สลาม ผมมีเรื่องจะถามดังนี้ครับคือว่า
พวกเรามาจากปัตตานีทำค่ายที่ภูเก็ต ซึ่งทั้งสองห่างกันประมาณ 400 กว่า กม. เราสามารถละหมาดญะเมาะและกอซัรได้ใช่ไหม?
ต่อมา พวกเรานียะฮ์ว่าจะอยู่ที่ภูเก็ตเกิน 3 วัน ดังนั้น เมื่อถึงสถานที่ทำค่าย เราจะญะเมากกอซัรไม่ได้แล้วใช่ไหม?
ต่อมา วันสุดท้าย เราจะไปเที่ยวเกาะกัน ซึ่งห่างจากที่ๆ เราอยู่ (ที่ค่าย) ไม่ถึงพิกัดระยะทางที่จะทำญะเมาะกอซัรได้ แต่มีรุ่นพี่ผมคนหนึ่งบอกว่า สามารถญะเมาะได้ เพราะคืนนี้เราจะกลับปัตตานีกันแล้วประมาณตีหนึ่ง (แต่ตอนไปเที่ยวนั้น เราออกเดินทางตั้งแต่ 9-10โมงเช้าด้วยซ้ำ และกลับมาถึงที่ค่ายก่อนมัฆริบนิดหน่อย) ด้วยข้ออ้างนี้ รุ่นพี่คนนี้บอกว่า ดังนั้น เราก็อยู่ในสภาพคนมุซาฟิรแล้ว ผมก็แย้งว่า ไม่ได้ เพราะตอนนี้ เรายังอยู่ที่ภูเก็ต เราจะกลับจริงๆ ตีหนึ่งคืนนี้ จะญะเมาะได้ก็อีชาอ์นู้น ไม่ทราบว่าผม หรือรุ่นพี่ที่ตอบถูกครับ
ต่อมา รุ่นพี่คนนี้ก็อ้างหลักฎอรูเราะฮ์อีก เพื่อที่จะให้มีการละหมาดญะเมาะให้ได้ พี่เค้าให้เหตุผลว่า เพราะสถานที่ที่จะไปเป็นเกาะ มัสญิดไม่มี พี่ไปมาแล้ว แล้วเราจะละหมาดที่ไหน, ผมก็บอกว่า ละหมาดที่ปั้มดิ พี่ก็แย้งว่า เขาจะให้หรอ, ผมก็ถามว่า แล้วมุสลิมมีไหมหละที่นั่น, เค้าว่ามี แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะให้หรือเปล่า ผมก็แย้ทันทีว่า ไม่ได้ ญะเมาะไม่ได้ ถึงแม้มุสลิมคนนั้นไม่ให้ก็ตาม จากนั้นรุ่นพี่ก็แย้งอีกว่า งั้นเราอาจจะเที่ยวไม่เต็มที่ เพราะมัวแต่หาที่ละหมาด มันลำบากนะ จากนั้นแกก็อ้างหลักกออิดะฮ์ที่ว่า
ความยากลำบากย่อมนำมาซึ่งความง่ายดาย ผมก็แย้งว่า แล้วเราลำบากตรงไหนหรือ ลูกทัวร์ทั้งหมดเป็นมุสลิม เราตกลงกันได้ เรื่องละหมาดไม่ใช่เรื่องเล็ก (หรือเราเห็นการเที่ยวสำคัญกว่า) และอีกอย่าง หากจะอ้างหลักกออิดะฮ์ข้างต้น ก็ต่อเมื่อ มีลูกทัวร์ปะปนทั้งมุสลิมและกาฟิร แน่นอน การจะละหมาดทีละเวลาย่อมสร้างความลำบากทั้งแก่เราและพวกนั้น เราอาจจะใช้หลักนี้ได้ และอีกอย่าง ที่เกาะก็มีมุสลิม หากเขาไม่ให้ที่ละหมาด เราก็ละหมาดที่ปั้ม หรือที่ชายหาดได้ และระยะทางที่จะไปก็ไม่ถึง 50 กม.เมตร สรุปก็คือ ผมบอกว่า ญะเมาะไม่ได้ ไม่ทราบว่าสิ่งที่ผมบอกไปนั้น ถูกต้องไหมครับ ผมมั่นใจว่าถูกต้องแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจไปอีก จึงนำมาถามที่นี่อีกครั้ง