بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ผู้หายสาปสูญคือ "บุคคลหนึ่งที่หายสาปสูญโดยไม่รู้ถึงสถานที่อยู่ , การมีชีวิตอยู่ , หรือการเสียชีวิตของเขา ครอบครัวของเขามีความพยายามที่จะสืบหา โดยที่ข่าวคราวและร่องรอยของเขาได้ขาดหายและซ่อนเร้นต่อพวกเขา" ดู หนังสือ มุฆนีย์ อัลมั๊วะหฺตาจญ์ เล่ม 3 หน้า 398
เมื่อมีหลักฐานมายืนยันว่าผู้หายสาปสูญได้เสียชีวิตแล้ว ก็ให้พิจารณาว่าเขาเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าเขาได้เสียชีวิต ก็สามารถแบ่งประเด็นการหายสาปสูญนี้ ออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่หนึ่ง ผู้ใดสาปสูญที่ไม่คาดการณ์ว่าเขาได้เสียชีวิต เช่นการได้ออกเดินทางทำการค้าขาย หรือท่องเที่ยวในผืนแผ่นดิน และอื่น ๆ ดังนั้น กรณีนี้ จึงไม่ถูกตัดสินว่าเขาได้เสียชีวิตโดยมติของปวงปราชญ์ ตราบใดที่ระยะเวลาการสาปสูญไม่นานจนเกินไปจนทำให้คาดการณ์ว่าเขาอาจจะเสียชีวิตแล้ว ซึ่งระยะเวลาที่ยาวนานดังกล่าวนี้ บรรดานักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลาม มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาดังกล่าว บางทัศนะกำหนด 120 ปี นับตั้งแต่เวลาที่เกิด , บางทัศนะกำหนด 100 ปี , บางทัศนะกำหนด 90 ปี , บางทัศนะ 80 ปี , และนักปราชญ์บางส่วนกำหนดระยะเวลา 70 ปี เนื่องจากเป็นช่วงอายุไขของประชาชาตินี้ (ดู หนังสือ อัลมับซูฏ ของท่านซะร๊อคซีย์ เล่ม 30 หน้า 54 , หนังสือ อัลบะห์อัรรออิค ของท่านอิบนุนุญัยม์ เล่ม 5 หน้า 277 )
เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
أعمار أمتى ما بين الستين إلي السبعين
"บรรดาอายุไขประชาชาติของฉัน คือ ระหว่าง 60 ถึง 70 ปี" รายงานโดย ท่านอัตติรมีซีย์ , ท่านอิบนุมาญะฮ์ และท่านอื่น ๆ จากอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ดู หนังสือ กัชฟุลค่อฟาอ์ เล่ม 1 หน้า 131 ของท่านอัลอัจญ์ลูนีย์ ตีพิมพ์ ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์
ส่วนมัซฮับชาฟิอียะฮ์ มีทัศนะว่า กรณีนี้ต้องมอบหมายกับฮากิมเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งอนุญาตให้ฮากิมทำการตัดสินว่าเขาเสียชีวิตได้ ต่อเมื่อระยะเวลาที่ผ่านไปนั้น คาดการณ์ว่าผู้สาปสูญคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว และทัศนะนี้ ก็เป็นทัศนะที่ถูกเลือกเฟ้นของมัซฮับหะนะฟียะฮ์และมาลิกียะฮ์เช่นกัน เนื่องจากพวกเขามีหลักนิติศาสตร์ที่ว่า
أن الأصل حياة المفقود
"หลักเดิมแล้ว คือผู้สาปสูญยังคงมีชีวิตอยู่"
ดังนั้น หากการกำหนดว่าผู้สาปสูญเสียชีวิตนั้น ต้องได้รับการยืนยันที่แน่นอน ซึ่งหากไม่มีความแน่นอน ก็จำเป็นต้องหยุดการตัดสินไว้ก่อน (ดู หนังสืออัลมุฆนีย์ ของท่านอิบนุกุดามะฮ์ เล่ม 8 หน้า 207 , หนังสือเราเฏาะฮ์อัตตอลิบีน ของท่านอิมามอันนะวาวีย์ เล่ม 5 หน้า 35 , และหนังสือ อัซซะคีเราะฮ์ ของท่านอัลก่อรอฟีย์ เล่ม 13 หน้า 22)
ประเภทที่สอง ผู้สูญหายที่คาดการณ์ว่าเขาคงเสียชีวิตแล้ว เช่นเขาได้ออกไปละหมาดญะมาอะฮ์ หลังจากนั้นเขาไม่กลับมาหาครอบครัวของเขาอีกเลย หรือสูญหายในขณะที่มีการรบกันระหว่างสองฝ่าย หรือเขาได้ขี่เรือและนั่งเครื่องบิน เรือแตกและเครื่องบินตกโดยที่มีผู้คนบางส่วนรอดชีวิตมาได้ หรือเขาได้สูญหายโดยเกิดเหตุโรคระบาดในเมืองที่เขาได้อาศัยอยู่
ประเภทนี้ นักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลามมีทัศนะที่แตกต่างกัน
1. นักปราชญ์ส่วนมาก มีทัศนะว่า หลักการของประเภทนี้ ก็เหมือนกับประเภทแรกในเรื่องของการกำหนดระยะเวลาที่สามารถตัดสินว่าผู้สูญหายได้เสียชีวิตแล้ว
2. มัซฮับอัลหัมบาลีย์ มีทัศนะว่า หากคาดการณ์ว่าผู้สาปสูญได้เสียชีวิต ก็จะไม่ถูกตัดสินว่าเขาเสียชีวิตนอกจากให้พ้นระยะเวลา 4 ปีเสียก่อน ( ดู หนังสืออัลมุฆนีย์ ของท่านอิบนุกุดามะฮ์ เล่ม 8 หน้า 205 - 206)
والله أعلى وأعلم