العينة والتورق
บัย อัลอีนะห์ และตะวัรรุก
บัย อัลอีนะห์  และ ตะวัรรุก เป็นประเด็นมานานนับพันปี
เมื่อ มีการก่อตั้งธนาคารอิสลามขึ้น นักวิชาการด้านชะรีอะห์ได้มีการหยิบยกประเด็นเรื่องบัย อัลอีนะห์ และตะวัรรุกขึ้นมาอภิปรายกันค่อนข้างกว้างขวางเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือทาง การเงินตามหลักการศาสนา  โดยกลุ่มประเทศเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้หยิบยกเอาบัย อัลอีนะห์ มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเงินในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ติดขัดทางด้าน กฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกรรมทางการเงิน  และที่ติดขัดในเรื่องการจ่ายภาษีซ้ำซ้อน  โดยอาศัยหลักที่ว่าบัย อัลอีนะห์ เป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้ตามมัซฮับชาฟิอี  ใน ขณะที่กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางได้หยิบเอาหลักตะวัรรุกมาใช้เป็นเครื่องมือ ทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทางการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้าที่ต้องการเงินสดไปหมุนเวียน โดยอาศัยหลักที่ว่าตะวัรรุก เป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้ตามมัซฮับฮัมบะลี  จึงทำให้หลายๆคนคิดว่า บัย อัลอีนะห์ และตะวัรรุกนั้นเป็นประเด็นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเกิดธนาคารอิสลาม  ทั้งที่ความจริงทั้งสองนี้ได้เป็นประเด็นมานานนับพันปีแล้ว.  
นิยามบัย อัลอีนะห์  ( بيع العينة):
( وَهُوَ أَنْ يَبِيعَهُ عَيْنًا بِثَمَنٍ كَثِيرٍ مُؤَجَّلٍ وَيُسَلِّمَهَا ) لَهُ ( ثُمَّ يَشْتَرِيَهَا ) مِنْهُ ( بِنَقْدٍ يَسِيرٍ لِيَبْقَى الْكَثِيرُ فِي ذِمَّتِهِ وَنَحْوُهُ ) بِأَنْ يَبِيعَهُ عَيْنًا بِثَمَنٍ يَسِيرٍ نَقْدًا وَيُسَلِّمَهَا ثُمَّ يَشْتَرِيَهَا مِنْهُ بِثَمَنٍ كَثِيرٍ مُؤَجَّلٍ سَوَاءٌ قَبَضَ الثَّمَنَ الْأَوَّلَ أَمْ لاَ 
คือ การที่คนหนึ่งขายสินค้าให้ผู้ซื้อเป็นเงินเชื่อ และส่งมอบสินค้านั้นให้แก่ผู้ซื้อไป  หลังจากนั้นเขาก็ซื้อสินค้านั้นกลับมาด้วยเงินสดที่น้อยกว่าราคาขาย  เพื่อที่ราคาเงินเชื่อที่มากกว่าจะติดค้างอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ซื้อ และที่เหมือนกันก็คือ  การที่เขาขายสินค้าให้ผู้ซื้อเป็นเงินสด และส่งมอบสินค้านั้นให้แก่ผู้ซื้อไป หลังจากนั้นก็ซื้อสินค้าคืนมาเป็นเงินเชื่อที่มากกว่าราคาขาย โดยไม่คำนึงว่าเขาได้รับราคาขายครั้งแรกแล้วหรือไม่. (أسنى المطالب -الجزء الثاني)
และ เพื่อให้เห็นภาพการดำเนินการโดยหลักบัย อัลอีนะห์ระหว่างธนาคารอิสลามกับลูกค้าทั้งกรณีที่ธนาคารเป็นเจ้าของสินค้า และกรณีที่ลูกค้าเป็นเจ้าของสินค้า จึงขอเสนอตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างในกรณีที่ธนาคารเป็นเจ้าของสินค้าธนาคารขายสินค้าของตนให้แก่ลูกค้าของธนาคารเป็นเงินเชื่อราคา 1200 บาท กำหนดชำระคืนหนึ่งปี ธนาคารส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าไป  เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว ก็ขายคืนให้ธนาคารเป็นเงินสดด้วยราคา 1000 บาท 
เป็นผลทำให้ลูกค้าเป็นหนี้ธนาคาร 1,200 บาท จากการซื้อสินค้าจากธนาคารเป็นเงินเชื่อ ที่จะต้องผ่อนชำระในกำหนดหนึ่งปี  และลูกค้าได้เงินสดไป 1,000 บาท  จากการขายสินค้านั้นคืนให้แก่ธนาคาร
ตัวอย่างในกรณีที่ลูกค้าเป็นเจ้าของสินค้าลูกค้าขายสินค้าของตนให้แก่ธนาคารเป็นเงินสดด้วยราคา 1,000 บาท กำหนดชำระคืนหนึ่งปี ลูกค้าส่งมอบสินค้าให้แก่ธนาคารไป  เมื่อธนาคารได้รับสินค้าแล้ว ก็ขายคืนให้ลูกค้าเป็นเงินเชื่อด้วยราคา 1,200  บาท
เป็นผลทำให้ลูกค้าได้เงินสดไป 1,000 บาท   จากการขายสินค้าของตนให้แก่ธนาคารเป็นเงินสด  แต่เป็นหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่ธนาคาร 1,200  บาท จากการที่ธนาคารขายสินค้านั้นคืนกลับไปเป็นเงินเชื่อ  ในกำหนดหนึ่งปี