ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^  (อ่าน 42970 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #120 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2009, 02:40 PM »
0
บารี ละไม รีสอร์ท  หาดสวนสน ระยองครับ
ไม่ไกลจาก กทม มาก


             / มือใหม่ หัดโพสต์รูปครับ   ;D














ถ่ายรูปไม่เก่งเหมือน ท่านราเยส นะครับ 

 loveit:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 21, 2009, 03:14 PM โดย oo JawhaR oo »
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #121 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2009, 03:11 PM »
0
Amari emerald cove resort, หาดคลองพร้าว เกาะช้าง จ.ตราดครับ


















I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #122 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2009, 03:29 PM »
0
เราก็นึกว่า oo JawhaR oo  ไปฮันนีมูนซะอีก :laugh:
ดูภาพทะเลแล้ว เหมือนจะมีลมทะเลพัดมาใกล้ๆ

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #123 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2009, 03:55 PM »
0
 myGreat: yippy: party:

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #124 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2009, 04:36 PM »
0
เราก็นึกว่า oo JawhaR oo  ไปฮันนีมูนซะอีก :laugh:
ดูภาพทะเลแล้ว เหมือนจะมีลมทะเลพัดมาใกล้ๆ


ไปกันหมดบ้าน  ผมพลอยเขาไปนะ    ;D
นั่งรถเบียดกันแน่นเอี๊ยด......

I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #126 เมื่อ: ธ.ค. 23, 2009, 11:56 PM »
0
Amari emerald cove resort, หาดคลองพร้าว เกาะช้าง จ.ตราดครับ






เงาดำๆบนต้นมะพร้าวในรูปข้างบนนั้น
ใช่ลิงหรือเปล่าท่านอัญมณี...อิอิ

แต่ก็แอบมองแล้วเห็นว่ามะพร้าวแต่ละต้นจะไม่มีลูกมะพร้าวให้ลิงปีนงิ... ;D
สงสัยเขาจะกลัวส้มหล่น เอ๊ย มะพร้าวหล่นใส่หัวนักท่องเที่ยวแหงมๆ...
ต้นมะพร้าวเลยยืนโด่โด่อย่างอ้างว้าง ไร้ลูกหลานเยี่ยงนี้ เหอๆ boulay:

ปล. ดูภาพแล้ว...คิดถึงทะเลที่บ้านเรา คิดถึงหมอนใบเก่าที่เคยหนุนนอน
เค็มน้ำทะเลเรื่องราวครั้งก่อน  เค็มน้ำใจคนยากจะบรรยาย...
คิดถึงใบยางที่ร่วงโรย ป่านนี้ฝนคงโปรยดับลมร้อนหาย
ความหมายดีๆอยู่ไกลไหมเล่า ความรักยืนยาวมีอยู่ที่ไหน...ที่ใด...

ห่างไปไกลสุดแคว้น เขตแดนที่เคยได้อยู่
หาดทรายคงจะรู้ ทะเลระทมเพียงใด
จากไปด้วยใจเสาะหา กลับมาด้วยความภูมิใจ
ทะเลแสนงามน้ำใส จะกลับไป เพราะคิดถึงบ้านนนนนนนนนนน...

hehe

ไปนอนดีกว่า... ;D




 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #127 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 02:42 PM »
0
 salam
เขื่อนซานเสียต้าป้า เขื่อนสามหุบเขา หรือ เขื่อนสามผา (จีนตัวย่อ: 长江三峡大坝; จีนตัวเต็ม: 長江三峽大壩; พินอิน: Chángjiāng Sānxiá Dà Bà; อังกฤษ: Three Gorges Dam) เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พ.ศ. 2550) ของประเทศจีน ลักษณะของเขื่อนเป็นแบบเขื่อนคอนกรีตถ่วงน้ำหนัก (Concrete gravity dam) กั้นขวางแม่น้ำแยงซี ปัจจุบันเขื่อนซานเสียต้าป้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

เขื่อนซานเสียต้าป้า เป็นเขื่อนแรกของจีนที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเต็มในภาษาอังกฤษของโครงการก่อสร้างเขื่อนนี้ คือ “Three Gorges multipurpose water control project” มีประวัติการก่อสร้างยาวนาน ตั้งแต่สมัย ดร.ซุน ยัตเซ็น ในปี พ.ศ. 2462 และเริ่มศึกษาโครงการฯ เมื่อปี พ.ศ. 2473 สภาประชาชน ลงมติให้ก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2535 ในสมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง

วัตถุประสงค์ของการก่อสร้างเขื่อน ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลักและป้องกันน้ำท่วม ซึ่งในขณะที่สร้างเขื่อนนั้น มีผู้อพยพจากน้ำท่วมบริเวณโดยรอบมีถึงประมาณ 1.35 ล้านคน

ลักษณะของเขื่อน

ชนิดของเขื่อน: คอนกรีตถ่วงน้ำหนัก (Concrete gravity dam)
ความสูงเขื่อน 185 เมตร
ความกว้างสันเขื่อน 115 เมตร
ความยาวสันเขื่อน 2,335 เมตร
ความยาวสันระบายน้ำล้น 483 เมตร
อาคารระบายน้ำล้น ระบายได้สูงสุด 1.16 แสน ลบ.ม.ต่อวินาที
ท่อระบายน้ำล้นขนาด 7x9 เมตร จำนวน 23 ท่อ
พื้นที่รับน้ำ กว่า 1 ล้าน ตารางกิโลเมตร
ประตูเรือสัญจรกว้าง 34 เมตร
ประตูเรือสัญจรยาว 280 เมตร
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 26 เครื่อง
ความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้า 1,820 kw/ชั่วโมง







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 24, 2009, 02:44 PM โดย เหรียญ 2 ด้าน »
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #128 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 05:34 AM »
0
ตะวันขึ้นที่ภูเรือ จังหวัดเลย





พันธุ์ไม้งามอร่ามภูเรือ









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2009, 02:43 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #129 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 10:37 AM »
0
ภูเรือ มันส่วนไหนของสยามประเทศหรือ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #130 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 05:13 PM »
0
 salam

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ดินแดนที่มีความหนาวเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว อุทยานฯภูเรือตั้งอยู่ใน อ.ภูเรือ เป็นภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายเรือสำเภาลำใหญ่ อากาศบนภูเรือจะหนาวเย็นตลอดปี

ช่วงที่หมอกลงนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตามจุดชมวิวริมหน้าผา ซึ่งมีอยู่หลายจุด ในฤดูหนาวบางช่วงที่อากาศหนาวจัด ภูเรือได้เกิดปรากฏการณ์ "แม่คะนิ้ง"

ซึ่งเกิดจากการที่น้ำค้างบนยอดหญ้าจับตัวกันจนเป็นน้ำแข็ง

http://www.amphoe-phurua.com/uttayan_s/uttayan.php

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #131 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 05:30 PM »
0
ที่อุทยานแห่งชาตินี้ อากาศดีมาก นอกเขตอุทยานก็มีอากาศเย็นในฤดูอื่นและอากาศหนาวในฤดูหนาว แต่บางเวลาก็ร้อนเอาเรื่อง

ทุก ๆ ปีจะมีกาศจัดงานแสดงพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่อำเภอภูเรือ ชื่อเทศกาลอะไรจำไม่ได้ ช่วงที่แวะไปเยี่ยมมานี้ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดงาน

มีไม้ดอก ไม้ประดับและผลไม้เมืองหนาวมาตั้งโชว์บ้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีไร่เอกชนที่ผลิตดอกไม้ เมล็ดพันธุ์ไม้ดอก และเมล็ดพันธุ์พืชสวนจำหน่าย

ที่มองเห็นจัดแสดงอยู่ก็คือ ไม้ดอก มะเขือเทศ ฟักทองยักษ์ ลุกหนึ่งเป็นสิบกิโลกรัม น้ำเต้ายักษ์ พริกที่ดกมาก ๆ ฯลฯ

















ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #132 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 05:51 PM »
0
ห่างจากอำเภอภูเรือประมาณ 70 กิโลเมตร มีสถานที่ท่องเที่ยว เรียกว่า แก่งคุดคู้ อยู่ในเขตอำเภอเชียงคาน 

แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กม. ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมาก

จากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน ไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่าน

ไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม

ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน รอบ ๆ บริเวณที่ชมแก่งมีสินค้าจำหน่ายที่ขึ้นชื่อ คือ ผ้านวมผ้าฝ้าย คิดราคาตามน้ำหนักฝ้ายเป็นกิโลกรัม

ถ้าจำไม่ผิด ผ้านวมผ้าฝ้ายหนัก 2 กิโลกรัม ราคา 490 บาท และมะพร้าวแก้ว นั่งผลิตกันอยู่บริเวณที่ขายนั้นเอง ที่แก่งคุดคู้ก็มีการจัดดอกไม้สวยงามไว้เหมือนกัน






ออกจากแก่งคุดคู้ แวะละหมาดที่มัสญิด ดารุลมุตตะกีน ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 3 หมู่ 10 ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองฯ จังหวัดหนองคาย

มีป้ายขนาดใหญ่เห็นได้ชัดจากถนนมิตรภาพ ถ้าไปจากกรุงเทพฯตามถนนมิตรภาพอยู่ก่อนถึงหนองคายประมาณ 10 กิโลเมตร

ส่วนร้านอาหาร อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมัสญิด ออกจากมัสญิดแล้วต้องเดินทางเข้าเมืองไปจนถึงหน้า สนง.ประมงจังหวัด ร้าน "บังอาดัม" อยู่ตรงข้ามสำนักงานประมง



ท่องเที่ยวประสาคนไทย พออิ่มท้องดีก็เดินชอปปิ้งที่ตลาดอินโดจีน เพื่อลดน้ำหนักกระเป๋า

พรุ่งนี้จะพาเที่ยวลาว ขอเข้าที่พักก่อน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2009, 05:54 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #133 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2009, 12:55 AM »
0
 salam

รายงานสด แต่ไม่ real time

เช้า (27 ธค.) หลังจากละหมาดศุบหิ กลุ่มทัวร์แวะไปกินอาหารเช้าที่ร้าน บังอาดัม ตรงข้าม สนง.ประมงจังหวัดหนองคาย (เอ่ยชื่อร้านบ่อย ๆ เผื่อใครมาหนองคายจะได้มีที่กินข้าว)

ความจริงตอนนี้มีร้านอาหารเพิ่มขึ้นอีกร้านหนึ่ง จำชื่อร้านไม่ได้ แต่เจ้าของร้านคือ กะด๊ะ จากสายบุรี อยู่คนละฝั่งกับร้านบังอาดัม และอยู่ใกล้ตัวเมืองมากกว่า ยังไม่เคยลองชิม

กินอาหารเสร็จต้องสั่งข้าวห่อเข้าไปใน สปป.ลาว ด้วย ทราบว่าที่เวียงจันทน์ก็มีร้านอาหารอิสลาม แต่ สไตล์อินเดีย กลิ่นเครื่องเทศแรง หัวหน้าทัวร์เคยมาลองแล้ว ไม่ถูกปากคนไทย

จากร้านอาหารไปที่บริษัททัวร์ฝั่งไทย ไกด์ฝั่งไทยแจ้งว่า กลุ่มทัวร์นี้ไม่เน้นเรื่องวัดเหมือนทัวร์กลุ่มอื่น จึงจะพาไปดูสถานที่ทางศาสนา 2 แห่ง เพื่อทำความรู้จัก ไม่ต้องเข้าไปแวะชมก็ได้

เวลาส่วนใหญ่จะเป็น ทัวร์เพื่อการช็อปปิ้ง เรื่องการช็อปนี้ ไกด์แนะนำว่า เหล้าและบุหรี่ซื้อได้จำนวนจำกัด จนลูกทัวร์ต้องบอกว่า ทัวร์กลุ่มนี้ไม่สนใจสินค้าประเภทนี้หรอก

นั่งรถบัสฝั่งไทยไปที่เชิงสะพานเพื่อจัดการเรื่องเอกสารผ่านแดน(ถ้าไม่ค้างคืน ใช้สำเนาบัตรประชาชน + เงิน 100 บาท ทำ border pass ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง บริษัททัวร์ดำเนินการให้)

นำรถจากฝั่งไทย ข้ามสะพานไปลาว (รูปสะพานนี้ นำมาจากเวบอื่น ไม่ได้ถ่ายเอง)


สะพานยาว 1.2 กิโลเมตร ข้ามโขงไปถึงฝั่งลาวแล้ว รถบัสไทยต้องไปจอดในที่ที่กำหนด ผ่านขั้นตอนการผ่านแดน ขึ้นรสบัสลาว ญี่ห้อ ฮุนได มุ่งสู่เวียงจันทน์ (22 กิโลเมตร)


ระหว่างรอขั้นตอนการข้ามแดน ลองหัดอ่านภาษาลาวดู ดูแล้วก็อ่านไม่ยากสักเท่าไหร่


บนรถไกด์ลาวชื่อ นางสอน (คนลาวไม่มีเด็กหญิง ไม่มีนางสาว มีแต่นาง ผู้ชายก็ไม่มีเด็กชาย มีแต่ท้าว) แนะนำตัวแล้วบรรยายเรื่องเมืองลาว แทรกด้วย dirty joke

ได้รับเสียงหัวเราะแบบเขิน ๆ เพราะ กลุ่มทัวร์เป็นผู้หญิงกว่าครึ่งและ สว.เยอะ เช่น เล่าว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินไทย 1 บาท แลกได้ 250 กีบ ในเวลากลางวัน

ส่วนกลางคืน 1,000 บาท แลกได้ 2 กลีบ หรือเล่าว่า เมืองไทยใช้รถไถ ไถนา แต่ที่ลาวใช้ควายไถนา เพราะควายลาวแข็งกว่าควายไทย คำว่าควายนั้น คนลาวเขาออกเสียงเหมือนอวัยวะเพศชายชัดเปรี๊ยะ

เอาไว้ต่อพรุ่งนี้เช้าหลังศุบหิ ง่วงแล้ว วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: บันทึกการเดินทาง...ที่นี่เอเชีย ^^
« ตอบกลับ #134 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2009, 06:55 AM »
0
 salam

สบายดียามเช้า

แห่งท่องเที่ยวแห่งแรก ไม่ใช่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่เป็นบริษัทร่วมหุ้นระหว่างเอกชนจีนกับรัฐบาลลาว

ผลิตยาจีนแผนโบราณ เพิ่งเปิดบริษัทได้ 3 เดือน (ต้อนรับซีเกมส์) มีหมอจีนและsale representative ชาวจีนกับชาวลาว คอยบริการ

เดินเข้าไปในบริษัทมีสาวลาวเอาครีมขาว ๆ ป้ายบริเวณแก้มหรือขมับ

เข้าไปนั่งในห้องประชุมขนาดเล็กแล้ว มีคนจีนบรรยายเป็นภาษาไทย(เอาไว้ต้อนตือเซียมโดยเฉพาะ)พูดถึงสรรพคุณยาจีนต่าง ๆ เช่น

ครีมบัวหิมะพันปี รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกทาแก้ปวดขมับ แก้สารพัดโรค ทาเมียหายผัว ทาผัวหายเมีย ยาบำรุงรักษาไต

ยาฟื้นฟูพลังทางเพศ (คงจะแข่งกับไวอากร้า) คล้าย ๆ ตงกัตอาลี ของมาเลเซีย ฯลฯ และยังมีหมอแมะ(หมอวินิจฉัยโรคด้วยการจับชีพจร)มาช่วย แมะ

และวินิจฉัยโรคให้ ครั้งแรกบอกว่าจะพักดูกิจการสัก 15 นาที ปรากฏว่าเสียเวลาที่นี่เกือบชั่วโมง และอุดหนุนสินค้าบริษัทนี้ไปหลายล้านกีบ

ยาที่ขายดีคือ ครีมบัวหิมะพันปี ราคาปกติ 1,250 บาท ลดพิเศษเฉพาะกลุ่มทัวร์นี้ กระปุกละ 1,000 บาท(250,000กีบ) มีจำนวนจำกัดเพียง 15 กระปุก

ถ้าใครจะซื้อกระปุกที่ 16 จำเป็นต้องขายราคาเต็ม กลุ่มทัวร์เลยแย่งกันซื้อ กลัวจะต้องซื้อกระปุกที่ 16 บังคนหนึ่ง ซื้อยาจากบริษัทนี้หมดเงินไปหมื่นกว่าบาท

หรือประมาณ 2,500,000 กีบ หนึ่งในจำนวนยาที่ซื้อก็คือ ยาเพิ่มพลัง หมอจีนบอกว่า เคยได้ทำงานสัปดาห์ละครั้ง กิน 10 วัน ทำงานได้วันละ 4 ครั้ง  :o

จากร้านขายยา บริษัททัวร์ลาวพาไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางศาสนาของตัวเมือง บอกลูกทัวร์ ว่า ไปเยี่ยมชมเฉย ๆ ให้รู้จัก ไม่ต้องเข้าไปก็ได้ ลูกทัวร์ซึ่งเป็นมุสลิม

ทุกคน ยกเว้นภรรยาคนขับรถบัสฝั่งไทย ก็ตามกันเข้าไป ถ่ายรูปบ้าง ซื้อขนมกินบ้าง(ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม ข่าวโพดปิ้งจนเปลือกไหม้เกรียม สับปะรด ไอศกรีม)


ที่เห็นอยู่ เรียกว่า พระธาตุหลวง สร้างครอบพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าเอาไว้ ส่วนวัดนั้นจำชื่อไม่ได้ มัวแต่กินถั่วต้มอยู่ตอนไกด์บรรยาย

ไกด์พูดด้วยความภูมิใจว่า ประสาทที่ครอบบนหลังคาโบสถ์มูลค่า 11 ล้านบาท หลวงพ่อคูณของไทยบริจาค


ได้เวลาไปทำงานแล้ว ไว้มาต่อตอนเย็น วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 07, 2010, 08:12 PM โดย Bangmud »

 

GoogleTagged