ผู้เขียน หัวข้อ: การตีความเป็นการปฏิเสธอัลกุรอ่านหรือเปล่า  (อ่าน 5340 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คืออย่างนี้นะครับ  หลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์เด็ดขาดได้ระบุเกี่ยวกับ "ซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่มีความหมายหลายนัย" นั้นเราเชื่อตามที่ได้ระบุไว้  ส่วนการอธิบาย "ซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่มีความหมายหลายนัย" นั้น  หากปรากฏว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ตีความหรืออธิบายไว้จริง  ก็จะไม่มีการขัดแย้งระหว่างอุลามาอฺเกี่ยวกับเรื่องนี้   เอาล่ะเมื่อเราเชื่อในอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์เด็ดขาดแล้ว  โดยท่านร่อซุลลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้อธิบายไว้อย่างเด็ดขาด  เราก็ต้องกลับไปหาความเข้าใจของผู้ที่ดีและประเสริฐกว่าเรานั่นคือบรรดาอุลามาอฺปราชญ์แห่งโลกอิสลามที่อัลเลาะฮ์ทรงยืนยันไว้ในอัลกุรอานว่าพวกเขาเป็นบ่าวที่มีความเกรงกลัวของพระองค์(ซูเราะฮ์ฟาฏิร อายะฮ์ที่ 28)  ว่าเขามีจุดยืนกันอย่างไรต่อการเข้าใจตัวบทหลายนัยที่พูดถึงซีฟัตของอัลเลาะฮ์

ตรงส่วนที่บังขีดเส้นใต้ไว้ผมมีความเห็นคือ ถ้าท่านนบีไม่ได้อธิบายไว้อย่างเด็ดขาด ผมคิดว่าท่านนบีคงสั่งใช้ให้
บรรดาซอฮาบะอีมาน โดยที่ท่านไม่ได้อธิบายอะไรไปมากกว่านั้น ซึ่งเมื่อลองคิดดูเเล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านนบีจะลืม
อธิบายเกี่ยวกับโองการเหล่านั้นเอาไว้ให้เราเข้าใจ และเมื่อท่านนบีไม่ได้อธิบายไว้โดยให้อีมานโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆในนั้นเพียงอย่างเดียว
เราเองที่เป็นมุสลิมก็น่าจะถือว่านั่นคือแบบอย่างที่สวยงาม และใกล้เคียงกับซุนนะนบีและบรรดาสะลัฟฟุศซอเเละที่สุดแล้ว และบางครั้งตามที่ผม
ได้อ่านๆเจอมาก็คือบรรดาเจ้าของมัซฮับทั้งหลายก็มักจะมอบหมายความหมายของโองการเหล่านั้นต่ออัลลอฮ ดังนั้นผมคิดว่าการไปริเริ่มการตีความ
เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ และไม่ได้ตรงกับแบบฉบับของท่านนบีที่สั่งใช้ให้ซอฮาบะอีมานอย่างเดียวโดยไม่มีข้อสงสัยด้วย
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

อุลามาอฺทัศนะที่หนึ่ง : กล่าวว่า "และไม่(มีใคร)รู้การตีความมันได้หรอก  นอกจากอัลเลาะฮ์เท่านั้น"  โดยอ่านหยุดแค่นี้  โดยอุลามาอฺอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ได้มีจุดยืนที่ว่า  ซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่ระบุไว้ในตัวที่มีความหมายหลายนัยนั้น   เรารู้ความหมายหลายนัยเหล่านั้น  แต่เราไม่เจาะจงว่ามันคือความหมายใดที่เป็นเป้าหมายของอัลเลาะฮ์  ดังนั้นเราจึงมอบหมายการรู้ความหมายที่เจาะจงนั้นไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้เป็นแนวทางส่วนมากของสะละฟุศศอลิห์  และเป็นแนวทางเดิม  อีกทั้งเป็นแนวทางหลักของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์  และเป็นแนวทางที่ตัวกระผมเอง(อัลอัซฮะรีย์) ให้เลือกและให้น้ำหนัก


ผมเองก็ยึดถือทัศนะนี้อยู่ ให้น้ำหนักทัศนะนี้มากกว่าทัศนะที่ 2 ซึ่งมันก็ตรงกันละครับกับบังอัลฯ
แต่บังรู้มั้ยครับ ประเด็นมันก็คือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อว่าวะฮาบีก็มีอากีดะแบบเดียวกันนี้แหละ คือทำการ
มอบหมายความหมายที่แท้จริงไปยังพระองค์อัลลอฮ บางทีผมอ่านที่มีผู้อ้างว่ามาจากเว็บนี้กับเว็บวะฮาบี
โต้กัน มันเหมือนคนอากีดะเดียวกันแต่มาฟัดกันเองอ่ะครับ ผมอ่านแล้วมันเหมือนเรื่องโอละพ่อมากกว่า
เพื่อนผมเองหลายๆคนที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีพอผมไปถามๆดูก็มีอากีดะเดียวกันอย่างที่ผมกับบังยึดถือนั่นแหละ
ผมเลยแปลกใจว่าทำไมในเว็บมุสลิมไทยถึงไปโจมตีเรื่องอากีดะของเขา ผมว่าเรื่องโอละพ่อแท้ๆ น่าจะเปิดใจต่อกันดีๆดีกว่า
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam
โองการนี้บังแปลผิดนิดหน่อย ตรงคำว่าพวกเจ้า



และพระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า

وَلَوْ رَدُّوهُ إِلَى الرَّسُولِ وَإِلَى أُوْلِي الأَمْرِ مِنْهُمْ لَعَلِمَهُ الَّذِينَ يَسْتَنبِطُونَهُ مِنْهُمْ

"หากพวกเจ้าส่งกลับเรื่องนั้นไปยังร่อซูลและผู้ปกครองการงานของเขา  แน่นอนก็จะรู้มันได้โดยบรรดาผู้สามารถวิเคราะห์(วินิจฉัย)มันได้จากพวกเขา" อันนิซาอฺ 83


ส่วนจะเจาะจงสาเหตุในการประทานลงมาหรือไม่ผมไม่รู้ วัลลอฮูอลัม แต่เมื่อได้อ่านย้อนไปก็เจอว่า

สำหรับคำแปล "พวกเจ้า" นั้นบังได้แก้ไขเป็น "พวกเขา" เรียบร้อยแล้วครับ ในสิ่งที่น้องย้อนไปอ่านจากหนังสืออัลกุรอานแปลไทยนั้น ก็คือส่วนหนึ่งจากคำอธิบายที่ถูกต้องเหมือนกันครับ  และหากกลับไปดูตัฟซีรของท่านอิมามอัลกุรอานตุบีย์ ท่านได้กล่าวไว้เช่นกันว่า

أَيْ لَمْ يُحَدِّثُوا بِهِ وَلَمْ يُفْشُوهُ حَتَّى يَكُون النَّبِيّ صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ هُوَ الَّذِي يُحَدِّث بِهِ وَيُفْشِيه . أَوْ أُولُو الْأَمْر وَهُمْ أَهْل الْعِلْم وَالْفِقْه ; عَنْ الْحَسَن وَقَتَادَة وَغَيْرهمَا

"หมายความว่า พวกเขาจะไม่พูดเกี่ยวกับมันและไม่ทำการเปิดเผยมันจนกระทั่งท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ทำการพูดและเปิดเผยมัน หรือบรรดาผู้ปกครองของพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็คือนักปราชญ์และนักฟิกห์ ซึ่งได้รายงานจากท่านอัลฮะซัน , ท่านก่อตาดะฮ์ และอื่น ๆ จากทั้งสอง" ตัฟซีรอัลกุรตุบีย์ ซูเราะฮ์ อันนิซาอฺ 83

ดังนั้นหากเรากลับไปเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรงไม่ได้หรือไม่เข้าใจอย่างแจ่มชัด ก็ต้องกลับไปหาปราชญ์ผู้มีความรู้กว่าเรา เพราะพวกเขาคือปราชญ์ที่อัลเลาะฮ์ได้บอกไว้ในอัลกุรอานว่าพวกเขาคือผู้ยำเกรงพระองค์ครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

อุลามาอฺทัศนะที่สอง : กล่าวว่า  "และ ไม่(มีใคร)รู้การตีความมันได้หรอก  นอกจากอัลเลาะฮ์เท่านั้น  และบรรดาผู้ที่เชี่ยวชาญในความรู้"  พวกเขาเข้าใจและวิเคราะห์ว่า  การตีความนั้นนอกจากอัลเลาะฮ์ทรงรู้แล้ว  พระองค์ยังเปิดโอกาสให้บรรดาปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญรู้ความหมายด้วยเหมือนกัน   เพราะมีสะละฟุศศอลิห์หลายท่านได้ทำการตีความเอาไว้เช่นกันนั่นเอง  และแนวทางนี้ก็เป็นทางเลือกที่สองของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์  ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถนำมาใช้ในยามจำเป็น  เอามาใช้เพื่อตอบโต้พวกนอกศาสนาที่ไม่ใช่ในอัลกุรอานและซุนนะฮ์และพวกนอกลู่   อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้กับคนเอาวามที่จิตใจอ่อนแอที่ชอบจินตนาการคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ให้คล้ายหรือเหมือนกับมัคโลค


ความเห็นผมสำหรับคนต่างศาสนิกก็ตอบไปว่าเราศรัทธาตามที่พระเจ้าทรงบอกเรา และพระองค์จะเป็นอย่างไรเราก็ไม่สามารถจินตนาการได้
สมองมนุษย์คิดไม่ถึง ส่วนคนเอาวาม ผมว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะหยุดความคิดที่จะจินตนาการต่ออัลลอฮ เราก็ต้องขอความคุ้มครอง
จากอัลลอฮให้พ้นจากผู้กระซิบกระซาบเท่านั้น และก็ต้องรู้ไว้ในใจลึกๆด้วยว่าเราไม่สามารถจินตนาการอะไรถึงต่อพระองค์ได้ และควรจะมอบหมาย
ให้แก่อัลลอฮเมื่อเราสงสัย ผมคิดว่าการสอนตามแนวทางที่มอบหมายความรู้ต่ออัลลอฮนี้แก่คนเอาวาม เป็นการสอนที่ตรงกับที่ท่านนบี
สอนซอฮาบะด้วยซึ่งเป็นแบบฉบับที่ดีที่สุดอยู่แล้วในการให้คนเอาวามยึดถือตาม เราจะสอนหรือใช้วิธีใด ก็น่าจะใช้วิธีที่ดีที่สุด
ตามแบบฉบับของท่านนบีแก่คนเอาวามดีกว่าโดยไม่จำเป็นต้องไปคิดค้นวิธีการแบบใหม่เช่นการตีความไปเสนอให้แก่คนเอาวามเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 12, 2009, 01:56 PM โดย tksarb »
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ผมว่าวะฮะบีไม่ได้บอกว่านั่งอยู่บนบัลลังค์หรอก

ครับผม น้องจงยึดมั่นหลักอะกีดะฮ์ตรงนี้เอาไว้ครับ ที่ว่าอัลเลาะฮ์ไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ แต่อัลเลาะฮ์ทรงอิสติวาอฺเหนือบัลลังก์แต่ความหมายอิสติวาอ์มีความหมายอย่างไรนั้น เรากลับมอบหมายไปยังอัลเลาะฮ์ครับ  loveit:

ผมเองก็ยึดถือทัศนะนี้อยู่ ให้น้ำหนักทัศนะนี้มากกว่าทัศนะที่ 2 ซึ่งมันก็ตรงกันละครับกับบังอัลฯ
แต่บังรู้มั้ยครับ ประเด็นมันก็คือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อว่าวะฮาบีก็มีอากีดะแบบเดียวกันนี้แหละ คือทำการ
มอบหมายความหมายที่แท้จริงไปยังพระองค์อัลลอฮ

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ดังนั้นบังอยากให้น้อง tksarb ยึดหลักอะกีดะฮ์นี้และจุดยืนนี้ให้จงมั่นครับ โดยเราจงมอบหมายความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา และน้องก็อยู่ในแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อย่างแท้จริง บัง(อัลอัซฮะรีย์)คนนี้ยอมรับน้องว่าเป็นอะฮ์ลิซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หนึ่งคนแหละครับ  loveit:  
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ความเห็นผมสำหรับคนต่างศาสนิกก็ตอบไปว่าเราศรัทธาตามที่พระเจ้าทรงบอกเรา และพระองค์จะเป็นอย่างไรเราก็ไม่สามารถจินตนาการได้
สมองมนุษย์คิดไม่ถึง ส่วนคนเอาวาม ผมว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะหยุดความคิดที่จะจินตนาการต่ออัลลอฮ เราก็ต้องขอความคุ้มครอง
จากอัลลอฮให้พ้นจากผู้กระซิบกระซาบเท่านั้น และก็ต้องรู้ไว้ในใจลึกๆด้วยว่าเราไม่สามารถจินตนาการอะไรถึงต่อพระองค์ได้ และควรจะมอบหมาย
ให้แก่อัลลอฮเมื่อเราสงสัย ผมคิดว่าการสอนตามแนวทางที่มอบหมายความรู้ต่ออัลลอฮนี้แก่คนเอาวาม เป็นการสอนที่ตรงกับที่ท่านนบี
สอนซอฮาบะด้วยซึ่งเป็นแบบฉบับที่ดีที่สุดอยู่แล้วในการให้คนเอาวามยึดถือตาม เราจะสอนหรือใช้วิธีใด ก็น่าจะใช้วิธีที่ดีที่สุด
ตามแบบฉบับของท่านนบีแก่คนเอาวามดีกว่าโดยไม่จำเป็นต้องไปคิดค้นวิธีการแบบใหม่เช่นการตีความไปเสนอให้แก่คนเอาวามเอง

ใช่ครับ อันดับแรกเราต้องมอบหมายการรู้ความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา คนเอาวามก็ควรยึดจุดยืนนี้  แต่ที่บังหมายถึงคือคนเอาวามบางคนที่มีจิตใจอ่อนแอ น้องต้องเข้าใจว่าคนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนละหมาดแล้วละหมาดไหม่เพราะจิตใจอ่อนแอวิสวัสว่าทำละหมาดไปกี่ร่อกะอัตแล้ว  บางคนอาบน้ำละหมาดเป็นครี่งชั่วโมงเพราะจิตใจอ่อนแอวิสวัสสงสัยไปเรื่อย ดังนั้นถ้าหากแก้ไม่หาย (เพราะไม่ไหวจะไปบอกและควบคุมเขา) ก็ให้ทำการตีความเพราะเหตุจำเป็นเนื่องจากสะลัฟบางส่วนก็ตีความ แต่หากไม่มีความจำเป็นอันใดก็ให้มอบหมายการรู้ความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลานั่นเองครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

ประการที่หนึ่ง : ฮุกุ่มไปเลยว่าอุลามาอ์สะละฟุศศอลิห์บางส่วนและปราชญ์ผู้มีคุณธรรมท่านอื่น ๆ ผิดพลาด  มีจุดยืนที่บิดอะฮ์  เพราะไปตีความตามทัศนะที่เราไม่เลือก

ประการที่สอง : เราไม่ไปกล่าวฮุกุ่มและกล่าวหาบิดอะฮ์ต่อสะละฟุศศอลิห์และปราชญ์ผู้มีคุณธรรมเหล่านั้น  แต่เราเพียงให้น้ำหนักว่า  การมอบหมายไปยังอัลเลาะฮ์ดีกว่าและปลอดภัยกว่าตามทัศนะที่กระผม(อัลอัซฮะรีย์)และน้อง tksarb เลือก

เราจะเอากันอย่างไรดีครับ  จะฟันธงไปเลยว่าทัศนะที่ 2 บิดอะฮ์ลุ่มหลง  หรือเพียงเราให้น้ำหนักว่าแนวทางที่ 1 ปลอดภัยกว่าโดยไม่ไปฮุกุ่มปราชญ์แนวทางที่ 2

ผมจะรอคำตอบจากน้อง tksarb ครับ  แล้วเราจะมาเสวนากันต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์  ก็ขออัลเลาะฮ์ทรงประทานทางนำแก่ผมและน้อง tksarb ครับยาร็อบ


ก็คงตอบว่าผมให้น้ำหนักทัศนะที่ 1 เพราะปลอดภัยกว่าและตรงกับสะละฟุศซอและที่สุด แต่คงไม่ถึงขนาดฮูกุ่มทัศนะที่ 2
ว่าเป็นบิดอะเพียงแต่คงต้องบอกว่าไม่ควรทำ เพราะการไปคิดมากเกินไปในเรื่องของอัลลอฮที่เราไม่รู้ก็มักจะโดนชัยตอน
กระซิบกระซาบอยู่เป็นอาชีพมันอยู่แล้ว และคงบอกว่าทัศนะที่ 1 ดีที่สุด
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก็คงตอบว่าผมให้น้ำหนักทัศนะที่ 1 เพราะปลอดภัยกว่าและตรงกับสะละฟุศซอและที่สุด แต่คงไม่ถึงขนาดฮูกุ่มทัศนะที่ 2
ว่าเป็นบิดอะเพียงแต่คงต้องบอกว่าไม่ควรทำ เพราะการไปคิดมากเกินไปในเรื่องของอัลลอฮที่เราไม่รู้ก็มักจะโดนชัยตอน
กระซิบกระซาบอยู่เป็นอาชีพมันอยู่แล้ว และคงบอกว่าทัศนะที่ 1 ดีที่สุด

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ครับ เพราะการมอบหมายนั้นปลอยภัยกว่า มั่นใจกว่า และเป็นทัศนะของสะละฟุศศอลิห์ส่วนมากอีกด้วย สรุปคือเราเข้าใจกันตรงกันนั่นเอง  mycool:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

 salam


เรียนถึงพี่น้องสมาชิกทุกท่านครับ กระทู้นี้ผมของสงวนในการโพสต์ระหว่างกระผมและน้อง tksarb เท่านั้นนะครับ เพื่อการเสวนาจะได้เป็นระเบียบและสร้างความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
วัสลามุอะลัยกุ้ม

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ความเห็นผมสำหรับคนต่างศาสนิกก็ตอบไปว่าเราศรัทธาตามที่พระเจ้าทรงบอกเรา และพระองค์จะเป็นอย่างไรเราก็ไม่สามารถจินตนาการได้
สมองมนุษย์คิดไม่ถึง ส่วนคนเอาวาม ผมว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะหยุดความคิดที่จะจินตนาการต่ออัลลอฮ เราก็ต้องขอความคุ้มครอง
จากอัลลอฮให้พ้นจากผู้กระซิบกระซาบเท่านั้น และก็ต้องรู้ไว้ในใจลึกๆด้วยว่าเราไม่สามารถจินตนาการอะไรถึงต่อพระองค์ได้ และควรจะมอบหมาย
ให้แก่อัลลอฮเมื่อเราสงสัย ผมคิดว่าการสอนตามแนวทางที่มอบหมายความรู้ต่ออัลลอฮนี้แก่คนเอาวาม เป็นการสอนที่ตรงกับที่ท่านนบี
สอนซอฮาบะด้วยซึ่งเป็นแบบฉบับที่ดีที่สุดอยู่แล้วในการให้คนเอาวามยึดถือตาม เราจะสอนหรือใช้วิธีใด ก็น่าจะใช้วิธีที่ดีที่สุด
ตามแบบฉบับของท่านนบีแก่คนเอาวามดีกว่าโดยไม่จำเป็นต้องไปคิดค้นวิธีการแบบใหม่เช่นการตีความไปเสนอให้แก่คนเอาวามเอง

ใช่ครับ อันดับแรกเราต้องมอบหมายการรู้ความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา คนเอาวามก็ควรยึดจุดยืนนี้  แต่ที่บังหมายถึงคือคนเอาวามบางคนที่มีจิตใจอ่อนแอ น้องต้องเข้าใจว่าคนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนละหมาดแล้วละหมาดไหม่เพราะจิตใจอ่อนแอวิสวัสว่าทำละหมาดไปกี่ร่อกะอัตแล้ว  บางคนอาบน้ำละหมาดเป็นครี่งชั่วโมงเพราะจิตใจอ่อนแอวิสวัสสงสัยไปเรื่อย ดังนั้นถ้าหากแก้ไม่หาย (เพราะไม่ไหวจะไปบอกและควบคุมเขา) ก็ให้ทำการตีความเพราะเหตุจำเป็นเนื่องจากสะลัฟบางส่วนก็ตีความ แต่หากไม่มีความจำเป็นอันใดก็ให้มอบหมายการรู้ความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลานั่นเองครับ

ไม่รู้ดิบัง ผมว่าการที่คนเอาวามจินตนาการคุณลักษณะของอัลลอฮให้คล้ายกับมัคลูกนั่นคือชัยตอนกำลังกระซิบกระซาบ
แต่ถ้าผู้รู้จะพยายามอธิบายความหมายมากเข้าให้แก่คนเอาวามเข้าไปอีก ผมว่าน่าจะสร้างความสงสัยให้คนเอาวามมากขึ้น
ที่ดีที่สุดน่าจะขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮแล้วมอบหมายความรู้ต่อพระองค์ เหมือนที่นบีแนะนำตามหะดีษนี้

มุสลิม/หมวดที่1/บทที่62/ฮะดีษเลขที่ 0244

أَنَّ أَبَا هُرَيْرَةَ، قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ يَأْتِي الشَّيْطَانُ أَحَدَكُمْ فَيَقُولُ مَنْ خَلَقَ كَذَا وَكَذَا حَتَّى يَقُولَ لَهُ مَنْ خَلَقَ رَبَّكَ فَإِذَا بَلَغَ ذَلِكَ فَلْيَسْتَعِذْ بِاللَّهِ وَلْيَنْتَهِ ‏"‏ 


                         แท้จริงอบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ซัยตอนจะมาหาพวกเจ้าแล้วกระซิบว่า ผู้ใดสร้างสิ่งนั้นสิ่งนี้มา จนกระทั่งมันจะกระซิบถามเขาว่า ผู้ใดสร้างองค์อภิบาลของเจ้ามา ดังนั้นเมื่อพวกเจ้าประสบกับภาวะเช่นนี้ก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ แล้วเลิกคิดตามซัยตอน” 

การสอนให้คนเอาวามมอบหมายต่ออัลลอฮ ผมว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันตัวเขาเองจากมารร้ายและข้อสงสัยใดๆ
ซึ่งอินชาอัลลอฮน่าจะได้ผลบุญจากอัลลอฮด้วย เพราะเป็นการปฏิบัติตามซุนนะของท่านนบี นี่เป็นทัศนะผม บังคิดว่าไง
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมว่าวะฮะบีไม่ได้บอกว่านั่งอยู่บนบัลลังค์หรอก

ครับผม น้องจงยึดมั่นหลักอะกีดะฮ์ตรงนี้เอาไว้ครับ ที่ว่าอัลเลาะฮ์ไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ แต่อัลเลาะฮ์ทรงอิสติวาอฺเหนือบัลลังก์แต่ความหมายอิสติวาอ์มีความหมายอย่างไรนั้น เรากลับมอบหมายไปยังอัลเลาะฮ์ครับ  loveit:

ผมเองก็ยึดถือทัศนะนี้อยู่ ให้น้ำหนักทัศนะนี้มากกว่าทัศนะที่ 2 ซึ่งมันก็ตรงกันละครับกับบังอัลฯ
แต่บังรู้มั้ยครับ ประเด็นมันก็คือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อว่าวะฮาบีก็มีอากีดะแบบเดียวกันนี้แหละ คือทำการ
มอบหมายความหมายที่แท้จริงไปยังพระองค์อัลลอฮ

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ดังนั้นบังอยากให้น้อง tksarb ยึดหลักอะกีดะฮ์นี้และจุดยืนนี้ให้จงมั่นครับ โดยเราจงมอบหมายความหมายที่แท้จริงไปยังอัลเลาะฮ์ตะอาลา และน้องก็อยู่ในแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อย่างแท้จริง บัง(อัลอัซฮะรีย์)คนนี้ยอมรับน้องว่าเป็นอะฮ์ลิซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หนึ่งคนแหละครับ  loveit:  


งั้นผมว่าไม่น่าจะไปโจมตีเรื่องอากีดะของวะฮาบีนะ เพราะมันน่าจะเป็นเรื่องโอละพ่อมากกว่าครับ  อากีดะก็อากีดะเดียวกัน
ไม่ต้องไปโจมตีให้เสียเวลา จะได้ไม่สร้างความแตกแยกด้วย ส่วนเรื่องประเด็นฟิกฮก็ว่ากันไปครับ จะจัดโต้จัดอะไรก็ดีเหมือนกันครับ
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ tksarb

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ก็คงตอบว่าผมให้น้ำหนักทัศนะที่ 1 เพราะปลอดภัยกว่าและตรงกับสะละฟุศซอและที่สุด แต่คงไม่ถึงขนาดฮูกุ่มทัศนะที่ 2
ว่าเป็นบิดอะเพียงแต่คงต้องบอกว่าไม่ควรทำ เพราะการไปคิดมากเกินไปในเรื่องของอัลลอฮที่เราไม่รู้ก็มักจะโดนชัยตอน
กระซิบกระซาบอยู่เป็นอาชีพมันอยู่แล้ว และคงบอกว่าทัศนะที่ 1 ดีที่สุด

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ครับ เพราะการมอบหมายนั้นปลอยภัยกว่า มั่นใจกว่า และเป็นทัศนะของสะละฟุศศอลิห์ส่วนมากอีกด้วย สรุปคือเราเข้าใจกันตรงกันนั่นเอง  mycool:

 mycool:
ใช่ครับ
เย่อหยิ่ง ทะนงตน โอ้อวดต่อผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็น คิดว่าตนเองแจ๋วกว่าผู้อื่น ชอบตำหนิมุสลิม ทั้งหมดนี้เป็นซีฟัตของใครหว่า คุ้นๆ ?

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การสอนให้คนเอาวามมอบหมายต่ออัลลอฮ ผมว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันตัวเขาเองจากมารร้ายและข้อสงสัยใดๆ
ซึ่งอินชาอัลลอฮน่าจะได้ผลบุญจากอัลลอฮด้วย เพราะเป็นการปฏิบัติตามซุนนะของท่านนบี นี่เป็นทัศนะผม บังคิดว่าไง

เห็นด้วยครับ เราก็ต้องพยายามสอนเขาให้เข้าใจครับ และมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์ หากบุคคลใดที่จินตนาการผุดขึ้นมา ก็ต้องกล่าวอะอูซุบิลลาฮ์เพื่อขอความคุ้มครองจากอัลเลาะฮ์ แม้ขนาดบังเองก็บังเคยคิดผุดขึ้นมาเลย  ;D ก็กล่าวอะอูซุบิลลาฮ์ จนบางทีกล่าวในใจว่า "ไอ้ชัยฏอนแก่อย่ามาล่อลวงฉัน" ;D
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ กระทู้ก็รู้สึกว่าจะเข้าใจกันดีแล้ว กระทู้นี้ยาวพอสมควรแล้ว ผมก็ขอปิดกระทู้เพื่อให้พี่น้องได้ศึกษาจุดยืนที่เราได้นำเสนอกันครับ หวังว่าพี่น้องจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ครับ อัลฮัมดุลลิลลาฮ์อีกครับ ขออัลเลาะฮ์ทรงชี้นำกระผมและน้อง tksarb ผู้ร่วมเสวนด้วย ยาร็อบ

วัสลามุอะลัยกุ้มครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged