ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้ลงเรื่องมารยาทในการดาวะห์หรือเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีครับ  (อ่าน 3423 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด

อัสลามุอาลัยกุม

อยากรบกวน ท่านอาจารย์และสามาชิกในนี้ นำเรื่องของการเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีมาลงกันน่ะครับ ผมชอบอ่าน เพราะอ่านแล้วรู้สึกถึงความอ่อนโยน และความรักความห่วงใยของท่านนบี ที่มีต่อประชาชาติของท่าน

ผมเคยฟังมาว่า(คร่าวๆนะครับ) "ท่านนบีเคยไปหาชายคนนึงหลายครั้ง ชายคนนั้นก็บอกว่า ถ้ามาครบร้อยครั้งแล้วจะรับอิสลาม ท่านก็จนครบ และเกินแล้วชายคนนั้นยังไม่รับอิสลาม ท่านก็ยังไปอีก ชายคนนั้นถามว่า ท่านก็รู้ว่าฉันหลอกท่าน (หมายถึงท่านนบี) ท่านนบีก็บอกว่า ฉันทนได้ที่ท่านหลอกฉัน แต่ฉันทนไม่ได้ ที่จะเห็นท่านต้อง ไปอยู่ในนรก" ประมาณนี้ (ถูกผิดก็ขออภัยด้วย อันนี้เล่าที่ฟังมาครับ) ใครมีเรื่องเต็มก็เอามาเล่าได้นะครับ

อยากอ่านเยอะๆ อีกอย่างจะได้นำไปเผยแพร่ให้คนที่ไม่ใช่มุสลิมได้อ่านกันด้วยน่ะครับ

รบกวนด้วยนะครับ

ออฟไลน์ ADB

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 235
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
    • ตับลีฆ

มารยาทของผู้ที่ทำหน้าที่ดะอฺวะฮฺและตับลีฆ

     ส่วนหนึ่งที่ผู้เผยแพร่ทุกคนควรสังวร และระวังรักษาโดยจะมองข้ามไปเสียมิได้ ก้อคือ วินัยตลอดจนจรรยามารยาทที่อาจเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากผู้เผยแพร่ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของวินัยตลอดจนจรรยามายาทที่ดีงามแล้ว แทนที่การเผยแผ่จะมีผลดี แต่อาจตรงกันข้าม อาจเกิดผลเสียอย่างร้ายแรงขึ้นก้อเป็นได้ ดังนั้นทุกคน จึงควรรสังวรตน และระวังรักษาเป็นอย่างดี เพราะมุสลิมทุกคนย่อมเป็นผู้ที่มีเกียรติอันใหญ่หลวงอยู่แล้ว ดังเช่น เมื่อเราต้องการจะห้ามปรามบุคคลหนึ่งจากการทำชั่ว โดยให้ละเลิกจากสิ่งที่ไม่ดี จำต้องใช้วิธีการพูด ห้ามปรามโดยเงียบๆ และอ่อนโยน ไม่ใช่ด้วยวิธีการขู่เข็ญ หรือฉาวโฉ่ต่อหน้าชุมชน เพราะในที่ชุมชนนั้น ทำให้ผู้ที่เราตักเตือนมีความอาย แล้วอาจเกิดผลร้ายในการตักเตือนได้

ในทำนองนี้ ท่านร่อซู้ล(ซล)ได้กล่าวไว้เป็นข้อคิดว่า


"จากอบูฮุรอยเราะฮฺ(หะดีษมัรฟูอฺ) เล่าว่า ท่านร่อซู้ล(ซล) กล่าวว่า บุคคลใดที่พยายามปกปิดความชั่วของมุสลิมหนึ่ง แน่นอนอัลลอฮฺจะทรงปกปิดความชั่วของเขาในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮฺทรงพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกับบ่าวของพระองค์ตราบที่บ่าวของพระองค์ให้ความช่วยเหลือต่อพี่น้องของเขา"

"จากอิบนุอับบาส(รฎ) เล่าว่า ท่านร่อซู้ล(ซล) กล่าวว่า บุคคลใดที่ปกปิดความลับพี่น้องของเขาแล้ว อัลลอฮฺจะทรงปกปิดความลับของเขาในวันกิยามะฮฺ ส่วนบุคลใดที่เปิดเผยความลับพี่น้องของเขาแล้ว อัลลอฮฺจะทรงเปิดเผยความลับของเขา จนกระทั่ง เขาจะได้รับความอับอายขึ้นภายในชุมชนของเขา"

หะดีษของท่านนบี(ซล) ซึ่งมีความหมายในทำนองเดียวกันนี้มีหลายบท ดังนั้นผู้ที่ทำการะเผยแผ่และอบรมศาสนา ควรสังวรและระวังเป็นอย่างมาก ในการที่เราควรจะปกปิดความลับ และให้เกียรติด้วยความจริงจัง และจริงใจ ต่อเกียรติของการสร้างความเป็นพี่น้องกันในอิสลาม

อีกหะดีษหนึ่งระบุว่า ผู้ใดที่ไม่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมในการที่จะให้เขารอดพ้นจากการถูกเหยียดหยามแล้ว อัลลอฮฺจะไม่ทรงให้ความช่วยเหลือเขา ในยามที่เขาต้องการความช่วยเหลือ (บันทึกโดย อบูดาวูด)

อีกริวายะฮฺหนึ่งระบุว่า ริบาอฺ(ดอกเบี้ย) ที่ร้ายแรงที่สุด คือการใส่ร้ายมุสลิม โดยไม่เป็นความจริง (บันทึกโดย อบูดาวูด)

ยังมีอีกหลายริวายะฮฺที่ระบุถึงมาตรการอันรุนแรงมากสำหรับการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของมุสลิม ด้วยเหตุนี้เองผู้ตับลีฆ หรือเผยแผ่ฟื้นฟูศีลธรรมอิสลามแล้ว ควรระวังในเรื่องนี้ให้มาก

วิธีการเผยแผ่ที่ถูกต้องนั้นคือ การพยายามใช้วิธีการตักเตือนผู้กระทำผิดให้สำนึกด้วยจิตวิทยา และเตือนแบบลับๆ สำหรับความผิดที่กระทำแบบลับๆ ส่วนการกระทำความผิดที่เปิดเผย ก้อด้วยการตักเตือนที่เปิดเผยเช่นกัน ทั้งนี้ก้อควรระวังอย่างยิ่ง อย่าให้เขารู้สึกอับอายเป็นอันขาด มิเช่นนั้นแล้ว แทนที่จะได้ผลบุญกลับได้บาปแทน

สรุปคือ การห้ามปรามผู้กระทำผิดตามบัญชาของอัลลอฮฺนั้น ต้องแข็งแกร่ง แต่อย่าลืม มารยาทและวิธีการดังกล่าวมาแล้ว นั้นคือในสถานการณ์ที่ความผิด กระทำโดยโจ่งแจ้ง กรณีนี้ก้อให้เตือนแบบโจ่งแจ้งได้ โดยไม่ลำบากใจ แต่ถ้าความชั่วเกิดขึ้น โดยไม่มีการแผ่กระจายไปถึงคนอื่น นั้นเราก้อต้องหาวิธีการเตือนที่ไม่ทำให้เรื่องนี้แพร่กระจายไปถึงผู้อื่นเช่นกัน ส่วนการตักเตือน ต้องเป็นไปด้วยความนุ่มนวลเช่นกัน

พร้อมกันนี้ บุคคลผู้เผยแพร่ จะต้องมีมารยาท และระเบียบในการเผยแพร่ และตักเตือนผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะการโจมตี ซ้ำเติม และการกล่าวคำที่เผ็ดๆ ร้อนๆ นั้น มันมักไม่ได้นำมาซึ่งผลดี แต่มักทำให้เกิดผลเสียมากกว่า บรรดาร่อซู้ลของอัลลอฮฺตลอดจนผู้ดำเนินตามทุกคน ย่อมเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยมารยาทอันดีงาม ในการพูดจาปราศรัยต่อผู้ฟัง

มีคนหนึ่งให้คำเตือนแก่คอลีฟะฮฺมะมูน อัลรอซีด ด้วยคำพูดที่หยาบคาย ท่านคอลีฟะฮฺจึงกล่าวว่า เจ้าจงพูดจากับฉัน ด้วยคำพูดที่สุภาพอ่อนโยนเถิด เพราะฟินอูนนั้นร้ายกาจยิ่งกว่าฉัน มูซาและฮารูนก้อดีกว่าเจ้ามาก แต่เมื่อจะเตือนฟิรอูนอัลออฮฺทรงตรัสสั่งว่า

"ดังนั้น เจ้าทั้งสองจงพูดจากับเขาด้วยคำพูดอันอ่อนโยน บางทีเขาอาจจะสำนึก หรือมีความยำเกรงขึ้น"
[20:44]

 

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ญาซากัลลอฮฺ ครับ ท่าน ADB ถ้ามี gift แบบพันทิพ จะให้ด้วยนะเนี่ย รออีกครับ

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
เป็นความเห็นที่เข้าท่าครับ

ชาวตับลีฆจะได้ใช้บายานด้วย
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
เว็บบังเขามีแบบนี้เยอะ





จะว่าไปบอร์ดนี้ก็ทำแบบให้คะแนนก็ได้นะ แต่อย่าดีกว่า
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ตัวกันข้าวบูด

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 32
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
   
 

มารยาทในการดะวะฮฺ ถึงแม้ว่าไม่ใช่คนที่ออกตับลีฆก็เอาไปใช้ใด้

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด

 salam

ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบแทนส่วนหนึ่งจากวิธีการดะวะฮ์ที่ดี ๆ ซึ่งมุสลิมสามารถนำมาใช้ได้ทุกคนครับ 
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
 salam

ประเด็นที่ทำให้เป็นปัญหาที่ฉันมักจะพบว่ามันเกิดกับพี่น้องของฉันกับการออกดะวะห์ตับลีฆ

หากมันพอจะเป็นประโยชน์บ้างก็อยากจะนำเสนอ

     ประเด็นที่ 1 คือคำถามที่เกิดขึ้นกับคน ๆ หนึ่งที่มักจะกล่าวว่า 

ออกดะวะห์สอนคนนู้นคนนี้  เห็นตัวเองก็ไม่ทำอะไร  นู่นยังไม่ดี  นี่ยังไม่ใช่แล้วจะมาสอนเรา

    ลองถามตัวเองกลับดูนะคะว่าสิ่งที่เราศรัทธาคือสิ่งที่เขาสอน  หรือตัวเขา

ตราบใดที่ยังยึดติดกับตัวบุคคลอยู่  ศรัทธาที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราจะบังเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ ตัวกันข้าวบูด

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 32
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
   

อยากบอกคนที่คิดอย่างนั้นว่าตอนที่นบีอพยพไปมาดีนะฮฺตอนนั้นที่มักกะฮฺก็ยังไม่สมบูรณ์ 100% นะ

หากเรารอให้ทุกอย่างสมบูรณ์100%ก่อนแล้วถึงจะตักเตือนคนอื่นใด้ เราว่ามันไม่มีทางเป็นไปใด้หรอก

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
เปรียบเทียบได้สุดยอด
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
อัลลอฮฺทรงโองการว่า

"เนื่องด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺนั่นเอง (มุฮัมมัด) เจ้าจึงสุภาพ อ่อนโยน แก่พวกเขา และหากเจ้าเป็นผู้หยาบคายและมีใจแข็งกระด้าง แน่นอนพวกเขาย่อมแยกตัวออกไปจากรอบๆ เจ้า ดังนั้น จงให้อภัยแก่พวกเขาเถิด และจงขออภัยจากอัลลอฮฺให้แก่พวกเขาด้วย และจงปรึกษาหารือกับพวกเขาในกิจการที่สำคัญทั้งหลาย ครั้นเมื่อเจ้าได้ตัดสินแน่วแน่กับสิ่งใดแล้วก็จงมอบหมายต่ออัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้ที่มอบหมายทั้งหลาย"

(ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน : 159)

หากเราเป็นผู้ที่หยาบคายและมีกิริยาที่กักขละ ใครเลยจะรับฟังในสิ่งที่เราจะเผยแผ่ 
ดังนั้น มารยาทที่ถอดแบบอย่างมาจากท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวัสซัสลัม จึงเป็นแบบอย่างในการเผยแผ่อิสลามที่ดีเลิศที่สุด mycool:

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ฉันก็ไม่ได้ชั่วเหมือนฟิรเอา

เจ้าเองก็ไม่ได้ดีแบบนบีมูซา

แต่อัลลอฮฺก็ยังสั่งให้นบีมูซากล่าวกับฟิรเอาด้วยคำพูดที่นิ่มนวน ดังอายะฮฺที่บอกว่า ฟะกูลู ละฮุมเกาลัล ลัยยินั้น

แล้วทำเจ้าจึงตักเตือนข้าด้วยคำพูดที่แข็งกระด้างเช่นนี้
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

sara

  • บุคคลทั่วไป
การศรัทธา ไม่จำเป็นต้องยึดติดที่การกระทำของบุคคล

แต่หากเค้านำทางไปสู่ทางที่ดี เราก็สมควรพยายามทำ

เพราะพระองค์นั้นรุ้สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของทุกคน

แต่มารยาทในการดะวะผู้อื่นนั้น แบบอย่างของท่านนบี(ซล.) นั้นสวยงามที่สุด   loveit:


ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
salam

ประเด็นที่ทำให้เป็นปัญหาที่ฉันมักจะพบว่ามันเกิดกับพี่น้องของฉันกับการออกดะวะห์ตับลีฆ

หากมันพอจะเป็นประโยชน์บ้างก็อยากจะนำเสนอ

     ประเด็นที่ 1 คือคำถามที่เกิดขึ้นกับคน ๆ หนึ่งที่มักจะกล่าวว่า 

ออกดะวะห์สอนคนนู้นคนนี้  เห็นตัวเองก็ไม่ทำอะไร  นู่นยังไม่ดี  นี่ยังไม่ใช่แล้วจะมาสอนเรา

    ลองถามตัวเองกลับดูนะคะว่าสิ่งที่เราศรัทธาคือสิ่งที่เขาสอน  หรือตัวเขา

ตราบใดที่ยังยึดติดกับตัวบุคคลอยู่  ศรัทธาที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราจะบังเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ชอบประโยคข้างต้นทั้งหมดเลยค่ะ ^^

วันก่อนคุยกับพ่อเรื่องนี้พอดี วันนั้นอ่านเจอการดะวะห์ของท่านนบี
แล้วเล่าให้พ่อฟังว่าท่านนบีเริ่มต้นด้วยการปฏิรูปตัวเองเป็นอันดับแรก
จากนั้นจึงปฏิรูปบุคคลในครอบครัวของท่าน ต่อจากนั้นจึงเข้าสู่การปฏิรูปสังคม
เราจะเห็นได้ว่า ท่านนบีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรอซู้ลเมื่ออายุ 40 ปี

ก่อนหน้านั้นท่านทำอะไรอยู่...ก่อนหน้าที่ท่านจะออกทำหน้าที่ของการเป็นรอซู้ลของอัลลอฮ์นั้น
ท่านทำสิ่งใด...

"คนที่ิเก็บตัวเงียบมาเป็นเวลา 40 ปีเต้มผู้นี้ไม่เคยมีสิ่งบ่งบอกถึง
ความสนใจหรือมีกิจกรรมทางการเมืองใดๆ แต่แล้วจู่ๆเขาก็ปรากฎตัว
ออกมาบนเวทีของโลกในฐานะนักปฏิรูปทางการเมืองและรัฐบุรุษ
ผู้ยิ่งใหญ่ที่นำชาวทะเลทรายที่อาศัยกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่
120,000 ตารางไมล์มาอยู่ร่วมกันภายใต้ร่มธงเดียวกัน กฎหมายเดียวกัน
ศาสนาเดียวกัน อารยธรรมเดียวกันและรัฐบาลเดียวกันโดยไม่มีสื่อใดๆ
เป็นเครื่องมือและทั้งๆที่คนเหล่านั้นเป็นคนชอบสงคราม โง่เขลา
ไม่เคยเชื่อฟังใคร ไร้วัฒนธรรมและรบพุ่งฆ่าฟันกันระหว่างเผ่าตลอดเวลา

ท่านเปลี่ยนวิธีการคิด ประเพณีและศีลธรรมของผู้คนเหล่านั้น
เปลี่ยนความป่าเถื่อนให้เป็นวัฒนธรรม เปลี่ยนคนทำชั่วและลักษณะ
ที่เลวทรามให้เป็นคนที่มีความเกรงกลัวอัลลอฮ์และมีคุณธรรม
ความดื้อรั้นดันทุรังของพวกคนเหล่านั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็น
รูปแบบของการเชื่อฟังและยอมจำนนต่อกฎหมายและกฎระเบียบ

หลังจากนั้น ชาติที่ไม่เคยสร้างบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงแม้แต่คนเดียว
ก็ได้ให้กำเนิดชีวิตผู้สูงส่งนับพันคนที่พากันออกไปยังทุกมุมโลก
ที่ห่างไกลเพื่อเผยแผ่และสอนหลักการของศาสนา ศีลธรรม
และอารยธรรมภายใต้อิทธิพลและการชี้นำจากท่านนบี...."
(คัดลอกมาจากหนังสือ มาเข้าใจอิสลามกันเถิด ของเมาลานา ซัยยิด
อบุล อะลา เมาดูดี)


ซึ่งในเวลาต่อมา...มีผู้คนมากมายรักท่าน
ความรักของอัลลอฮ์ถูกเชื่อมไว้กับท่าน...
เมื่อเรารักท่าน เราจะรู้สึกสัมผัสได้ถึงความรักของอัลลอฮ์...

จึงยากเหลือเกินที่จะบอกกับคนทั้งโลกว่าเรารักอัลลอฮ์
แต่ไม่ได้รักท่านรอซูลุ้ลลอฮ์...

และยากยิ่งกว่าที่เราจะบอกว่า...เราเชื่ออัลลอฮ์ แต่ไม่เชื่อมุฮัมหมัด
นั่นเพราะ...มุฮัมหมัดคือผู้นำสาส์นของอัลลอฮ์มายังเรา...
เป็นดั่งอัลกุรอานที่เดินได้ จับต้องได้...

เราจะทำตามที่อัลกุรอ่านได้บอกเอาไว้ได้อย่างไร
ถ้าไร้แบบอย่างจากท่าน...
เราไม่เก่งขนาดนั้น...เราไม่ได้เป็นผู้หยั่งรู้ถึงขั้นนั้น...
เราจึงไม่อาจปฏิเสธท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ได้
เพราะการปฏิเสธท่านก็คือการปฏิเสธสาส์นของอัลลอฮ์ที่ท่านนำมาด้วย...

เราถึงได้มีสองกะลีเมาะฮ์

แต่เพราะ...เราไม่ใช่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ เรามีความบกพร่อง
เรามีความผิดพลาด เราไม่ได้ดีพร้อมเช่นท่าน
เราไม่ได้ถูกรักษาเอาไว้อย่างดีเช่นท่าน...

แต่เรา....เราตั้งใจจะทำตามแบบอย่างของท่าน เอาอย่างท่าน
อยากเป็นดั่งท่าน...

และ

ทำหน้าที่ตักเตือนกันและกัน...

เมื่อทำหน้าที่ตักเตือน เราจะตักเตือนตามหลักแห่งสัจธรรม
ตามหลักความถูกต้องดังที่ท่านนบีของเราได้สอนเราเอาไว้ก่อนหน้านี้...

และ...เมื่อเราถูกตักเตือนจากผู้อื่น เราก็พร้อมน้อมรับสิ่งที่ถูกต้องนั้น...
และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว...

ทุกท่านเชื่อไหมว่า การทำตามแบบอย่างของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์นั้น
ไม่ง่ายเลย เพราะเรื่องที่ยากที่สุด ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดที่เราต้องต่อสู้
อย่างยากลำบากที่สุดไม่ใช่ใครเลย แต่เป็นตัวเราเอง...

แท้จริงแล้ว การปฏิรูปตนเองนั้น ยากที่สุด
ต่อมา ก็คือ การปฏิรูปบุคคลในครอบครัว คนใกล้ชิด
ภรรยา และลูกๆ เป็นสิ่งที่ยากรองลงมา...

แต่ถ้าเราสามารถเอาชนะตัวเรา สามารถปฏิรูปตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่
ยากที่สุดได้แล้ว สิ่งอ่ืนก็ไม่ยากเกินไปที่เราจะก้าวถึง...

จึงไม่แปลกใจเลย เมื่อได้ค้นพบว่า ท่านนบีของเราเลือกที่จะปฏิรูป
ตนเองเป็นอันดับแรก เพราะนั่นคือสิ่งที่ยากที่สุดและใกล้ตัวที่สุด
ก่อนจะค่อยๆขยับออกไปเรื่อยๆ อิสลามจึงได้แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ
จนเป็นวงกว้างและยิ่งกว้างออกไป...ในที่สุด...

การปฏิรูปตัวเรา ครอบครัวเราเป็นอันดับต้นๆ
จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิรูปสังคมทั้งหมดที่อยู่รอบๆตัวเรา...

และนี่คือ...แนวทางอันชัดแจ้งที่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ของเราได้กระทำเอาไว้
เป็นแบบอย่างเมื่อพันกว่าปีก่อน...

และท่านก็รู้...ว่าเรา...ไม่อาจเป็นดั่งท่านได้ทั้งหมด...
อิสลามจึงไม่ได้เรียกร้องความสมบูรณ์แบบจากเรา...
ท่านไม่ได้มาเพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับอุมมะของท่าน
แต่ท่านมา...เพื่อตักเตือน...เพื่อให้เราพยายามเป็นคนที่ดีกว่าเดิม...
ให้เราเป็นบ่าวของอัลลอฮ์...เลิกเป็นทาสของสิ่งอื่นที่ไม่คู่ควร
แก่การเคารพสักการะ...มาเพื่อปลดปล่อยเราออกจากปลอกคอ
ที่จะดึงเราไปสู่ไฟนรก...

มีถ้อยคำหนึ่งของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ที่อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ
และซาบซึ้งใจในความรักความเมตตาของท่าน รวมทั้งเป็นแบบอย่าง
ของนักต่อสู้ที่ดีให้เราได้นำมายึดถือปฏิบัติตาม
นั่นคือ

ครั้งหนึ่งที่ท่านนบีได้กล่าวกับลุงของท่านซึ่งถูกกดดันจากพวกผู้นำ
แห่งอารเบียที่พยายามจะให้ท่านเลิกปฏิบัติภารกิจว่า
"คุณลุงครับ ถ้าหากพวกเขาเอาดวงอาทิตย์มาใส่ในมือขวา
และเอาดวงจันทร์มาใส่ในมือซ้ายเพื่อให้ฉันเลิกปฏิบัติภารกิจของฉัน
ฉันก็ไม่มีวันเลิกจนกว่าพระองค์จะทรงโปรดปรานให้ฉันชนะ
หรือไม่ก็ตายในความพยายามนั้น" นี่คือลักษณะของนบีของเรา

คือแบบอย่างแห่งการต่อสู้...ข้าน้อยชอบตรงท้ายประโยคยิ่งนัก
ที่ท่านบอกว่า "หรือไม่ก็ตายในความพยายามนั้น"

นั้นหมายจะบอกกับเราว่า ท่านจะไม่มีวันเลิกล้ม ไม่หยุดที่จะพยายาม
ไม่มีสิ่งใดจะหยุดท่านได้...พร้อมที่จะยืนหยัดอยู่อย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคง
และไม่ยืดหยุ่นในสิ่งที่มุ่งมาดปรารถนา เลือกที่จะลำบากเพื่อแนวทาง
ของท่าน

จะมีใครที่จะสามารถจินตนาการถึงตัวอย่างแห่งการอุทิศตนที่สูงส่ง
การเป็นมิตรและการมีมนุษยธรรมที่สูงส่งไปกว่าการที่ใครคนหนึ่ง
จะยอมทำลายความสุขของตัวเองเพื่อประโยชน์ของคนอื่น
ทั้งๆที่คนเหล่านั้นกำลังเอาหินขว้างปาเขา ประณามสาปแช่ง
และทำร้ายเขา แม้เขาจะถูกขับไล่ไปจากแผ่นดินที่อยู่อาศัย
แต่เขาก็ยังต่อสู้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนเหล่านั้นอยู่!

ท่านคือ...ผู้ช่วยเหลือ...

แม้เราจะเป็นแบบท่านทั้งหมดไม่ได้ก็ตาม...แต่เราจะพยายาม
ทำตามแบบอย่างของท่านจนสุดความสามารถของเรา...


"ศาสนาอิสลามไม่ได้เรียกร้องความสมบูรณ์แบบจากเรา
หากแต่อิสลามเพียงต้องการให้เรา ใช้ความพยายามท่ีเรามี
สู่การเป็นคนที่ดีกว่าเดิม" (คำคมจาก นุอฺมาน อาลี คาน)
 
วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 19, 2016, 12:52 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
อัลลอฮฺทรงโองการว่า

"เนื่องด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺนั่นเอง (มุฮัมมัด) เจ้าจึงสุภาพ อ่อนโยน แก่พวกเขา และหากเจ้าเป็นผู้หยาบคายและมีใจแข็งกระด้าง แน่นอนพวกเขาย่อมแยกตัวออกไปจากรอบๆ เจ้า ดังนั้น จงให้อภัยแก่พวกเขาเถิด และจงขออภัยจากอัลลอฮฺให้แก่พวกเขาด้วย และจงปรึกษาหารือกับพวกเขาในกิจการที่สำคัญทั้งหลาย ครั้นเมื่อเจ้าได้ตัดสินแน่วแน่กับสิ่งใดแล้วก็จงมอบหมายต่ออัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้ที่มอบหมายทั้งหลาย"

(ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน : 159)

หากเราเป็นผู้ที่หยาบคายและมีกิริยาที่กักขละ ใครเลยจะรับฟังในสิ่งที่เราจะเผยแผ่ 
ดังนั้น มารยาทที่ถอดแบบอย่างมาจากท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวัสซัสลัม จึงเป็นแบบอย่างในการเผยแผ่อิสลามที่ดีเลิศที่สุด mycool:


ชอบค่ะ

ขุดค่ะขุด เพราะเห็นมีพี่น้องของเราเข้ามาในเว็บแล้วถามเกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี

การดะวะห์หรือการเผยแผ่อิสลามนั้น ต้องเริ่มมาจากตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก
ท่านนบีของเรามีจรรยามารยาทอย่างไร เราต้องลองนำมาปฏิบัติดูก่อน
ปฏิบัติจนกลายเป็นนิสัย เพราะนั่นแหล่ะจะกลายเป็นแบบอย่างให้คนอื่นได้เห็น
ว่าอิสลามมีดีอย่างไร...

มารยาทที่ดีงาม ความประพฤติที่ดี สุภาพ อ่อนโยน ล้วนเป็นหนึ่งใน
คุณลักษณะของท่านนบี และทำให้ท่านโดดเด่น จนกระทั่งผู้คนอยากเป็นแบบท่าน
อยากทำตามท่าน...

ถ้าเราสามารถทำตนได้แบบท่าน อาจไม่ต้องทั้งหมด แต่ทำเท่าที่จะสามารถทำได้
แค่นั้นก็มากแล้วสำหรับการเผยแผ่อิสลามให้กับผู้อื่นๆในชีวิตเรา...

และโดยไม่ต้องรอให้ตัวเราสมบูรณ์แบบก็ได้ค่ะ แค่ตักเตือนในส่วนที่เราเองก็ทำ
มิใช่เราใช้คนอื่นทำ แต่เรากลับไม่ทำ...

เรียนรู้อย่างใคร่ครวญ แล้วนำไปปฏิบัติตามอย่างสุดความสามารถ
ตักเตือนเพื่อนมนุษย์ด้วยมารยาทที่ดีงาม
เชื่อว่า ความสำเร็จไม่ไกลเกินจะไปถึงค่ะ ^^

วัสลามค่ะ

 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged