ผู้เขียน หัวข้อ: อุลามาอฺวะฮาบียุคแรกไม่ปฏิเสธการตามมัซฮับทั้งสี่และยังพึ่งพาปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์ในกา  (อ่าน 1690 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

 salam

หนังสือ الدرر السنية في الكتب النجدية (อัลดุร็อร อัสสะนียะฮ์ ฟีลกุตุบ อันนัจญฺดียะฮ์) ซึ่งเป็นตำราที่อุลามาอฺวะฮาบีย์ ตั้งแต่สมัยของท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ จนถึงปัจจุบัน ได้ทำการตอบเอาไว้

وَنَحْنُ أَيْضاً : فِي الفُرُوْعِ، عَلَى مَذْهَبِ الإِمَامِ أَحْمَدَ بْنِ حَنْبَل، وَلاَ نُنْكِرُ عَلىَ مَنْ قَلَّدَ أَحَدَ الأَئِمَّةِ الأَرْبَعَةِ، دُوْنَ غَيْرَهِمْ، لِعَدَمِ ضَبْطِ مَذَاهِبِ الْغَيٍرِ ؛ الرَّافِضَةِ، وَالزَّيْدِيَّةِ، وَالإِمَامِيَّةِ، وَنَحْوِهِمْ ؛ وَلاَ نُقِرُّهُمْ ظَاهِراً عَلَى شَيْءٍ مِنْ مَذَاهِبِهِمِ الفَاسِدَةِ، بَلْ نُجْبِرُهُمْ عَلَى تَقْلِيْدِ أَحَدِ الأَئِمَّةِ الأَرْبَعَةِ

"เช่นเดียวกันในเราข้อปลีกย่อยทางฟิกห์  เรานั้นอยู่มัซฮับอิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล และเราไม่ทำการปฏิเสธต่อผู้ที่ตักลีดอิมามหนึ่งจากบรรดาอิมามทั้งสี่  แต่ไม่ให้ตักลีดอื่นจากพวกเขา  เนื่องจากบรรดามัซฮับอื่นจากทั้งสี่นั้นไม่ได้บันทึกหลักการไว้อย่างเป็นระบบ  เช่นพวกชีอะฮ์อัรรอฟิเฏาะฮ์  ชีอะฮ์อัซซัยดียีะฮ์  ชีอะฮ์อิมามมามียะฮ์ และอื่น ๆ จากพวกเขา  และเราไม่ให้การยอมรับสิ่งใดจากมัซฮับต่าง ๆ ของเขาที่มีหลักการไม่ถูกต้อง  ยิ่งกว่านั้น เรายังบังคับพวกเขาให้ตักลีดตาม(มัซฮับ)หนึ่งจากบรรดาอิมามทั้งสี่" หนังสือ อัรดุร็อร อัสสะนียะฮ์ ฟีอัจญฺวิบะฮ์ อันนัจญฺดียะฮ์ 1/227 

มุสลิมที่ศึกษาวิชาการศาสนาอย่างแท้จริง  ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า   การเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น   ต้องพึ่งพาอาศัยปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะอ์อัลอะชาอิเราะฮ์และปราชญ์ที่มีแนวทางสอดคล้องกับอัลอะชาอิเราะฮ์  ผู้ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาให้พวกเขามีบทบาทในการแบกรับ อธิบาย และปกป้อง อัลกุรอานและซุนนะฮ์ มากที่สุด

แต่การยึดฟัตวาของวะฮาบีส่วนมากในปัจจุบัน จะยึดฟัตวาของคณะกรรมการถาวรซาอุฯ , ฟัตวาบินบาซฺ , ฟัตวาอุษัยมีน , ฟัตวามุนัจญิด , ฟัตวาอัลบานีย์ , เป็นต้น 

อุลามาอฺวะฮาบียุคแรกได้กล่าวยืนยันไว้เช่นกันว่า

ثُمَّ إِنَّا نَسْتَعِيْنُ عَلَى فَهْمِ كِتَابِ اللهِ، بِالتَّفَاسِيْرِ الْمُتَدَاوِلَةِ الْمُعْتَبَرَةِ، وَمِنْ أَجَلِّهَا لَدَيْنَا : تَفْسِيْرُ ابْنِ جَرِيْرٍ، وَمُخْتَصَرُهُ لِاِبْنِ كَثِيْرٍ الشَّافِعِيِّ، وَكَذَا الْبَغَوِيُّ، والْبَيْضَاوِيُّ، وَالْخَازِنُ، وَالَحَدَّادُ، وَالجَلاَلَيْنِ، وَغَيْرُهُمْ . وَعَلَى فَهْمِ الْحَدِيْثِ، بِشُرُوْحِ الأَئِمَّةِ الْمُبْرِزِيْنَ : كْالْعَسْقَلاَنِيِّ، وَالقُسْطَلَّانِيِّ، عَلَى الْبُخَارِيِّ، وَالنَّوَوِيِّ عَلَى مُسْلِمٍ، وَالْمُنَاوِيِّ عَلَى الجَامِعِ الصَّغِيْرِ

"หลังจากนั้น เราจะขอนำมาช่วยในการเข้าใจอัลกุรอาน  ด้วยบรรดาตัฟซีรต่าง ๆ ที่แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับ  ส่วนหนึ่งจากตำราตัฟซีรที่สำคัญยิ่งตามทัศนะคือ  ตัฟซีรอิบนุญะรีร(อัฏเฏาะบะรีย์) , ตัฟซีรอิบนุกะษีร อัชชาฟิอีย์  ซึ่งเป็นตัฟซีรที่คัดย่อมาจากตัฟซีรของท่านอิบนุญะรีร , เช่นเดียวกันนี้  ตัฟซีรอัลบะฆอวีย์ , ตัฟซีรอัลบัยฏอวีย์ , ตัฟซีรอัลค่อซิน , ตัฟซัรอัลฮัดด๊าด , ตัฟซีรอัลญะลาลัยน์ , และตัฟซีรของปราชญ์ท่านอื่น ๆ ,  และเราจะนำมาช่วยเข้าใจในฮะดีษ ด้วยบรรดาหนังสืออถาธิบายฮะดีษของบรรดาปราชญ์ที่โดดเด่น  เช่น ท่านอัลฮาฟิซฺ ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ฮะญัร อัลอัสก่อลานีย์ ที่อธิบายซอฮิห์อัลบุคอรีย์ , ท่านอัลฮาฟิซฺ อิมามอันนะวาวีย์ ผู้อธิบายซอฮิห์มุสลิม , ท่านอัลฮาฟิซฺอัลมุนาวีย์(หรืออัลมินาวีย์) ผู้อธิบายหนังสือ อัลญาเมี๊ยะอฺ อัศศ่อฆีร ของท่านอัลฮาฟิซฺ อิมามอัสสะยูฏีย์"  แหล่งอ้างอิงเดียวกัน 1/228 

ดังนั้นคนเอาวามของพวกเรา  ก็ตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์  แต่ตามในความหมายที่ว่า  เจริญรอยตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์ตามความเข้าใจของอุลามาอฺแห่งมัซฮับทั้งสี่  และเหล่าปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ที่มาจากอัลอะชาอิเราะฮ์ , อัลมะตูรีดียะฮ์ , และอัลอะษะรียะฮ์  ดังนั้นหากเราบอกว่า ตามอุลามาอฺ  ก็หมายถึงตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่อุลามาอฺเข้ามานั่นเอง

แต่วะฮาบีย์บางกลุ่มในปัจจุบัน (ไม่ใช่ทั้งหมด)  บอกว่าตนเองให้เกียรติบรรดาอุลามาอฺเหล่านั้น  แต่พร้อมกันนั้นพวกเขาเชื่อว่าอุลามาอฺเหล่านั้นอยู่บนอะกีดะฮ์ที่บิดอะฮ์!!   ก็เท่ากับว่าอุลามาอฺที่แบกรับอัลกุรอานและซุนนะฮ์ในแต่ละยุคสมัยนั้น  เป็นพวกบิดอะฮ์   แล้วอุลามาอฺอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีย์ในแต่ละยุคหายไปอยู่ที่ใหน?!   

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ใชครับ

รุ่นก่อนนั้นยังเอาเรื่องตะวัซซุลไปอยู่ในหมวดฟิกว่าทำได้ไม่ได้หะลาลหะรอม ดีไม่ดี

แต่รุ่นหลังเอาไปอยู่ในหมวด ชิริก อะกีดะฮฺ เฮ้อ

วิวัฒนาการของคนรุ่นใหม่

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ใชครับ

รุ่นก่อนนั้นยังเอาเรื่องตะวัซซุลไปอยู่ในหมวดฟิกว่าทำได้ไม่ได้หะลาลหะรอม ดีไม่ดี

แต่รุ่นหลังเอาไปอยู่ในหมวด ชิริก อะกีดะฮฺ เฮ้อ

วิวัฒนาการของคนรุ่นใหม่

นั่นน่ะซิครับ  ทั้งที่ความจริงเรื่องการตะวัสซูลนั้น เป็นเรื่องวิธีการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาเท่านั้น ซึ่งถูกจัดอยู่ในเรื่องฟิกห์(ภาคปฏิบัติ) ไม่ใช่อะกีดะฮ์   

เมื่อเรื่องตะวัสซูล ได้รับการยืนยันหลักฐานซอฮิห์จากท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ วะฮาบีก็จะบอกว่า หลักฐานตะวัสซุลนี้ไม่มุตะวาติร จะนำมาเป็นเรื่องอะกีดะฮ์ได้อย่างไร?! เพราะอะกีดะฮ์ไม่รับหลักฐานที่ไม่มุตะวาติรมาเป็นเรื่องอะกีดะฮ์ ที่เขาพูดอย่างนี้เพราะพยายามยัดเยียดและเข้าใจไม่ถูกต้องและติดกระดุมผิดมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว เนื่องจากเรื่องตะวัสซูลนั้น เป็นเรื่องฟิกห์(อะมัลในเชิงปฏิบัติ)ตามทัศนะของอัลอะชาอิเราะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่ ซึ่งหลักฐานนั้นไม่ต้องมุตะวาติรก็นำมาปฏิบัติอะมัลได้แล้ว บังจึงบอกไงล่ะครับว่า วะฮาบีวิเคราะห์หลักฐานเรื่องตะวัสซูลแบบล้มเหลวและขัดกับหลักการที่เป็นจริง

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 15, 2009, 06:58 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged