salam
ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ

เท้าน้ันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆค่ะ...ทุกครั้งที่ออกไปไหน
ก็ต้องสวมรองเท้าเสมอ
แต่เวลาที่ให้เท้าของเราได้สัมผัสกับผืนหญ้าในช่วงเช้าตรู่
ที่เต็มไปด้วยน้ำค้าง โดยถอดรองเท้าออกแล้วค่อยๆย่างลงบน
ผืนหญ้าด้วยเท้าเปล่าเบาๆ...ความรู้สึกที่ได้เกินบรรยายเลยค่ะ...

เคยมีครั้งหนึ่งตอนเด็กๆ...โดนเพื่อนท้าให้เดินลุยดงหนามไมยราพ(ชื่อต้นไม้)
ซึ่งเมื่อก่อนเป็นคนที่ท้าไม่ได้เสียด้วย เลยบ้าชี้รับคำท้าไป ทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ต้นที่ว่า
มีแต่หนามแหลมคม แต่ด้วยศักดิ์ศรีค้ำคอเลยต้องถอดรองเท้าเดินลุยดงไมยราพ
ตามคำท้า(ระหว่างนั้นก็คิดในใจ....ไม่น่าเลยเรา)
แต่ก็พยายามมองหาจังหวะที่ไม่มีหนาม
แล้วค่อยๆย่างเบาๆ ไม่ทิ้งน้ำหนักค่ะ พอได้ที่ก็ย่ำลงไปเต็มฝ่าเท้า...
ต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวเลยค่ะตอนนั้น เพราะกลัวหนามตำเท้า...
แล้วก็ดันทำได้เสียด้วยในตอนนั้น เดินจากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่ง
โดยที่หนามทำอะไรเท้าไม่ได้เลยค่ะ....
วันนั้นจึงวิ่งกลับมาบ้านบอกพ่อด้วยความดีใจ ว่าตนค้นพบวิธีเดินบนต้นไมยราพได้
ด้วยเท้าเปล่าโดยไม่เป็นอะไร ไม่โดนหนามตำแม้แต่นิดเดียวแล้ว...
พ่อก็ถามว่าทำยังไง ก็เลยลองทำให้ดูค่ะ...และก็จะกลับไปทำแบบนั้นแทบทุกวันค่ะ
ปรากฏว่าสิ่งที่ได้คือทำให้เราเดินเบาลง จากที่เมื่อก่อนวิ่งขึ้นลงบนบ้าน
เพราะเป็นบ้านสองชั้นทำด้วยไม้ แม่จะดุตลอดว่าลูกผู้หญิงไม่ควรเดินหรือวิ่งเสียงดัง
มันไม่ดี ก็บอกแม่ไปว่า ไม่เห็นเป็นไรเลยแม่ นี่ก็บ้านเรา ก็เลยวิ่งลงบันไดมา
ปรากฏว่าข้างล่างมีแขกนั่งอยู่ ตอนนั้นทำหน้าไม่ถูกเลยค่ะ...
นี่แหล่ะค่ะ อีกหนึ่งหน้าที่ของเท้าเรา ที่ทำให้เราขายหน้าก็ได้
เชิดหน้าชูตาก็ได้...แล้วแต่เจ้าของของมันจะควบคุมจังหวะและทิศทางอย่างไร
ปล.ตอนเดินบนหนามไมยราพนั้น เท้าโด่โด่ไม่ได้ด้านนะคะ

คิดว่านุ่มนะ เพราะยังเด็กอยู่ค่ะ...
แต่ตอนนี้ได้สูตรดีๆจากก๊ะแล้ว จะลองเอาไปทำดูค่ะ
เพราะมันไม่ค่อยจะนุ่มเสียแล้ว...

ขอบคุณค่ะ
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^_____________^
