ผู้เขียน หัวข้อ: วิภาษคำปราศัยของอาจารย์ ริฏอ อะห์มัด สะมะดี (ฮะดาฮุลลอฮ์)  (อ่าน 10701 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

 salam

อ.ริฎอ พูดบรรยายว่า

"เช่น พวกอะชาอิเราะฮ์และพวกญับบะรียะฮ์  บอกว่ามนุษย์เหมือนใบไม้ที่พายุหรือลมมันพัดไปปลิวโดยไม่มีเจตนารมณ์  เขายกตัวอย่างมนุษย์เหมือนใบไม้  ไปใหนไปที่ใหนมีสิทธิ์เลือกอะไรเลย  อันนี้หลงผิดดอลาละฮ์"   ในชั่วโมงที่  01 :  นาทีที่  06  วินาทีที่ : 41 

วิภาษ

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

หลังจากที่ได้โทรศัพท์คุยกับ อ.ริฎอ สะมะดีย์ ปรากฏว่าท่านไม่ได้ค้นคว้าข้อเท็จจริงจากตำราของปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์เลยแม้แต่น้อย ความบกพร่องและความผิดพลาดเชิงวิชาการจึงเกิดขึ้น  บรรดาลูกศิษย์ของ อ.ริฎอ บางส่วนที่ไม่สามารถแยกแยะถูกผิดระหว่างแนวทางได้ ก็จะหลงเชื่อตามอย่างสิโรราบและหมดใจ  ซึ่งอย่างนี้ถือว่าเป็นความลุ่มหลงอันตราย  ดังนั้นเจตนาที่ผมชี้แจงนั้น เพื่อให้ อ.ริฎอ และผู้รับฟังการบรรยาของ อ.ริฏอ ได้เรื่องก่อฎอก่อดัรมีความเข้าใจอันถูกต้องต่อแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ในเรื่องก่อฏออฺและก่อดัรครับ

ต่อไปนี้ผมจะทำการอ้างอิงคำพูดของอุลามาอฺอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ เกี่ยวกับเรื่องก่อฏออฺและก่อดัร ตามที่มหาชนอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์แห่งโลกอัลอิสลามได้ยึดถือมาเป็นหลักอะกีดะฮ์

ท่านชัยคุลอิสลาม อิมามอัลบาญูรีย์ ปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ได้กล่าวว่า

أَنَّ فِيْ هَذِهِ المَسْئَلَةِ ثَلاَثَةَ مَذَاهِبَ أَهْلَ السُّنَّةِ وَهُوَ أَنَّهُ لَيْسَ لِلْعَبْدِ فِيْ أَفْعَالِهِ الإِخْتِيَارِيَّةِ إِلَّا الْكَسْبُ فَلَيْسَ مَجْبُوْراً كَمَا تَقُوْلُ الْجَبْرِيَّةُ وَلَيْسَ خَالِقاً لَهَا كَمَا تَقُوْلُ الْمُعْتَزِلَةُ وَمَذْهَبَ الْجَبْرِيَّةُ وَهُوَ أَنَّ الْعَبْدَ لَيْسَ لَهُ كَسْبٌ بَلْ هُوَ مَجْبُوْرٌ أَيْ وَمَقْهُوْرٌ كَالرِّيْشَةِ الْمُعَلَّقَةِ فِي الْهَوَاءِ تُقَلِّبُهَا الرِّيَاحُ كَيْفَ شَاءَتْ وَمَذْهَبَ الْمُعْتَزِلَةِ وَهُوَ أَنَّ الْعَبْدَ خَالِقٌ لِأَفْعَالِهِ الإِخْتِيَارِيَّةِ بِقُدْرَةِ اللهِ خَلَقَهَا اللهُ فِيْهِ وَلِقَوْلِهِمْ بِقُدْرَةٍ خَلَقَهَا اللهُ فِيْهِ لَمْ يِكْفُرُوْا عَلَي الأَصَحِّ فَالْجَبْرِيَّةُ أَفْرَطُوْا وَالْمُعْتَزِلَةُ فَرَّطُوْا وَتَوَسَّطَ أَهْلُ السُّنَّةِ وَخَيْرُ الأُمُوْرِ أَوْسَاطُهَا

