salam
สบายดียามเช้า
แห่งท่องเที่ยวแห่งแรก ไม่ใช่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่เป็นบริษัทร่วมหุ้นระหว่างเอกชนจีนกับรัฐบาลลาว
ผลิตยาจีนแผนโบราณ เพิ่งเปิดบริษัทได้ 3 เดือน (ต้อนรับซีเกมส์) มีหมอจีนและsale representative ชาวจีนกับชาวลาว คอยบริการ
เดินเข้าไปในบริษัทมีสาวลาวเอาครีมขาว ๆ ป้ายบริเวณแก้มหรือขมับ
เข้าไปนั่งในห้องประชุมขนาดเล็กแล้ว มีคนจีนบรรยายเป็นภาษาไทย(เอาไว้ต้อนตือเซียมโดยเฉพาะ)พูดถึงสรรพคุณยาจีนต่าง ๆ เช่น
ครีมบัวหิมะพันปี รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกทาแก้ปวดขมับ แก้สารพัดโรค ทาเมียหายผัว ทาผัวหายเมีย ยาบำรุงรักษาไต
ยาฟื้นฟูพลังทางเพศ (คงจะแข่งกับไวอากร้า) คล้าย ๆ ตงกัตอาลี ของมาเลเซีย ฯลฯ และยังมีหมอแมะ(หมอวินิจฉัยโรคด้วยการจับชีพจร)มาช่วย แมะ
และวินิจฉัยโรคให้ ครั้งแรกบอกว่าจะพักดูกิจการสัก 15 นาที ปรากฏว่าเสียเวลาที่นี่เกือบชั่วโมง และอุดหนุนสินค้าบริษัทนี้ไปหลายล้านกีบ
ยาที่ขายดีคือ ครีมบัวหิมะพันปี ราคาปกติ 1,250 บาท ลดพิเศษเฉพาะกลุ่มทัวร์นี้ กระปุกละ 1,000 บาท(250,000กีบ) มีจำนวนจำกัดเพียง 15 กระปุก
ถ้าใครจะซื้อกระปุกที่ 16 จำเป็นต้องขายราคาเต็ม กลุ่มทัวร์เลยแย่งกันซื้อ กลัวจะต้องซื้อกระปุกที่ 16 บังคนหนึ่ง ซื้อยาจากบริษัทนี้หมดเงินไปหมื่นกว่าบาท
หรือประมาณ 2,500,000 กีบ หนึ่งในจำนวนยาที่ซื้อก็คือ ยาเพิ่มพลัง หมอจีนบอกว่า เคยได้ทำ
งานสัปดาห์ละครั้ง กิน 10 วัน ทำ
งานได้วันละ 4 ครั้ง

จากร้านขายยา บริษัททัวร์ลาวพาไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางศาสนาของตัวเมือง บอกลูกทัวร์ ว่า ไปเยี่ยมชมเฉย ๆ ให้รู้จัก ไม่ต้องเข้าไปก็ได้ ลูกทัวร์ซึ่งเป็นมุสลิม
ทุกคน ยกเว้นภรรยาคนขับรถบัสฝั่งไทย ก็ตามกันเข้าไป ถ่ายรูปบ้าง ซื้อขนมกินบ้าง(ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม ข่าวโพดปิ้งจนเปลือกไหม้เกรียม สับปะรด ไอศกรีม)
ที่เห็นอยู่ เรียกว่า พระธาตุหลวง สร้างครอบพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าเอาไว้ ส่วนวัดนั้นจำชื่อไม่ได้ มัวแต่กินถั่วต้มอยู่ตอนไกด์บรรยาย
ไกด์พูดด้วยความภูมิใจว่า ประสาทที่ครอบบนหลังคาโบสถ์มูลค่า 11 ล้านบาท หลวงพ่อคูณของไทยบริจาค
ได้เวลาไปทำงานแล้ว ไว้มาต่อตอนเย็น วัสสลาม