ผู้เขียน หัวข้อ: วิภาษบทความ อ.ปราโมทย์ วิเคราะห์สายรายงานของท่านอิบนุอุมัรและมัซฮับอิมามอะห์มัด  (อ่าน 6446 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com


بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

เมื่อผมได้อ่านบทความวิภาษของ อ.ปราโมทย์แล้ว มีเนื้อหาเยอะมาก จะทำการวิภาษทีเดียวเลยคงไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลา ผมจึงคิดว่าน่าจะทยอยแยกประเด็นวิภาษลงกระทู้ไปเรื่อย ๆ และให้พี่น้องช่วยกันร่วมเสวนา ดังนั้นหากผมได้ทยอยประเด็นวิภาษทั้งหมดแล้ว ก็จะทำการเรียบเรียงอีกครั้งหนึ่ง

อนึ่ง การวิภาษต่อไปนี้ ผมจะคัดเอาแต่เนื้อ ๆ ที่เป็นใจความสำคัญนะครับ

وبالله التوفيق

อัลอัซฮะรีย์

อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

ดังนั้น คำกล่าวของ อ.อัซฮะรีย์ตอนหนึ่งที่ว่า.. “ เหล่าสานุศิษย์ของท่านอิมามอะห์มัดที่ได้บันทึกมัซฮับของท่าน ย่อมรู้ยิ่งกว่าบรรดาผู้รายงานที่ไม่ใช่สานุศิษย์อิมามอะห์มัด” ..  แสดงว่า อ.อัชอะรีย์ไม่รู้ ก.ข. เลยว่า ท่านอบูดาวูดและท่านอิบนุฮานิอ์ ก็เป็นศิษย์ของท่านอิหม่ามอะห์มัด! ..และเป็นศิษย์ระดับใกล้ชิดที่ “เหนือชั้น” กว่าท่านอะลีย์ บินมูซา อัล-หัดดาด และท่านอุษมาน บินอะห์มัด อัล-มูศิลีย์ หลายเท่านัก ...

ด้วยเหตุนี้ รายงานการ “คืนคำ” ของท่านอิหม่ามอะห์มัดในกรณีนี้ จึงไม่เป็นที่ยอมรับของบรรดานักวิชาการที่เป็น “สานุศิษย์ส่วนมากที่ใกล้ชิดกับท่านอิหม่ามอะห์มัดจริงๆ” .. นอกจากท่านอัล-ค็อลลาลและนักวิชาการ “ยุคหลัง” ของมัษฮับหัมบะลีย์เท่านั้น ดังข้อมูลที่กำลังจะถึงต่อไป ...

วิภาษ

ผมคิดว่า อ.ปราโมทย์ไม่รู้เกี่ยวกับการให้น้ำหนักในมัซฮับฮัมบาลีเสียมากกว่า  ปัญหาสำคัญของ อ.ปราโมทย์ คือเข้าใจคำพูดของกระผมแบบสรุปเข้าข้างตนเองแบบผิด ๆ แล้วทำการวิภาษตามประพจน์ที่ตนเองได้ตั้งขึ้น  ดังบทกวีอาหรับที่ได้กล่าวว่า “เท่าไหร่แล้วผู้ที่ทำการตำหนิคำพูดที่ถูกต้อง แต่โรคของเขานั้นมีความเข้าใจที่เลว”

อ.ปราโมทย์กล่าวอ้างอิงและเสริมแต่งบิดเบือนคำพูดของผมว่า "เหล่าสานุศิษย์ของท่านอิมามอะห์มัดที่ได้บันทึกมัซฮับของท่าน ย่อมรู้ยิ่งกว่าบรรดาผู้รายงานที่ไม่ใช่สานุศิษย์อิมามอะห์มัด" ทั้งที่ความจริงแล้วผมได้กล่าวจุดยืนไปว่า "ดังนั้น เหล่าปราชญ์ผู้ปราดเปรื่องแห่งมัซฮับอิมามอะห์มัด ย่อมรู้ถึงแนวทางของท่านอิมามอะห์มัดยิ่งกว่าผู้อื่น" ความหมายต่างกันกันลิบลับ ซึ่งผมต้องมาเหนื่อยกับการตรวจทานการสรุปคำพูดของ อ.ปราโมทย์ ที่มีต่อกระผม เพราะยังมีอีกหลายจุดจากบทวิภาษของ อ.ปราโมทย์ ที่ชอบฟังแบบไม่ได้ศัพท์ เพื่อหาช่วงทางในการเขียนวิภาษโดยสมมติหรือสรุปคำพูดของกระผมแบบเข้าข้างตนเอง

อ.ปราโมทย์ครับ ท่านเข้าใจคำว่า "เหล่าปราชญ์ผู้ปราดเปรื่องแห่งมัซฮับอะห์มัด" ไหมครับ ปราชญฺแห่งมัซฮับฮัมบาลีที่เป็นมุจญฺตะฮิดฟัตวาและให้น้ำหนักคำพูดต่าง ๆ ที่เหล่าศานุศิษย์ได้รายงานมาจากอิมามอะห์มัด เช่น ท่านอิมามมุวัฟฟิกุดดีน อิบนุกุดามะฮ์ อัลมุก็อดดิซีย์และท่านมัจญฺดุดดีน อับดุสสลาม อัลฮัรรอนีย์ เป็นต้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีที่รู้ถึงมัซฮับอิมามอะห์มัดที่มีน้ำหนักยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้อยู่ในมัซฮับอิมามอะห์มัดหรือรู้ดียิ่งกว่าผู้ที่ไม่ยึดมัซฮับนั่นเอง

ดังนั้นเมื่อเราต้องการวิเคราะห์คำพูดของอิมามอะห์มัดที่มีการรายงานแตกต่างกัน  เราก็ต้องกลับดูหลักการวิเคราะห์และให้น้ำหนักของปราชญ์มุจญฺตะฮิดฟัตวาหรือปราชญ์ที่สามารถชั่งหรือให้น้ำหนักคำพูดของอิมามอะห์มัดได้  เช่น มัซฮับฮัมบาลีนั้นเมื่อมีการขัดแย้งกันก็ให้ยึดท่านอิมามมุวัฟฟิกุดดีน อิบนุกุดามะฮ์ อัลมุก็อดดิซีย์ หลังจากนั้นก็ท่านมัจญฺดุดดีน อับดุสสลาม อัลฮัรรอนีย์ ซึ่งเหมือนกับมัซฮับชาฟิอีย์ที่ให้ยึดอิมามอันนะวาวีย์ก่อนอิมามอัรรอฟิอีย์ เป็นต้น

ผมรู้เข้าใจว่า อ.ปราโมทย์ พยายามเทียบระหว่างศิษย์ของท่านอะห์มัดยุคแรกกับศิษย์ของท่านอะห์มัดยุคหลัง  แล้วให้น้ำหนักว่าศิษย์ยุคแรกย่อมมีน้ำหนักมากกว่าศิษย์ยุคหลัง  ซึ่งเมื่อกระผมได้พิจารณาใคร่ครวญดูแล้ว  ปรากฏว่าเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักน้อยมากและไม่ตรงกับที่ปราชญ์มัซฮับระดับมัจญฺตะฮิดฟัตวาได้ให้น้ำหนักเอาไว้

ผมอยากให้ข้อสังเกตุดังนี้ครับ  การรายงานคำพูดของอิมามอะห์มัดของศิษย์ยุคแรกกับการรายงานของศิษย์ยุคหลังนั้น  มันคนละเหตุการณ์กัน  เนื่องจากสำนวนการรายงานระหว่างศิษย์ทั้งสองยุคนี้  มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ซึ่งสามารถทำให้เราเข้าใจได้ว่า  ในช่วงแรกนั้นท่านอะห์มัดมีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นบิดอะฮ์  ในช่วงต่อมาท่านอะห์มัดก็ยังยืนกรานทัศนะเดิมว่ามันเป็นบิดอะฮ์  จนกระทั่งท่านมุฮัมมัด บิน กุดามะฮ์ อัลเมาซีลีย์ ได้ท้วงติงและเสนอรายงานถึงท่านอิบนุอุมัร  ท่านอะห์มัดจึงยกเลิกทัศนะเดิมของท่านที่กล่าวว่า“การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นบิดอะฮ์”

การถ่ายทอดทัศนะของท่านอิมามอะห์มัด ที่กล่าวว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นบิดอะฮ์

ท่านอบูดาวูด ได้บันทึกไว้ในหนังสือ “مَسَائِلُ اْلإِمَامِ أَحْمَدَ ِلأَبِىْ دَاوُدَ”  หน้า 158 ว่า ...

سَمِعْتُ أَحْمَدَ سُئِلَ عَنِ الْقِرَاءَةِ عِنْدَ الْقُبُوْرِ؟  فَقَالَ : لاَ ! ... 

“ฉันได้ยินอิหม่ามอะห์มัด  ถูกถามถึงเรื่องการอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ?  แล้วท่านกล่าวตอบว่า .. “ไม่ได้” ...

ท่านอับดุลลอฮ์ บุตร อิมามอะห์มัด ได้กล่าวเช่นกันว่า
 
 سَأَلْتُ اَبِيْ عَنِ الرَّجُلِ يَحْمِلُ مَعَهُ الْمُصْحَفَ اِلَى الْقَبْرِ يَقْرَأُ عَلَيْهِ قَالَ هَذِهِ بِدْعَةٌ قُلْتُ لَأَبِيْ وَاِنْ كَانَ يَحْفَظُ الْقُرْآنَ يَقْرَأُ قَالَ لاَ يَجِيْءُ وَيُسَلِّمُ وَيَدْعُوْ وَيَنْصَرِفُ
   
"ฉันได้ถามบิดา(คืออิมามอะห์มัด) จากเรื่องผู้ชายคนหนึ่งได้ถืออัลกุรอานติดไปพร้อมกับเขายังกุบูร  โดยทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  บิดากล่าวว่า  การอ่านนี้เป็นบิดอะฮ์(มักโระฮ์)  ฉันถามบิดาว่า  ถ้าหากว่าเขาท่องจำอัลกุรอานแล้วอ่าน(ที่กุบูร)ล่ะ?  บิดาตอบว่า  ไม่(ได้) แต่เขาไปที่กุบูร  , ทำการให้สลาม , ขอดุอา , แล้วก็ออกจากกุบูร" มะซาอิลอิมามอะห์มัด ของอับดุลลอฮ์ บิน อะห์มัด 1/145

เราจะพบว่าสำนวนของสานุศิษย์อิมามอะห์มัดรุ่นแรกนั้น ได้ถามอิมามอะห์มัดเกี่ยวกับเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  ซึ่งเป็นการรายงานที่เชื่อได้แต่เป็นรายงานทัศนะแรกของอิมามอะห์มัด  และท่านอับดุลลอฮ์ บุตร ของอิมามอะห์มัด เองก็ได้รายงานทัศนะแรกเอาไว้ด้วยเช่นกัน 

ศิษย์ของอิมามอะห์มัดที่รายงานทัศนะที่สองของท่านมีดังนี้

ท่านอับดุลลอฮ์ บุตร อิมามอะห์มัดเองได้กล่าวว่า

سَمِعْتُ اَبِيْ سُئِلَ عَنْ رَجُلٍ يَقْرَأُ عَنْدَ القَبْرِ عَلَى الْمَيِّتِ قَالَ أَرْجُوْ اَنْ لاَ يَكُوْنَ بِهِ بَأْسٌ

“ได้เล่าแก่เราว่า อับดุลเลาะฮ์ บุตร อิมามอะห์มัด ได้กล่าวว่า ฉันเคยได้ยินบิดาของฉันถูกถามเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่อ่านอัลกุรอานแก่มัยยิดที่กุบูร  ท่านกล่าวว่า  การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรแก่มัยยิดไม่เป็นไร” มะซาอิลอิมามอะห์มัด ของอับดุลลอฮ์ บิน อะห์มัด 1/145

ท่านอัลค็อลล้าล ได้กล่าวว่า

أَنَّ أَحْمَدَ نَهَى ضَرِيْراً أَنْ يَقْرَأَ عَنْدَ القَبْرِ، وَقَالَ لَهُ : إِنَّ القِرَاءةَ عِنْدَ القَبْرِ بِدْعَةٌ ، فَقَالَ لَهُ مُحَمَّدٌ بْنُ قُدَامَةَ الجَوْهَرِىُّ : يَا أَبَا عَبْدَ اللهِ مَا تَقُوْلُ فِى مُبَشِّرٍ الْحَلَبِىِّ ؟ قَالَ : ثِقَةٌ ، قَالَ : فَأَخْبَرَنِى مُبَشِّرٌ ، عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ العَلاَءِ بْنِ اللجَلاَجِ، عَنْ أَبِيْهِ : أَنَّهُ أَوْصَى إِذَا دُفِنَ أَنْ يَقْرَأَ عَنْدَهُ بِفَاتِحَةِ البَقَرَةِ وَخاَتِمَتَهاَ، وَقَالَ : سَمِعْتُ ابْنَ عُمَرَ يَوْصِى بِذَلِكَ ، فَقَالَ لَهُ أَحْمَدُ : فَارْجِعْ وَقُلْ لِلرَّجُلِ يَقْرَأُ

"แท้จริง  ท่านอะหฺมัด ได้ห้ามชายตาบอด ทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  โดยที่ท่านอะหฺมัดกล่าวแก่เขาว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้นเป็นบิดอะฮ์  ดังนั้น มุหัมมัด บิน กุดามะฮ์ อัลเญาฮะรีย์ กล่าวกับท่านอะหฺมัดว่า  โอ้ อบูอับดุลเลาะฮ์ (คือท่านอิมามอะหฺมัด) ท่านจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับท่านมุบัชชิร อัลหะละบีย์ ? ท่านอะหฺมัดกล่าวว่า  เขานั้นเชื่อถือได้  มุหัมมัด บิน กุดามะฮ์กล่าวว่า  ท่านมุบัชชิรได้เล่าให้ฉันฟังโดยเอามา   จากท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺ  จากบิดาของเขาว่า  แท้จริง บิดาของเขาได้ทำการสั่งเสียว่า  เมื่อเขาได้ถูกฝังไปแล้ว  ก็ให้ทำการอ่านช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์  และช่วงท้ายของมันที่สุสารของเขา  และบิดาของเขากล่าวว่า  ฉันได้ยินท่านอิบนุอุมัรได้ทำการสั่งเสียเรื่องดังกล่าวไว้  ดังนั้น ท่านอิมามอะหฺมัดจึงกล่าวแก่เขาว่า  ท่านจงกลับไปบอกชาย(ตาบอด)ผู้นั้น  ให้ทำการอ่านอัลกุรอาน(ที่กุบูร)ได้"

สายรายงานนี้ท่าน อัลค๊อลลาล ได้รายงานการคืนคำฟัตวาของท่านอิมามอะห์มัดไว้ในหนังสือ อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 125 - 126 จากท่านอะหฺมัด ความว่า

أَخْبَرَنَا أَبُوْ بَكْرٍ بْنُ صَدَقَة قَالَ : سَمِعْتُ عُثْمَانَ بْنَ أَحْمَدَ بْنِ إِبْرَاهِيْمَ الْمَوْصِلِىَّ قَالَ : كَانَ أَبُوْ عَبْدِ اللهِ أَحْمَدُ بْنُ حَنْبَل فِىْ جَنَازَةٍ وَمَعَهُ مُحَمَّدُ بْنُ قُدَامَة...فذكره

" ท่านอบูบักร บิน ซ่อดะเกาะฮ์ได้บอกให้เราทราบ  เขากล่าวว่า  ฉันได้ยินอุษมาน บิน อะหฺมัด บิน อิบรอฮีม อัลเมาซิลีย์  กล่าวว่า  อบูอับดุลเลาะฮ์ คือ ท่านอะห์มัด บิน หัมบัลพร้อมด้วยท่านมุฮัมมัด บิน กุดามะฮ์  แล้วเขาก็ได้ไปร่วมงานฝังศพของชายคนหนึ่ง .....(กล่าวรายงานเหมือนกับที่กล่าวมาแล้ว)" หนังสือ อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 125 – 126

ท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์ศิษย์ของท่านอิมามอะห์มัดได้กล่าวว่า

سَمِعْتُ أَحْمَدَ بْنَ حَنْبَل يَقُوْلُ: إِذَا دَخَلْتُمْ الْمَقَابِرَ فَاقْرَءُوْا آيَةَ الْكُرْسِيِّ وَقُلْ هُوَ اللهُ أَحَدٌ ثَلاَثَ مَرَّاتٍ، ثُمَّ قُوْلُوْا: اللَّهُمْ اجْعَلْ فَضْلَهُ لِأَهْلِ الْمَقَابِرِ

“เมื่อพวกท่านได้เข้าไปที่บรรดากุบูร  พวกท่านจงอ่านอายะฮ์กุรซีย์ , กุลฮุวัลลอฮุอะฮัด 3 ครั้ง  หลังจากนั้นฉันได้ยินท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า พวกท่านจงกล่าวว่า โอ้ข้าแด่ผู้อภิบาล  ความประเสริฐของมันให้มอบแด่ชาวกุบูรด้วยเถิด” หนังสืออัลมักซ็อด อัลอัรชัด ฟี อัศฮาบ อิมามอะห์มัด หมวดท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์ ของท่านอิบมุฟลิห์

จากการนำเสนอรายงานสองทัศนะของอิมามอะห์มัดนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอับดุลลอฮ์ บุตร อิมามอะห์มัดเอง ก็ได้ทำการรายงานถึงสองทัศนะที่เชื่อถือได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าท่านอิมามอะห์มัดเคยมีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้นเป็นบิดอะฮ์(มักโระฮ์) แต่หลังจากนั้นท่านอิมาอะห์มัดได้คืนคำโดยมีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรไม่เป็นไร เพราะถ้าหากว่าอิมามอะห์มัดทัศนะการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นบิดอะฮ์เพียงทัศนะเดียวโดยไม่เคยคืนคำฟัตวา  แน่นอนว่าท่านอับดุลลอฮ์ บุตร อิมามอะห์มัด ย่อมไม่รายงานทัศนะของอิหม่ามอะห์มัดที่บอกว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรไม่เป็นไร! โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีศิษย์ท่านอื่น ๆ ของอิมามอะห์มัได้รายงานการคืนคำของท่านตรงกับสายรายงานของท่านอับดุลลอฮ์ บุตร อิมามอะห์มัด ซึ่งบ่งชี้ว่าอิมามอะห์มัดได้คืนคำจริง ส่วนการรายงานของศิษย์รุ่นแรกของอิมามอะห์มัดนั้น ถือว่าเป็นทัศนะแรกซึ่งกรณีนี้ไม่มีการขัดแย้งกันแน่นอน

แม้ท่านอะบูดาวูดและท่านอิบนุฮานิอฺศิษย์รุ่นแรก ต้องไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นภายหลัง  พวกเขาจึงไม่หยิบยกรายงานคืนคำนี้มาบันทึกไว้ในตำราของพวกเขา  ดังนั้นการที่ อ.ปราโมทย์ พยายามให้น้ำหนักทัศนะของตนเองโดยเทียบรุ่นระหว่างศิษย์นั้นถือว่าไร้น้ำหนัก  เพราะที่มีน้ำหนักแล้วนั้น  คือการรายงานทัศนะของอิมามอะห์มัดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังของบรรดาสานุศิษย์รุ่นหลังนี้มายกเลิกการรายงานทัศนะแรกของอิมามอะห์มัดที่รายงานโดยศิษย์รุ่นแรกนั่นเอง

แม้ว่า อ.ปราโมทย์พยายามที่จะวิจารณ์สายรายงานของอัลค็อลล้าล  ท่านอุษมาน บิน อะห์มัด อัลเมาซิลีย์  ว่าไม่ปรากฏมีชื่ออยู่ในตำราบันทึกประวัติผู้รายงานหะดีษเล่มใดเช่นเดียวกันแม้ว่าจะเป็นศิษย์ของท่านอะห์มัดก็ตาม แต่กระผมก็มีอีกสายรายงานหนึ่งมายืนยันและสนับสนุนคือการรายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ บุตร ของท่านอิมามอะห์มัดเองว่า ท่านอะห์มัดนั้นได้คืนคำและมีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรแก่มัยยิดนั้นไม่เป็นไร

คำว่า “ไม่เป็นไร” ของท่านอิมามอะห์มัดนั้น  เป็นสำนวนคำพูดที่อนุญาตให้กระทำได้ตามทัศนะของท่านเมื่อมีซอฮาบะฮ์ท่านหนึ่งได้เคยกระทำมัน  เช่น

ท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์ ศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งของอิมามอะห์มัดผู้ทำการอาบน้ำศพให้แก่อิมามอะห์มัดเอง ได้ท่านว่า

سَأَلْتُ أَبَا عَبْدِ اللهِ عَنْ قُبْلَةِ اليَدِ فَقَالَ : إِنْ كَانَ عَليَ طَرِيْقِ التَّدَيُّنِ فَلاَ بَأْسَ ، قَدْ قَبَّلَ أَبُوْ عُبَيْدَةَ يَدَ عُمَرَ بْنِ الخَّطَّابِ ، وَإِنْ كَانَ عَنْ طَرِيْقِ الدُّنْيَا فَلاَ

"ท่านได้ถามอะบูอับดิลลาฮ์(อิมามอะห์มัด)จากเรื่องการจูบมือ  ท่านตอบว่า  หากการจูบมือบนหนทางการศาสนา(เช่นให้เกียรติแก่ผู้รู้หรือผู้มีคุณธรรม) ถือว่าไม่เป็นไร  แท้จริงอะบูอุบัยดะฮ์ได้เคยจูบมือของท่านอุมัร บุตร อัลค็อบฏ็อบ , และถ้าหากว่าจูบมือบนหนทางของดุนยา(เช่นจูบมือเพื่อเอาใจกษัตริย์ผู้ปกครองหรือผู้นำ) ถือว่าไม่ได้” หนังสืออัลวะเราะอฺ ของท่านอัลมัรรุวะซีย์ หน้า 157-158

ท่านอิบนุกุดามะฮ์ อัลมุก็อดดิซีย์ ได้กล่าวว่า

وَلاَ بَأْسَ باِلقِرَاءَةِ عِنْدَ الْقَبْرِ. وَقَدْ رُوِيَ عَنْ أَحْمَدَ أَنَّهُ قَالَ إِذَا دَخَلْتُمُ المَقَابِرَ اِقْرَؤُوْا آيَةَ الْكُرْسِيِّ وَثَلَاثَ مَرَّاتٍ قُلْ هُوَ اللهُ أَحَدٌ الإخلاص.. ثُمَّ قُوْلُوْا اللَّهُمَّ إِنْ فَضْلَهُ لِأَهْلِ المَقَابِرِ

"ถือว่า ไม่เป็นไร  ด้วยการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  เพราะได้ถูกรายงาน(โดยอะบูบักร อัลมัรรูซีย์) จากท่านอิมามอะห์มัดว่า  เมื่อพวกท่านได้เข้าไปที่บรรดากุบุร  ก็จงอ่านอายะฮ์กุรซีย์และอ่านกุลฮุวัลลอฮ์สามจบ...หลังจากนั้นพวกท่านจง กล่าวว่า  โอ้ข้าแด่ผู้อภิบาล  ความประเสริฐของมันให้มอบแด่ชาวกุบูรด้วยเถิด" หนังสืออัลมุฆนีย์ 2/224 และ หนังสืออัลอินซ็อฟ 2/534

ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่นักปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ในฐานะปราชญ์มุจญฺตะฮิดฟัตวาแห่งมัซฮับฮัมบาลีย์ที่ทำการกลั่นกรองทุกกระบวนการแล้วได้กล่าวยืนยันว่ามัซฮับที่ถูกต้องที่สุดของอิมามอะห์มัดนั้น คืออ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้นกระทำได้โดยไม่มักโระฮ์แต่ประการใด

ท่าน อัลมัรดาวีย์  ได้กล่าวระบุไว้ในหนังสือ  อัลอินซอฟ ความว่า

وَلاَ تُكْرَهُ القِراَءَةُ عَليَ القَبْرِ فِيْ أَصَحِّ الرِّواَيَتَيْنِ . وَهَذاَ المَذْهَبُ قَالَهُ فِي الفُرُوْعِ ، وَنَصَّ عَلَيْهِ ، قَالَ الشّارِحُ : هَذَا المَشْهُوْرُ عَنْ أَحْمَدَ

