ถือว่าอยู่ในตำแหน่งของยานั่นเอง  หมายความว่าการใช้อะซีมัตนั้นคือการนำอายะฮ์อัลกุรอานหรือพระนามอันวิจิตของอัลเลาะฮ์มาตะวัสซุลเพื่อวอนขอต่อพระองค์ให้ปกป้องผู้ป่วยให้พ้นจากญิน

ดังนั้นถ้าหากผู้ถูกแขวนอะซีมัตพูดว่า "ตั้งแต่แขวนอาซีมัตมาญินไม่เข้าอีกเลย มันเป็นเครื่องป้องกันได้ดีจริง อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" โดยพูดไปตามหลักของกฏธรรมดา(อาดัต)พร้อมกับหลักสติปัญญาเชื่อว่าผู้ให้การป้องกันคืออัลเลาะฮ์เท่านั้น  ถือว่าไม่ชิริก  แต่หากเชื่อพูดพร้อมกับเชื่อว่าอะซีมัตเป็นเครื่องป้องกันถือว่าชิริก  หรือหากเขาเชื่อว่าต้องมีอะซีมัตอัลเลาะฮ์ถึงจะป้องกัน  ก็ถือว่ายังไม่ถูกต้อง  เพราะอัลเลาะฮ์จะปกป้องให้พ้นภัยนั้นมิได้อยู่บนเงื่อนไขใด ๆ ตามหลักความเชื่อ

เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องสงสัยกันเลยว่า  บางคนกินยาขนานเดียวกันจากนั้นหายป่วย  แต่อีกคนหนึ่งกินยาขนานเดียวกันแต่ไม่หายป่วย นั่นเพราะว่าอัลเลาะฮ์องค์เดียวเท่านั้นทรงให้บังเกิดผลการหาย

มีคนถูกญินเข้า  แต่ผู้รักษาบางคนอ่านอายะฮ์เดียวกันและขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์  จากนั้นญินไม่ยอมออก  แต่อีกคนหนึ่งอ่านอายะฮ์เดียวกัน  จากนั้นญินออก  นั่นก็เพราะว่าอัลเลาะฮ์ทรงตอบรับต่อเขาและทำให้ญินออก

ดังนั้นการรักษาให้หาย  ก็ต้องมียาและมีวิธีการรักษาที่ได้รับการทดสอบแล้วได้ผลตามที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ (มุญัรบาต)  ฉะนั้นผู้ที่เป็นแพทย์ทางร่างกาย  ก็ต้องใช้ยารักษาและเรียนรู้วิธีการรักษา  ส่วนผู้รักษาญินหรือแก้ใสยศาสตร์  ก็ต้องใช้ยารักษาด้วยอายะฮ์อัลกุรอานและพระนามของอัลเลาะฮ์โดยต้องเรียนรู้วิธีการรักษาตามที่ได้ถูกทดสอบแล้วได้ผลตามที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ (มุญัรร่อบาต)  ซึ่งการรักษาแบบประการหลังนี้  ผมไม่เคยทำหรือนำมาปฏิบัติเลยเพียงแต่ผมเรียนรู้เท่านั้น  ถึงแม้สิ่งที่ตนเองไม่ทำ  แค้ก็ไม่ไปฮุกุ่มเรี่ยราดเลอะเทอะเหมารวมต่อผู้อื่นถ้าหากเขารักษาอย่างถูกต้องครับ
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

 

GoogleTagged