ผู้เขียน หัวข้อ: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)  (อ่าน 4569 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di mana Aman damai? (ไหนหละสันติภาพ?)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิ.ย. 12, 2009, 03:16 PM »
0
คณะกรรมการกลางอิสลามประจำจังหวัดหนึ่ง กล่าวตอบคำถามของคนหนึ่งที่ถามว่า ตกลงเหตุการณ์การยิงชาวมุสลิมที่กำลังละหมาดอิชาอ์ในมัสญิดนั้นเป็นฝีมือของใครกันแน่? ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า คนที่ทำก็คือคนที่ไม่มีศาสนาอยู่กับตัวและจิตใจของเขา, และเขาก็ไม่ใช่หนึ่งจากพวกเราแน่นอน - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 13, 2009, 05:10 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิ.ย. 13, 2009, 04:56 PM »
0
 salam
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ใครล่ะที่เป็นผู้จุดชนวนขึ้นมาใหม่เพื่อให้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้กลับมารุนแรงอีกครั้ง
ไม่มีใครที่ไหน นอกจากผู้ที่ไม่มีศาสนาในหัวใจ นั่นเอง อย่างที่คณะกรรมการกลางอิสลามได้บอกไว้.......น่าหดหู่ใจเหลือเกิน  mycry

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิ.ย. 13, 2009, 05:35 PM »
0
วิธีการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดีที่สุดก็คือ ให้แต่ละคนต่างรักษาตัวเองและหลีกเลี่ยงตัวเองจากการกระทำที่ผิดหลักศาสนา ซึ่งเขาจะรู้ได้ว่าสิ่งใดที่ทำไปผิด หรือถูกต้องนั้น เขาจะต้องเรียนศาสนา นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ -  วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิ.ย. 14, 2009, 09:57 PM »
0
วันนี้ ผมได้คุยกับคนออสเตรเลียนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับอิสลาม เขาคนนี้ทำให้ผมต้องมองตัวเองว่า สิ่งที่ตนเป็นอยู่และทำอยู่นั้นเพียงพอแล้วหรือ เขาเป็นคนออสเตรเลียน แต่กลับพูดภาษาอาหรับได้คล่อง ยิ่งไปกว่านั้น เขาพูดภาษามลายูได้แจ๋วเลย ทั้งๆ ที่ศึกษาจากหนังสือด้วยตัวเองโดยลำพัง อีกทั้งไม่ค่อยได้ฝึกการพูดภาษามลายูจากสถาบัน หรือคนมลายูด้วยซ้ำ มันทำให้มันต้องคิดว่า เขาทำได้ถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะความสามารในการพูดภาษามลายูของเขา ดังนั้น ผมก็ต้องทำได้ด้วย แต่ผมรู้สึกเขาอาจจะเป็นพวกออร์เรียนตาลิสต์นะ แต่เขาก็ไม่ชอบวะฮาบีย์ และดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องญิฮาดที่ไม่ค่อยดีนิดหน่อย แต่ผมก็อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ และดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เขาแนะว่าพร้อมทั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่ญิฮาดกันทางปากกาหละ น่าจะได้ผลมากกว่านะ แค่นี้แหละ มันทำให้ผมไอเดียบันเจิดเลย - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิ.ย. 14, 2009, 11:56 PM »
0
แล้วเขาจะเขียนหนังสือได้ตรงจุดเกิดเหตุหรือป่าวค่ะ...

อ้างถึง
ซึ่งกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับอิสลาม


อ้างถึง
และดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องญิฮาดที่ไม่ค่อยดีนิดหน่อย แต่ผมก็อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ และดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง



ความจริงเรื่องญิฮาด เราก็ญิฮาดกันได้ทุกทาง ขอเพียงทำด้วยความอิคลาส.... เพื่ออัลลอฮฺคือเป้าหมายที่แท้จริง mycool:

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิ.ย. 15, 2009, 10:23 AM »
0
เขาเขียนทุกด้านหรือเปล่า ผมไม่ทราบนะครับ แต่ที่แน่ๆ หนังสือเล่มนี้ความยาว 300 กว่าหน้า และเขาบอกว่าใช้เวลาสืบหาข้อมูลในพื้นที่3จ.ตั้งแต่ปี1997 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้เขากำลังตรวจทานอยู่ แล้วจะส่งไปตีพิมพ์ที่ออสเตรเลีย ผมว่า หากทางการไทยยังคงคงนโยบายอย่างที่เคยเป็นมานั้น อินชาอัลลอฮฺ อีกหน่อยไทยจะต้องตกที่นั่งลำบากในเวทีการค้าขายระหว่างประเทศมุสลิม เพราะบรรดาประเทศอิสลามและมุสลิม ถือเป็นแหล่งส่งออกสำคัญของไทย แต่หากไทยยังไม่สามารถให้แก้ปัญหาภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ แล้วปล่อยให้เหตุซ้ำๆ ซากๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิทางด้านศาสนาอิสลามของคนในพื้นที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็เหมือนกับเป็นการสร้างภาพให้ทางไทยเองกลายเป็นคนที่ไม่มีความสัจจริงในการพูดหรือคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทางทั้งตรงและทางอ้อมแก่ไทยเอง ไม่เฉพาะแต่3จ.เท่านั้น
              และปัจจุบัน ผมเดินในตัวเมืองปัตตานี หลังๆ นี้จะเห็นคนต่างชาติค่อนข้างจะถี่ขึ้น คนเหล่านี้คงไม่ได้มาท่องเทียวเป็นแน่ แต่เขามาทำอะไรนั้น ผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือ ข่าวเกี่ยวกับ3จ. ในต่างประเทศนั้น เขารู้กระหึ่มกันทั่วแล้ว และค่อนข้างจะมองภาพไทยไปในทางลบด้วยซ้ำ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิ.ย. 15, 2009, 10:41 AM »
0
บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรรอฮีม

 salam

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นถ้าจะไม่ทุกข์ร้อนเลย

นั่นก็พี่น้องของฉัน

แต่คงทำอะไรไปได้ไม่ดีกว่าขอดุอาอ์เพราะไม่รู้แน่ชัดว่าผู้กระทำที่แท้จริงคือใคร

มือที่สามหรือมือที่มองไม่เห็นนั้นเค้าคงมีความสุขดีกับการกระทำของเขา

เพราะถ้าทำแล้วเป็นทุกข์เค้าเองคงไม่ทำ

จะให้ถามหาศาสนาจากคนที่ไม่มีศาสนาก็ไม่รู้ว่าจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

นอกเสียจากว่าพวกเขาจะสาแก่ใจที่พี่น้องเราทุกข์ร้อน

ความหวาดระแวงเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า

ไทยพุทธตายว่ามุสลิมทำ

มุสลิมตายว่าไทยพุทธทำ

มือที่สามที่แท้จริงป่านนี้นั่งหัวเราะชอบใจกับผลงานของตนเองแล้วกระมัง

เมื่อไม่ใช่พี่น้องคุณ

เมื่อไม่ใช่บุตรหลานคุณ

เมื่อไม่ใช่คนที่คุณรัก

คุณมือที่สามทั้งหลายก็คงจะไม่สำนึกสักที

             เมื่อไหร่จะหยุดการกระทำเยี่ยงนี้สักที

ภาพแห่งการกระทำมันไม่เคยหลอกหลอนจิตใจคุณในความฝันบ้างหรือ?

ภาพแห่งรอยน้ำตาของผู้บริสุทธิ์ไม่ได้สะกิดจิตใต้สำนึกของคุณบ้างเลยหรือ?

มาชาอัลลอฮ์

หากนี่เป็นบททดสอบก็ขอให้พระองค์ทรงคุ้มครองพี่น้องของเราให้รอดพ้นจากบททดสอบอันเลวร้ายนี้โดยเร็วด้วยเถิดยาอัลลอฮ์

อามีนยาร็อบบัลอาลามีน

 mycry mycry mycry
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มิ.ย. 15, 2009, 10:53 AM »
0
ปัญหาใน3จ. สาเหตุหลักอีกประการหนึ่งก็คือ การใช้หลักตรรกะอธิบายเหตุการณ์ โดยที่ไม่ได้ดูถึงที่มาที่ไปของแต่ละเหตุการณ์อย่างแท้จริง ต่างฝ่ายต่างตีความสิ่งที่เกิดขึ้นตามตรรกะ หรือเหตุและผลที่เกิดขึ้น กล่าวคือ ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก แล้วทำการชี้ชัดว่า บุคคล หรือกลุ่มนั้นนี้ ต้องเป็นผู้กระทำแน่นอน เพราะมันอย่างนั้นอย่างนี้ หลายฝ่ายเรียกร้องให้ให้มีการสร้างความเข้าใจต่อกัน และอย่าหลงเชื่อกับข่าวโคมลอย แต่ในความเป็นจริง มันดูเหมือนว่า เป็นแค่การเชิญชวนที่สวยหรูเท่านั้น แต่กลับมาไม่มีใครคิดที่จะนำมาใช้เสียด้วยซ้ำ เพราะมันยากต่อการปฏิบัติจริงๆ และเหตุที่มันยาก ก็เพราะมีบางฝ่ายที่ไม่เลิก ... ก่อน ผมไม่รู้ว่าฝ่ายไหน แต่ก็นึกแปลกใจเสมอว่า ครึ่งหนึ่ง กท.ท. อยู่ใน3จ. แต่ทำไมเหตุการณ์แต่ละครั้ง มันดูเหมือนเสกให้มันเกิดขึ้น แล้วท้ายสุด ก็หาต้นตอไม่เจอ แล้วในที่สุด มันก็หายเงียบไป แล้วก็เกิดขึ้นมาอีก แล้วก็เงียบหาย แล้วก็เกิด แล้วก็หายไป มันจะวนเวียนอยู่อย่างนี้แหละ และที่น่าแปลก ผู้ที่ก่อเขาคงจะมีวิทยายุทธสูงกระมัง เพราะทุกอย่างเกิดภายในเวลาไม่ถึง10 หรือ5นาทีด้วยซ้ำ แต่กลับสร้างความเสียหายในวงกว้าง ซ้ำยังไม่รู้ว่าใครทำ ทั้งๆที่บางเหตุการณ์อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกของ จันทรฺ เอง - วัลลอฮุอะอฺลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิ.ย. 15, 2009, 11:00 AM »
0
 salam

ยิ่งทำให้คิดถึงปัตตานีเมื่อครั้งยังสันติ

ตอนนั้นไม่มีทหารมากมาย

ไม่มีรถถัง

ไม่มีเครื่องบินทหาร

ไม่มีอาวุธสงคราม

    มันน่าคิดยิ่งนัก

ทางแก้อีกทางหนึ่งที่เคยได้ยินพี่น้องของเราเรียกร้องแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับนั่นคือ

พาพวกท่าน(เหล่าทหารหาญของท่าน)กลับไปยังที่ที่ท่านเคยอยู่เสียเถิด

เราเคยอยู่กันมาอย่างไรก็ปล่อยให้เราอยู่กันไปอย่างนั้น

(ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)

บางทีนี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีแต่ถูกมองข้ามก็เป็นได้

 ::)
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิ.ย. 16, 2009, 01:47 PM »
0
อันตรายอย่างหนึ่งของผู้คนใน3จ.ก็คือ การปลุกเร้าในสิ่งที่คนในพื้นที่ไม่ชอบอยู่แล้ว ให้ทวีคูณไปอีก โดยเฉพาะความขัดแย้งเกี่ยวกับแนวคิดทางศาสนา โดยเฉพาะระหว่างวะฮาบีย์กับคนที่ยึดมัฑฮับชาฟิอีย์ จุดนี้ หากเราไม่ระวังดีๆ อาจจะเป็นช่องทางสำคัญที่พวกตะวันตก จะออกมาเชื่อมโยงระหว่างพวกวะฮาบีย์ในต่างประเทศกับในประเทศไทย แล้วพยายามยุยงให้พี่น้องที่ยึดชาฟิอีย์เกลียดชังกลุ่มวะฮาบีย์ ในที่สุดก็อาจจะกลายเป็นความยาดหมางที่ทวีขึ้นจากเดิมไปหลายเท่า และอาจจะนำมาสู่การสงครามซึ่งกันและกัน สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่พูดจนเกินจริง
           แต่เท่าที่ผมคุยกับชาวออสซี่ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับอิสลามที่ผมเกริ่นไปข้างต้นนั้น เมื่อเขารู้ว่าผมไม่ใช่วะฮาบีย์ อีกทั้งไม่ค่อยจะพิศมัยกับแนวคิดนี้ด้วย เขาจึงความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับ ดร.อิสมาอีล ลุฏฟี ว่าผมคิดอย่างไรกับท่าน, ผมก็ตอบว่า ท่านเป็นคนที่พยายามสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในสังคม ทั้งระหว่างมุสลิมด้วยกันและระหว่างมุสลิมกับศาสนาอื่น โดยเฉพาะพุทธ  แต่เขาถามผมกลับว่า ก็คุณไม่ชอบวะฮาบีย์ไม่ใช่หรือ ซึ่งผมคิดว่า วะฮาบีย์นั้นเป็นภัยอันตรายสำหรับลูกหลานปัตตานีนะ จากนั้นเขาก็พูดถึงหลักอกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ว่า จะมีความขัดแย้งอย่างมากกับอกีดะฮ์เดิมของคนปัตตานี ผมก็แย้งเขาว่า จริงอยู่ที่ผมไม่ค่อยจะชอบวะฮาบีย์ แต่นั่นก็แค่บางประเด็น โดยเฉพาะเรื่องอกีดะฮ์แม้ผมจะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับอกีดะฮ์แบบพวกท่าน แต่ถึงกระนั้น เรื่องอื่นๆ จากนี้ เราก็อยู่ด้วยกันได้ และก็มีหลายสิ่งที่ผมเห็นด้วยกับพวกเขา จากนั้น เขาก็กลับมาที่เรื่อง ดร.อิสมาอีล ลุฏฟี เขาบอกว่า ผมรู้สึกว่า จนอยู่ที่ท่านส่งเสริมเรื่องสันติภาพระหว่างมุสลิมและพุทธ แต่เท่าที่ผมอ่านหนังสือของเขาในภาษามลายูเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าความคิดของเขาไม่ชัดเจน, ผมถามว่าทำไมหละ, เขาตอบว่า เพราะท่านได้อ้างหะดีษของท่านนบีย์มุหัมมัด ศ็อลฯ แบบไม่ตรงประเด็น, ผมแย้งว่าไม่ตรงยังงัย?, เขานิ่งเชิงคิดอยู่พอควร แล้วก็กล่าวตอบว่า เพราะท่าน (ดร.แอ) อ้างหะดีษเกี่ยวกับท่านนบีย์ ศ็อลฯ ไม่ให้ทำร้ายชาวยิว แล้วท่าน (ดร.) ก็สรุปจากหะดีษนี้ว่า นี่คือหลักฐานที่ว่าเราสามารถอยู่ร่วมกับชาวพุทธได้ โดยไม่มีปัญหา เราสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ซึ่งเขา (ชาวออสซี่) กล่าวว่า มันเป็นการอ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกัน, จากนั้น ผมก็แสดงอาการงง แต่ท้ายสุด ผมก็อาสาอธิบายให้เขาเกี่ยวกับการอ้างหะดีษข้างต้นของ ดร.แอ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยอ่านเรื่องนั้นมาก่อน ว่า ที่จริงชาวยิวในหะดีษเปรียบดั่งตัวแทนของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม และบรรดาศ็หาบะฮ์ก็คือตัวแทนของมุสลิม เราไม่จำเป็นต้องไปดูตรงๆ ว่า ก็ในหะดีษพูดถึงชาวยิว ไม่ใช่พุทธ จากนั้น ผมสังเกตหน้าเขา แล้วเขาเงียบ แล้วยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า เขารู้สึกว่า ความคิดของ ดร.แอไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสันติภาพระหว่างมุสลิมและพุทธ จากนั้นผมก็กล่าวตบท้ายว่า จากที่ผมคุยกับคุณนะ (ชาวออสสี่) ผมรู้สึกว่า คุณจะเข้าใจในสิ่งที่ ดร.แอต้องการสื่ออย่างผิวเผินภายนอกเท่านั้น ผมเชื่อว่าคุณไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้จริงๆ จากนั้นเขาก็ยิ้มเชิงไม่รู้จะตอบยังงัย แล้วเขาก็เงียบ จากนั้นก็ถามผมว่า คืนนี้อากาศร้อนนะ (ร้อนตรงไหนว้า ฝนเพิ่งหยุดตกไม่ใช่หรอ) แล้วเขาก็ชวนผมไปดื่มน้ำ ซึ่งเขาจะเลี้ยงผม จากนั้น เราก็ย้ายที่กัน ไปซื้อน้ำ แล้วมาคุยกันต่อยกสอง ... - วัลลอฮุอะอฺลัม 
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ comel sokmo

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 97
  • เพศ: ชาย
  • muslims united together
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิ.ย. 16, 2009, 06:33 PM »
0
ทำไมมุสลิม3จังหวัด ถึงมองคนที่ไม่พูดมลายูเป็นคนศาสนาอื่นหมด

ผมว่ามันไม่ใช่ทุกคนหรอก เพราะที่โรงเรียนที่ผมเคยเรียนมีคนแลงใต้มาเรียนเยอะและจากกรุงเทพก็มี ผมจำได้ว่าตอนที่ผมอยู่ม.1มีabaeแลงใต้คนหนึ่งเขาก็เป็นที่เคารพของทุกคนและห้องผมตอนม.6ก็มีคนแลงใต้หลายคน ก็ไม่เคยเห็นว่าพวกเขาถูกดูถูกเหยียดหยามเลย พวกเราเป็นเพื่อนกันทุกคน kito samo islae jangae dok baloh, kito kena bersatu padu, oghae sining tak baeso hino oghae kaecaek siyae kalu daemo tu islae kita adalah sedagha,bersatu kita tegoh bercerai kita roboh.
Berkurun lama pergi menjauh
wajah ku lihat di dalam mimpi,
Kalau dah kasih sesama sungguh
kering lautan tetap ku nanti,

Ilmu yg tdk digunakan ibarat pohun kayu yg tidak berbuah

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2009, 10:47 AM »
0
ส่วนตัวบัง, บังมองว่า เหตุที่บางคนจาก3จ.มองคนที่พูดภาษาไทย แล้วเหมา หรือเข้าใจว่า คือคนพุทธนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความทรงจำในอดีตจากการบอกเล่าต่อๆ กันมา ถึงความเจ็บปวดที่บรรพบุรุษได้รับมา มันเป็นความรู้สึกทางสายเลือด หรือความรู้สึกที่แม้ตนไม่ได้โดนเอง แต่ก็มีความรู้สึกร่วมกับความเจ็บปวดนั้นด้วย มันคล้ายกับส่วนที่ถูกกรีดไปแล้ว มันยากที่จะเยี่ยวยาให้หายได้ หากถามว่า ส่วนตัวบัง, บังรู้สึกเหมือนพวกเขาไหม ทั้งๆ ที่บังก็เป็นคน3จ.เหมือนกัน ก็ขอตอบว่า เหมือนกัน แต่คงไม่มากเหมือนคนที่แถบที่โดนผลกระทบโดยตรง และยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มันกลับกลายเป็นการตอกย้ำให้คนในพื้นที่ยิ่งไม่ไว้ใจคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนไทย และพูดภาษาไทย และถือว่าการพูดภาษาไทย เป็นการกบฏต่อสิ่งที่ตนเป็นอยู่ นั่นก็คือความเป็นมลายู และเหตุที่เดะเองถูกมองว่าเป็นคนสิแยนั้น บางคนจะติดคติที่ว่า หากพูดไทย ต้องเป็นพุทธกินเหล้ากินหมู และคนที่เป็นมุสลิมแต่พูดไทย ถือว่าเป็นที่กบฏต่อความเป็นตัวตนของตนแต่อดีต นี่คือส่วนหนึ่งจากมุมมองของบังต่อเรื่องนี้ มันอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ถูกเสียทั้งหมด และทุกอย่างที่เดะประสบมานั้น เราต้องมองถึงที่มาที่ไปและปัจจัยที่เป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงคิดเช่นนั้นด้วย แล้วเราจะเข้าใจปัญหา เมื่อเรารู้จุด การที่เราเสนอวิธีแก้ไขก็คิดว่าจะง่ายขึ้น และจะเป็นที่ยอมรับมากกว่าการตั้งคำถามว่า ทำไมต้องอย่างนั้น ทำไมต้องอย่างนี้ เราเป็นพวกเดียวกันนะ จนปลักอยู่กับอดีตหรือเปล่า ก็ขอตอบเพียงเดียวว่า ผู้คนแต่ละชาติล้วนแต่มีความรู้สึกร่วมต่อกัน แม้มันจะเกิดในอดีต หรือตนไม่ได้ประสบมาก็ตาม แต่ความรู้สึกก็คือความรู้สึกร่วมที่ทุกคนรู้สึกว่าตนก็เป็นผู้รับผลกระทบนั้นเช่นกัน - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ itoursab

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2009, 01:31 PM »
0
เพราะท่าน (ดร.แอ) อ้างหะดีษเกี่ยวกับท่านนบีย์ ศ็อลฯ ไม่ให้ทำร้ายชาวยิว แล้วท่าน (ดร.) ก็สรุปจากหะดีษนี้ว่า นี่คือหลักฐานที่ว่าเราสามารถอยู่ร่วมกับชาวพุทธได้ โดยไม่มีปัญหา เราสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ซึ่งเขา (ชาวออสซี่) กล่าวว่า มันเป็นการอ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกัน, จากนั้น ผมก็แสดงอาการงง แต่ท้ายสุด ผมก็อาสาอธิบายให้เขาเกี่ยวกับการอ้างหะดีษข้างต้นของ ดร.แอ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยอ่านเรื่องนั้นมาก่อน ว่า ที่จริงชาวยิวในหะดีษเปรียบดั่งตัวแทนของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม และบรรดาศ็หาบะฮ์ก็คือตัวแทนของมุสลิม เราไม่จำเป็นต้องไปดูตรงๆ ว่า ก็ในหะดีษพูดถึงชาวยิว ไม่ใช่พุทธ

เพราะยิว ไม่ใช่พุทธ
ยิวจึงเป็นผู้ที่รู้แล้ว แต่หลงผิด
แต่พุทธคือคนไม่รู้
แต่จุดประสงค์ การใช้ชีวิตอย่างสุขสงบและสันติยังเป็นจุดร่วมที่ดีของทั้ง อิสลามและพุทธ
ระหว่างคนรู้แล้วยังทำ กับคนทำเพราะไม่รู้
อารมณ์คนรับฟังต่างกัน ว่ามั๊ยครับ  wink:

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2009, 04:03 PM »
0
 salam

ถึงน้อง ก๊อซซาฟี

     ก๊ะเห็นด้วยกับน้องอัลฟาตอนีค่ะ

ก๊ะว่ายุติการหยิบยกประเด็นความต่างทางภาษาลงบ้างก็น่าจะดี

เกรงว่าเดี๋ยวมันจะลามกลายเป็นความขัดแย้งกันเอง

     เรื่องของความรู้สึกส่วนบุคคลมันเป็นสิ่งที่เข้าใจยากมากที่สุด

ยากเกินกว่าที่มนุษย์เดินดินธรรมดาอย่างเรา ๆ จะรู้ได้

เว้นแต่ อัลลอฮ์ ซุบบะฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: Di Manakah Aman dan Damai? (สันติภาพอยู่ไหน?)
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2009, 08:39 PM »
0
วิธีการหนึ่งในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยเฉพาะถ้าเป็นตัวเราเองกับคนๆ หนึ่ง ทางที่ดีที่สุด เมื่อเขาเป็นฝ่ายพูด เราควรจะเงียบไว้ก่อน ปล่อยให้เขาพูดไปและระบายในสิ่งที่เขาอยากพูดออกมาให้หมด แม้ว่าเขาจะพูดเชิงลบต่อเราก็ตาม ก็ควรเงียบไว้ก่อน เขาจะยั่วให้เราพูดในสิ่งที่ไม่คาดคิด ก็ควรเงียบจะดีที่สุด แล้วค่อยชัดของเราไปทีหลัง อินชาอัลลอฮฺ ทุกอย่างจะเคลียร์อย่างรวดเร็ว และจบเร็วครับ เพราะเคยใช้วิธีนี้กับเพื่อนหลายคนแล้ว ส่วนใหญ่จะได้ผล และอีกอย่าง บางครั้งแทนที่เราอาจจะศัตรูในการไกล่เกลี่ยครั้งนั้น เราอาจจะได้มิตรแทนก็ได้นะครับ  loveit: - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

 

GoogleTagged