 "การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรไม่เป็นมักโระฮ์  ตามในสายรายงานที่ชัดเจนที่สุด(ซึ่งมาจากอิมามอะหฺมัด) และ นี้ก็คือ มัซฮับ(ของอิมามอะห์มัด)  ที่(ท่านอิบนุมุฟลิหฺ) ได้กล่าวไว้ใน หนังสืออัลฟุรั๊วะอ์ และท่านอะห์มัดได้กล่าวระบุมันไว้  , อัชชาเรี๊ยะห์(คือท่านชัมชุดดีน อะบีอุมัร อัลมุก็อดดิซีย์)ได้กล่าวว่า นี้คือคำกล่าวที่เลื่องลือจากอิมามอะหฺมัด" หนังสืออัลอินซ็อฟ 2/532

ท่าน อิบนุมุฟลิหฺ  กล่าวไว้ในหนังสือ  อัลมุบเดี๊ยะอ์  ชัรหฺ อัลมุกเนี๊ยะอ์ ว่า

وَلاَ تُكْرَهُ القِراَءَةُ عَليَ القَبْرِ وَفِي المَقْبَرَةِ فِيْ أَصَحِّ الرِّواَيَتَيْنِ ، هَذَا المَذْهَبُ

" การอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  ไม่เป็นมักโระฮ์  ตามสองสายรายงานที่จัดเจนที่สุดที่รายงานจากท่านอิมามอะหฺมัด และ นี้ก็คือ มัซฮับ(ของอิมามอะหฺมัด)"  ดู เล่ม 2 หน้า 281

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 31, 2009, 01:06 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

คำกล่าวของ อ.อัซฮะรีย์ที่ว่า ..

“เป็นที่ทราบดีว่า อับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอ์ มิได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในพวกบรรดานักรายงานที่ฎออีฟ ..... แต่ อ.ปราโมทย์พยายามทำให้อับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอ์ฎออีฟให้ได้ โดยนำไปอยู่ในจำพวก مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ ...

ก็ขอชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ...

คำกล่าวที่ว่า ผมนำท่านอับดุรฺเราะห์มานไปอยู่ในกลุ่มของمَجْهُوْلُ الْعَيْنِ  ผมก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า .. แม้แต่คำนิยาม مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ  ที่ อ.อัซฮะรีย์นำมาอ้างเอง  ก็บ่งชี้ชัดเจนว่า ท่านอัลดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอ์ เป็นบุคคล مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ แน่นอน ...ก็อยากจะรู้ว่า อ.อัซฮะรีย์จะเอาอะไรมาค้านผมอีกในประเด็นนี้ ? ...

วิภาษ

ดังที่ผมได้บอกไปแล้วข้างต้นว่า  ปัญหาสำคัญของ อ.ปราโมทย์ คือเข้าใจคำพูดของกระผมแบบสรุปเข้าข้างตนเองแบบผิด ๆ แล้วทำการวิภาษตามประพจน์ที่ตนเองได้ตั้งขึ้น  ดังบทกวีอาหรับที่ได้กล่าวว่า “เท่าไหร่แล้วผู้ที่ทำการตำหนิคำพูดที่ถูกต้อง แต่โรคของเขานั้นมีความเข้าใจที่เลว”

เพราะผมเคยพูดไปว่า "เป็นที่ทราบดีว่า  อับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺ  มิได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในตำราที่กล่าวเกี่ยวกับบรรดานักรายงานที่ฎออีฟ  เพราะเขามิได้ถูกตำหนิวิจารณ์พร้อมกับไม่ได้ถูกชมเชยเลย  นอกจากท่านอิบนุฮิบานได้รับรองความเชื่อถือตามแนวทางของท่าน  แต่ อ.ปราโมทย์  พยายามทำให้ อับดุรเราะฮ์ บิน อัลอะลาอฺ  ฎออีฟให้ได้  โดยนำไปอยู่ในจำพวก(مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) ผู้ที่ไม่มีใครรู้จัก!"

ที่ผมได้เคยชี้แจงไปนั้น ผมไม่เคยปฏิเสธว่า ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺ เป็นนักรายงานที่อยู่ใน (مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) "นักรายงานที่ถูกเอ่ยนามแต่ไม่มีใครรายงานจากเขานอกจากคนเดียวเท่านั้น  ซึ่งเขาอยู่สภาพที่ไม่ถูกวิจารณ์และไม่ได้ถูกระบุการชมเชย" ส่วนการที่จะแปลว่า "ไม่ใครรูจัก" นั้นถือว่า อ.ปราโมทย์เคยให้ศัพท์ที่ยังไม่รัดกุม อ.ปราโมทย์แอบอ้างคำพูดผมที่ว่า "“เป็นที่ทราบดีว่า อับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอ์ มิได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในพวกบรรดานักรายงานที่ฎออีฟ" แต่ความจริงผมพูดว่า "เป็นที่ทราบดีว่า  อับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺ  มิได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในตำราที่กล่าวเกี่ยวกับบรรดานักรายงานที่ฎออีฟ  เพราะเขามิได้ถูกตำหนิวิจารณ์พร้อมกับไม่ได้ถูกชมเชยเลย" และนี่คือปัญหาหนึ่งของ อ.ปราโมทย์ ครับ  ผมอยากถาม อ.ปราโมทย์ว่า ผมพูดผิดหรือที่บอกว่า "ท่านอับดุรเราะห์มานไม่ได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในบรรดาตำราที่เกี่ยวกับบรรดานักรายงานที่ฏออีฟ ที่รู้จักในนาม كِتَابُ الضُّعَفَاءِ กิตาบุฏฏุอะฟาอฺ" แล้วผมพูดผิดหรือที่บอกว่า "ท่านอับดุรเราะห์มานไม่ได้ถูกชมเชยและถูกตำหนิ"?! ดังนั้นปัญหาสำคัญของ อ.ปราโมทย์ก็คือไม่เข้าใจถ้อยความนั่นเองครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

ส่วนประเด็นผู้ที่กล่าวหาท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอฺว่า “เฎาะอีฟ” นั้น .. อ.อัซฮะรีย์แน่ใจหรือว่า เป็นผม ?? ...
ไม่เชื่อให้ อ.อัซฮะรีย์ลองไปเปิดหนังสือ “ตักรีบ อัต-ตะฮ์ซีบ” ดูก็ได้ ... ท่านอิบนุหะญัรฺได้กล่าวในการสรุปประวัติท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอ์เพียงสั้นๆในหนังสือ “อัต-ตักรีบ”  เล่มที่ 1 หน้า 494 ว่า .. مَقْبُوْلٌ (ยอมรับได้) ...แต่ไม่มีสายรายงานอื่นมาให้สอดคล้องเขาจึงเป็นนักรายงานที่อ่อนด้วย...และในการรายงานของท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินอัล-อะลาอฺ เรื่องท่านอิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. สั่งเสียให้อ่านตอนต้นและตอนปลายซูเราะฮ์อัล-บะกอเราะฮ์ทางด้านศีรษะของท่านหลังจากฝังเสร็จ ก็ไม่มีผู้ใดที่เป็น مُتَابِعٌ .. คือรายงานมาให้สอดคล้องกับท่านอับดุรฺเราะห์มานในเรื่องนี้แม้แต่คนเดียว ...เพราะฉะนั้น ขอเตือน อ.อัซฮะรีย์ว่า ทีหน้าทีหลังก่อนจะกล่าวหาอะไรผมพล่อยๆ ก็ควรจะตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนเสียก่อนจะดีกว่า ...

อ.ปราโมทย์กล่าวอีกว่า

ข้อนี้แสดงว่า “ตัวตน” ของเขาเป็นที่รู้จัก แต่ที่ไม่รู้อย่างเดียวก็คือ “สถานภาพ” ของเขาว่า เชื่อถือได้หรือไม่? .. มีคุณธรรมหรือไม่ ? ...ดังนั้นผู้ที่ถูกกล่าวว่า مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ จึงมีคุณสมบัติ “ด้อย” กว่าผู้ที่ถูกกล่าวว่า مَجْهُوْلُ الْحَالِ ในทัศนะนักวิชาการหะดีษบางท่าน ...
ท่านอิหม่ามนะวะวีย์ ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า ...“อนึ่ง บุคคลที่เป็น مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ นั้น นักวิชาการบางคนจะไม่ยอมรับ(การรายงานของ)เขา ขณะที่พวกเขายอมรับ(การรายงานของ)ผู้ที่เป็น  مَجْهُوْلُ الْعَدَالَةِ...

ท่านอัส-สะยูฏีย์ได้กล่าวรับรองทัศนะข้างต้นนี้ว่า ...

    وَرَدُّهُ هُوَ الصَّحِيْحُ الَّذِىْ عَلَيْهِ أَكْثَرُ الْعُلَمَاءِ مِنْ أَهْلِ الْحَدِيْثِ وَغَيْرِهِمْ، ..... وَقِيْلَ : إِنْ زَكَّاهُ أَحَدٌ مِنْ أَئِمَّةِ الْجَرْحِ وَالتَّعْدِيْلِ مَعَ رِوَايَةِ وَاحِدٍ عَنْهُ قُبِلَ،  وَإِلاَّ فَلاَ ...
   
“การไม่ยอมรับการรายงานของเขา (مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) คือ “ความถูกต้อง” ที่เป็นที่ยึดถือของนักวิชาการหะดีษส่วนมากและนักวิชาการอื่นๆ ........ บางคน(قِيْلَ) กล่าวว่า ..ถ้าหากมีนักวิชาการผู้วิจัยข้อด้อยข้อดีของผู้รายงานหะดีษท่านใดให้ความเชื่อถือเขา ขณะที่มีผู้รายงานจากเขาเพียงคนเดียวก็ให้รับการรายงานของเขา  แต่หากไม่มี ก็ไม่ให้รับ” ...
โปรดสังเกตด้วยว่า ทัศนะของ (قِيْلَ) ดังกล่าว ก็คล้ายกับทัศนะที่ อ.อัซฮะรีย์นำมาอ้างเป็นเงื่อนไขในการยอมรับการรายงานของผู้เป็น مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ ข้างต้น .. ซึ่งคำว่า قِيْلَ นี้ ตามหลักวิชาการเรียกว่า صِيْغَةُ التَّمْرِيْضِ  .. คือเป็นสำนวนและทัศนะที่อ่อนด้อย ...

ท่านอิหม่ามนะวะวีย์ ยังกล่าวต่อไปว่า...แล้วผู้(เป็น  مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) คนใดที่มี “ผู้มีคุณธรรม 2 คน” รายงานจากเขา และเจาะจงตัว (คือระบุชื่อ) เขาชัดเจน  เขาก็หลุดพ้นจากข้อหา مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ ได้” ... (ดูหนังสือ “อัต-ตักรีบ วัต-ตัยซีรฺ ลิมะอฺริฟะฮ์ สุนัน อัล-บะชีรฺ” ของท่านอิหม่ามนะวะวีย์ จากหน้า 317 ของหนังสือ “ตัดรีบ อัรฺ-รอวีย์” ของท่านอัส-สะยูฏีย์)  ...คำพูดของท่านอิหม่ามนะวะวีย์ที่ว่า “เขาก็หลุดพ้นจากข้อหามัจญฮูล” มิใช่เป็นการยอมรับว่า เขาเป็นผู้ที่เชื่อถือได้ (ثِقَةٌ) และมีคุณธรรม (عَدْلٌ) จนให้ยอมรับการรายงานของเขา .. แต่หมายถึงว่า เขาหลุดพ้นจากข้อหา “مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ” เปลาะหนึ่งแล้วเท่านั้น ...

วิภาษ

แต่ ผมอยากให้ อ.ปราโมทย์ เข้าใจถ้อยความในประเด็นที่กระผมพยายามชี้แจง  กล่าวคือผมพยายามชี้แจงให้ "ท่านอัลดุเราะห์มานที่อยู่ในสถานะ (مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) ถูกยกระดับอยู่ในนักรายงานที่สามารถนำมาหลักฐานได้ ซึ่งไม่ต้องถึงกับเป็นผู้ที่ ثِقَةٌ "เชื่อถือได้" เดี๋ยวฮะดีษมันจะเป็นซอฮิห์ไป  แต่ผมได้พยายามชี้แจงตามหลักวิชาฮะดีษเพื่อให้ ท่านอับดุรเราะห์มานอยู่ในฐานะที่รับรายงานหรือถูกยกระดับด้วยปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ด้วยหลักการพิจารณาจากทุกกระบวนการของวิชาฮะดีษเพื่อบ่งถึงว่าเขาอยู่ในระดับที่รับรายงานได้ แต่ อ.ปราโมทย์ พิจารณาเพียงแค่แง่มุมเดียวโดยพยายามกดให้ท่านอับดุรเราะห์มานอยู่ในสภาพที่ฏออีฟไม่ให้เงยหน้าขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่านั้น  ทั้งที่ยังมีหลักพิจารณาฮะดีษอื่น ๆ มารับรองยกระดับฮะดีษให้สูงกว่าฏออีฟแต่ไม่ถึงขั้นซอฮิห์ 

ท่านอัส-สะยูฏีย์ได้กล่าวรับรองทัศนะข้างต้นนี้ว่า ...

    وَرَدُّهُ هُوَ الصَّحِيْحُ الَّذِىْ عَلَيْهِ أَكْثَرُ الْعُلَمَاءِ مِنْ أَهْلِ الْحَدِيْثِ وَغَيْرِهِمْ، ..... وَقِيْلَ : إِنْ زَكَّاهُ أَحَدٌ مِنْ أَئِمَّةِ الْجَرْحِ وَالتَّعْدِيْلِ مَعَ رِوَايَةِ وَاحِدٍ عَنْهُ قُبِلَ،  وَإِلاَّ فَلاَ ...
   
“การไม่ยอมรับการรายงานของ เขา (مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) คือ “ความถูกต้อง” ที่เป็นที่ยึดถือของนักวิชาการหะดีษส่วนมากและนักวิชาการอื่นๆ ........ บางคน(قِيْلَ) กล่าวว่า ..ถ้าหากมีนักวิชาการผู้วิจัยข้อด้อยข้อดีของผู้รายงานหะดีษท่านใดให้ความ เชื่อถือเขา พร้อมมีผู้รายงานจากเขาเพียงคนเดียวก็ให้รับการรายงานของเขา แต่หากไม่มี ก็ไม่ให้รับ” ...

คำพูดของอิมามอัสสะยูฏีย์นี้ ท่านได้บอกว่ามีอุลามาอฺบางกลุ่มที่ยอมรับนักรายงานที่ (مَجْهُوْلُ الْعَيْنِ) หนึ่งในนั้นคือท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺ เมื่อมีนักรายงานที่เชื่อถือได้คนหนึ่งได้รายงานมาจากเขา ก็ถือว่ายอมรับได้  แม้จะเป็นทัศนะที่ 2 ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดาปราชญ์ฮะดีษส่วนน้อย

แต่อย่าลืมว่าอย่างน้อยท่านอิบนุฮิบบานให้การยอมรับว่าเขา "เชื่อถือได้" ซึ่งหากถูกคัดค้านว่าท่านอิบนุฮิบบานไม่ปราณีตในเรื่องการวิเคราะห์นักรายงาน ผมก็ได้ชี้แจงสนับสนุนยกระดับต่อไปว่า ไม่ใช่ท่านอิบนุฮิบบานท่านเดียว  แต่ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺนั้น ยังอยู่ในถูกยอมรับตามหลักการของปราชญ์ฮะดีษอีกกลุ่มหนึ่ง ฉะนั้นคำพูดของท่านอิบนุฮะญัรที่ว่า "ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอฺนั้น مَقْبُوْلٌ (ยอมรับได้)" ไม่จำเป็นต้องเพิ่งปัจจัยที่มี مُتَابِعٌ .. คือรายงานมาให้สอดคล้องเพราะอย่างน้อยท่านอิบนุฮิบานได้ให้ความเชื่อถือ อีกทั้งยังเป็นนักรายงานที่ถูกยอมรับได้ตามหลักการของท่านอะบีฮาติม , ท่านอะบูซุรอะฮ์ , ท่านอิบนุอะบี ฮาติม , ยิ่งกว่านั้นยังมีหลักพิจารณาฮะดีษมาสนับสนุนค้ำจุน (تَقْوِيَةٌ) ยกระดับอีกนั่นก็คือ การปฏิบัติ(อะมัล)หรือทัศนะคำกล่าวเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรของอุลามาอฺและให้การยอมรับสายรายงานของ อับดุรเราะห์มาน บิน อะลาอฺ นั่นก็คือ ท่านอิมามอะห์มัด , ท่านอิบนุมะอีน , และยังเป็นทัศนะนำมาปฏิบัติได้ของอิมามอัชชาฟิอีย์

ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มีนักปราชญ์ฮะดีษและเป็นนักฟิกห์อย่างเช่นท่านอิมามอันนะวาวีย์และท่านอิบนุฮะญัร เป็นต้นนั้นได้ทำการตัดสินว่า ฮะดีษของท่านอิบนุอุมัรนั้น "ฮะซัน" (ไม่ใช่ซอฮิห์! และไม่ใช่ฏออีฟ!)

ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์กล่าวว่า

وَالْعَمَلُ عَليَ هَذَا الْحَدِيْثِ عَنْدَ أَهْلِ الْعِلْمِ ، فَأَشَارَ بِذَلِكَ إِلَي أَنَّ الْحَدِيْثَ أُعْتُضِد بِقَوْلِ أََهْلِ الْعِلْمِ وَقَدْ خَرَّجَ غَيْرُ وَاحِدٍ بِأَنَّ مِنْ دَلِيْلِ صِحَّةِ الْحَدِيْثِ قَوْلَ أَهْلِ الْعِلْمِ بِهِ وَإِنْ لَمْ يَكُنْ لَهُ إِسْنَادٌ يُعْتَمَدُ عَليَ مِثْلِهِ

"ผลของการปฏิบัติ(หรือนำมาบังคับใช้)ต่อฮะดีษ(ฎออี ฟเรื่องการห้ามรวมละหมาดโดยไม่มีอุปสรรค)นั้นเป็นทัศนะของนักปราชญ์  ดังนั้นเขา(ท่านอัตติรมีซีย์)ได้บ่งชี้ดังกล่าวว่า  แท้จริงฮะดีษจะถูกค้ำจุนสนับสนุนด้วยคำกล่าวของเหล่านักปราชญ์  และได้นำเสนอหลักการนี้ออกมาไม่ใช่เพียงแค่(นักปราชญ์ฮะดีษ)คนเดียวเลย  ที่ว่าแท้จริงส่วนหนึ่งจากหลักฐานที่บ่งถึงความซอฮิห์ของฮะดีษก็คือคำพูดของ นักปราชญ์ด้วย(การปฏิบัติ)กับฮะดีษนี้  ถึงหากแม้ว่าฮะดีษจะไม่มีสายรายงานที่ได้รับความเชื่อถือเหมือน ๆ กับมันก็ตาม" อันนะกัต อัลบะดีอาต หน้า 72

ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ได้กล่าวถ่ายทอดไว้ในหนังสือตัดรีบอัรรอวีย์  ความว่า

يُحْكَمُ لِلحَدِيْثِ بِالصَحَّةِ إِذاَ تَلَقَّاهُ النَّاسُ بِالْقَبُوْلِ وَإِنْ لَمْ يَكُنْ لَهُ إِسْنَادٌ صَحِيْحٌ

"จะถูกตัดสินว่าฮะดีษซอฮิห์เมื่อเหล่าปวงปราชญ์ให้การยอมรับ  และหากแม้ว่าฮะดีษจะไม่มีสายรายงานที่ซอฮิห์ก็ตาม" ดู : 1/67

ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า

وَكَانَ عَبْدُ اللهِ بْنُ المُبَارَكِ يَفْعَلُهَا وَتَدَاوَلَهَا الصَّالِحُوْنَ بَعْضُهُمْ عَنْ بَعْضٍ وَفِيْهِ تَقْوِيَةٌ لِلحَدِيْثِ المَرْفُوْعِ

" ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัลมุบาร็อก ได้ปฏิบัติละหมาดตัสบีห์  และบรรดาผู้มีคุณธรรมบางส่วนต่างรับมาปฏิบัติซึ่งกันและกัน  และในการปฏิบัติของท่านอิบนุ อัลมุบาร็อกและเหล่าบรรดาผู้มีคุณธรรมนั้น  ทำให้มีน้ำหนักกับฮะดีษที่ถูกยกพาดพิงไปยังท่านนบี"  อัสซุนันอัลกุบรอ 3/52

ดัง นั้น  การปฏิบัติของเหล่านักปราชญ์ที่มีต่อตัวบทฮะดีษนั้น  เป็นปัจจัยแวดล้อมที่มาสนับสนุนฮะดีษได้ตามหลักพิจารณาวิชาฮะดีษนั่นเอง  ดังนั้นการพิจารณาฮะดีษในเรื่องภาคปฏิบัติ(ฟิกห์) ก็จำต้องรักษาเอาไว้การพิจารณาทั้งตัวบทและทัศนะการปฏิบัติของปราชญ์ไปพร้อม ๆ กันขณะที่ทำการวิเคราะห์ถึงนักรายงานฮะดีษและตัวบทของฮะดีษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าปราชญ์สะลัฟเหล่านั้น  มิได้ส่งเสริมบิดอะฮ์ด้วยการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรอย่างแน่นอน!

นั่นคือสิ่งที่ผมได้เคยนำเสนอไปเกี่ยวกับหลักวิชาพิจารณาฮะดีษหลายแง่มุมและครบกระบวนความมาสนับสนุนค้ำจุนอย่างแยกกันไม่ได้นั่นเอง  วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 31, 2009, 05:16 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

คำพูดของท่านอัล-อัลลานและท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ที่ว่า รายงานคำสั่งเสียของท่านอิบนุอุมัรฺดังกล่าว เป็น “หะดีษเมากูฟ” (คือเป็นเพียงคำพูดของเศาะหาบะฮ์)  ถือเป็นเรื่องถูกต้องตามข้อเท็จจริงและหลักวิชาการหะดีษ ...และหะดีษเมากูฟ ตามหลักการแล้วไม่ใช่เป็นหลักฐานของศาสนา ...

วิภาษ

คำพูดของซอฮาบะฮ์หรือฟัตวาของซอฮาบะฮ์นั้น นักปราชญ์อุศูลียีน(ปราชญ์วิชาหลักนิติศาสตร์อิสลาม)มีทัศนะที่แตกต่างกัน  แนวทางของปราชญ์ส่วนมากยืนยันว่าคำพูดของซอฮาบะฮ์หรือฟัตวาของซอฮาบะฮ์นำมาเป็นหลักฐานได้  สำหรับนักปราชญ์ส่วนน้อยมีทัศนะไม่รับการฟัตวาหรือคำพูดของซอฮาบะฮ์  ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นมีมากมาย  ซึ่งกระผมไม่ขอนำเสนอใน ณ ที่นี้  ดังนั้นคำพูดของ อ.ปราโมทย์ที่ว่า "หะดีษเมากูฟ (คำพูดหรือฟัตวาของซอฮาบะฮ์)ตามหลักการแล้วไม่ใช่เป็นหลักฐานของศาสนา" นั้นมันเป็นทัศนะส่วนตัวของ อ.ปราโมทย์ครับ ไม่สามารถมาละเมิดหรือบังคับใช้กับพี่น้องมุสลิมทั่วไปที่เลือกทัศนะของปราชญ์ส่วนมากได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นอิสระที่จะเลือกเฟ้นกันไป

ดังนั้นสิ่งผมอยากจะกล่าวก็คือ คำพูดหรือฟัตวาของซอฮาบะฮ์นั้น ไม่ใช่นำมาเป็นหลักฮุกุ่มศาสนาที่อยู่ในระดับวายิบหรือฮะรอม แต่อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นระดับ اَلْجَائِزُ "อนุญาตให้กระทำได้" หรือ لاَ بَأْسَ بِهِ "กระทำมันได้ไม่เป็นไร" ดังนั้นการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต الْجَائِزُ ให้กระทำได้และไม่เป็นไร

ท่านอิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล เป็นหนึ่งจากอุลามาอฺสะลัฟที่ยึดคำพูดหรือฟัตวาของซอฮาบะฮ์มาตัดสินไปศาสนาว่าอนุญาต الْجَائِزُ ให้กระทำได้

ท่านอิมามอิบนุกุดามะฮ์ กล่าวว่า

قَالَ أَبُوْ عَبْدِ اللهِ : أَمَّا الْمِنْبَرُ فَقَدْ جَاءَ فِيْهِ يَعْنِيْ مَا رَوَاهُ إِبْرَاهِيْمُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ عَبْدِ الْقَارِي أَنَّهُ نَظَرَ إِلَي ابْنِ عُمَرَ وَهُوَ يَضَعُ يَدَهُ عَلَي مَقْعَدِ النَّبِيِّ صَلَّي اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مِنَ الْمِنْبَرِ ثُمَّ وَضَعَهَا عَلَي وَجْهِهِ

"ท่านอะบูอับดิลลาฮ์(คือท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล) ได้กล่าวว่า สำหรับมิมบัรนั้น  ได้มีระบุสิ่งที่รายงานโดยอิบรอฮีม บิน อับดุรเราะห์มาน บิน อับดิลกอรีว่า แท้จริงเขาได้มองไปที่ท่านอิบนุอุมัร ในขณะที่ท่านได้วางมือของท่าน(เพื่อเอาบะรอกัตสิริมงคล)บนที่นั่งของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่อยู่บนมิมบัร หลังจากนั้นก็ท่านทำการวางมันบนใบหน้าของท่าน" หนังสืออัลมุฆนีย์ 3/591

ท่านอิมามอัซซะฮะบีย์ได้กล่าวว่า

قُلْتَ : أَيْنَ الْمُتَنَطِّعُ الْمُنْكِرُ عَلَى أَحْمَدَ وَقَدْ ثَبَتَ أَنَّ عَبْدِ اللهِ سَأَلَ أَبَاهُ عَمَّنْ يَلْمَسُ رَمَانَةَ مَنْبَرِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَيَمُسُّ الحُجْرَةَ النَّبَوِيَّةَ فَقَالَ : لاَ أَرَى بِذَلِكَ بَأْساً أَعَاذَنَا اللهُ وَإِيَّاكُمْ مِنْ رَأْيِ الخَوَارِجِ وَمِنَ الْبِدَعِ

"ข้าพเจ้า(คือท่านอัซซะฮะบีย์)ขอกล่าวว่า ใครหน้าใหนที่คิดลึกเลยเถิดและทำการตำหนิต่อท่านอะห์มัด ทั้งที่ได้ยืนยันแล้วว่าแท้จริงท่านอับดุลลอฮ์ได้ถามบิดาของเขาจากผู้ที่เอามือลูบสัมผัสที่นั่งบนมิมบัรของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และทำการสัมผัสห้อง(สุสาน)ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังนั้นท่านอะห์มัดตอบว่า "การกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าไม่เป็นไร" และขออัลเลาะฮ์ให้คุ้มครองเราและพวกท่านจากทัศนะความเห็นพวกค่อวาริจญฺและพวกบิดอะฮ์ทั้งหลาย(ที่ตำหนิในเรื่องนี้)ด้วยเถิด" หนังสือซิยัรอะลามอันนุบะลาอฺ 11/212

ท่านอับดุลเลาะฮ์ บุตร ของท่านอะหฺมัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า

رَأَيْتُ أَبِىْ يَكْتُبُ التََّعَاوِيْدَ لِلَّذِىْ يُصْرَعُ وَلِلحَمِىِّ لِأَهْلِهِ وَقَرَابَاتِهِ ، وَيَكْتُبُ لِلْمَرْأَةِ إِذَا عَسُرَ عَلَيْهَا الْوِلَادَةُ فِىْ جَامٍ أَوْ شَيْءٍ نَظِيْفٍ ، وَيَكْتُبُ حَدِيْثَ إبْنِ عَبَّاسٍ ، إِلَّا أَنَّهُ كَانَ يَفْعَلُ ذَلِكَ عِنْدَ وُقُوْعِ الْبَلاَءِ ، وَرَأَيْتُ يَعُوْدُ فِى الْمَاءِ وَيُشْرِبُهُ الْمَرِيْضَ ، وَيَصُبُّ عَلَى رَأْسِهِ مِنْهُ ، وَرَأَيْتُ أَبِىْ يَأْخُذُ شَعْرَةٍ مِنْ شَعْرِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَضَعُهَا عَلَى فِيْهِ يُقَبِّلُهَا ، وَأَحْسِبُ أَنِّىْ قَدْ رَأَيْتُهُ يَضَعُهَا عَلَى رَأْسِهِ أَوْ عَيْنِهِ ، فَغَمَّسَهَا فِى الْمَاءِ ثُمَّ شَرَبَهُ يَسْتَشْفِى بِهِ ، وَرَأَيْتُهُ قَدْ أَخَذَ قَصْعَةَ النَّبِىِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَعَثَ بِهَا إِلِيْهِ أَبُوْ يَعْقُوْبَ بْنُ سُلَيْمَانَ بْنِ جَعْفَرَ فَغَسَلَهَا فِىْ جُبِّ الْمَاءِ ثُمَّ شَرِبَ فِيْهَا ، وَرَأَيْتُ مِنْ مَاءِ زَمْزَمَ يَسْتَشْفِىْ بِهِ وَيَمْسَحُ بِهِ يَدَيْهِ وَوَجْهَهُ

" ข้าพเจ้าได้เห็นบิดา ทำการเขียนสิ่งที่ขอความคุ้มครองให้กับผู้เป็นลมและผู้ที่ป่วยไข้  ที่เป็นครอบครัวและเครือญาติของท่าน  และบิดาได้เขียนในถ้วยหรือสิ่งที่สะอาดให้กับสตรีคนหนึ่งในยามที่นางคลอด ลำบาก  และบิดาเขียนหะดิษของท่านอิบนุอับบาส  แต่ท่านได้กระทำสิ่งดังกล่าวในยามที่มีภัยมาทดสอบ  และข้าพเจ้าเห็นบิดาทำการอ่านดุอาอ์ขอการคุ้มครอง(แล้วเป่า)ลงในน้ำและให้ ผู้ป่วยดื่มและทำการรดน้ำนั้นลงบนศีรษะ  และข้าพเจ้าเห็นบิดาได้เอาเส้นผมของท่านนบี(ซ.ล.) แล้วนำมาวางบนปากของท่านเพื่อทำการจูบมัน  และข้าพเจ้าเข้าใจว่า  ข้าพเจ้าได้เคยเห็นบิดาวางเส้นผมของท่านนบี(ซ.ล.) บนศีรษะและตาของท่าน  แล้วท่านก็นำเส้นผมของท่านนบีจุ่มลงในน้ำ จากนั้นก็ทำการดื่มน้ำนั้น เพื่อขอให้หาย(จากการป่วย)ด้วยน้ำนั้น  และข้าพเจ้าเห็นบิดาเอาจานของท่านนบี(ซ.ล.) ที่อบูยะอฺกูบ บิน สุไลมาน บิน ญะฟัร ได้ส่งมาให้ท่าน  ดังนั้น  บิดาจึงทำการล้างมันในบ่อน้ำแล้วก็ดื่มมัน  และข้าพเจ้าได้เห็นบิดาเอาน้ำซัมซัมมารักษา และเอามาลูบสองมือและใบหน้าของท่าน" ดู  หนังสือ มะซาอิล อิมามอะหฺมัด  ของท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน อะหฺมัดบินฮัมบัล หน้า 447

ท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์ ศิษย์คนหนึ่งของอิมามอะห์มัดได้ท่านว่า

سَأَلْتُ أَبَا عَبْدِ اللهِ عَنْ قُبْلَةِ اليَدِ فَقَالَ : إِنْ كَانَ عَليَ طَرِيْقِ التَّدَيُّنِ فَلاَ بَأْسَ ، قَدْ قَبَّلَ أَبُوْ عُبَيْدَةَ يَدَ عُمَرَ بْنِ الخَّطَّابِ ، وَإِنْ كَانَ عَنْ طَرِيْقِ الدُّنْيَا فَلاَ

"ท่านได้ถามอะบูอับดิลลาฮ์(อิมามอะห์มัด)จากเรื่องการจูบมือ  ท่านตอบว่า  หากการจูบมือบนหนทางการศาสนา(เช่นให้เกียรติแก่ผู้รู้หรือผู้มีคุณธรรม) ถือว่าไม่เป็นไร  แท้จริงอะบูอุบัยดะฮ์ได้เคยจูบมือของท่านอุมัร บุตร อัลค็อบฏ็อบ , และถ้าหากว่าจูบมือบนหนทางของดุนยา(เช่นจูบมือเพื่อเอาใจกษัตริย์ผู้ปกครอง หรือผู้นำ) ถือว่าไม่ได้” หนังสืออัลวะเราะอฺ ของท่านอัลมัรรุวะซีย์ หน้า 157-158

ดังกล่าวคือจุดยืนของปราชญ์สะลัฟที่มีต่อฮะดีษเมากูฟ เพราะการกล่าวฮุกุ่มบิดอะฮ์หลุ่มหลงทั้งที่มีซอฮาบะฮ์ได้กระทำนั้น เป็นการกล่าวหาซอฮาบะฮ์ว่ากระทำบิดอะฮ์โดยนัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น วัลอิยาซุบิลลาฮ์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 31, 2009, 05:21 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

คำกล่าวของท่านที่กล่าวว่า .. (สายรายงานการอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ) หยุดอยู่ที่ท่านอิบนุอุมัรฺ -- ด้วยการใช้สำนวนกว้างๆว่า “การอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ” .. มิใช่กล่าวว่า “อ่านตอนต้นและตอนปลายซูเราะฮ์อัล-บะกอเราะฮ์” ดังคำสั่งเสียของท่านอิบนุอุมัรฺ) -- นั้น ...
อ.อัซฮะรีย์มีเจตนาอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า ?? ...

วิภาษ

ผมไม่มีอะไรแอบแฝงครับ เพราะผมไม่คิดว่าบรรดาอุลามาอฺมีอะไรแอบแฝงนั่นเองครับ หลักฐานฮะดีษของท่านอิบนุอุมัรนั้น ปราชญ์ได้วิจัยว่ามันเป็นหลักฐานอนุญาตอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ เพราะการอ่านตอนต้นและตอนปลายซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์นั้น ก็คือการอ่านอัลกุรอาน

ท่าน อับบาส อัดดูรีย์  กล่าวว่า

سَأَلْتُ يَحْيَى بْنَ مَعِيْنٍ عَنِ القِرَاءَةِ عِنْدَ الْقَبْرِ فَقَالَ : حَدَّثَنَا مُبَشِّرُ بْنُ اِسْمَاعِيْلَ الْحَلَبِىُّ، عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ العَلاَءِ بْنِ اللَّجَلاَجِ، عَنْ أَبِيْهِ بِأَنَّهُ قَالَ لِبَنِيْهِ : إِذَا أَدْخَلْتُمُوْنِىْ قَبْرِىْ وَوَضَعْتُمُوْنِىْ فِى اللَحْدِ ، فَقُوْلُوْا : بِسْمِ اللهِ وَعَلىَ سُنَّةِ رَسُوْلِ اللهِ وسُنُّوْا عَلىَ التُّرَابِ سَنًّا ، وَاقْرَأُوْا عِنْدَ رَأْسِىْ أَوَّلَ الْبَقَرَةِ وَخَاتِمَتَهَا فَإِنِّىْ رَأَيْتُ ابْنَ عُمَرَ يَسْتَحِبُّ ذَلِكَ

"ฉันได้ถาม ท่านยะหฺยา บิน มะอีน  เกี่ยวกับเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  ท่านยะหฺยากล่าวว่า  ได้บอกเล่าให้เราทราบโดย ท่านมุบัชชิร บิน อิสมาอีล อัลหะละบีย์  จากอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺ  จากบิดาของเขา  ว่าแท้จริง บิดาของเขาได้กล่าว  กับบุตรของเขาว่า  เมื่อพวกท่านได้นำฉันเข้าไปในกุบูร  และพวกท่านก็ได้วางฉันลงไปในหลุม  ดังนั้น  พวกท่านจงกล่าวว่า  ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์  และบนแนวทางของร่อซูลุลเลาะฮ์  และพวกท่านจงปาดดินให้เรียบ  แล้วพวกท่านจงอ่าน ช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์และช่วงท้ายของมันที่กุบูรช่วงศีรษะของฉัน  เพราะแท้จริงฉันเห็นท่านอิบนุอุมัรรักชอบให้กระทำสิ่งดังกล่าว" หนังสือตารีค ยะหฺยา บิน มะอีน 2/415

ท่านอิมามอิบนุมะอีนปราชญ์ฮะดีษชั้นนำและยังเป็นนักวิเคราะห์ตัวผู้รายงานฮะดีษที่เชื่อถือได้ท่านหนึ่ง ได้ถูกกล่าวเกี่ยวกับ "การอ่านอัลกุรอานที่กุบูร" ท่านให้การยอมรับและยกหลักฐานคำสั่งเสียของท่านอิบนุอุมัรอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ เพราะการอ่านตอนต้นและตอนปลายซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ ก็คือการอ่านอัลกุรอาน ดังนั้นผมเชื่อว่าท่านอิมามอิบนุมะอีนไม่มีอะไรแอบแฝง แต่ท่านเข้าใจเป้าหมายของฮุกุ่มศาสนา

ท่านอิมาม อันนะวาวีย์  ได้กล่าวอธิบายไว้ในหนังสือ  อัล-มัจญฺมั๊วะ  ของท่านว่า

يُسْتَحَبُّ لِزَائِرِ القُبُوْرِ أَنْ يَقْرَأَ مَا تَيَسَّرَ مِنَ القُرْآنِ وَيَدْعُوْ لَهُمْ عَقِبَهَا نَصَّ عَلَيْهِ الشَّافِعِيُّ وَاتَّفَقَ عَلَيْهِ الأَصْحَابُ وَزَادَ فِيْ مَوْضِعٍ آخَرَ: وَإِنْ خَتَمُوْا القُرْآنَ عَلَى القَبْرِ كَانَ أَفْضَلَ

"และสุนัตให้ผู้ไปเยี่ยมกุ บูร ทำการอ่านสิ่งที่ง่าย ๆ จากอัลกุรอานและทำการขอดุอาอ์ให้แก่เขาหลังจากเสร็จสิ้นการอ่าน  ซึ่งอิมามอัช-ชาฟิอีย์ได้ระบุมันไว้(ในหนังสืออุมมฺ)  และบรรดาสานุศิษย์ก็มีความเห็นพร้องกันต้องกันและอิมามอัชชาฟิอีย์ได้กล่าว เพิ่มในตำราเล่มอื่นอีกว่า หากพวกเขาได้อ่านจบหนึ่งจบที่กุบูร ก็จะเป็นการดียิ่ง"  ดู เล่ม 5 หน้า 276

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า

وَيُسْتَحَبُّ أَنْ يَقْرَؤُوْا عِنْدَهُ شَيْئاً مِنَ الْقُرْآنِ قَالُوْا فَإِنْ خَتَمُوْا الْقُرْآنَ كَلَّهُ كَانَ حَسَناً وَرَوَيْنَا فِى سُنَنِ الْبَيْهَقِىِّ  بِإِسْنَادٍ حَسَنٍ أَنَّ إبْنَ عُمَرَ إِسْتَحَبَّ اَنْ يُقْرَأَ عَلىَ الْقَبْرِ بَعْدَ الدَّفْنِ أَوَّلَ سُوْرَةِ البَقَرَةِ وَخَاتِمَتَهَا

"มุสตะฮับให้พวกเขาอ่านสิ่งหนึ่งจากอัลกุรอานที่กุบูร บรรดาสานุศิษย์กล่าวว่า ถ้าหากเขาอ่านจบทั้งหมด ก็ถือเป็นการดี และเราได้รายงานไว้ใน สุนันอัลบัยฮะกีย์  ด้วยสายรายงานที่หะซันว่า แท้จริง ท่านอิบนุอุมัรนั้น  ชอบที่จะให้อ่านอัลกุรอานในช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ และช่วงท้ายของมันที่กุบูรหลังจากเสร็จสิ้นการฝังแล้ว" อัลฟุตูฮาด อัรร๊อบบานียะฮ์  อะลา อัลอัซการอันนะวะวียะฮ์  เล่ม 4 หน้า 194

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ปราชญ์มุจญฺตะฮิดฟัตวามัซฮับอิมามชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า มุสตะฮับให้อ่านอ่านอัลกุรอานบางส่วนหรืออ่านทั้งหมดที่กุบูรก็ถือเป็นการดียิ่ง โดยอ้างอิงหลักฐานจากคำสั่งเสียของท่านอุมัร ดังนั้นผมเชื่อว่าท่านอิมามอันนะวาวีย์ไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะท่านเข้าใจเป้าหมายของฮุกุ่มศาสนาครับ

อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

ความจริงผมไม่ได้กล่าวแบบ جَزْمٌ คือ “ฟันธง” เลยว่า รายงานการคืนคำของท่านอิหม่ามอะห์มัดนั้น เป็นรายงานที่ไม่ถูกต้องแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ...
ตรงกันข้าม ผมได้กล่าวในลักษณะ “แบ่งรับแบ่งสู้” หรือ “เผื่อ” ไว้แล้วในการวิภาษคำบรรยาย อ.กอเซ็มตอนหนึ่งว่า ...ความเป็นคน “มัจญฮูล” ของ 2 ผู้รายงานเรื่องการคืนคำของท่านอิหม่ามอะห์มัดข้างต้นจึง “น่าจะ” เป็นสิ่งช่วยเน้นน้ำหนักว่า รายงานการคืนคำดังกล่าวนั้น ไม่ถูกต้องและไม่น่าเชื่อถือ ...

วิภาษ

ก็ต้องเป็นเช่นนั้นแหละครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องอิจญฺตะฮาดในเชิงวิเคราะห์หลักฮะดีษและอิจญฺตะฮาดเชิงฟิกห์ในเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร จะไปฟันธงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทวิภาษตอนที่ 2 นี้ อ.ปราโมทย์เองก็ยกทัศนะของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ความว่า

وَالثَّالِثَةُ : أَنَّ الْقِرَاءَةَ عِنْدَهُ وَقْتَ الدَّفْنِ لاَ بَأْسَ بِهِ،  كَمَا نُقِلَ عَنِ ابْنِ عُمَرَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ، وَبَعْضِ الْمُهَاجِرِيْنَ،  وَأَمَّا الْقِرَاءَةُ بَعَدَذَلِكَ – مِثْلُ الَّذِيْنَ يَنْتَابُوْنَ الْقَبْرَ لِلْقِرَاءَةِ عِنْدَهُ – فَهَذَا مَكْرُوْهٌ!  فَإِنَّهُ لَمْ يُنْقَلْ عَنْ أَحَدٍ مِنَ السَّلَفِ مِثْلُ ذَلِكَ أَصْلاً ...

ทัศนะที่3.  การอ่าน(ตอนต้นและตอนปลายซูเราะฮ์อัล-บะกอเราะฮ์)ที่กุบูรฺตอนฝัง (คือหลังจากฝังเสร็จใหม่ๆ) ดังที่ถูกคัดลอกมาจากท่านอิบนุอุมัรฺ ร.ฎ.และชาวมุฮาญิรีนบางคน ถือว่าไม่เป็นไร .. อนึ่งการอ่านอัล-กุรฺอ่านหลังจากนั้น – เยี่ยงบรรดาผู้ซึ่งสลับสับเปลี่ยนกันไปที่กุบูรฺเพื่ออ่านอัล-กุรฺอ่านที่นั่น – ถือว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ  เพราะไม่เคยมีรายงานมาจากชาวสะลัฟคนใดในเรื่องดังกล่าวนี้เลย ...

แล้วท่านอิบนุตัยมียะฮ์ก็กล่าวสรุปว่า ...

وَهَذِهِ الرِّوَايَةُ لَعَلَّهَا أَقْوَى مِنْ غَيْرِهِ، لِمَا فِيْهَا مِنَ التَّوْفِيْقِ بَيْنَ الدَّلاَئِلِ ...

“และรายงาน(ที่3)นี้ บางที น่าจะเป็นรายงานที่มีน้ำหนักมากกว่าทัศนะอื่น  เพราะถือเป็นการ “รวม” ในระหว่างหลักฐานทั้งหลาย(ที่กล่าวมาแล้ว)” ...
(จากหนังสือ “อิกติฎออ์ อัศ-ศิรอติ้ลมุสตะกีมฯ”  เล่มที่ 2  หน้า 263-264)...

ตรงนี้ก็เป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่บ่งชี้ว่า แม้ท่านอิบนุตัยมียะฮ์เองก็ยังยอมรับในฮะดีษของท่านอิบนุอุมัร และดังนี้ก็คือการวินิจฉัยให้น้ำหนักส่วนตัวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ คืออ่านอัลกุรอานที่กุบูรในขณะที่ฝังนั้นกระทำได้! แต่การสลับเปลี่ยนกันไปอ่านที่กุบูรนั้นกระทำได้แต่มักโระฮ์(ไม่บังควรกระทำ)ตามทัศนะของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ดังที่ได้อ้างหลักฐานจากฮะดีษคำสั่งเสียของท่านอิบนุอุมัร ส่วนกรณีมีผู้รายงานการคืนคำของท่านอะห์มัดที่ มัจญฺฮูล 2 ท่านจากสายรายงานของท่านอัลค็อลล้าลนั้น ก็ถือว่าไม่มีปัญหาเพราะมีสายรายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ บุตร ท่านอะห์มัดเองและสายรายงานของท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์มาสนับสนุนยืนยันว่าท่านอิมามอะห์มัดมีทัศนะว่าอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้จริงตามที่ผมได้นำเสนอไปข้างต้นแล้ว ส่วนการอ้างของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ต่อทัศนะของปราชญ์สะลัฟนั้น ต้องพิจารณาก่อนและผมจะนำเสนอวิเคราะห์ข้อเท็จจริงต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 31, 2009, 05:32 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ปราโมทย์กล่าวว่า

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "และรายงานนี้ (คือการอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺเป็นเรื่องน่ารังเกียจ) เป็นสิ่งซึ่งนักวิชาการ “ส่วนใหญ่” ที่สังกัดมัษฮับท่านอิหม่ามอะห์มัดได้รายงานมาจากท่าน .. และบรรดานักวิชาการ “ยุคแรก” ที่อยู่พร้อมกับท่านอิหม่ามอะห์มัด(คือเป็นสหายหรือศิษย์ของท่าน)ก็ยึดมั่นตามทัศนะนี้ .. อาทิเช่น ท่านอับดุลวะฮ์ฮาบ อัล-วัรฺรอก,  ท่านอบูบักรฺ อัล-มัรฺรูซีย์,  และอื่นจากสองท่านนี้"

วิภาษ

เป็นไปได้ที่ศิษย์ของอิมามอะห์มัดส่วนใหญ่มีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นมักโระฮ์ (คือไม่บังควรกระทำแต่กระทำได้) เพราะนั่นคือทัศนะแรกของท่านอิมามอะห์มัด ส่วนทัศนะที่สองที่อิมามอะห์มัดได้คืนคำนั้น ศิษย์ผู้อยู่ในเหตุการณ์คืนคำของท่านอิหม่ามอะห์ก็มีทัศนะที่อนุญาตทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้

แต่ผมแปลกใจที่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า ท่านอะบูบักรฺ อัล-มัรฺรูซียื มีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นมักโระฮ์ ทั้งที่ท่านอะบูบักรฺ อัลมัรฺรูซีย์เอง ได้รายงานจากอิหม่ามอะห์มัดว่าอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ดังที่ผมได้นำเสนอผ่านมาแล้วข้างต้น

ยิ่งกว่านั้น ท่านอิบนุมุฟลิห์ ศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์เอง ได้กล่าวยืนยันว่า ทัศนะของท่านอะบูบักร อัลมัรรูซีย์ นั้นคือ การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรไม่มักโระฮ์แต่ประการใด

ท่านอิบนุมุฟลิห์ กล่าวว่า

 لَا تُكْرَهُ الْقِرَاءَةُ على الْقَبْرِ وفي الْمَقْبَرَةِ نَصَّ عليه اخْتَارَهُ أبو بَكْرٍ وَالْقَاضِي وَجَمَاعَةٌ وهو الْمَذْهَبُ

"ไม่มักโระฮ์การอ่านอัลกุรอานบนกุบูรและในกุบูร ซึ่งอิมามอะห์มัดได้กล่าวระบุไว้ และยังเป็นทัศนะที่ท่านอะบูบักร(อัลมัรรูซีย์) , ท่านอัลกอฏีย์ , ปราชญ์กลุ่มหนึ่ง ได้เลือกเฟ้น และการไม่มักโระฮ์อ่านอัลกุรอานที่กุบูร ถือว่าเป็นมัซฮับของอิมามอะห์มัด" หนังสืออัลฟุรูอฺ 2/237

แต่เมื่อผมกระผมไปตรวจสอบจากหนังสือ อัลอินซ็อฟ ฟี มะริฟะฮ์ อัรรอญีห์ มินัลคิล๊าฟ อะลา มัซฮับ อิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล (ความเป็นธรรมในการรู้จักทัศนะที่มีน้ำหนักจากการขัดแย้งกันในมัซฮับของอิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล) ของท่านอิมามอัลมัรดาวีย์ ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ ซึ่งท่านได้ตรวจสอบแล้วพบว่าทัศนะที่มีน้ำหนักของอิมามอะห์มัดคือ การอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรอนุญาตให้กระทำได้ และยังเป็นทัศนะส่วนมากของปราชญ์มัซฮับอิมามอะห์มัด

ท่านอัลมัรดาวีย์กล่าวว่า

قال الْخَلَّالُ وَصَاحِبُهُ الْمَذْهَبُ رِوَايَةٌ وَاحِدَةٌ لَا تُكْرَهُ وَعَلَيْهِ أَكْثَرُ الْأَصْحَابِ منهم الْقَاضِي وَجَزَمَ بِهِ في الْوَجِيزِ وَغَيْرِهِ وَقَدَّمَهُ في الْفُرُوعِ وَالْمُغْنِي وَالشَّرْحِ وبن تَمِيمٍ وَالْفَائِقِ وَغَيْرِهِمْ

"ท่านอัลค็อลล้าลและมิตรสหายของเขา ได้กล่าวว่า มัซฮับอิมามอะห์มัดนั้น มีอีกรายงานหนึ่งระบุว่า ไม่มักโระฮ์(อ่านอัลกุรอานที่กุบูร) และทัศนะนี้เป็นทัศนะของปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ส่วนมาก ส่วนหนึ่งคือ ท่านอัลกอฏีย์ และท่านอัลฮะซัน บิน ยูซุฟ อัลดุญัยลีย์ ได้กล่าวมั่นใจในทัศนะนี้ไว้ในหนังสือ อัลวะญีซฺและหนังสืออื่น ๆ และทัศนะนี้ได้นำมากล่าวก่อนในหนังสืออัลฟุรูอฺ , หนังสืออัลมุฆนีย์ , หนังสืออัชชัรหฺ(ชัรหุลมุฆนีย์) และเป็นทัศนะของท่านอิบนุ ตะมีม , ท่านอัลฟาอิก , และปราชญ์ท่านอื่น ๆ" อัลอินซ็อฟ 2/532

ดังนั้นคำพูดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ สมควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวทัศนะอิมามชาฟิอีย์ที่ผิดพลาดอีกด้วย ซึ่งผมจะนำเสนอต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์

อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "และนี่คือ แนวทางของชาวสะลัฟส่วนใหญ่ เช่นท่านอบูหะนีฟะฮ์,  ท่านอิหม่ามมาลิก, ท่านฮุชัยม์ บินบะชีรฺ และท่านอื่นๆอีก....ท่านอิหม่ามมาลิกกล่าวว่า .. “ฉันไม่รู้ว่าจะเคยมีใครทำอย่างนี้” .. จึงเป็นที่รู้ว่า บรรดาเศาะหาบะฮ์และบรรดาตาบิอีน พวกเขาไม่เคยทำอย่างนี้ (คืออ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ) ..."

วิภาษ

การที่ท่านอิหม่ามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ไม่รู้นั้น  ไม่ได้หมายความถึงการปฏิเสธการกระทำของบรรดาซอฮาบะฮ์และตาบิอีนทั้งหมด  และการสรุปความเห็นของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ว่าบรรดาซอฮาบะฮ์และตาบิอีนไม่เคยทำนั้น  เป็นการขัดกับตัวบทที่ได้มีการระบุไว้

ท่านค๊อลลาลได้รายงานว่า

كَانَتِ الأَنْصَارُ إِذَا مَاتَ لَهُمْ مَيِّتٌ اِخْتَلَفُوْا عَلىَ قَبْرِهِ يَقْرَأُوْنَ عِنْدَهُ القُرْأَنَ                                     

" บรรดาชาวอันซอรนั้น  เมื่อมีผู้ตายคนหนึ่งของพวกเขาเสียชีวิตลง  พวกเขาก็จะทำการสลับกันไปที่กุบูรของผู้นั้น  โดยที่พวกเขาจะทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรของมัยยิดนั้น" ดู  หนังสือ  อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 126

ในสายรายงานดัง กล่าวนี้นักปราชญ์ได้ผ่อนปรนในการหยิบยกมารายงาน  และในสายรายงานนี้มีท่าน "มุญาลิด บิน สะอีด"  ซึ่งเขาผู้นี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมควรแก่การได้รับการสนับสนุนยกระดับ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสายรายงานที่ฮะซันจากการกระทำของซอฮาบะฮ์  , ตาบิอีน , และเหล่าสะละฟุศศอลิห์  และท่านมุสลิมได้นำ "มุญาลิด บิน สะอีด"  มาเป็นผู้รายงานหะดิษไว้ในซอฮิหฺของท่านมุสลิมด้วย  โดยรายงานพร้อมกับคนอื่น ไว้ใน  เรื่อง  ฏอล๊าก  บทว่าด้วยเรื่อง  ผู้หญิงที่ถูกหย่าขาด  ที่ไม่ต้องมีค่าเลี้ยงดูให้แก่นาง

ท่านอิบนุอะลานได้ถ่ายทอดคำพูดของท่าน อัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  อัลอัสกอลานีย์  ไว้ความว่า

وَصَفَهُ مُسْلِمٌ بِالصِّدْقِ وَأَخْرَجَ لَهُ فِي المُتَابَعَاتِ والّذِيْنَ أَشَارَ إِلَيْهِمْ الشّعْبِيُّ يَحْتَمِلُ أَنْ يَكُوْنُوْا مِنَ الصَحَابَةِ وَمِنَ التَّابِعِيْنَ قَالَهُ الحَافِظُ

"ท่านอิมา มมุสลิมได้พรรณาถึงท่านมุญาลิดว่าเขาเป็นคนที่พูดจริง(ไม่เคยถูกกล่าวหาว่า โกหก)  และท่านมุสลิมได้นำเสนอรายงานของเขาไว้ในบรรดาฮะดีษที่ถูกสนับสนุน(ยกระดับ ได้)  และสิ่งที่ท่านอัชชะอฺบีย์ได้บ่งชี้ยังพวกเขานั้น  ตีความได้ว่า  พวกเขาคือเหล่าซอฮาบะฮ์และตาบิอีน(ที่ทำการอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูร) ดังที่ท่านอัลฮาฟิซฺ(อิบนุฮะญัร)ได้กล่าวไว้" หนังสืออัลฟุตูฮาตอัรร็อบบานียะฮ์ ชัรห์ อัลอัซการ : 4/119

ส่วนคำพูดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ว่า แนวทางสะลัฟส่วนใหญ่มีทัศนะว่ามักโระฮ์การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น ต้องพิจารณาก่อน เพราะการที่ไม่รู้ว่ามีรายงานว่าสะลัฟส่วนใหญ่ไม่ได้อ่านอัลกุรอานกุบูรนั้น ไม่หมายความว่าพวกเขามีทัศนะฮุกุ่มว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร การไม่รู้ว่าพวกเขาได้กระทำ ไม่ใช่หมายถึงพวกเขามีทัศนะว่าฮะรอมหรือมักโระฮ์ในการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร ดังนั้นเราจึงไม่ควรพาดพิงคำพูดไปยังผู้ที่ไม่ได้พูดทัศนะเอาไว้

ได้กล่าวระบุไว้ใน อัลฟะตาวา อัลฮินดียะฮ์ ความว่า

قِرَاءَةُ الْقُرْآنِ عِنْدَ الْقُبُورِ عِنْدَ مُحَمَّدٍ رَحِمَهُ اللَّهُ تَعَالَى لَا تُكْرَهُ وَمَشَايِخُنَا رَحِمَهُمْ اللَّهُ تَعَالَى أَخَذُوا بِقَوْلِهِ

"การอ่านอัลกุรอานตามทัศนะของ ท่านมุหัมมัด ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ นั้น ไม่ถือว่ามักโระฮ์  และบรรดาคณาจารย์(มัซฮับฮะนะฟีย์)ของเรา ได้ยึดเอาทัศนะคำกล่าวของเขา" 1/166

ท่านอิมามมุฮัมมมัด บิน อัลฮะซันนั้น คือหนึ่งจากปราชญ์สะละฟุศศอลิห์ เป็นศิษย์ของอิหม่ามอะบูฮะนีฟะฮ์

ท่านอัซซัยิด อิมาม อิบนุ อาบิดีน ได้กล่าวระบุไว้ในหนังสือร๊อดดุลมั๊วะหฺตารว่า

لاَ يُكْرَهُ الدَّفْنُ لَيْلاً وَلاَ إِجْلاَسُ القَارِئِيْنَ عِنْدَ الْقَبْرِ، وَهُوَ الْمُخْتَارُ

"การฝังตอนกลางคืนและนั่งอ่านอัลกุรอานที่กุโบรไม่เป็นมักโระฮ์ ตามทัศนะที่ถูกเลือกเฟ้นแล้ว" 2/246

ท่านอิมามอัดดุสุกีย์ ได้กล่าวว่า

ذَهَبَ ابْنُ حَبِيْبٍ إِلَي الإِسْتِحْبَابِ وَتَأَوَّلَ مَا فِي السِّمَاعِ مِنَ الكَرَاهَةِ قَائِلاً : إِنَّمَا كَرَهَ ذَلِكَ مَالِكٌ إِذَا فَعَلَ اِسْتِنَاناً

"ท่านอิบนุฮะบีบมีทัศนะว่ามัสตะฮับ(อ่านอัลกุรอานที่กุบูร) และท่านอิบนุฮะบีบได้ทำการตีความสิ่งที่ได้ยิน(จากอิมามมาลิก)ว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นมักโระฮ์นั้น เมื่อเขาได้กระทำเป็นประจำ" ฮาชียะฮ์อัดดุสุกีย์ 1/423

ท่านอิบนุฮะบีบ คือปราชญ์สะลัฟท่านหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของอิมามมาลิก

ท่านอัลค๊อลลาลได้กล่าวว่า  ได้เล่าให้ฉันทราบโดยอิบรอฮีม บิน ฮาชิม อัลบะฆอวีย์  ซึ่งเขากล่าวว่าได้เล่าให้ฉันทราบ โดยอับดุลเลาะฮ์ บิน ซินาน อบูมุหัมมัด ซึ่งเขากล่าวว่า  ได้เล่าให้เราทราบ โดยอัลฟัฏล์ บิน มูซา อัลชัยบานีย์ , จากชารีก , จากมันซูร , จากอัลมัรรีย์ ว่าแท้จริงท่านอิบรอฮีม(อันนะคะอีย์)กล่าวว่า

لاَ بَأْسَ بِقِرَاءَةِ الْقُرْآنِ فِي الْمَقَابِرِ

"การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรต่าง ๆ นั้น ไม่เป็นไร" หนังสือ อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 127

ท่านอิบรอฮีม อันนะคะอีย์ เป็นปราชญ์ตาบิอีนหนึ่งในสะละฟุศศอลิห์ มีทัศนะอนุญาตทำการอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรได้

ท่าน อับบาส อัดดูรีย์  กล่าวว่า

سَأَلْتُ يَحْيَى بْنَ مَعِيْنٍ عَنِ القِرَاءَةِ عِنْدَ الْقَبْرِ فَقَالَ : حَدَّثَنَا مُبَشِّرُ بْنُ اِسْمَاعِيْلَ الْحَلَبِىُّ، عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ العَلاَءِ بْنِ اللَّجَلاَجِ، عَنْ أَبِيْهِ بِأَنَّهُ قَالَ لِبَنِيْهِ : إِذَا أَدْخَلْتُمُوْنِىْ قَبْرِىْ وَوَضَعْتُمُوْنِىْ فِى اللَحْدِ ، فَقُوْلُوْا : بِسْمِ اللهِ وَعَلىَ سُنَّةِ رَسُوْلِ اللهِ وسُنُّوْا عَلىَ التُّرَابِ سَنًّا ، وَاقْرَأُوْا عِنْدَ رَأْسِىْ أَوَّلَ الْبَقَرَةِ وَخَاتِمَتَهَا فَإِنِّىْ رَأَيْتُ ابْنَ عُمَرَ يَسْتَحِبُّ ذَلِكَ

"ฉันได้ถาม ท่านยะหฺยา บิน มะอีน  เกี่ยวกับเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  ท่านยะหฺยากล่าวว่า  ได้บอกเล่าให้เราทราบโดย ท่านมุบัชชิร บิน อิสมาอีล อัลหะละบีย์  จากอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺ  จากบิดาของเขา  ว่าแท้จริง บิดาของเขาได้กล่าว  กับบุตรของเขาว่า  เมื่อพวกท่านได้นำฉันเข้าไปในกุบูร  และพวกท่านก็ได้วางฉันลงไปในหลุม  ดังนั้น  พวกท่านจงกล่าวว่า  ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์  และบนแนวทางของร่อซูลุลเลาะฮ์  และพวกท่านจงปาดดินให้เรียบ  แล้วพวกท่านจงอ่าน ช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์และช่วงท้ายของมันที่กุบูรช่วงศีรษะของฉัน  เพราะแท้จริงฉันเห็นท่านอิบนุอุมัรรักชอบให้กระทำสิ่งดังกล่าว" หนังสือตารีค ยะหฺยา บิน มะอีน 2/415

ท่านอิมามอิบนุมะอีนคือปราชญ์สะละฟุศศอลิห์ เป็นปราชญ์ฮะดีษชั้นนำและยังเป็นนักวิเคราะห์ตัวผู้รายงานฮะดีษที่เชื่อถือได้ท่านหนึ่งที่มีทัศนะว่าอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้

อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "และปัญหานี้ ไม่มีการจดจำคำพูดใดๆมาจากตัวของท่านอิหม่ามชาฟิอีย์เอง  ทั้งนี้ก็เพราะเรื่องนี้ (การอ่านอัล-กุรฺอ่านที่กุบูรฺ) เป็นบิดอะฮ์ในทัศนะของท่าน ..."

วิภาษ

ในคำพูดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นี้ ถือว่าผิดพลาด หวังว่า อ.ปราโมทย์ คงไม่ตัดลีดตามท่านอิบนุตัยมียะฮ์ในเรื่องความผิดพลาดที่กล่าวอ้างว่าอิมามชาฟิอีย์มีทัศนะว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นบิดอะฮ์ เพราะมีการยืนยันจากอิมามชาฟิอีย์ว่า ท่านได้มีทัศนะอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้

ท่าน  อัลค๊อลลาล ได้กล่าวรายงานว่า

أَخْبَرَنِىْ رَوْحُ بْنُ الفَرَجِ قَالَ : سَمِعْتُ الحَسَنَ بْنَ الصَبَّاحِ الزَّعْفَرَانِى يَقُوْلُ : سَأَلْتُ الشَّافِعِىَّ عَنِ القِرَاءَةِ عِنْدَ القُبُوْرِ، فَقَالَ : لاَ بَأْسَ بِهِ

"ได้บอกเล่าให้ฉันท ราบ โดยท่าน  เร๊าห์ บิน อัลฟะร๊อจญ์ ซึ่งได้กล่าวว่า  ฉันได้ยินท่าน อัลหุซัยน์ บิน อัศศ๊อบบาหฺ  อัซซะฟะรอนีย์ กล่าวว่า  ฉันได้ถามอิมามอัช-ชาฟิอีย์เกี่ยวกับการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร  ดังนั้น  ท่านอัช-ชาฟิอีย์ตอบว่า "การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น ไม่เป็นไร"  ดู หนังสือ  อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 126

และหากเรากลับไปดูหนังสืออัลอุมมฺของอิมามอัช-ชาฟิอีย์  จากเรื่อง "อัลญะนาอิซฺ"  ในบทย่อยเกี่ยวกับเรื่อง "จำนวนการห่อมัยยิด"  ซึ่งท่านอิมามอัช-ชาฟิอีย์กล่าวระบุทัศนะที่ท่านอัล-ค็อลลาลได้รายงานจาก ท่านไว้   ซึ่งท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า

وَأُحِبُّ لَوْ قُرِئَ عِنْدَ الْقَبْرِ، وَدُعِيَ لِلْمَيِّتِ وَلَيْسَ فِي ذَلِكَ دُعَاءٌ مُؤَقَّتٌ

"ฉันรัก หากมีการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร และมีการขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิด(ผู้ตาย)  และในสิ่งดังกล่าวนั้น  ไม่มีการขอดุอาอ์(แก่มัยยิด)ได้ถูกกำหนดเวลาเอาไว้ตายตัว(คือขอดุอาให้ผู้ ตายได้ทุกเวลา)"  หนังสืออัลอุมมฺ 1/282

ท่านอิมาม อันนะวาวีย์  ได้กล่าวอธิบายไว้ในหนังสือ  อัล-มัจญฺมั๊วะ  ของท่านว่า

يُسْتَحَبُّ لِزَائِرِ القُبُوْرِ أَنْ يَقْرَأَ مَا تَيَسَّرَ مِنَ القُرْآنِ وَيَدْعُوْ لَهُمْ عَقِبَهَا نَصَّ عَلَيْهِ الشَّافِعِيُّ وَاتَّفَقَ عَلَيْهِ الأَصْحَابُ وَزَادَ فِيْ مَوْضِعٍ آخَرَ: وَإِنْ خَتَمُوْا القُرْآنَ عَلَى القَبْرِ كَانَ أَفْضَلَ

"และสุนัตให้ผู้ไปเยี่ยมกุ บูร ทำการอ่านสิ่งที่ง่าย ๆ จากอัลกุรอานและทำการขอดุอาอ์ให้แก่เขาหลังจากเสร็จสิ้นการอ่าน  ซึ่งอิมามอัช-ชาฟิอีย์ได้ระบุมันไว้(ในหนังสืออุมมฺ)  และบรรดาสานุศิษย์ก็มีความเห็นพร้องกันต้องกันและอิมามอัชชาฟิอีย์ได้กล่าว เพิ่มในตำราเล่มอื่นอีกว่า หากพวกเขาได้อ่านจบหนึ่งจบที่กุบูร ก็จะเป็นการดียิ่ง"  ดู เล่ม 5 หน้า 276

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ อัลก็อฎฎอน อัลอัสก่อลานีย์ ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร อัลอัสก่อลานีย์  ได้กล่าวว่า

وَنُقِلَ عَنِ الشَّافِعِيِّ اِنْتِفَاعُ الْمَيِّتِ بِالقِرَاءَةِ عَلَى قَبْرِهِ...وَاخْتَارَهُ شَيْخُنَا شِهَابُ الدِّيْنِ ابْنُ عَقِيْلٍ...وَتَوَاتَرَ أَنَّ الشَّافِعِيَّ زَارَ اللَيْثَ بْنَ سَعْدٍ وَأثْنَى عَلَيْهِ خَيْرًا مُتَزَايِداً وَقَرَأَ عِنْدَهُ خَتْمَةً وَقَالَ : أَرْجُوْ أَنْ تَدُوْمَ القِرَأَةُ عِنْدَهُ كَذَلِكَ دَايِمَةً لَا تَنْقَطِعُ

"ได้ถูกถ่ายทอดจากอิมามอัชชาฟิอีย์  เรื่องการที่มัยยิดได้รับผลประโยชน์ด้วยการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรของเขา...และปรมาจารย์ของเราคือท่านชิฮาบุดดีน บิน อะกีล ได้เลือกทัศนะนี้...และได้รายงานแบบมุตะวาติร(รายงานอย่างเลื่องลือโดยชนกลุ่มหนึ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะรวมหัวการโกหก)ว่า แท้จริงอิมามชาฟิอีย์ได้เคยเยื่ยมกุบูรของท่านอัลลัยษฺ บิน สะอัด และได้ทำการสรรเสริญความดีงามอย่างมากมายต่อท่านอัลลัยษฺ  และอิมามชาฟิอีย์ได้อ่านอัลกุรอานที่กุบูรของท่านลัยษฺหนึ่งจบ และท่านอิมามชาฟิอีย์กล่าวว่า : ฉันหวังว่าการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรของท่านอัลลัยษฺ  ให้เป็นเฉกเช่นนี้ตลอดไป" อัลเกาลุ บิลอิห์ซานิลอะมีม ฟี อินติฟาอิลมัยยิต บิลกุรอานนิลกะรีม ของท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ อัลก็อฎฎอน หน้า 3

ดังนั้นอิมามอัชชาฟิอีย์และบรรดาสานุศิษย์ของท่านที่เป็นปราชญ์สะลัฟก็มีทัศนะว่าอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรได้
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 02, 2009, 04:54 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam

มีวะฮาบีบางคนพยายามเรียกร้อง(จี้)กระผมให้ทำการวิภาษบทความของ ฮัจญี ปราโมทย์ ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ ไม่ได้กลัวเสียหน้าหรืออยากเอาชนะแต่ประการใดทั้งที่มีอีกหลายประเด็นที่ผมจะวิภาษแยกหมวดหมู่ เพราะประเด็นเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น พี่น้องสามารถเลือกปฏิบัติกันได้  ไม่มีการบังคับกันแต่อย่างใด  ส่วนการที่ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญในช่วงหลัง ๆ และทำการวิภาษกลับช้า เพราะจิตใจตนเองรู้สึกว่าวิภาษเพื่อจะเอาชนะกันหรือเปล่า วิภาษเพื่ออวดให้คนอื่นได้อ่านหรือเปล่า ปัจจัยแวดล้อมมันนำจิตใจให้ผมรู้สึกเช่นนั้น หากวิภาษไปโดยมีเจตนาอื่นเข้ามาแอบอ้าง เกรงว่าการวิภาษเชิงวิชาการศาสนาในดุนยา แต่โลกหน้ามันจะกลายเป็นอะมัลของชาวนรกเพราะอัลเลาะฮ์ทรงรู้ในเจตนาเราดี  ก็อยากจะวิภาษโดยหวังให้อัลเลาะฮ์ทรงตอบรับ  ไม่ใช่เพื่อให้มนุษย์ยอมรับ

ดังนั้นผมจึงเลือกวิภาษบทความของ ฮัจญี ปราโมทย์ ในช่วงวันที่ผมสบายใจ ค้นคว้าข้อมูลวันต่อวันซึ่งที่ผ่านมาบทวิภาษในเรื่องนี้ผมเลือกวิภาษเพียงแค่สองวันโดยค้นคว้าเพียงสองวัน พิมพ์แล้วโพสต์เลยไม่ได้ตรวจทาน  ผมก็เลยอยากให้วะฮาบีรอหน่อยน่ะครับ  รอให้ผมตรวจทานให้เรียบร้อยเพราะจุดต่าง ๆ ที่ผมได้วิภาษไปนั้นจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมไปบ้าง  เพราะฉะนั้นผมจะวิภาษตามที่ช่วงเวลาที่ผมต้องการ  ไม่ใช่วิภาษตามช่วงเวลาที่วะฮาบีต้องการครับ

วัสลาม

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged