salam
กลับมาวิจารณ์หลักฐานที่บังฮาซันนำมาอ้างอิงต่อกันครับ เรื่องการละหมาดตัสเบียะซึ่งที่แท้จริงบังฮาซันก็ตักลีดตามท่านอุษัยมีนนั้นเอง
หะดิษเกี่ยวกับละหมาดตัสเบียะ เป็นหะดิษเฎาะอีฟ
وأما صلاة التسبيح فالصواب أنها ليست بسنة بل هي بدعة، والحديث الذي ذكرت عنها في سؤالك غير صحيح، قال الإمام أحمد ? رحمه الله -#8207; لا تعجبني صلاة التسبيح، قيل لم؟ قال#8207; ليس فيها شيء يصح، ونفض يده كالمنكر، وقال النووي#8207; حديثها ضعيف، وفيها تغيير لنظم الصلاة المعروفة، وقال العقيلي#8207; ليس فيها حديث يثبت، وقال أبو بكر ابن العربي#8207; ليس فيها حديث صحيح ولا حسن،
และสำหรับการละหมาดตัสเบียะนั้น ที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สุนนะฮ แต่ทว่า มันเป็นบิดอะฮ และหะดิษที่ท่านได้ระบุในคำถามของท่าน นั้น ไม่เศาะเฮียะ อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้กล่าวว่า "การละหมาดตัสเบียะ ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจ " มีผู้ถามว่า "ทำไมหรือ? ท่านกล่าวว่า "ในนั้นไม่มีหะดิษเศาะเฮียะเลย และท่านได้สะบัดมือของท่าน เหมือนกับว่า มันเป็นสิ่งต้องห้าม และอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า หะดิษของมัน เฎาะอีฟ และในนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงระเบียบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน และอัลอะกีลีย์กล่าวว่า ในมัน(ละหมาดตัสเบียะ) ไม่มีหะดิษที่มั่นคง และอบูบักร อิบนุอะเราบีย์ กล่าวว่า " ในมัน ไม่มีหะดิษเศาะเฮียะ และไม่มีหะดิษหะซัน
..........
ฟะตะวา อิบนุอุษัยมีน เล่ม 14
บังฮาซันกล่าวว่า ง และสำหรับการละหมาดตัสเบียะนั้น ที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สุนนะฮ แต่ทว่า มันเป็นบิดอะ
ก่อนอื่นผมใครนำหลักฐานเพื่อชี้แจงในสิ่งที่บังฮาซันได้วิจารร์เกี่ยวกับฮาดิสการละหมาดตัสบีห์ที่บังฮาซันได้ตะอัสศสุบในสายรายงานของบังฮซันที่ไมรอบคอบในการนำหลักฐานมาอ้างอิง
จริงๆแล้ว]ฮะดิษที่กล่าวถึงการละหมาดตัสบีห์นั้น ผู้ที่ได้รายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็คือท่านอิบนุอับบาส , ท่านอัลฟัฏล์ บิน อัลอับบาส , ท่านอับบาส บิน อับดุลมุฏฏอลิบ , ท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ , ท่านญะฟัร บิน อะบีฏอลิบ , ท่านอัลอับบาส บิน ญะฟัร , ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ , ชาวอัลอันซอรีย์คนหนึ่ง ขออัลเลาะฮ์ทรงพึงพอพระทัยต่อพวกเขาด้วยเถิด . และได้รายงานฮะดิษแบบมัรซัล โดยท่านมุฮัมมัด บิน กะอับอัลกุรซีย์ , อะบูเญาซาอฺ , มุญาฮิด , อิสมาอีล บิน ร่อฟิอฺ , อุรวะฮ์ บิน รุวัยม์ และที่ดีที่สุดจากบรรดาสายรายงานเหล่านี้ คือฮะดิษที่รายงานโดยท่านอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา
และให้กับฮะดิษของท่านอิบนุอับบาสนั้น มีบรรดาสายรายงานมากมาย ซึ่งสายรายงานที่ดีที่สุดก็คือ ฮะดิษที่รายงานโดยท่านอะบูดาวูด (สุนันอะบูดาวูด : 2/40) , ท่านอิบนุมาญะฮ์ (สุนันอิบนุมาญะฮ์ : 1/443) , ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ (ซอฮิห์อิบนุคุซัยมะฮ์ : 2/223) , ท่านอัลฮากิม (อัลมุสตัดร็อก : 1/318) , ท่านอัลบัยฮะกีย์ (อัสสุนันอัลกุบรอ : 3/51) , และผู้อื่นจากพวกเขา ได้รายงานตัวบทฮะดิษความว่า :
حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ بِشْرِ بْنِ الْحَكَمِ النَّيْسَابُورِيُّ حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ عَبْدِ الْعَزِيزِ حَدَّثَنَا الْحَكَمُ بْنُ أَبَانَ عَنْ عِكْرِمَةَ عَنْ ابْنِ عَبَّاس ٍأَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ لِلْعَبَّاسِ بْنِ عَبْدِ الْمُطَّلِبِ يَا عَبَّاسُ يَا عَمَّاهُ أَلَا أُعْطِيكَ أَلَا أَمْنَحُكَ أَلَا أَحْبُوكَ أَلَا أَفْعَلُ بِكَ عَشْرَ خِصَالٍ إِذَا أَنْتَ فَعَلْتَ ذَلِكَ غَفَرَ اللَّهُ لَكَ ذَنْبَكَ أَوَّلَهُ وَآخِرَهُ قَدِيمَهُ وَحَدِيثَهُ خَطَأَهُ وَعَمْدَهُ صَغِيرَهُ وَكَبِيرَهُ سِرَّهُ وَعَلَانِيَتَهُ عَشْرَ خِصَالٍ أَنْ تُصَلِّيَ أَرْبَعَ رَكَعَاتٍ تَقْرَأُ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ فَاتِحَةَ الْكِتَابِ وَسُورَةً فَإِذَا فَرَغْتَ مِنْ الْقِرَاءَةِ فِي أَوَّلِ رَكْعَةٍ وَأَنْتَ قَائِمٌ قُلْتَ سُبْحَانَ اللَّهِ وَالْحَمْدُ لِلَّهِ وَلَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَاللَّهُ أَكْبَرُ خَمْسَ عَشْرَةَ مَرَّةً ثُمَّ تَرْكَعُ فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ رَاكِعٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ الرُّكُوعِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَهْوِي سَاجِدًا فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ سَاجِدٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ السُّجُودِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَسْجُدُ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ فَتَقُولُهَا عَشْرًا فَذَلِكَ خَمْسٌ وَسَبْعُونَ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ تَفْعَلُ ذَلِكَ فِي أَرْبَعِ رَكَعَاتٍ إِنْ اسْتَطَعْتَ أَنْ تُصَلِّيَهَا فِي كُلِّ يَوْمٍ مَرَّةً فَافْعَلْ فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ جُمُعَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ شَهْرٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ سَنَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي عُمُرِكَ مَرَّةً
"ได้เล่าให้เราทราบโดย อับดุรเราะห์มาน บิน บิชร์ บิน อัลฮะกัม อันนัยซาบูรีย์ ได้เล่าให้ทราบโดย มูซา บิน อับดุลอะซีซ ได้เล่าให้ทราบโดย อัลฮะกัม บิน อะบาน จาก อิกริมะฮ์ จากท่านอิบนุอับบาส ว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่ท่านอัลอับบาส บิน อับดิลมุฏฏอลิบ ว่า โอ้ ท่านอับบาส โอ้ น้าชายของฉัน จะให้ฉันมอบให้กับท่านหรือไม่? จะให้ฉันทำให้กับท่านหรือไม่? กับ 10 ประการ เมื่อท่านได้กระทำสิ่งดังกล่าว อัลเลาะฮ์ก็จะอภัยโทษแก่ท่านซึ่ง(1)บาปในช่วงแรกและ(2)ช่วงสุดท้าย (3)บาปที่ล่วงผ่านมาแล้วและ(4)บาปที่เพิ่งเกิดขึ้น (5)บาปที่ผิดพลาดและ(6)บาปที่เจตนา (7)เป็นบาปเล็กและ(8.)บาปใหญ่ (9)เป็นบาปซ่อนเร้นและ(10)บาปที่เปิดเผย คือให้ท่านทำการละหมาดสี่ร่อกะอัต ซึ่งในร่อกะอัตแรกให้ท่านอ่านอัลฟาติฮะฮ์และหนึ่งซูเราะฮ์ เมื่อเสร็จจากการอ่านในร่อกะอัตแรกในสภาพที่ท่านยืนอยู่นั้น ก็ให้ท่านกล่าว ซุบฮานัลลอฮ์วัลฮัมดุลิลลาฮ์วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์วัลลอฮุอักบัร ให้กล่าวมัน 15 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการร่อกั๊วะแล้วทำการกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากร่อกั๊วะ ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านก้มสุยูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุยูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการสุยูดแล้วกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุยูด ก็ให้กล่าวมัน 10 ครั้ง ดังกล่าวก็เป็น 75 ครั้งในทุก ๆ ร่อกะอัต โดยให้ท่านกระทำสิ่งดังกล่าวใน 4 ร่อกะอัต ดังนั้นหากท่านมีความสามารถที่จะละหมาดมันทุกวัน ก็จงกระทำเถิด และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้ท่านกระทำในทุก ๆ วันศุกร์สักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุก ๆ หนึ่งเดือนสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุก ๆ หนึ่งปีสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่มีความสามารถ ก็ให้กระทำสัก
ครั้งหนึ่งในชีวิตของท่าน
บังฮาซันนำหลักฐานของท่านอะหมัดแบบหมกเม็ดด้วยสายงานที่บังฮาซันพอใจแต่ในขณะที่ท่านอะหมัดเองอีกสายรายงานหนึ่งท่านก็ยอมรับในหลักฐานดังกล่าวทำไมบังฮาซันจึงเลือกรายงานในทัศนะที่ตนพอใจโดยละทิ้งสิ่งที่ตนไม่พอใจ ซึ่งมารยาทนี้สลัฟ เขาไม่ กระทำกัน มี และห ลักฐานที่ว่า
คือ ท่า นม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้กล่าวว่า "การละหมาดตัสเบียะ ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจ " มีผู้ถามว่า "ทำไมหรือ? ท่านกล่าวว่า "ในนั้นไม่มีหะดิษเศาะเฮียะเลย และท่านได้สะบัดมือของท่าน เหมือนกับว่า มันเป็นสิ่งต้องห้าม
ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมต่อสายรายงานจากบรรดานักปราชญืฮาดิษเหล่านั้นเราจึงใคร่นำบทวิเคราะจากปรายญ์ผู้ทรงคุณธรรมว่าเขาเหล่านั้นมีความเข้าใจอย่างไรกับสายรายงานที่บังฮาซันฮุกมว่าละหมาดตัสเบียะนั้นเป็นบิดอะตามท่านอิบนุฮุษัยมีน
วิเคราะห์สายรายงานฮะดิษ
1. ท่านอิกริมะฮ์ : เขานั้น เชื่อถือได้ และ เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งกลุ่มหนึ่งของปราชญ์ฮะดิษได้นำเขามาเป็นหลักฐานอ้างอิง ส่วนที่ผู้ที่ทำการวิจารณ์เขานั้นเป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
2. ท่านอัลฮะกัม บิน อะบาน : เขาเป็นผู้ที่ เชื่อถือได้ ตามทัศนะของท่านอิบนุมะอีน , ท่านอิบนุอัลมะดีนีย์ , ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล , อันนะซาอีย์ , ท่านอัลอิจญ์ลีย์ , ท่านอิบนุ นุมัยร์ , และท่านอิบนุฮิบบานได้กล่าวเขาไว้ในหนังสืออัษษิก็อตของท่าน , และท่านอบูอัซซุรอะฮ์กล่าวว่า เขานั้นฮะดิษดี , ท่านซุฟยาน บิน อุยัยนะฮ์ กล่าวว่า : ฉันได้ไปที่เมืองอัดน์ ซึ่งฉันไม่เคยพบผู้ใดเลยที่จะเหมือนกับอัลฮะกัม บิน อะบาน
ทั้งที่นักปราชญ์ฮะดิษส่วนมากได้มีความเห็นพร้องถึงการให้ความเชื่อถือต่ออัลฮะกัม บิน อะบาน และเขาถูกให้อยู่ในแนวหน้าเหนือชาวอัดน์ ท่านอิบนุลมุบาร็อกได้กล่าวว่า : อัลฮะกัม บิน อะบาน , ฮิชาม บิน มัศก์ , และอัยยูบ บิน สุวัยด์นั้น ท่านจงอย่าสนใจพวกเขา และท่านอิบนุคุซัยมะฮ์กล่าวว่า : นักฮะดิษได้ทำการวิจารณ์เกี่ยวการนำฮะดิษของเขามาเป็นหลักฐาน (ดู หนังสือ อัษษะก็อต : 6/175 , หนังสืออัตตะฮ์ซีบ : 2/423 , หนังสือมีซานุลเอี๊ยะติดาล : 1/569)
และยังมีบรรดาสายรายงานที่มาสนับสนุนสายรายงานของมูซา บิน อับดุลอะซีซ ซึ่งสายรายงานที่สำคัญ ๆ มีดังนี้ :
ฮะดิษที่รายงานโดย มุสลิม บิน อิบรอฮีม จาก อัลมุสตะมิร บิน อัรร็อยยาน จาก อะบีอัลเญาซาอฺ จาก อับดุลลอฮ์ บิน อัมร์...ซึ่งเป็นสายรายงานที่ท่านอิมามอะห์มัดประทับใจ คือไม่น้อยไปจากระดับฮะดิษฮะซัน ท่านอะบูบักร อัลค็อลลาล ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอิลัล ว่า อะลี บิน สะอีด ได้กล่าวว่า ฉันได้ถามท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล จากเรื่องละหมาดอัตตัสบีห์ ท่านตอบว่า ไม่มีสิ่งใด ณ ที่ฉันซอฮิห์เกี่ยวกับมันเลย ฉันกล่าวว่า มันเป็นฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ ท่านอะห์มัดกล่าวว่า ทุกคนที่รายงานฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ จาก อัมร์ บิน มาลิก นั้นได้มีคำกล่าววิจารณ์ ดังนั้นฉันจึงกล่าวว่า ได้รายงานฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ โดยอัลมุสตะมิร บิน อัรร็อยยาน จาก อะบี อัลเญาซาอฺ ท่านอะห์มัดจึงกล่าวถามว่า ผู้ใดที่บอกเล่าให้แก่ท่าน? ฉันตอบว่า มุสลิม บิน อิบรอฮีม ท่านอะห์มัดจึงกล่าวว่า อัลมุสตะมิรเป็นอาจารย์ที่เชื่อถือได้ ประหนึ่งว่าท่านอะห์มัดมีความประทับใจกับฮะดิษที่รายงานโดยอัลมุสตะมิร (ดู หนังสืออัจญ์วิบะฮ์ อัลฮาฟิซฺ อะลัลอะฮาดีษ อัลมุนตะเกาะดะฮ์ อะลัลมิชกาฮ์ : 3/179)
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การไม่รู้ว่าเป็นซอฮาบะฮ์ท่านใดนั้น ถือว่าไม่มีผลกระทบแต่ประการใด ด้วยเหตุนี้ ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร ได้กล่าวในหนังสืออัลอะมาลีย์ของท่านว่า หากเราได้ดำเนินตามสองสมมุติฐานนี้ สายรายงานของฮะดิษก็ไม่ต่ำจากระดับฮะดิษฮะซัน
ดังนั้น เหล่านี้ก็คือสายรายงานที่มีน้ำหนักและสะอาด เมื่อสายรายงานเหล่านี้ได้นำมาร่วมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็จะถูกตัดสินว่าฮะดิษละหมาดตัสบี ซอเหียะตามนัยยะของหลักพิจารณาอัลฮะดิษ วัลลอฮุซุบฮานะฮูวะตะอาลาอะลัม