"ในประเด็นนี้มีอยู่ 3 มัซฮับด้วยกัน  มัซฮับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์(อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรีดียะฮ์) คือไม่มีให้แก่บ่าว ที่อยู่ในการกระทำต่าง ๆ ของเขาที่เลือกเฟ้นได้นั้นนอกจากเป็นการอุตสาหะ اَلْكَسْبُ เท่านั้น (ความอุตสาหะหมายถึงการเจตนาและความพยายามอันเกิดขึ้นจากจิตใจ) ดังนั้นบ่าวจะไม่ถูกบังคับเหมือนกับที่พวกญับรียะฮ์ได้กล่าวไว้  และบ่าวจะไม่เป็นผู้สร้างการกระทำของเขาเองเหมือนที่พวกมั๊วะตะซิละฮ์ได้กล่าวไว้ , ส่วนมัซฮับอัลญับรียะฮ์นั้น  คือบ่าวจะไม่มีการอุตสาห์ใด ๆ แก่เขา  แต่ว่าเขานั้นถูกบังคับ หมายถึง ถูกบังคับเหมือนขนนกที่ลอยอยู่บนอากาศ  ซึ่งลมได้พัดพามันตามที่ต้องการ , ส่วนมัซฮับมั๊วะตะซิละฮ์นั้น  บ่าวเป็นผู้ที่สร้างบรรดาการกระทำของเขาที่เลือกเฟ้นขึ้นมา ด้วยกุดเราะฮ์ของอัลเลาะฮ์ที่พระองค์ทรงสร้างไว้ในบ่าวคนนั้น ,  และคำพูดของพวกมั๊วะตะซิละฮ์ที่ว่า (มนุษย์สร้างการกระทำของเขา)ด้วยกุดเราะฮ์ที่อัลเลาะฮ์ทรงสร้างไว้ในตัวเขานั้น  ถือว่าพวกเขาไม่เป็นกาเฟรตามทัศนะที่ชัดเจนยิ่ง , ดังนั้นพวกญับรียะฮ์จึงมีความเลยเถิด , และพวกมั๊วะตะซิละฮ์มีความละเลย  และอะฮ์ลิสซุนนะฮ์(อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรีดียะฮ์) มีความเป็นกลาง  และบรรดาสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคือมันความเป็นกลาง" หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมุรีด ชัรห์ เญาฮะเราะฮ์ อัตเตาฮีด หน้า 61

ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนุ อัศศุบกีย์  ได้กล่าวว่า

وَالَّذِيْ تَحَرَّرَ لَنَا أَنَّ الإِخْتِيَارَ وَالْكَسْبَ عِبَارَتَانِ عَنْ مُعَيَّنٍ وَاحِدٍ وَلَكِنَّ الأَشْعَرِيَّ آَثَرَ لَفْظَ الْكَسْبِ لِكَوْنِهِ مَنْطُوْقَ الْقُرْآنِ ، وَالْقَوْمُ آثَرُوْا لَفْظَ الإِخْتِيَارِ لِمَا فِيْهِ مِنْ إِشْعَارِ قُدْرَةٍ لِلْعَبْدِ

"สิ่งที่ทำให้เกิดความละเอียดละออกแก่เราก็คือ  แท้จริงการเลือกเฟ้นหรือการมีความอุตสาหะ(แก่มนุษย์นั้น)  เป็นสำนวนที่มีความเป้าหมายเดียวกัน  แต่อิมามอัลอัชอะรีย์นั้น  นิยมใช้คำว่า اَلْكَسْبُ  "อัลกัสบ์" (มนุษย์มีความอุตสาหะในการกระทำหมายถึงการเจตนาและความพยายามอันเกิดขึ้นจากจิตใจ) เนื่องจากมันเป็นถ้อยคำที่ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน  และกลุ่มชน(อัลมะตูรีดียะฮ์)นั้นพวกเขานิยมใช้คำว่า "อัลอิคตะยาร" (มนุษย์มีการเลือกเฟ้นในการกระทำ) เนื่องจากในการใช้ถ้อยคำที่ว่า "เลือกเฟ้น" นั้นบ่งให้รู้ว่าความสามารถนั้น(อัลเลาะฮ์ทรงสร้างไว้)ให้แก่บ่าว(ให้มีการเลือกเฟ้นในการกระทำได้)" หนังสือ เฏาะบะก็อต อัชชาฟิอียะฮ์ ของท่านอิบนุ อัศศุบกีย์ 3/386

ท่านอิมาม อัชชะรีฟ อัซซัยิด อัลญุรญานีย์  ได้กล่าวว่า

إِنَّ أَفْعَالَ الْعِبَادِ الإِخْتِيَاريَّةَ وَاقِعَةٌ بِقُدْرَةِ اللهِ تَعَالَي وَحْدَهَا وَلَيْسَ بِقُدْرَتِهِمْ فِيْهَا تَأْثِيْرٌ ، بَلِ اللهُ سُبْحَانَهُ أَجْرَي عَادَتَهُ بِأَنَّهُ يُوْجِدُ فِي الْعَبْدِ قُدْرَةً وَاِخْتِيَاراً فَإِذَا لَمْ يَكُنْ هُنَاكَ مَانعٌ ، أَوْجَدَ فِيْهِ فِعْلَهُ الْمَقْدُوْرَ مُقَارِناً لَهُمَا

"แท้จริงบรรดาการกระทำของบ่าวที่เลือกเฟ้นได้นั้น มันจะเกิด(ผล)ขึ้นได้ด้วยเดชานุภาพของอัลเลาะฮ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น  และในการกระทำของบ่าวนั้นความสามารถของพวกเขามิได้ทำการบังเกิดผลขึ้นแต่ประการใด  แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทำให้ดำเนินตามที่พระองค์วิถีที่พระองค์ทรงวางไว้  ก็คือพระองค์จะสร้างให้บ่าวมีพลังความสามารถและเลือกเฟ้น(คิดไตร่ตรอง)ได้  ดังนั้นเมื่อ(ความพลังความสามารถและการเลือกเฟ้น)นั้นไม่มีสิ่งใดมาขวาง(เช่นไม่ป่วยและไม่สลบเป็นลมหรือวิกลจริต) บ่าวก็จะสร้างการกระทำที่สามารถกระทำได้โดยอยู่พร้อมกับ(พลังความสามารถและการเลือกเฟ้น)ทั้งสอง(ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่บ่าว)" หนังสือ ชัรหุลมะวากิฟ 2/379

ท่านอัลลามะฮ์ มุฮัมมัด บิน มันซูร อัลฮุดฮุดีย์  ได้กล่าวว่า

يَتَحَصَّلُ بِهَا اِيْجَادُ كُلِّ مُمْكِنٍ وَالإِيْجَادُ اِخْرَاجُ الْمُمْكِنِ مِنَ الْعَدَمِ اِلَي الوُجُوْدِ وَكُلُّ مُمْكِنٍ يَتَنَاوَلُ أَفْعَالَنَا الإِخْتِيَارِيَّةَ كَحَرَكَاتِنَا وَسَكَنَاتِنَا...وَهَذَا عَلَي الْمَذْهَبِ الْمُخْتَارِ

"ด้วยกุดเราะฮ์(ความเดชานุภาพของอัลเลาะฮ์)นั้น  ทำให้บังเกิดทุก ๆ สิ่งที่มุมกิน(คือสิ่งที่มีขึ้นมาก็ได้และไม่มีขึ้นมาก็ได้) และการทำให้บังเกิด(หรือการสร้าง)ก็คือการนำสิ่งที่มุมกินออกมาจากการไม่มีไปสู่การมี  และทุก ๆ สิ่งที่มุมกินนั้นครอบคลุมถึงบรรดาการกระทำที่เราเลือกเฟ้นได้ (หมายถึงการกระทำของเราที่เลือกเฟ้นตั้งใจกระทำนั้น อัลเลาะฮ์ทรงใช้กุดเราะฮ์ความสามารถทำให้มันบังเกิดผลขึ้นมา) เช่น บรรดาการเคลื่อนไหวและการนิ่งของเรา...และนี้ก็คือมัซฮับที่ถูกเลือกเฟ้นแล้ว" หนังสือฮาชียะฮ์ อัชชัรกอวีย์ หน้า 67

นั่นคือหลักอะกีดะฮ์ของมัซฮับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ที่แท้จริง   กล่าวคือมนุษย์นั้นอัลเลาะฮ์ทรงทำให้พวกเขาบังเกิดมา   และพระองค์ทรงมอบหรือเปิดโอกาสให้พวกเขามีพลังความสามารถและมีเจตนาการเลือกเฟ้นอุสาหะได้  เมื่อบ่าวมีเรี่ยวแรงและเจตนาตัดสินใจหรือตั้งใจจะทำความดีหนึ่ง  พวกเขาก็จะกระทำด้วยเรี่ยวแรงที่อัลเลาะฮ์ทรงมอบให้(โดยที่การกระทำการเคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่งได้อัลเลาะฮ์ทรงสร้างขึ้นมา)ตามที่พวกเขาได้ตั้งใจเจตนาเอาไว้  ส่วนผลของการกระทำที่จะเกิดขึ้นนั้น  อัลเลาะฮ์เป็นผู้ทำให้บังเกิดขึ้นมาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น  มนุษย์มีสิทธิ์ในการพยายามอุตสาหะและเจตนาในการกระทำความดีงาม  เขาก็จะได้รับผลบุญตอบแทนจากความตั้งใจของเขานั่นเอง  แต่หากเขาเจตนากระทำความชั่ว  เขาก็จะได้ผลการตอบแทนด้วยการลงโทษนั่นเองครับ

ตัวอย่าง  เช่น  การละหมาด  มุสลิมคนหนึ่งเกิดมาในโลกนี้  อัลเลาะฮ์ทรงให้เขามีพละกำลังและมีสติปัญญา  เมื่อเขาได้ร่ำเรียนหลักการอิสลามขัดเกลาสติปัญญาและจิตใจของเขาแล้ว  เมื่อเวลาละหมาดมาถึง  อัลเลาะฮ์ให้เขามีสุขภาพดีมีพละกำลังวังชา  จิตใจของเขาก็มีความอุตสาหะตั้งใจเลือกเฟ้นในการไปละหมาดโดยไม่ยอมทิ้งละหมาด(อัลเลาะฮ์ได้ให้ผลบุญแก่เขาตรงนี้แล้ว) เมื่อเขามีกำลังในการกระทำละหมาด  เช่น  ยืน , ก้ม , หยุดนิ่งหลังเงยหน้าขึ้นมา , สุยูด , นั่งระหว่างสองสุยูด , เป็นต้น  การที่เขาได้เคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่งในการยืนละหมาดนั้น  อัลเลาะฮ์ผู้ทรงสร้างให้บังเกิดผลการกระทำขึ้นตามที่เราได้เจตนาหรืออุตสาหะในการกระทำละหมาดนั่นเอง

นี่คืออะกีดะฮ์ของพวกเรา  มัซฮับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์  ผู้ใดกล่าวอ้างของพวกเราอื่นจากนี้  ถือว่าเป็นผู้กล่าวหาใส่ร้ายแก่พวกเรา  หากยังยืนกราน  เราจะฟ้องร้องต่ออัลเลาะฮ์ในวันกิยามะฮ์

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 04, 2010, 05:35 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam

อ.ริฎอ พูดบรรยายว่า

"เช่น พวกอะชาอิเราะฮ์และพวกญับบะรียะฮ์  บอกว่ามนุษย์เหมือนใบไม้ที่พายุหรือลมมันพัดไปปลิวโดยไม่มีเจตนารมณ์  เขายกตัวอย่างมนุษย์เหมือนใบไม้  ไปใหนไปที่ใหนมีสิทธิ์เลือกอะไรเลย  อันนี้หลงผิดดอลาละฮ์"   ในชั่วโมงที่  01 :  นาทีที่  06  วินาทีที่ : 41 



อ.ริฏอ สะมะดี  พูดโดยพาดพิงถึงผมว่า

"อาจารย์กอเซ็มก็ต้องสอนลูกศิษย์  อัลอัซฮะรีย์ก็ต้องสอน  ก็ต้องตอบ  อ.อัลอัซฮะรีย์  โทรมาหาผมจากอียิปต์เนี่ย ต้องขอบคุณที่ลงทุนโทรทางอินเตอร์เน็ต  โทรมาถามผมเรื่อง กอฏ่อ ก่อดัร เขาเขียนอะไรในเว็บบอร์ด  และก็อ้างว่าผมพูดอย่างโน้นอย่างนี้  ผมก็ว่าคงไม่ใช่มั้ง  คลาดเคลื่อน  ก็พูดไปพูดมา  ก็พูดหลายประเด็น  ประเด็นหนึ่งที่ผมพูดกับอาจารย์อัลอัซฮะรีย์  และท่านตอบผมไม่ได้  ผมก็พยายามคะยั้นคะยอให้ท่านตอบปัญหาตรงนี้  เพราะมันจะเคลียร์หลายเรื่อง  เกี่ยวกับเรื่องอะกีดะฮ์ของเราเอามาจากใหน  เอามาจากอัลกุรอาน  เอามาจากฮะดีษของนบีหรือเอามาจากใคร...ผมถามอาจารย์อัลอัซฮะรีย์  กุรอานของอัลเลาะฮ์น่ะ  มัคโลคหรือไม่มัคโลค  อะกีดะฮ์ที่เราสอนในฟัรดูอีนน่ะซิว่า...อัลอะชาอิเราะฮ์บอกว่าอัลกุรอานมัคโลค...อะชาอิเราะฮ์บอกว่าอัลกุรอานของอัลเลาะฮ์นั้นนี้มีสองอย่าง  เขาบอกว่า มีอัลกุรอานนัฟซี มีอัลกุรอานลัฟซีย์  อัลกุรอานนัฟซีย์ไม่มัคโลค  แล้วอยู่ที่ใหน อยู่ ณ อัลเลาะฮ์  นั่นแหละอัลกุรอานอันนั้นไม่มัคโลค  นั่นน่ะก่อดีม อะซัลลีย์  ถาวร ไม่มัคโลคแน่นอน  และอัลกุรอานลัฟซีย์น่ะ  ก็นี่แหละที่เราใช้กันนี่แหละ  มัคโลคทั้งนั้น  พอไปถามเขา  พอไปถามเขา  แล้วตกลงสมมุตินี้อัลกุรอานน่ะ  กระดาษมัคโลคแน่นอน  หมึกมัคโลคแน่นอน  และที่เราอยู่ที่เราอ่านกันเนี่ย  มันเป็นอัลกุรอานลัฟซีย์หรือนัฟซีย์  เดี๋ยวช่วยมาตอบด้วยน่ะ  ฮึฮึ  เพราะเรื่องสำคัญ  สรุปแล้ว  อะกีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮ์  ไม่ต่างอะไรเล้ยกับอะกีดะฮ์มั๊วะตะซิละฮ์ที่บอกว่า  อัลกุรอานนั้นมัคโลค  ไม่ใช่คำพูดของผม  แต่เป็นคำพูดของอาจารณ์ด็อกเตอร์ที่สอนวิชาอะกีดะฮ์ในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ปี สอง คณะชะรีอะฮ์ในตำราบอกว่า  ข้าพเจ้าไม่เห็นข้อแตกต่างเลยระหว่างอะกีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮ์กับอะกีดะฮ์ของมั๊วะตะซิละฮ์  ทั้งสองเห็นว่ามัคโลค  สรุปแล้วเรากำลังสอนอะกีดะฮ์ที่ผิดเพี้ยนแก่ลูกหลานของเรา  กรรมมัสยิดต้องพิจารณา อ.อัลอัซฮะรีย์  ก็ต้องพิจารณา  อ.กอเซ็ม ก็ต้องพิจารณา  อะกีดะฮ์อะชาอิเราะฮ์เนี่ย  ซีฟัตอัลเลาะฮ์เนี่ย  เก้าสิบเก้าก็ไม่เอา  เอาแค่ยี่สิบ  อัลกุรอานไปหลอกชาวบ้านว่าไม่ใช่มัคโลค  แต่ในเนื้อหาอะกีดะฮ์ของเขาบอกว่ามัคโลคแต่ปกปิด..."

มียังประเด็นมากมายที่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง  ดังนั้นกระผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการด้วยความช่วยเหลือของอัลเลาะฮ์ตะอาลา   โปรดติดตามครับ

โปรดติดตามข้อเท็จจริง...อินชาอัลเลาะฮ์

อาริฟีน  แสงวิมาน (อัลอัซฮะรีย์)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 06, 2010, 10:51 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อ.ริฎอ  สะมะดี  กล่าวปราศัยว่า
 
“อิมามอัลฆ่อซาลีย์เขาบอกว่า  พระนามทุกพระนามย่อมมีซีฟาตของมัน แสดงว่าพระนามของอัลเลาะฮ์ทุกพระนามมีคุณลักษณะในตัวพระนาม แสดงว่าอย่างน้อยเนี่ย อัลเลาะฮ์ต้องมี 99 ซีฟาต  แต่ฟัรดูอีนกำลังสอนพวกเรา  ว่าซีฟัตของอัลเลาะฮ์มีเพียงดูวอปูโละห์(20) ญัสตะเว้นตี้  ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องเตรียมคำตอบต่อพระผู้เป็นเจ้า  ไปตอบต่ออัลเลาะฮ์ ว่า  ไปสอนนบี  ให้สอนว่าพระองค์มี 99 พระนาม  แต่เราดันเอาหลักสูตรมาสอนลูกหลานของเราว่าอัลเลาะฮ์มีเพียง ดูวอปูโละห์ มีแค่ 20 ต้องไปตอบนบีโน้นน่ะ พอไปดื่มน้ำเกาษัรสำหรับประชาชาติอิสลาม  ไปดื่มน้ำกันใหญ่เลย  วันกิยามะฮ์  มันร้อน  ดวงอาทิตย์ใกล้ศีรษะ นบีบอกว่า  ยาร็อบบี  อุมมะตี  อุมมะตี  ประชาชาติของฉัน  อัลเลาะฮ์ก็จะบอกแก่นบีว่า  ลาตัดรี มา อะห์ดะษูบะอฺดัก “เจ้าไม่รู้หรอก  ว่ามันเปลี่ยนแปลง  บิดเบือนศาสนาของเจ้าอย่างไง?”  พี่น้องถ้าศาสนาถ้าอัลเลาะฮ์ถ้าร่อซูลบอกว่ามี 99 แต่เรามาบอกว่ามี ดูวอปูโละห์  นี่บิดเบือนหรือเปล่า? เตรียมคำตอบไปบอกกับนบี  ที่จะไปดื่มน้ำกับท่านว่า  นบีที่ท่านนี่น่ะ กูไม่เอาด้วย  กูเชื่ออิมามอัชอารี  นบีมาสอนว่ามี 99 แต่ฉันไม่เชื่อ แต่ฉันเชื่ออะบุลฮะซัน อัลอัชอะรีย์  ตอบซิครับ  ก่อนเข้าหลุมศพ  ตอบซิครับ  อ.กอเซ็ม ต้องตอบกับประชาชน  ตอบประชาชนที่ท่านกำลังสอน  สอนกับลูกศิษย์  อ.อัลอัซฮะรีย์  ก็ต้องสอน  ก็ต้องตอบ...”

วิภาษ

กระผม  อัลอัซฮะรีย์  ขอตอบชี้แจงความจริงดังนี้  หนังสือฟัรดูอีนหลักสูตรคุรุสัมพันธ์ที่ผมเคยเรียนและปัจจุบันยังนำมาทำการเรียนการสอนอยู่  เช่น  หนังสือ  วิชาเตาฮีด  ฟิกห์  สำหรับชั้นปีที่ 4  ซึ่งอยู่ในมือผมตอนนี้  ได้สอนเกี่ยวกับพระนามทั้ง 99 และสอนซีฟัต 20 ในเบื้องต้น

เมื่อดูหนังสือฟัรดูอีนในหน้าที่ 4  หัวข้อ  พระนามองค์อัลอฮ์ (ซ.บ.)  ได้ระบุเนื้อหาดังนี้ “พระนามอันประเสริฐ (อัซมาอุ้ลฮุสนา) ของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) มีทั้ง 99 พระนาม  มุสลิมทุกคนควรท่องจำไว้ให้ได้...”  หลังจากนั้นก็ทำการกล่าวลำดับพระนามทั้ง 99  จากหน้า 4-10
 


ต่อมาในหน้าที่ 11  ได้พูดถึงเรื่องซีฟาตบางส่วนของอัลเลาะฮ์ที่จำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจจริง ๆ  ในเบื้องต้นมี 20 ประการ  ซึ่งเป็นซีฟัตแม่เป็นซีฟัตหลักที่มีหลักฐานเด็ดขาดมุตะวาติร  มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน  ซึ่งในหนังสือฟัรดูอีนได้ระบุข้อเท็จจริงไว้ว่า  “ซีฟัตวายิบสำหรับพระองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.) มีมากมายไม่สิ้นสุด  แต่ที่วายิบให้เรารู้และเข้าใจจริง ๆ มีเพียง 20  ซีฟัต”  ดูหนังสือฟัรดูอีน วิเชาเตาฮีดในปีที่สี่ หน้า 11


เมื่อความจริงมา  ความเท็จต้องมลายไป  โอ้อัลเลาะฮ์  โปรดเป็นพยานด้วยเถิด...

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

 salam

พี่น้องที่คอยติดตามการวิภาษเชิงวิชาการ  ในการเปิดเผยข้อเท็จจริงนี้  โปรดรอสักระยะน่ะครับ  เพราะตอนนี้หนังสือฮิกัมยังไม่เรียบร้อยครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged